วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2566

ช่อง 3 ส่งมอบถุงมือยางเกรดพรีเมี่ยม ให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตคลองเตย

           


บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) และ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นำโดยคณะผู้บริหาร และพนักงานจิตอาสา ส่งมอบถุงมือยางเกรดพรีเมี่ยม ให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตคลองเตย สำหรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสะอาดในพื้นที่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน




         

|ในการนี้ คุณเบญญา อินทรวงศ์โชติ ผู้อำนวยการเขตคลองเตย เป็นผู้รับมอบถุงมือยาง จำนวนทั้งสิ้น 600 กล่อง โดยคุณวรวรรณ ติณสูลานนท์ ผู้จัดการบริหารประชาสัมพันธ์ - คุณสุภิดา ฉัตราภิรักษ์ ผู้จัดการบริหารธุรกิจเพื่อความยั่งยืน พร้อมพนักงานจิตอาสา ช่อง 3 ร่วมเป็นตัวแทนของสถานีเป็นผู้มอบ  โดยถุงมือยางได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ไดอารี่ กรุ๊ป (2007) จำกัด ช่อง 3 ในฐานะสื่อกลางขอขอบคุณหน่วยงานทั้งสองที่ให้การสนับสนุนและนำประโยชน์มาสู่ชุมชนและสังคมเป็นอย่างดีเสมอมา

Lashes Boudoir ลิฟติ้งขนตาด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ Lashes Boudoir

Lashes Boudoir คัดสรรผู้เชี่ยวชาญด้านขนตาและขนคิ้วโดยเฉพาะ เพื่อรังสรรค์ดวงตาและใบหน้าที่สมบูรณ์แบบให้กับสาว ๆ ทุกคน  โดยมีอุปกรณ์และน้ำยาลิฟติ้งขนตา นำเข้าจากต่างประเทศ ปลอดภัย เหมาะกับลักษณะขนตาของแต่ละคน ด้วยเทคนิคพิเศษของทางร้าน จึงช่วยให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ ได้ผลผลลัพธ์ขนตางอนสวยในแบบที่เหมาะกับตนเอง




คุณภาพของน้ำยาลิฟติ้งขนตา มีคุณภาพดีอยู่ได้นานหลายคนนิยมเลือกการลิฟติ้งขนตาแทน เพื่อช่วยย่นระยะเวลาในการแต่งหน้าง่ายมากยิ่งขึ้นสำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกลิฟติ้งขนตาที่ร้านไหนดี เราขอแนะนำร้าน Lashes Boudoir ตึก Interchange ชั้น G

การลิฟติ้งขนตาเป็นการยกโคนขนตาแบบกึ่งถาวรด้วยน้ำยาลิฟติ้งและแกนซิลิโคน ซึ่งจะช่วยให้ขนตางอนเด้งขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยจัดระเบียบขนตาให้เรียงเส้นสวย ง่ายต่อการปัดมาสคาร่า การลิฟติ้งขนตาจึงเหมาะกับผู้ที่มีขนตายาวอยู่แล้ว และต้องการให้ขนตางอนสวยอยู่ตลอดเวลาแบบไม่ต้องใช้ที่ดัดขนตาช่วยเลย นอกจากนี้ ขนตาหลังลิฟติ้งยังสามารถอยู่ได้ยาวนานหลายเดือน ทำแล้วช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการแต่งหน้าทุกเช้า


การลิฟติ้งขนตาารลิฟติ้งขนตาให้งอนเด้ง เป็นวิธีการที่ช่วยเนรมิตขนตาให้ดูเด่นชัด สวยดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น และยังช่วยใสนเรื่องความสะดวกสบายในการแต่งหน้าให้กับคุณด้วย ผลลัพธ์ของขนตาและความคงทนถาวรอาจแตกต่างกัน เพราะขึ้นอยู่กับลักษณะของขนตา รวมไปถึงความใส่ใจในการดูแลรักษาของแต่ละคน นอกจากจะคำนึงถึงความสวยงามเข้มโดยธรรมชาติ   และควรเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของบุคคลิกสาวแต่ละท่านด้วย




สำหรับคนที่มีขนตาบางหรือขนตามีเส้นสั้น   Lashes Boudoir แนะนำเลือกวิธีการต่อขนตา เพราะการต่อขนตาเป็นการใช้ขนตาปลอมมาต่อกับขนตาจริง ทำให้ขนตาของคุณดูหนาและยาวขึ้น โดยไม่ต้องหยิบมาสคาร่ามาปัดเพิ่ม แต่การต่อขนตาก็มาพร้อมการดูแลรักษาที่ยากกว่าการลิฟติ้งขนตา 

บริการ: ต่อขนตา ลิฟต์ แว็กซ์

ผลิตภัณฑ์ที่มีบริการ: 

Lifting- Elleebana

Waxing- Caronlab



Lashes Boudoir ซาลอนขนตา ที่ได้รับความไว้วางใจจากสาวไทย
สถานที่: ตึก Interchange ชั้น G (แยกอโศก)

การเดินทาง:BTS ทางออก 6 หรือ MRT ทางออก 2เวลาทำการ: 9.30-19.30น  (จันทร์-เสาร์)

Social Media: LINE: @lashesboudoir

Call: 083-979-9228

Facebook: Lashes Boudoir


วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2566

TCMC รับมอบรางวัลผู้ช่วยเหลือราชการกรมป่าไม้

กรมป่าไม้จัดงานใหญ่ ครบรอบ 127 ปี วันสถาปนากรมป่าไม้



กรมป่าไม้จัดงานใหญ่ ครบรอบ 127 ปี วันสถาปนากรมป่าไม้ พร้อมจัดงาน พิธีมอบรางวัลผู้ช่วยเหลือราชการกรมป่าไม้ ในสาขาส่งเสริมและพัฒนาป่าชุมชน โดยมี คุณพิชิต สมบัติมาก รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้มอบรางวัลให้แก่ คุณวิศรุต ศิริชัย รองประธานกลุ่มธุรกิจ TCM Surface บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนรับมอบรางวัล ณ อาคารเทียมคมกฤส กรมป่าไม้ เมื่อเร็วนี้ๆ






มูลนิธิเอเชีย เปิดตัว Thailand Leadership คลังความรู้ออนไลน์ผู้บริหารสถานศึกษา

พัฒนาความเป็นผู้นำ ผอ.โรงเรียนทั่วประเทศ

มูลนิธิเอเชีย ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ, กรุงเทพมหานคร, สถานทูตออสเตรเลีย และเหล่าพันธมิตร
จัดงานเปิดตัว www.Thailandleadership.org เว็บไซต์พัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำของ ผอ.โรง เรียนทั่วประเทศ นำเสนอทักษะผู้นำทางวิชาการที่ทำให้ผู้บริหารสถานศึกษาประสบความสำเร็จ ผ่าน 3 เมนูหลักคือลงมือปฎิบัติ, พัฒนาวิชาการ และสร้างสรรค์งานวิจัย ในรูปแบบของข่าวสาร งานวิจัย บทความ คลิป
วิดิโอ พอดแคสต์ สารคดี ฯลฯ จัดทำโดยนักวิชาการที่มีชื่อเสียง ตั้งเป้าเป็นคลังความรู้ออนไลน์ด้านการศึกษา ขับเคลื่อนพัฒนาทักษะ ความคิดสร้างสรรค์ ผลักดันนวัตกรรมล้ำสมัย เชื่อมต่อชุมชนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างเครือข่ายนำประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ที่เป็นมานานกว่า 20 ปี 





นายโทมัส พาร์ค ผู้แทนมูลนิธิเอเชียประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า “มูลนิธิเอเชียได้จับมือกับสถาน ทูตออสเตรเลียทำงานร่วมกันมานาน 6 ปีแล้ว ซึ่งโจทย์ที่ทั้งสององค์กรให้ความสำคัญก็คือจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ที่มีมานานนับ 20 ปี โดยสรุปต่างมีความเห็นตรง กันว่าจะต้องมีการปฏิรูปการศึกษา โดยมุ่งเน้นในการแก้ไขปัญหา 2 ประการคือ 1)การเพิ่มขีดความ สามารถในการแข่งขันและประสิทธิภาพโดยรวมของระบบการศึกษาไทย ซึ่งเป็นเรื่องโครงสร้างทั้งระบบและเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก และ 2)ลดความไม่เท่าเทียมกันในระบบการศึกษา ซึ่งมีความแตกต่างกันมาก ทั้งในโรงเรียนขนาดเล็กและขนาดใหญ่ รวมถึงโรงเรียนในพื้นที่ชนบทและในเมือง”


ด้าน ดร.รัตนา แซ่เล้า เจ้าหน้าที่โครงการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและวิจัย มูลนิธิเอเชีย ได้กล่าวถึงที่มาของการจัดทำเว็บไซต์ว่า “ในปี พ.ศ.2561-2564 ทางมูลนิธิฯ ได้มีการจัดทำ โครงการวิจัยเรื่องจากความท้าทายสู่คุณภาพการศึกษาของประเทศไทย : กฎระเบียบ การบริหารทรัพยากร และความเป็นผู้นำ ที่ได้มุ่งเน้นศึกษาโครงสร้างและบทบาทของ “ตัวกลาง” ระหว่าง “ผู้กำหนดนโยบายการศึกษาของชาติ” และ “ผลผลิตทางการศึกษา” นั่นคือ “ผู้อำนวยการสถานศึกษา” ในฐานะ “กล่องดำทางการศึกษา” หรือ “แกนหลักผู้สื่อสารถ่ายทอดนโยบาย” จากภาครัฐออกสู่โรงเรียนทั่วประเทศ บท สรุปที่ได้คือผู้อำนวยการโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา จะต้องมีบทบาท เป็นผู้นำทางวิชาการ ซึ่งยากง่ายแตกต่างกันตามบริบทของแต่ละท้องถิ่น และนโยบายของหน่วยงานต้นสังกัด ทำให้เกิดข้อเสนอแนะหลากหลายแนวทาง เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดการแก้ไขให้เหมาะสม กับการบริหารจัดการในแต่ละโรงเรียน

ด้วยสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้น ทางมูลนิธิฯ จึงได้จัดทำเว็บไซต์ www.Thailandleadership.org ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำของ ผอ.โรงเรียน นำเสนอทักษะที่ทำให้ผู้บริหารสถานศึกษาประสบความสำเร็จ และเพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจสำหรับบ่มเพาะ “ผู้นำทางวิชาการ” ในประเทศไทย
จัดทำเป็นรูปแบบเว็บไซต์ ที่ประกอบด้วย 3 เมนูหลักคือ

1)ลงมือปฎิบัติ, 2)พัฒนาวิชาการ และ 3)สร้างสรรค์งานวิจัย ซึ่งได้เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงลึกรอบด้าน ทั้งข่าวสาร งานวิจัย บทความ คลิปวิดิโอ พอดแคสต์ สารคดี ฯลฯ จากนักวิชาการด้านการศึกษาผู้มีชื่อเสียง นำโดย ดร.รัตนา แซ่เล้า และผู้ร่วมให้คำแนะนำในการจัดทำเว็บไซต์ นำเสนอทฤษฎี และนานาสาระด้วยตนเอง เช่น ศ.ดร.ฟิลิป ฮาลิงเจอร์, รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์, ดร.สุกรี นาคแย้ม, ดร.ภูมิศรัณย์ ทองเลี่ยมนาค, ดร.วงอร พัวพันสวัสดิ์, รศ.ดร.ณัฏฐภรณ์ หลาวทอง, รศ.ดร.พร้อมพิไล บัวสุวรรณ, และ รศ.ดร.ธีรภัทร กุโลภาส ภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงศึกษาธิการ, กรุงเทพมหานคร, มูลนิธิอานันทมหิดล และทางช่อง 9 MCOT HD โดยคาดหวังว่าเว็บไซต์นี้จะเป็นคลังความรู้ออนไลน์ด้านการศึกษา ที่ช่วยขับเคลื่อนพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์ ผลักดันนวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อเชื่อมต่อชุมชนผู้นำทางวิชาการ ให้เกิดการสื่อสารแลกเปลี่ยนความคิด เห็นและสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง เป็นรากฐานเชื่อมต่อพัฒนาสู่ความร่วมมือในระดับสากล”



ภายในงานเปิดตัวเว็บไซต์ฯ ได้มี นางพุทธชาต ทองกร รองผู้อำนวยการ ศูนย์บริหารงานการพัฒนาศักย ภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (HCEMC) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวง ศึกษาธิการ เดินทางมาร่วมงาน นอกจากนี้ยังมีการอภิปรายให้ความรู้โดยนักวิชาการที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ศ.ดร.ฟิลลิป ฮาริงเจอร์ ในหัวข้อ “ผู้นำทางวิชาการกับการพัฒนาการศึกษาไทย”, รศ.ดร.พร้อมพิไล บัวสุวรรณ ในหัวข้อ “ผู้นำกับความสำเร็จของโรงเรียน” และการจัดทำวอดแคสต์, รศ.ดร.ธีรภัทร กุโลภาส ในหัวข้อ “นโยบายปฎิรูปการศึกษา จากกระทรวงสู่ห้องเรียน”, รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ในหัวข้อ “แชร์กลยุทธ์ จุดไอเดียผู้บริหาร” และ ดร.ชลตวรรณ ขุมเพ็ชร, ดร.ธราธร ตันวิพงษ์ตระกูล และคุณชัญฌัญญ์ ธนันท์ปพัฒน์ ในหัวข้อ “การทำสารคดีสั้นเรื่องแรงบันดาลใจจากการทำงาน” เป็นต้น   

โดยผู้อำนวยการโรงเรียน, นักวิชาการด้านการศึกษา และประชาชนที่สนใจ
สามารถเข้าไปใช้บริการเว็บไซต์ที่ www.Thailandleadership.org ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 062-7341267 ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

เครือ รพ.พญาไท-เปาโล จับมือ จุฬา เปิดตัวหลักสูตร Season 5 Hybrid Learning ติดอาวุธให้องค์กรสู่ความสำเร็จทางธุรกิจเฮลท์แคร์

เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล นำโดย นายอัฐ ทองแตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายนิรุธ ศรีพวาทกุล ผู้อำนวยการสายพัฒนาคุณค่าธุรกิจและเพิ่มพูนการเรียนรู้ เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล พร้อมคณะ
ผู้บริหาร ร่วมลงนาม MOU ด้านวิชาการ สร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ เปิดตัวหลักสูตร Season 5 Hybrid Learning บนแอปพลิเคชัน CILA ศูนย์กลางการจัดการองค์ความรู้สำหรับบุคลากร เครือ รพ. พญาไท-เปาโล  โดยได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.ดนุพล หุ่นโสภณ รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chulalongkorn Business School) ลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ นับเป็นปีที่ 5 ในการต่อยอดความสำเร็จสู่การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ตอกย้ำภาพผู้นำธุรกิจเฮลท์แคร์ที่เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบบริการด้านสุขภาพที่ได้มาตรฐานไปสู่สังคมวงกว้าง

ความร่วมมือกันครั้งนี้ เป็นการยกระดับความรู้เชิงธุรกิจ เพิ่มศักยภาพแก่บุคลากรของโรงพยาบาลให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ช่วยให้ธุรกิจเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในยุค Digital transformation ด้วยการพัฒนาการเรียนรู้ในรูปแบบ Hybrid Learning ภายใต้ในแนวคิด “Strategic Action in Healthcare Battlefield”

นอกจากนี้บน CILA ยังมีหลักสูตรการเรียนรู้ทั้งศาสตร์ด้านการแพทย์ พยาบาล และการพัฒนาตนเองอื่นๆ อีกกว่า 300 หลักสูตร มีการจัดกิจกรรมอบรมตลอดทั้งปี เพื่อให้บุคลากรคิดต่อยอดในการวางแผนเพื่ออนาคตและก้าวทันสถานการณ์ความเป็นไปทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมามีผู้เข้าใช้งานแล้วกว่า 2.7 ล้านครั้ง เครือ รพ.พญาไท-เปาโลแล้ว มีความตั้งใจที่จะเดินหน้าขยายผลหลักสูตร Hybrid Learning ส่งต่อความรู้ให้แก่เครือ BDMs บนความเชื่อมั่นว่า การสร้าง ‘คน’ คือ
การสร้างนวัตกรรมที่ล้ำค่าที่สุดของเครือ รพ. พญาไท-เปาโล 

วันอังคารที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2566

เปิดบ้านหะยีสุหลงเป็นศูนย์การเรียนรู้จังหวัดปัตตานี

ศูนย์เรียนรู้พิพิธภัณฑ์ปราชญ์ท้องถิ่น โต๊ะมีนาปัตตานี

บูรณะบ้านและสุเหร่า “หะยีสุหลง” สร้างศูนย์เรียนรู้จุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์ปาตานียุคใหม่ ศอ.บต.ทุ่มงบ 7.7 ล้านซ่อมใหม่ให้เหมือนเดิมให้ครอบครัวโต๊ะมีนาดูแล ทายาทย้ำเป็นเจตนาเดิมของวงศ์ตระกูล เพื่อสร้างความเข้าใจใหม่แต่ไม่หนุนความรุนแรง ถามกระบวนการพูดคุยจะหยิบยกบุคคลสำคัญนี้มาสร้างจุดเปลี่ยนให้กลายเป็นความหวังต่อสันติภาพ





ศูนย์เรียนรู้พิพิธภัณฑ์ปราชญ์ท้องถิ่น มูลนิธิอาจารย์ฮัจจียร์ สุหลง โต๊ะมีนา โดยมี  คุณหมอเพชรดาว โต๊ะมีนา มาบรรยายเป็นความรู้ให้ความเป็นมาเป็นไปของมูลนิธิฯ  พยายามใช้พลังของชุมชนและผู้คนพัฒนาศักยภาพของพื้นที่ บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมและความเข้าใจในอัตลักษณ์ท้องถิ่น โดยที่พวกเขาไม่รู้มาก่อนว่าก่อนหน้านี้คนในพื้นที่ต่างศาสนาไม่ไว้วางใจพวกเขาเลย แต่สิ่งที่พวกเขาทำได้เปลี่ยนความไม่ไว้วางใจนั้นไปสู่มิตรภาพและความเชื่อใจ เปลี่ยนบางพื้นที่เล็กๆ ในจังหวัดชายแดนใต้ให้กลับไปเหมือนก่อนเหตุการณ์ความไม่สงบ  ศูนย์การเรียนรู้ของจังหวัดปัตตานี ให้เหมือนเป็นพิพิธภัณฑ์หะยีสุหลง 


โดยรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ รวมทั้งตำราของหะยีสุหลงเท่าที่มีอยู่มาเก็บรวบรวมไว้ให้คนที่สนใจได้มาเรียนรู้ผลงานและประวัติหะยีสุหลง บ้านพักและสุเหร่าสร้างขึ้นในเวลาใกล้เคียงกันราวปี พ.ศ.2470 โดยสุเหร่าหลังนี้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญๆ ทางประวัติศาสตร์หลายอย่าง โดยเฉพาะการจัดทำข้อเสนอ 7 ข้อเกี่ยวกับสิทธิในการปกครองและสิทธิทางศาสนาในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้

“อีกเหตุผลหนึ่งที่ต้องการเปิดบ้านหะยีสุหลงเป็นศูนย์การเรียนรู้จังหวัดปัตตานี เพราะที่ผ่านมาครอบครัวโต๊ะมีนาถูกใส่ร้ายมาตลอดว่าต้องการแบ่งแยกดินแดนหรือเป็นกบฏ การเปิดบ้านหะยีสุหลงก็เพื่อให้คนนอกที่ไม่เข้าใจ ได้มาดูบ้าน ดูเอกสารของหะยีสุหลง จะรู้ว่าเราอยู่กันอย่างไร มีข้อสงสัยก็ถามได้เลย”



บ้าน-สุเหร่า“หะยีสุหลง เอกลักษณ์สวยงามตามรูปทรงบ้านมลายู ในซอยริมถนนรามโกมุท ในตัวเมืองปัตตานี ใกล้คิวรถบัสสายปัตตานี-นราธิวาส เป็นที่ตั้งบ้านพัก “ตระกูลโต๊ะมีนา” และเป็นที่พำนักของ “หะยีสุหลง อับดุลกอเดร์ โต๊ะมีนา” ซึ่งถือได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของปาตานี/ชายแดนใต้ คุณจตุรนต์  เอี่ยมโสภา สมาชิกสภาจังหวัดปัตตานี  และกรรมการมูลนิธิฯ และ คุณมูฮัมหมัดอารีฟ  แวสาแล ผู้ช่วยคุณหมอเพชรดาว จัดเตรียมต้อนรับ

ทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลโต๊ะมีนา ผู้ดูแลบ้านพักและสุเหร่าหะยีสุหลงได้เล่าถึงที่มาของการบูรณะบ้านพักและสุเหร่าหะยีสุหลงผู้ที่สนใจมาศึกษาถึงประวัติความเป็นมาอาจารย์ฮัจจียร์ สุหลง โต๊ะมีนา พยายามใช้พลังของชุมชนและผู้คนพัฒนาศักยภาพของพื้นที่ บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมและความเข้าใจในอัตลักษณ์ท้องถิ่น โดยที่พวกเขาไม่รู้มาก่อนว่าก่อนหน้านี้คนในพื้นที่ต่างศาสนาไม่ไว้วางใจพวกเขาเลย แต่สิ่งที่พวกเขาทำได้เปลี่ยนความไม่ไว้วางใจนั้นไปสู่มิตรภาพและความเชื่อใจ เปลี่ยนบางพื้นที่เล็กๆ ในจังหวัดชายแดนใต้ให้กลับไปเหมือนก่อนเหตุการณ์ความไม่สงบ 








คนรุ่นใหม่ในพื้นที่ส่วนใหญ่ รู้จักหะยีสุหลงกับคุณเด่น แต่ไม่รู้ว่าบ้านพักและสุเหร่าหะยีสุหลงยังอยู่ บางคนมาละหมาดที่สุเหร่านี้เป็นประจำแต่ไม่รู้ว่าเป็นของหะยีสุหลง คุณจตุรนต์  เอี่ยมโสภา บอกว่า สุเหร่าหะยีสุหลงมีความสำคัญกว่าบ้านพัก เพราะข้อเรียกร้อง 7 ข้อของหะยีสุหลงเขียนและพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดที่สุเหร่านี้ ดังนั้นประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของปัตตานี้ เกิดขึ้นที่นี่ จึงอยากให้ประชาชนได้มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ปัตตานีจากที่นี้ แต่ไม่ใช่เรียนรู้เพื่อไปใช้ความรุนแรง แต่เพื่อเรียนรู้ปัจจุบันและอนาคตว่าจะไปอย่างไร

ก่อนกลับทีมงานได้รับเกียรติจาก ท่านเด่น  โต๊ะมีนา  อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.ปัตตานี   ซึ่งท่านเป็นคุณพ่อของคุณหมอ  มาถ่ายภาพร่วมกับทีมงาน

ข่าวประชาสัมพันธ์

ช่อง 3 ส่งมอบถุงมือยางเกรดพรีเมี่ยม ให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตคลองเตย

            บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) และ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นำโดยคณะผู้บริหาร และพนักงานจิตอาสา ส่งมอบถุงมือยางเกรดพรีเม...

โวยวายดอทคอม