วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2566

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่องการหาบุคคลเข้าศึกษา

 Nursing Assistant (NA) ระหว่างโรงเรียนศรีวิชัยอาชีวศึกษาและตัวแทน

ตามที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งจะมีความเจ็บป่วยมากขึ้น การผลิตบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีใบประกอบวิชาชีพได้นั้น  ต้องใช้ระยะเวลาศึกษานานประมาณ 4-6 ปี  ทำให้สถานพยาบาลต่าง ๆ ขาดแคลนบุคคลากรทางการแพทย์ เป็นอย่างมาก  

ในการนี้  รองศาสตราจารย์ ดร.นพ.วิชัย วนดุรงค์วรรณ จึงได้เล็งเห็นถึงความต้องการและความสำคัญในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก จึงได้จัดตั้ง  โรงเรียนศรีวิชัยอาชีวศึกษา โดยการอนุมัติของกระทรวงศึกษาธิการ ขึ้นในปี 2530  เพื่อผลิตพนักงานผู้ช่วยทางการพยาบาล Nursing Assistant (NA)  ซึ่งเป็นหลักสูตรระยะสั้น ใช้เวลาเรียนเพียง 6 เดือน หรือ 840 ชั่วโมง ในหลักสูตรการดูแลเด็กเล็ก  และหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งใช้เวลาเรียนระยะสั้นเพียง 6 เดือน โดยมีผู้สำเร็จการศึกษาไปแล้วกว่า 1,000 คน จำนวนทั้งสิ้น 43  รุ่น  เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ได้รับการบรรจุเข้าเป็นบุคคลากรในเครือ โรงพยาบาลวิชัยเวชทั้ง 4 แห่ง โรงพยาบาลภาครัฐ  โรงพยาบาลภาคเอกชนต่าง ๆ  รวมถึงสถานบริบาล และห้องพยาบาล ในสถานประกอบการต่าง ๆ  

ทั้งนี้  ยังสามารถเลือกตำแหน่งงาน ในเครือโรงพยาบาลวิชัยเวชทั้ง 4 แห่ง ในแผนกที่ต้องการได้  หากบุคลากรในตำแหน่งที่ต้องการยังมีอัตรากำลังว่างอยู่   ซึ่งเป็นการการันตีได้ว่าจบแล้วมีงานรองรับอย่างแน่นอน รวมทั้ง ในอนาคตอันใกล้นี้  กำลังพิจารณาความร่วมมือกับประเทศในแถบตะวันออกกลาง ที่มีความต้องการสูง สำหรับพนักงานผู้ช่วยทางการพยาบาล  ไปปฏิบัติงานในประเทศดังกล่าวด้วย 

ในวันนี้  จึงได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงเรื่องการร่วมมือการหาบุคคลเข้าศึกษา เพื่อผลิตพนักงานผู้ช่วยทางการพยาบาล  Nursing Assistant (NA) ระหว่างโรงเรียนศรีวิชัยอาชีวศึกษาและตัวแทน ณ ห้องประชุมวิชัยเวช  อาคาร 5 ชั้น 4 โรงพยาบาลวิชัยเวช อ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร   โดยได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.นพ.วิชัย วนดุรงค์วรรณ  ประธานกรรมการบริษัท กลุ่มโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์เนชั่นแนล  นพ.พงศ์ศักดิ์ วัฒนา  ประธานกรรมการบริษัทโรงเรียนศรีวิชัยอาชีวศึกษา จำกัด  คุณชดา  บูรณะพิมพ์  และคุณรุ่งนภา  ปักษี  ร่วมลงนามและเป็นสักขีพยาน  ในการนี้ด้วย 

เพื่อเป็นสร้างภาพลักษณ์ เชื่อมั่นและไว้วางใจ  ให้แก่บุคคลที่ได้เข้ามาศึกษา ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ที่เป็นผู้ใช้บุคคลากรทางการแพทย์ จากโรงเรียนศรีวิชัยอาชีวศึกษา  ที่ได้สั่งสมประสบการณ์ในการจัดการเรียนการสอนมากว่า 36 ปี  ซึ่งในปัจจุบันมี ผศ.ดร.ประณมพร โภชนสมบูรณ์  เป็นผู้บริหารโรงเรียนศรีวิชัยอาชีวศึกษา

วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2566

ทุเรียนคาเฟ่เชียงราย หนึ่งเดียวในจังหวัดเชียงรายเสิร์ฟทุเรียนส่งตรงจากสวนจันทบุรีตลอดทั้งปี

วันนีั คุ๊เอิร์ธ สายสว่าง อยู่ที่ตังหวัดเชียงราย  จะพาไปรู้จัก ร้านทุเรียนคาเฟ่เชียงราย จังหวัดเชียงราย อยากทานทุเรียนวันไหนมาที่ทุเรียนคาเฟ่เชียงรายได้ทานทุเรียนอย่างแน่นอน

หากใครที่อยู่ในจังหวัดเชียงราย  หรือมีโอกาสผ่านมาที่จังหวัดเชียงราย  คาเฟ่ชื่อดังที่มีเมนูไฮไลท์อย่าง ทุเรียน ถ้าพูดถึงผลไม้ที่คนชื่นชอบมากที่สุด หนึ่งในนั้นต้องมีทุเรียนแน่นอน เพราะทุเรียนจัดเป็นผลไม้ที่มีความพิเศษ มีกลิ่นรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ถือได้ว่าเป็นราชาแห่งผลไม้เลยทีเดียว และสำหรับใครที่หลงใหลในรสชาติของทุเรียนหมอนทอง ต่อไปนี้ไม่ต้องรอถึงฤดูกาลทุเรียนอีกแล้วค่ะ คุณวรปภา แก้วจินดา (ติ่ง) เจ้าของร้านอยากให้คนในจังหวัดและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเชียงรายได้มาลิ้มรสทุเรียนได้ตลอดปี แถมมีสารพัดเมนูทุเรียนให้เลือกอีกด้วย (บอกแบบนี้แล้วสาวกทุเรียนต้องมาเยือนที่นี่สักครั้ง)เพียงหนึ่งเดียวในจังหวัดเชียงรายที่สามารถเสิร์ฟทุเรียนสดๆ (ส่งตรงจากสวนจันทบุรี ได้ตลอดทั้งปี) มาวันไหนรับรองว่ามีทุเรียนสดๆ พร้อมเสิร์ฟอย่างแน่นอน



คุณเอิร์ธ สายสว่าง  มาเป็นปักหมุดคาเฟ่ชื่อดังร้านทุเรียนคาเฟ่เชียงราย เรียกได้ว่าครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งที่มีความพิเศษ ที่ คุณเอิร์ธ สายสว่าง  มีโอกาสได้มาทานอาหารที่ร้านทุเรียนคาเฟ่เชียงราย จังหวัดเชียงราย เมื่อมาถึงแล้ว เมนูแนะนำจากทางร้านที่ขายดีแบบไม่ควรพลาด "พิซซ่าทุเรียน" เสิร์ฟร้อนๆ ชีสระอุ หอมกลิ่นทุเรียน อัดแน่นด้วยชีสและทุเรียนหมอนทองเป็นชิ้นๆ และอีกหนึ่งเมนู

คุณเอิร์ธ สายสว่าง บอกว่าไม่ควรพลาด  โทสต์ทุเรียน ถือว่าเป็นไฮไลท์เป็นเมนูซิกเนเจอร์ ทุเรียนสดชิ้นโตวางบนขนมปังโทสต์ที่ชุ่มฉ่ำด้วยเนยแล้วนำไปอบในอุณหภูมิที่พอดีให้ขนมปังกรอบ 



ทานคู่กับไอศครีมทุเรียนเกรดพรีเมี่ยม น้ำกะทิทุเรียนและทุเรียนกรอบ  ส่วนเมนู “ข้าวเหนียวทุเรียน” รสชาติกลมกล่อมได้อย่างพอดีและเป็นเมนูขวัญใจของคนสูงวัย เสิร์ฟลงบนจานอย่างเรียบง่าย เหมือนการสร้างสรรค์งานศิลปะชิ้นหนึ่ง  ร้านขวัญใจเหล่าดารา - เซเลป  ที่นี่พร้อมต้อนรับให้ทุกคนมาชิลล์ไปกับบรรยากาศที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความชิค ด้วยความตั้งใจของเจ้าของร้านที่ต้องการนำเสนอขนมอร่อยให้ทุกคนได้ลองชิม

สำหรับเมนูของที่นี่ จะเน้นที่เครื่องดื่มและขนมอบสดใหม่ สำหรับใครที่มาถึงแล้ว นอกจากเมนูทุเรียนสดแล้วที่ร้านมีทั้งเครื่องดื่มอาหารคาวหวานให้เลือกกว่า 200 เมนู 

ทุกเมนูเเละวัตถุดิบล้วนผ่านการคัดสรรมาอย่างดี เพื่อเอาใจสายทุเรียนแบบเน้นๆ ราคายังสบายกระเป๋าจับต้องได้แน่นอน ที่นี่ไม่ได้มีแค่ทุเรียน  ทางร้านยังมีเมนูปกติและโซนด้านนอกสำหรับท่านที่ไม่ทานทุเรียนด้วย ถ้าชอบร้านนั่งชิลล์สบายๆ แวะไปลองกันได้เลย


นอกจากของหวานแล้ว ทุเรียนคาเฟ่เรายังสามารถนำทุเรียนไปทำเมนูเครื่องดื่มและอาหารไว้คอยต้อนรับทุกท่านอีกด้วย เริ่มด้วยเมนูปั่น นำทุเรียนสดๆมาปั่น ออกมาเป็นทุเรียนเมนูต่างๆ เช่น"ครีมมี่สมุทตี้" "ทุเรียนแม็กม่า"และคอชากาแฟก็ไม่ผิดหวังค่ะ มี  "กาแฟทุเรียน" "ชาเขียวมัจฉะทุเรียน " "ช็อกโกแลตทุเรียน " "ทุเรียนครีมชีส" รวมถึง"ทุเรียนมะนาวโซดา" รสชาติเปรี้ยวหวานชื่นใจ ทุกเมนูลูกค้าต่างพูดว่าเข้ากันได้อย่างเหลือเชื่อ และหากท่านไหนชอบเมนู แซ่บๆ มีเมนู “ ยำทุเรียนกุ้งสด “ มาแนะนำใช้ทุเรียนห่ามๆเนื้อกรอบๆ ในน้ำยำสูตรพิเศษของทางร้าน อร่อยจนงงกันไปเลยค่ะ ว่านี่คือทุเรียนจริงๆใช่ไหม

นอกจากสารพัดเมนูที่เสริฟมาแบบสวยงามแล้ว ทางร้านก็สวยไม่แพ้กันร้านทุเรียนคาเฟ่เชียงราย เป็นร้านสีขาว สไตล์อังกฤษโคโลเนี่ยน (Colonial Style)มีที่นั่งให้เลือกหลากหลายโซนทั้ง indoor และ outdoor ที่ล้อมรอบไปด้วยสวนสไตล์อังกฤษมีน้องกระต่าย น้องเม่นแคะน้องนก ไว้ให้เด็กๆ มาถ่ายรูปเล่นด้วย อยากทานทุเรียนวันไหนมาที่ทุเรียนคาเฟ่เชียงรายได้ทานทุเรียนทุกวันแน่นอนร้านอยู่ใกล้สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย (เพียงแค่ 5 นาที) บรรยากาศดี ที่จอดรถสะดวกสบาย 




Durianism cafe chiang rai
การเดินทาง : ร้านอยู่ถนนบายพาส - สนามบิน (ใกล้ Airport สนามบิน) เปิด : 10.00 น. - 20.00 น. (ทุกวัน)

สำรองที่นั่ง โทร 081-4492995,  082-  6414256 

facebook : Durianism Cafe’ Chiang Rai ทุเรียนคาเฟ่เชียงราย 

Maps :https://goo.gl/maps/Skm5hRPoZXJ98Jsf6


“นิคมฯยะลาจับมืออำเภอส่งมอบวัสดุซ่อมบ้านชายแดนใต้”


เมื่อ วันที่ 17 มีนาคม 2566 เวลา 09.00 น. ณ หมู่ที่ 2 ตำบลลำใหม่ อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา นายสมใจ  บุญอาจ  ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ จังหวัดยะลา พร้อมด้วยนายวิทศักดิ์ จำเริญนุสิต นายอำเภอเมืองยะลา/ผอ.ศปก.อ.เมืองยะลา ส่วนราชการในพื้นที่ ปลัดอำเภอรับผิดชอบงานกิจการพิเศษ ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำตำบลลำใหม่ เจ้าหน้าที่ปกครองประจำตำบล ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น บัณฑิตอาสาฯ และเจ้าหน้าที่นิคมฯ ลงพื้นที่ส่งมอบวัสดุซ่อมแซมบ้านให้แก่กลุ่มเป้าหมายตามโครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2566 ราษฎรครอบครัวยากจนที่ตกเกณฑ์ด้านที่อยู่อาศัยตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดรายตัวชี้วัด ความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ระดับอำเภอ ปี 2565 




นายสมใจ บุญอาจ กล่าวว่านิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ จังหวัดยะลา ดำเนินงานโครงการตำบลมั่นคง    มั่งคั่ง ยั่งยืน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยดำเนินการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยจำนวนทั้งสิ้น 156 หลัง ในพื้นที่อำเภอบันนังสตา จำนวน 50 หลัง อำเภอกรงปินัง จำนวน 23 หลัง และอำเภอเมือง จำนวน 83 หลัง  โดยใช้จ่ายจากเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2566 ตามยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง แผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการพัฒนาพื้นที่ตามศักยภาพของพื้นที่ กิจกรรมหลัก  ตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน กิจกรรมย่อย สนับสนุนแก้ไขปัญหาบ้านเรือนราษฎรที่ยากจนและด้อยโอกาสในจังหวัดชายแดนภาคใต้




นายสมใจ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของอำเภอเมืองยะลา ในปีนี้ได้รับจัดสรรจำนวนทั้งสิ้น 83 หลัง  ทั้งนี้ได้ลงพื้นที่ส่งมอบวัสดุไปแล้วจำนวน 15 หลัง ซึ่งในวันนี้ได้ส่งวัสดุ จำนวน 3 หลัง ประกอบด้วยหลังที่ 1 นาง เอ นามสมมุติ อายุ 44 ปี  อาชีพรับจ้างรายได้วันละ 350 บาท มีสมาชิกอยู่อาศัยจำนวน 7 คน (เป็นผู้หญิงทั้งหมด) สภาพบ้านเป็นบ้านปูนชั้นเดียวครึ่งปูนครึ่งไม้มีสภาพทรุดโทรม หลังคารั่ว เวลาฝนตกมี     น้ำเข้าบ้าน มีความต้องการซ่อมหลังคาบ้าน 

หลังที่ 2 นางสาวบี นามสมมุติ อายุ 66 ปี ไม่ได้ประกอบอาชีพ รายได้มาจากเบี้ยผู้สูงอายุเดือน 600 บาท  สภาพบ้านเป็นบ้านไม้ยกพื้นชั้นเดียว สภาพทรุดโทรม มีความต้องการซ่อมแซมห้องครัว

หลังที่ 3 นาย คิง นามสมุติ อายุ 40 ปี อาศัยบุตร อาชีพรับจ้างทั่วไปรายได้วันละ 300 บาท สภาพบ้าน  ครึ่งปูนครึ่งไม้ยกสูงชั้นเดียว ผนังบ้านมีสภาพทรุดโทรมผุพังไม่มีความปลอดภัย มีความต้องการซ่อมแซมผนังบ้าน

นิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ จังหวัดยะลา พร้อมจะส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการขั้นพื้นฐาน ให้สมาชิกนิคมฯ และประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับสิทธิที่พึงได้รับอย่างเหมาะสม มีคุณภาพชีวิตที่ดี ตลอดจนมีที่อยู่อาศัยและอาชีพที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ต่อไป นายสมใจ กล่าวในตอนท้าย


#นิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้จังหวัดยะลา

#พมช่วย24ชั่วโมง

#ช่วย24ชั่วโมง

#กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ

ททท. นำทัพพันธมิตรส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ (Organic Tourism)

ขานรับนโยบาย 5F ต่อยอดวัตถุดิบอินทรีย์สู่กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล Rising Star Chef Amazing Taste Great Story และเยี่ยมชมบูธจัดแสดงผลงานความสำเร็จในการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบอินทรีย์ สู่กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการ Amazing Taste Great Story ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น G ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพมหานคร






นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า ภายใต้การขับเคลื่อนปีท่องเที่ยวไทย 2566 ททท. มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและความหมายในคอนเซปต์ Amazing 5F and more นำเสนอ Soft Power of Thailand ควบคู่กับการยกระดับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG Model ประกอบกับในปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพ และ “อาหาร” ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยว ในการนี้ ททท. เล็งเห็นถึงโอกาสในต่อยอดขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ด้วย Soft Power – F-Food อาหารไทย ผ่านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) โดยเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำ คือ การให้ความสำคัญกับต้นทางแห่งวัตถุดิบ จึงเกิดเป็นการผลักดันและส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ (Organic Tourism) เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีแก่นักท่องเที่ยว และเพื่อสร้างความยั่งยืนในทุกมิติของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยร่วมกับบริษัท ฟายด์ โฟล์ค จำกัด และหน่วยงานพันธมิตร อาทิ สมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA) สมาคมเชฟประเทศไทย โรงเรียนการอาหารไทย เอ็ม เอส ซี โรงเรียนสอนอาหารครัววันดี คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาลัยวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ดำเนิน “โครงการ Amazing Taste Great Story การท่องเที่ยวมิติใหม่ ผสมผสานรสชาติไทย” เพื่อเสริมศักยภาพเพิ่มขีดความสามารถให้กับชุมชน/สถานประกอบการ และเชฟรุ่นใหม่ (Rising Star Chef) รวมถึงสร้างการรับรู้การท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และสะท้อนภาพลักษณ์ความร่วมมือ (Collaboration) ทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย




สำหรับ “โครงการ Amazing Taste Great Story การท่องเที่ยวมิติใหม่ ผสมผสานรสชาติไทย” ททท. ได้ค้นหา 10 สุดยอดวัตถุดิบออร์แกนิคจากชุมชน/สถานประกอบการแหล่งผลิตวัตถุดิบครอบคลุม  ทั้ง 5 ภูมิภาคของประเทศไทย เช่น ดอกกุหลาบบิชอป จังหวัดเชียงราย ข้าวหอมมะลิดำหนองคาย (กข 83) จังหวัดหนองคาย หน่ออ่อนกระวาน จังหวัดจันทบุรี เป็นต้น และเปิดรับสมัครทีมเชฟรุ่นใหม่ สายคอนเทนต์  ครีเอเตอร์ จำนวน 10 ทีม เข้าร่วมแข่งขันรังสรรค์ผลงานเมนูพิเศษจากวัตถุดิบออร์แกนิค เพื่อต่อยอดสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มสู่กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ชิงเงินรางวัล โล่ประกาศเกียรติคุณ และประกาศนียบัตร   จาก ททท. โดยทีมเชฟรุ่นใหม่จะนำวัตถุดิบมาออกแบบการท่องเที่ยว ผสมผสานเทคนิคการเล่าเรื่องเชิงการตลาดที่น่าสนใจ เพื่อจัดทำคอนเทนต์และสื่อประชาสัมพันธ์ให้ชุมชน/สถานประกอบการสำหรับใช้ส่งเสริมการขาย และสร้างการรับรู้ในมุมมองที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ในแบบที่ Amazing ยิ่งกว่าเดิม 








พร้อมกันนี้ นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. ให้เกียรติ             มอบรางวัลแก่ทีมผู้ชนะรางวัล Rising Star Chef Amazing Taste Great Story 

รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม wow wow wow รังสรรค์เมนูจากหน่อไผ่บ่งหวาน สถานประกอบการ Hazefree PGS จังหวัดน่านรับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ 

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมตะเภาทอง รังสรรค์เมนูจากเลมอน สถานประกอบการสวนฮ่มสะหลี จังหวัดเชียงใหม่ รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ 

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีมมีดี รังสรรค์เมนูจากหน่ออ่อนกระวาน สถานประกอบการวิสาหกิจชุมชนอินทรีย์จันทบูร จังหวัดจันทบุรี รับเงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ 

อีกทั้งได้รับเกียรติจากนายสุริยันต์ ศรีอำไพ เลขาธิการสมาคมเชพประเทศไทย ให้เกียรติมอบประกาศนียบัตรให้กับทีมเชฟรุ่นใหม่สายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้ง 10 ทีม และนายอรุษ นวราช 

นายกสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย (TOCA) ให้เกียรติมอบประกาศนียบัตรแก่ 10 ตัวแทนแหล่งวัตถุดิบออร์แกนิคที่เข้าร่วมโครงการฯ ด้วย


นอกจากนี้ ภายในงานมีการจัดแสดงผลงานความสำเร็จของทีม Rising Star Chef ในการสร้างสรรค์เมนูพิเศษ จากวัตถุดิบออร์แกนิคสู่กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ จำนวน 10 เมนู/กิจกรรม โดยเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองลงมือปรุงเมนูดังกล่าว พร้อมสัมผัสมิติใหม่ด้านรสชาติอาหารและไอเดียการต่อยอดวัตถุดิบในแบบที่ไม่เหมือนใคร 

ททท. เชื่อมั่นว่าโครงการ “Amazing Taste Great Story การท่องเที่ยวมิติใหม่ ผสมผสานรสชาติไทย” จะสามารถขับเคลื่อนการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ (Organic Tourism) คืนความสมดุลและสร้างความยั่งยืน ให้กับการท่องเที่ยวของไทยได้ ผ่านการส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวมุมมองใหม่ที่ปลอดภัย ดีต่อชีวิตและเป็นมิตรกับโลก ซึ่งผลจากความทุ่มเทและความตั้งใจของเหล่าพันธมิตร ชุมชน/สถานประกอบการ    และทีมเชฟในการสร้างสรรค์กิจกรรม จะเป็นแรงผลักดันที่สำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว พร้อมยกระดับมุมมอง การท่องเที่ยวในประเทศให้หลากหลายตามแนวคิด BCG Model ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ ทั้งในระดับฐานราก ภูมิภาค และประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป 




ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดโครงการฯ และกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์  จากวัตถุดิบออร์แกนิคในแต่ละเส้นทางได้ที่ เว็บไซต์ www.amazingtastegreatstory.com
Facebook Page : Amazing Taste Great Story 


วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2566

GIT เปิดเวทีประกวดออกแบบเครื่องประดับระดับโลก ปีที่17

เชิญชวนนักออกแบบส่งผลงานเข้าประกวด GIT’s World Jewelry Design Awards 2023 ชิงเงินรวมมูลค่ากว่า 240,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ 

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดเวทีให้นักออกแบบไทย-เทศ ปลดปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์ ส่งผลงานออกแบบเครื่องประดับ ชิงรางวัล GIT’s World Jewelry Design Awards 2023 ภายใต้แนวคิด “Glitter & Gold – The Brilliant Way of Gold Shine” เครื่องประดับที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสีทองอร่ามกับประกายระยิบระยับของอัญมณี ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 240,000 บาท 



นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ หรือ GIT กล่าวว่า โครงการประกวดการออกแบบเครื่องประดับขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยเปิดกว้างให้นักสร้างสรรค์ และนักออกแบบ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่สนใจได้มีเวทีที่จะปลดปล่อยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ และแรงกระตุ้นให้นักออกแบบไทยและต่างชาติ ได้พัฒนาศักยภาพ และวิสัยทัศน์ ก่อให้เกิดเกิดการแลกเปลี่ยนแนวความคิด รวมถึงมุมมองระหว่างนักออกแบบ

 โดยในปีนี้ สถาบันได้กำหนดหัวข้อการประกวดภายใต้หัวข้อ “Glitter & Gold – The Brilliant way of Gold Shine” เครื่องประดับที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสีทองอร่ามกับประกายระยิบระยับของอัญมณีหลากชนิดที่ผสมผสานเข้ากันจนเป็นงานสร้างสรรค์ที่ลงตัว เกิดเป็นผลงานเครื่องประดับที่งดงาม โดดเด่น และมีเอกลักษณ์ ซึ่งเราคาดหวังว่าจะได้เห็นผลงานที่สามารถนำเสนอความสวยงามของวัสดุอันล้ำค่าอย่างทองคำ และประกายระยิบระยับของอัญมณี ประกอบกันเป็นเครื่องประดับที่มีความสวยงาม สอดคล้องกับเทรนด์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอย่างลงตัว และจะต้องสามารถนำมาพัฒนาเป็นจิวเวลรี่ที่จำหน่ายได้จริงต่อไป 

การประกวดครั้งนี้มีรางวัลมูลค่ารวมกว่า 240,000 บาท โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 3,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมโล่เกียรติยศ โดยจะประกาศผลการตัดสินรอบแรกจากแบบวาดในวันที่ 23 พฤษภาคม นี้ โดยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากทั่วโลก อาทิ

1. คุณสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ

2. คุณสิริน ศรีอรทัยกุล ตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บิวตี้เจมส์ แฟคตอรี่ จำกัด

3. ม.ล. ภาวินี สันติศิริ ตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อโยธยาเทรด (93)

4. คุณธนิษฐ์ ดุรงคพิทยา ตำแหน่ง กรรมการบริหาร บจก.พรีเมียร์เจมส์เทรดดิ้ง

5. ดร.ธัชวิน สุรเศรษฐ ตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ Lee Seng Jewelry Group

6. Mr. Yutaka Fukasawa (Japan Precious Magazine Director & Chief Editor)

ทั้งนี้ นักออกแบบจะต้องส่งแบบวาดไม่จำกัดเทคนิค หรือภาพเขียนจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ตรงกับหัวข้อ จำนวนไม่น้อยกว่า 3 ชิ้นใน 1 ชุดหรือคอลเลคชั่น โดยในคอลเลชั่นนั้นจะต้องมีสร้อยคอเป็นหลัก และเครื่องประดับอื่นๆ เช่น ต่างหู แหวน กำไล เป็นต้น 

ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครและส่งผลงานเข้าประกวดได้ตั้งแต่วันนี้ – 12 พฤษภาคม 2566
ผ่านทางเว็บไซต์ www.gitwjda.com หรือส่งผลงานพร้อมใบสมัครทางไปรษณีย์ หรือส่งผลงานด้วยตัวเองที่ฝ่ายฝึกอบรม สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
เลขที่ 140 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ชั้น 3 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ฝ่ายฝึกอบรม โทร. +66 2 634 4999 ต่อ 301-306
และ 311-313 และดูรายละเอียดการรับสมัครได้ที่ www.gitwjda.com

ข่าวประชาสัมพันธ์

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่องการหาบุคคลเข้าศึกษา

  Nursing Assistant (NA) ระหว่างโรงเรียนศรีวิชัยอาชีวศึกษาและตัวแทน ตามที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ...

โวยวายดอทคอม