วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

จุติ สั่งเยียวยาด่วน!

ดับทุกข์คนเดือดร้อนบ้านถูกไฟไหม้ในชุมชนภูมิจิตร เขตคลองเตย เมื่อสัปดาห์ก่อน

(
(1 สิงหาคม 2562)  จากกรณีข่าว เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในซอยภูมิจิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุเป็นชุมชนแออัด มีบ้านปลูกติดกันหลายหลัง ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ เกิดเพลิงไหม้และกลุ่มควันจำนวนมาก ตรวจสอบพบมีบ้านได้รับความเสียหายจำนวน 8 หลังคาเรือน ไฟไหม้ทั้งหมด มีครอบครัวไทยและต่างชาติร่วมทั้งสิ้น 19 ครอบครัว เป็นครอบครัวครัวไทย 15 ครอบครัว ซึ่งตามระเบียบการให้ความช่วยเหลือ คนไทยเท่านั้นที่มีสิทธิ์
ได้รับความช่วยเหลือจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ประกาศ นโยบาย "รถดับเพลิงให้กับความทุกข์ของคนในสังคม" ได้สั่งการไปยังกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ให้การช่วยเหลือ โดยในวันนี้ นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (อพส.) ร่วมกับนายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ และนายอนุชา บูรพชัยศรี เป็นตัวแทนรัฐมนตรี ในการส่งมอบสิ่งของอุปโภคบริโภค เงินเยียวยาอย่างเร่งด่วน ที่สำนักงานเขตคลองเตย ในเบื้องต้นแต่ละรายจะได้เงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2552 ครอบครัวละ 3,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวง พม. จะติดตามให้ความช่วยเหลือต่อไป
ภัณฑิรา ชีรานนท์ อายุ 64 ปี อาชีพตัดเย็บเสื้อผ้า บ้านไฟไหม้หมดทั้งหลัง ขณะนี้อาศัยอยู่กับน้องสาว กำลังรวบรวมเงินกลับมาทำงานใหม่ และในวันนี้ขอขอบคุณ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่มามอบเงินช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ทำให้มีกำลังใจและจะสู้ต่อไป


นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ตัวแทนรัฐมนตรีกล่าวว่า ท่านจุติได้ให้นโยบายว่าเราจะเป็น "รถดับเพลิง"
ที่ช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนและสังคม ขอขอบคุณกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ โดยการนำของนางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ ที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาเก็บข้อมูลตามระเบียบถูกต้องรวดเร็ว
บรรยายกาศวันนี้ผู้ประสบภัยดูมีกำลังใจเต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม

"ไก่ฟ้า" ไม่ได้อยู่เฉพาะบนฟ้า

จากวัตถุดิบชั้นเลิศของโครงการหลวง
สู่สี่จานรสเลิศ ณ ห้องอาหารจีนโกลเด้น วิลเลจ

 


เมนูไก่ฟ้าของ ห้องอาหารจีนโกลเด้น วิลเลจ โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต ขอเชิญผู้หลงใหลในรสชาติที่แปลกใหม่ มาลิ้มลองสี่จานเด็ดที่รังสรรค์สุดพิเศษ ใน “เทศกาลไก่ฟ้า (Pheasant Festival)” หนึ่งในสุดยอดวัตถุดิบอันเลอค่าจากโครงการหลวง โดยใช้สายพันธุ์ไก่ฟ้าจากทางการประเทศฝรั่งเศส อันเป็นวัตถุดิบหายาก และด้วยเอกลักษณ์ทางด้านเนื้อสัมผัสที่แน่นและนุ่มไม่เหนียวจนเกินไป มีไขมันน้อย เหมาะสำหรับผู้รักสุขภาพ จึงก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์สี่เมนูแสนพิเศษในแบบฉบับของอาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง อันได้แก่ สลัดไก่ฟ้าแมงกะพรุนวอสเซี่ยงไฮ้, ซุปไก่ฟ้ากระเพาะปลาสดเห็ดชิเมจิน้ำแดง, ไก่ฟ้ากระเทียมน้ำแดง และไก่ฟ้าผัดขิงต้นหอมญี่ปุ่นราดอีหมี่ ในราคาเริ่มต้นที่ 350 บาทต่อจาน ลิ้มรสสี่จานพิเศษจากไก่ฟ้า

ไก่ฟ้าที่นำมาเสริฟเป็นอาหารนี้ มีที่มาจากมูลนิธิโครงการหลวง ดำเนินงานวิจัยพันธุ์พืชและสัตว์ที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมแก่เกษตรกร โดยมีสถานีวิจัย 4 แห่ง และศูนย์พัฒนาโครงการหลวง 38 แห่ง ในจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทย ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา และลำพูน ครอบคลุมพื้นที่ 1,068 ล้านไร่ โดยการควบคุมการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัยภายใต้ระบบการจัดการตามมาตรฐานสากล

ซึ่งหนึ่งในวัตถุดิบจากโครงการที่เราได้คัดสรรและนำมาใช้ประกอบอาหารนั่นก็คือ "ไก่ฟ้า" จากโครงการซึ่งจะมีเฉพาะฤดูกาลเดือน ก.ย. - มี.ค. และได้คัดสรรเมนูตามรายการที่ทุกท่านต้องชื่นชอบ

ไก่ฟ้าคอแหวน เป็นหนึ่งในสองชนิดของไก่ฟ้าที่เรียกกันว่า true pheasant หรือ common pheasant ซึ่งเป็นไก่ฟ้าที่เพาะเลี้ยงไว้ เพื่อนำไปปล่อยให้คนล่าเป็นเกมกีฬา และนำมาปรุงเป็นอาหาร (สมาคมอนุรักษ์ไก่ฟ้าโลก หรือ World Pheasant Association : W.P.A. ได้กำหนดให้ไก่ฟ้าในสกุล Phasianus ได้แก่ ไก่ฟ้าคอแหวน และไก่ฟ้าสายพันธุ์อื่นๆ อีก 34 ชนิด เป็นไก่ฟ้าที่สามารถเพาะเลี้ยงไว้เพื่อการกีฬา และสามารถนำมารับประทานได้)

ไก่ฟ้าคอแหวนที่แพร่หลายที่สุดคือ Chinese ring-neck pheasant (Phasianus colchicus, torquatus) มีถิ่นกำเนิดทางฝั่งตะวันออกของจีน อาศัยอยู่ในพื้นที่ระดับต่ำถึงระดับสูงปานกลาง ทำรังตามพงหญ้าหรือใต้ต้นไม้ เนื่องจากสามารถขยายพันธุ์ได้ง่าย ไก่ฟ้าฟ้าคอแหวนนี้ มีข้อเสียตรงตื่นตกใจง่าย ทำให้บินชนกรงจนหัวแตกหรือเกิดบาดเจ็บได้ง่าย

ดังนั้นผู้เลี้ยงต้องมีความระมัดระวังในการเลี้ยงอย่างมาก เป็นที่ทราบกันดีว่า มูลนิธิโครงการหลวงนั้น มีหน้าที่รับผิดชอบ ด้านการส่งเสริม และพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวไทยภูเขา ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การหาสัตว์ชนิดใหม่ๆ ซึ่งมีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ มีราคาสูง และชาวไทยภูเขา สามารถนำไปเลี้ยงเป็นอาชีพ เพื่อเป็นรายได้เสริมของครอบครัวนั้น ก็อาจจะช่วยในการพัฒนาความเป็นอยู่ของพวกเขาได้อีกทางหนึ่ง

 ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของการศึกษาวิจัยการเลี้ยงไก่ฟ้าในพื้นที่โครงการหลวงเกิดขึ้นตามมานั่นเอง โดยมูลนิธิโครงการหลวง ได้เริ่มมีการศึกษาวิจัยการเลี้ยงไก่ฟ้า ครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 และต่อมาได้รับมอบไข่ไก่ฟ้าจาก Mr. Jean-Michel Beurdeley ประเทศฝรั่งเศสเพิ่มมาอีก 482 ฟอง โดยในช่วง 1-2 ปีแรก ได้ทำการวิจัยเพื่อศึกษาอัตราการฟัก และสมรรถภาพการผลิต รวมทั้งการปรับตัวของไก่ฟ้า ในสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย และหลังจากนั้นเป็นการเลี้ยงเพื่อจำหน่าย โดยมีแหล่งผลิตอยู่ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างข่าง และปางดะ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ ขุนวาง และแม่หลอด

“ไก่ฟ้าที่โครงการหลวงผลิตออกจำหน่ายนี้ มีจุดเด่นคือเนื้อที่แน่นและนุ่ม อีกทั้งยังเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกรบนดอย นอกเหลือจากการปลูกพืชได้อีกด้วย”

เชฟเนตเซอร์ เล่าถึงเมนูสุดพิเศษจากไก่ฟ้า ว่า เมนูพิเศษนี้ก็จะมี ตั้งแต่ สลัดไก่ฟ้าแมงกะพรุนซอสเซี่ยงไฮ้ , ซุปไก่ฟ้ากระเพาะปลาสดเห็ดชิเมจิน้ำแดง, ไก่ฟ้ากระเทียมน้ำแดง และไก่ฟ้าผัดขิงต้นหอมญี่ปุ่นราดอีหมี่”


ในระหว่างวันที่ 5 - 18 สิงหาคม 2562 นี้
ในมื้อกลางวัน 11.30 -14.30 และมื้อค่ำ 18.00 – 22.30 น.
ณ ห้องอาหารจีนโกลเด้น วิลเลจ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ 02-131-1111

อีเมล์ goldenvillage@novotelairpportbkk.com

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ททท. ชวนสาวแซ่บรุ่นใหญ่ Woman Over 50’s

ท่องเที่ยวกับแคมเปญ Girl Gang ลั้นลา
 #ยิ่งเที่ยวยิ่งแซ่บ #ยิ่งเที่ยวยิ่ง young


เว็บไซต์ www.AlwaysForeverYoung.com ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สายการบิน ไทยสมายล์ และ AIA, VIZ Card จัดแคมเปญ Girl Gang ลั้นลา #ยิ่งเที่ยวยิ่งแซ่บ ชวนแก๊งสาวแซ่บรุ่นใหญ่ Woman Over 50’s ออกเดินทางท่องเที่ยวในเมืองไทย สร้างความสุขให้ชีวิต young & fresh #ยิ่งเที่ยวยิ่ง young


นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ททท. ร่วมกับพันธมิตร จัดแคมเปญท่องเที่ยว Girl Gang ลั้นลา เพื่อตอบโจทย์ insight กลุ่มนักท่องเที่ยวผู้หญิงที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งมีความ Active, young at heart ไฟแรง สนุกสนาน กับการใช้ชีวิต ชอบท่องเที่ยวและทำกิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้ชีวิตมีสีสันอยู่เสมอ คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของกิจการ เป็นผู้บริหารระดับสูง ชีวิตมั่นคงอยู่ในช่วง Prime Time มีศักยภาพในการเดินทางท่องเที่ยวและใช้ชีวิตได้ตามใจปรารถนา และติดโซเชียลไม่ต่างกับเจนวาย กลุ่ม Woman Over 50’s ไม่ให้ความสำคัญกับอายุที่เพิ่มขึ้น คำว่า แก่ ไม่อยู่ในพจนานุกรมของชีวิต



ททท. ร่วมกับเว็บไซต์ www.AlwaysForeverYoung.com ออกแบบทริปที่ตอบโจทย์ insight กลุ่ม Woman Over 50’s มีทั้งหมด 10 destinations 7 themes ดังนี้

1.      สายปาร์ตี้ re-union ยกก๊วนปาร์ตี้ ที่ทะเลปราณฯ

2.      สายเฮลธี ชีวิตดี๊ดี ที่ปราจีนบุรี

3.      สาย Peace & Play หยุดเวลาพักใจ ไปเมืองจันท์ จันทบุรี

4.      สายแฟชั่นไทยสไตล์ชิค ของดีเมืองสกล สกลนคร

5.      สายสตรอง กาญจนบุรี แอดเวนเจอร์ และเชียงราย แอดเวนเจอร์

6.      สายฟินกินตัวแตก

-      กินแซ่บ สุราษฎร์ธานี บนวิถีแห่งสายน้ำ

-      Gastronomy City เมืองนี้มีแต่ของอร่อย ภูเก็ต

-      ปลายทางอร่อยที่เบตง ยะลา

7. สายบุญมูเตลู เก็บแต้มบุญ บนเส้นทางสายมูเตลู อุดรธานี


นายอภิชัยกล่าวสรุปว่า “ขอเชิญ สาวแซ่บรุ่นใหญ่ Woman Over 50’s ทุกท่าน แพ็กกระเป๋ายกแก๊งออกไปลั้นลากับทริปเร้าใจใหม่ ๆ 10 เดสติเนชั่นทั่วไทย เชิญออกแบบไปผจญภัยให้หัวใจสูบฉีด กรีดกรายใส่ผ้าไทยเซลฟี ไปปาร์ตี้ reunion ริมทะเล หรือจะนัดเพื่อนซี้ ตระเวนทำบุญให้สุขใจ



ทางแคมเปญร่วมกับพันธมิตร มอบข้อเสนอพิเศษให้สาวแซ่บ รุ่นใหญ่ จอง Deals โรงแรม ที่พักบัตรโดยสารราคาพิเศษจากไทยสมายล์, โรงแรมกว่า 100 แห่ง การันตีราคาพิเศษที่สุด ลด 30-40% จองดีลดี ๆ ได้ที่เว็บไซต์แคมเปญ www.GirlGangLunLa.com


นอกจากนี้ VIZ Card และ AIA จัดคอลเลกชันโรงแรม สุด Exclusive ให้สมาชิกสาวแซ่บ อายุ 50 ปีขึ้นไป ที่ถือบัตร VIZ Card และเป็นลูกค้าหรือตัวแทน AIA สามารถรับสิทธิ์จองโรงแรมได้ ราคาสุด Exclusive ภายในเดือนกันยายนนี้

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ร้อง“ธรรมนัส


สอบปมตั้งโรงไฟฟ้าชีวมวล 10 พรรคร่วมรัฐบาล ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีช่วยเว่าการกระทรวงกษตรและสหกรณ์ ขอให้ตรวจสอบการสร้างโรงงานไฟฟ้าชีวมวล จังหวัดอำนาจเจริญ
ที่อาคาร ทีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย และ ส.ส. 10 พรรคร่วมรัฐบาล พร้อมตัวแทนประชาชน ยื่นหนังสือถึง ร้อยเอก ดร. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกี่ยวกับกรณีประชาชน ชาวบ้านน้ำปลีก ตำบลน้ำปลีก อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ และชาวบ้าน ประชาชนใน ตำบลเชียงเพ็ง และตำบลโพธิ์ไทร อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ร่วมกันคัดค้านการสร้างโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ของบริษัท มิตรผลไบโอพาว เวอร์(อำนาจเจริญ) จำกัด ในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ซึ่งคัดค้านตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2558 แต่ไม่เป็นผล ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันมายื่นหนังสือที่สำนักงานใหญ่พรรคพลังไทยรักไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่ อำเภอเมืองอำนาจเจริญ และนำเรื่องดังกล่าวมานำเสนอรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้หาแนวทางแก้ไขต่อไป
นายคฑาเทพ กล่าวอีกว่า ขอให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ  ตรวจสอบและระงับการก่อสร้าง
ดังกล่าว เพราะเป็นพื้นที่เกษตรกรรมจะเปลี่ยนมาเป็นเขตอุตสาหกรรมได้อย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนของเกษตรกรในพื้นที่

ด้าน ร้อยเอก ดร. ธรรมนัส ฯ กล่าวว่า จะรีบตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และ คาดว่า สัปดาห์หน้าจะตั้งคณะทำงานที่มีผู้ที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันแก้ปัญหาโดยเร็ว

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

บีเอสเอช นำเครื่องใช้ไฟฟ้า “บ๊อช” ร่วมกิจกรรมปรุงอาหารเมนูพิเศษ

ในงาน PowerMall Electronica Showcase 2019


เมื่อเร็ว ๆ นี้  นายประชา เวียงเพิ่ม ผู้อำนวยการฝ่ายขายปลีก บริษัท บีเอสเอช โฮม แอ็พพลายแอ็นซ์ ประเทศไทย (ที่4จากซ้าย) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ BSH Hausgeräte จากประเทศเยอรมนี, ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ให้การต้อนรับ คุณพิมพ์ใจ ธิติชาญกุล ผู้จัดการใหญ่บริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป จำกัด (ที่2จากซ้าย) เนื่องในโอกาสร่วมกิจกรรมปรุงอาหารเมนูพิเศษ Grilled chicken Margherita with Pesto sauce กับ executive chef จาก Organic supply ที่บูธ Bosch ภายในงาน PowerMall Electronica Showcase 2019 โซน PowerMall  ซึ่งสร้างสีสันให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมงานได้เป็นอย่างดี ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน 

สามารถติดตามข่าวสารได้ที่  www.facebook.com/BoschHomeThailand
ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.bosch-home.in.th

นิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ประจำปี 2562 ณ เรือนจำกลางคลองเปรม 2-11 สิงหาคมนี้

 กรมราชทัณฑ์ เชิญชวนคนไทยร่วมคืนคนดีสู่สังคม


กรมราชทัณฑ์เตรียมจัดงาน นิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ประจำปี 2562 ภายใต้แนวคิด “ราชทัณฑ์แก้ไข คนไทยให้โอกาส” ระหว่างวันที่ 2-11 สิงหาคม 2562 ณ บริเวณสนามหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม

พันตำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า งานนิทรรศการผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ประจำปี 2562 นี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 52 ภายในงานมีการรวบรวมผลิตภัณฑ์จากการฝึกวิชาชีพฝีมือ ของผู้ต้องขังทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการส่งเสริมภารกิจด้านการพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขัง สร้างอาชีพ สร้างรายได้ พร้อมทั้งสร้างทัศนคติการยอมรับผู้พ้นโทษจากสังคมภายนอก เปิดโอกาสให้ภาครัฐ และเอกชนได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขผู้กระทำผิด พร้อมทั้งกล่าวว่า “ขอให้ผู้ต้องขังใช้เวลาในเรือนจำให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เมื่อพ้นโทษจะได้มีวิชาชีพติดตัว ไม่กลับมากระทำผิดซ้ำอีก และขอความเมตตาจากสังคมให้การช่วยเหลือ มอบโอกาสให้อดีตผู้ต้องขังที่มีทักษะวิชาชีพที่ทางเรือนจำได้ฝึกฝนแล้วเข้าทำงานด้วย”

สำหรับกิจกรรมตลอดทั้ง 10 วัน ประกอบด้วย นิทรรศการโครงการพัฒนาพฤตินิสัยของผู้ต้องขัง ที่สำคัญ, บูธสาธิตทักษะฝีมือผู้ต้องขัง การประกวดผลิตภัณฑ์ฝีมือผู้ต้องขัง พร้อมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากฝีมือผู้ต้องขังเรือนจำ และทัณฑสถาน อาทิ เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน ภาพวาด งานแกะสลัก งานหัตถกรรม, บูธอาหาร และเครื่องดื่มโดยผู้ต้องขังที่ผ่านการฝึกอบรม, ร้านจำหน่ายสินค้าทั้งจากหน่วยงานเครือข่าย และ ผู้พ้นโทษที่มีทักษะฝีมือด้านต่างๆ รวมกว่า 100 บูธ สามารถเลือกชม ชิม ช้อป ได้ตามอัธยาศัย




นอกจากนี้ ในแต่ละวันยังมีการแสดงจากผู้ต้องขัง และการแสดงให้กำลังใจผู้ต้องขังผลัดเปลี่ยนออกมาให้ได้ชม เช่น การขับเสภา, การแสดงดนตรีบรรเลง และขับร้อง โดยนำเสนอบทเพลงที่สร้างพลังใจ และให้ความหวัง, กิจกรรมการแสดงนาฏศิลป์ไทยประยุกต์, กิจกรรมการแสดงโขนเทิดพระเกียรติ, การแสดงจินตลีลาของผู้ต้องขังในบทแสดงที่สื่อถึงการพัฒนาคน การฝึกวิชาชีพ และโชว์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ อีกด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถร่วมคืนคนดีมีคุณค่าสู่สังคมไทยได้ในที่ 2-11 ส.ค 2562 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 21.00 น. ที่บริเวณสนามหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน กรุงเทพมหานคร สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่


Facebook : ผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์ Prison Product Thailand
ID Line : GPGPTHAI (ในชื่อ Ecommerce ราชทัณฑ์)
หมายเลขโทรศัพท์ : 098 827 3562

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

งานประกวดแกะสลักผัก-ผลไม้ ผสานงานใบตอง และดอกไม้สด ครั้งที่ 18

เฉลิมพระเกียรติพระนามยิ่งยศสิริกิติ์ สถิตย์ไว้ในโลกา

โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จูน ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงานประกวดแกะสลักผัก-ผลไม้ ผสานงานใบตอง และดอกไม้สด ครั้งที่ 18 ในหัวข้อ “เฉลิมพระเกียรติพระนามยิ่งยศสิริกิติ์ สถิตย์ไว้ในโลกา” โดยผู้เข้าประกวดสร้างสรรค์ผลงานแกะสลักผัก-ผลไม้ ผสานงานใบตอง ดอกไม้สด โดยสอดคล้องกับหัวข้อการประกวด

ศาสตราจารย์ ดร. วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานพิธีประกาศผลและมอบรางวัล งานประกวดแกะสลักผัก ผลไม้ ผสานงานใบตองและดอกไม้สด เพื่อเฉลิมพระเกียรติครั้งที่ 21 ภายใต้หัวข้อ “เฉลิมพระเกียรติบรมราชาภิเษกเอกอัครบารมีเลิศหล้าทศมินทรมหาราชา”   โดย โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จูน ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งในปีนี้
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอเนกอนันต์จาก สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี พระราชทานรางวัลเป็นปีแรก โดยมี อารยา อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการโรงแรม แกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จูน เป็นประธานจัดงานและ ศาสตราจารย์ ดร.มณีรัตน์ สวัสดิวัฒน์ ณ อุยธยา ทายาท อาจารย์เพ็ญพรรณ สิทธิไตรย์ ศิลปินแห่งชาติ เป็นประธานการตัดสินการประกวด ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประกวดอาทิ โรงแรมชั้นนำ บุคคลทั่วไป สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ จำนวน 21 ทีม

รงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จูน ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงานประกวดแกะสลักผัก-ผลไม้ ผสานงานใบตอง และดอกไม้สด ครั้งที่ 18 ในหัวข้อ “เฉลิมพระเกียรติพระนามยิ่งยศสิริกิติ์ สถิตย์ไว้ในโลกา” โดยผู้เข้าประกวดสร้างสรรค์ผลงานแกะสลักผัก-ผลไม้ ผสานงานใบตอง ดอกไม้สด โดยสอดคล้องกับหัวข้อการประกวด


ศาสตราจารย์ ดร. วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานพิธีประกาศผลและมอบรางวัล งานประกวดแกะสลักผัก ผลไม้ ผสานงานใบตองและดอกไม้สด เพื่อเฉลิมพระเกียรติครั้งที่ 21 ภายใต้หัวข้อ “เฉลิมพระเกียรติบรมราชาภิเษกเอกอัครบารมีเลิศหล้าทศมินทรมหาราชา” โดย โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จูน ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งในปีนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอเนกอนันต์จาก สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี พระราชทานรางวัลเป็นปีแรก โดยมี อารยา อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการโรงแรม แกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จูน เป็นประธานจัดงานและ ศาสตราจารย์ ดร.มณีรัตน์ สวัสดิวัฒน์ ณ อุยธยา ทายาท อาจารย์เพ็ญพรรณ สิทธิไตรย์ ศิลปินแห่งชาติ เป็นประธานการตัดสินการประกวด ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประกวดอาทิ โรงแรมชั้นนำ บุคคลทั่วไป สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ จำนวน 21 ทีม




ศาสตราจารย์ ดร. วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแกะสลักผัก ผลไม้ เป็นการอนุรักษ์ สืบสาน ต่อยอด ทีแสดงคุณค่าความเป็นไทย ซึ่งศิลปะการแกะสลักผักและผลไม้ จะได้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกยูเนสโก ตลอดจนเป็นการตามรอยเบื้องยุคลบาท สืบสานพระราชปณิธานอนุรักษ์ศิลปะแขนงนี้ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณในศิลปะสาขานี้มากว่า 15 ปี จนทำให้มีชื่อเสียงไปทั่วโลก



ในนามของรัฐบาล ก็จะสืบทอด การเผยแพร่ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งอยู่ในนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว การแกะสลักผักผลไม้นั้นเป็นทัศนศิลป์ งานศิลปะแบบนี้จะยั่งยืนอยู่ไปได้คนทำต้องมีความตั้งใจมีเวลา ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ผลงาน มีฝีมือ มีความอดทน มีความประณีต มีหัวศิลปะ และที่สำคัญ ทำแล้วต้อง
มีคนชื่นชม คนส่งเสริม คล้ายๆกับทำแล้วไม่มีตลาด งานก็จะหยุดอยู่เท่านั้น ดังนั้น การจัดงานประกวดแกะสลักผักผลไม้ ก็ต้องเชิญชวนให้คนเข้ามาชม และต้องบรรจุเป็นหลักสูตรกับสถาบันใดๆก็ตามที่สอนด้านศิลปะ ช่วยกันจรรโลงสิ่งเหล่านี้ให้ยั่งยืนต่อไป เป็นการสืบสาน ต่อยอดตามพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย

อารยา อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการโรงแรม แกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จูน กล่าวว่า การประกวดแกะสลักผัก ผลไม้ ผสานงานใบตอง ดอกไม้สด จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปีนี้ได้สืบสานศิลปะวัฒนธรรมอันสวยงามไทยสู่เยาวชน และนำเสนอสู่สายตาประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
โดยคณะผู้จัดงาน ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายความจงรักภักดี ด้วยสำนักในพระมหากรุณาธิคุณ
ล้นเกล้าล้นกระหม่อมอย่างที่สุดมิได้

การประกวดแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ประเภทโรงแรม – บุคคลทั่วไป และประเภทสถาบันการศึกษา ผู้ชนะเลิศยอดเยี่ยมจะได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และเงินสด พร้อมประกาศนียบัตรจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกระทรวงวัฒนธรรม สรุปผลรางวัลดังนี้

รางวัลถ้วยพระราชทานฯ ได้แก่
The Winner of the Royal Trophy of Her Majesty the Queen Suthida Bajrasudhabimalalakshana

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
รางวัลชนะประเภทสถาบันการศึกษา (Student Category)
- ชนะเลิศ – วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา
- รองอันดับ 1 - โรงเรียนนครบางยางวิทยาคม จังหวัดพิษณุโลก
- รองอันดับ 2 - โรงเรียนศรีสังวาลย์
- ชมเชย - เทคโนโลยีบริหารธุรกิจสมุทรปราการ
- ชมเชย - สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
- รางวัลพิเศษเสริมกำลังใจ - อาจารย์ธิติพร เอื้ออารี
รางวัลชนะประเภทโรงแรมและบุคคลทั่วไป (Hoteliers and other Category)
- ชนะเลิศ – Swissotel Bangkok Ratchada
- รองอันดับ 1 - Hua Hin My Heart
- รองอันดับ 2 – นาฏยลักษณ์สลักไทย
- ชมเชย – Ibis Style Bangkok Sukhumvit 50
- ชมเชย – สมาคมเยาวชนจิตอาสา
- รางวัลพิเศษเสริมกำลังใจ – World Peace Association



จึงพร้อมใจถวายความจงรักภักดีและขอถวายพระพราชัยมงคลขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ เป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทยตลาดไปชั่วกาลนาน ปีนี้ มีผู้ร่วมประกวดทั้งสิ้นจำนวน 21 ทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชนะการประกวดจะได้รับถ้วยพระราชทานในสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ที่ทรงพระมหากรุณาธิคุณเป็นอเนกอนันต์ ซึ่งเป็นสิริมงคลของชีวิต

เปิดตัวแล้ววันนี้ “ยืมมั้ย”


“เอสซีไอ” ผู้นำด้านไฟฟ้าและเทคโนโลยี จับมือ “โกลด์ อีลิท ปารีส” ผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือทองคำ พร้อมพันธมิตร 5 ธุรกิจยักษ์ใหญ่ ปั้นแบรนด์ “ยืมมั้ย” บริการยืมโทรศัพท์มือถือรายแรกในไทย พลิกโฉมทางเลือกใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้โทรศัพท์มือถือยุคปัจจุบันและอนาคต พุ่งเป้ายืมทั่วไทย 100,000 เครื่องต่อปี

นายสุทธิเกียรติ กิตติภัทรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยืมมั้ย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท โกลด์ อีลิท ปารีส (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมมือกับ บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จํากัด(มหาชน) เพื่อร่วมปั้นแบรนด์ใหม่ “ยืมมั้ย” บริการยืมโทรศัพท์มือถือครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ยืมมั้ย (ประเทศไทย) จำกัด โดยเล็งเห็นว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือของผู้บริโภคทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยกำลังเปลี่ยนไป โดยใช้โทรศัพท์มือถือนานขึ้นมากกว่า 2 ปี และเปลี่ยนเครื่องใหม่น้อยลง ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ อาทิ ราคาโทรศัพท์มือถือที่มีราคาสูงขึ้น หรือการขายต่อในราคาที่ต่ำมาก ดังนั้น บริการยืมโทรศัพท์มือถือจะสามารถแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด โดยคาดว่า “ยืมมั้ย” จะได้รับความนิยมและเป็นทางเลือกใหม่ในการตัดสินใจซื้อโทรศัพท์มือถือของผู้บริโภคในไม่ช้า พร้อมตั้งเป้าผู้ใช้บริการ 100,000 เครื่องต่อปี


“ถึงแม้จะมีข้อจำกัดหลายด้านที่ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือช้าลง แต่ทุกคนก็อยากจะใช้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ และก้าวให้ทันเทคโนโลยีได้อย่างไม่สะดุด ในวันนี้ “ยืมมั้ย” จึงถือกำเนิดขึ้น ในรูปแบบบริการยืมมือถือที่จะมาพลิกโฉมวงการสมาร์ทโฟน และตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด โดยไม่ต้องจ่ายเงินก้อน ไม่ต้องทนใช้มือถือเก่าอีกต่อไป และหมดปัญหาการนำเครื่องเก่าไปขายในราคาที่ต่ำมาก ๆ ซึ่งเรามั่นใจว่า ด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจโทรศัพท์มือถือกว่า 12 ปี จะสามารถตอบสนองได้ตรงความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี” นายสุทธิเกียรติกล่าว
“ยืมมั้ย” นับเป็นการพลิกโฉมทางเลือกใหม่ของการใช้โทรศัพท์มือถือในประเทศไทย ที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้โทรศัพท์มือถือคนรุ่นใหม่ ด้วยแนวคิด “คุ้มกว่า สมาร์ทกว่า” โดยให้บริการยืมโทรศัพท์มือถือ “สมาร์ทโฟน” รุ่นยอดนิยมและรุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยขั้นตอนการยืมที่สะดวกรวดเร็วผ่านแอพพลิเคชั่น “ยืมมั้ย” (Yuemmai) ทั้งในระบบ iOS และ Android

สัญญาเช่า 12 เดือน (365 วัน) ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 30 บาทต่อวัน หรือประมาณ 900 บาทต่อเดือน และค่ามัดจำเริ่มต้นเพียง 575 บาทต่อเดือน พร้อมฟรีค่าโทรและค่าอินเทอร์เน็ตรายเดือน จึงทำให้คุ้มค่ากว่าการซื้อ ส่วนค่ามัดจำจะได้รับคืนหลังคืนเครื่องไม่เกิน 7 วัน หรือใช้เป็นค่ามัดจำในการยืมเครื่องรุ่นใหม่ในปีถัดไป ซึ่งผู้ยืมจะได้รับโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่แกะกล่องทุกครั้ง สามารถชำระเงินเป็นรายเดือนโดยไม่ต้องใช้เงินก้อน ผ่านบัตรเครดิตบนระบบการชำระเงินที่มีความปลอดภัยสูง พร้อมประกันภัยความเสียหายตลอดการใช้งาน ได้เครื่องใหม่ทันทีไม่ต้องซ่อม นอกจากนั้น ยังฟรีค่าจัดส่งถึงมือ รวมถึงบริการโอนถ่ายข้อมูลจากเครื่องเก่าไปเครื่องใหม่ที่ปลอดภัย 100% และสิทธิพิเศษโปรโมชั่นร่วมกับร้านค้า/บริการมากมาย




กลุ่มเป้าหมายหลักของ “ยืมมั้ย” เน้นไปที่คนรุ่นใหม่ นักศึกษา พนักงานออฟฟิศ และผู้ที่มองหาทางเลือกใหม่ของการใช้สมาร์ทโฟน รวมถึงกลุ่มลูกค้าองค์กรที่มีความต้องการใช้โทรศัพท์ในธุรกิจหรือเป็นสวัสดิการสำหรับพนักงาน ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายช่องทางการจำหน่ายให้แก่กลุ่มองค์กรจำนวน 15,000 เครื่องต่อปี โดยแบ่งสัดส่วนเป็นลูกค้าทั่วไป 70% และลูกค้าองค์กร 30%

บริการ “ยืมมั้ย” ยังเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งและสร้างปรากฎการณ์ให้วงการธุรกิจไทย บนความร่วมมือของผู้นำธุรกิจระดับประเทศ 5 บริษัทจากแต่ละอุตสาหกรรม ภายใต้โมเดลธุรกิจ “Ecosystem Business” ด้วยการรวมสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่มีความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กัน สู่บริการที่พร้อมส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคตั้งแต่ต้นจนจบ (End-to-End) ตอบโจทย์ มีคุณภาพ และครบวงจรความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่นี้ประกอบด้วย เอสซีไอ (SCI) ผู้นำด้านไฟฟ้าและเทคโนโลยี บริษัทผู้ร่วมลงทุนหลัก, ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สถาบันการเงินพาณิชย์แห่งแรกและเป็นหนึ่งในห้าธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นผู้ดูแลระบบจัดการการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตที่ปลอดภัยระดับโลก, แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส (AIS) ผู้ให้บริการเครือข่ายอันดับหนึ่ง เพื่อให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือพร้อมแพ็คเกจสุดพิเศษแก่ลูกค้ายืมมั้ย, เมืองไทยประกันภัย บริษัทประกันภัยอันดับหนึ่ง ดูแลรับประกันตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือตลอดการใช้งาน และ คอมเซเว่น (COIII7) ผู้นำอันดับหนึ่งการจำหน่ายสินค้าไอที เป็นพันธมิตรจุดรับบริการลูกค้ายืมมั้ยผ่านศูนย์ iCare


นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จํากัด (มหาชน) ผู้ร่วมทุนหลักของ “ยืมมั้ย” กล่าวว่า “ยืมมั้ย เป็นเวทีสำคัญให้เราพิสูจน์ฝีมืออีกครั้งในฐานะของผู้นำด้านเทคโนโลยี โดยเราได้มองเห็นศักยภาพของตลาดโทรศัพท์มือถือในเมืองไทยที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นโอกาสที่การบริการยืมโทรศัพท์ของ “ยืมมั้ย” จะเข้ามาเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้ สามารถช่วยแก้ปัญหาและข้อจำกัดต่าง ๆ ในการซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ เพียงแค่เปลี่ยนเป็น “ยืม” รวมถึงความร่วมมือจากพันธมิตรที่ดีที่สุดในการให้บริการครบวงจร เราเชื่อว่า “ยืมมั้ย” จะเป็นมิติใหม่ของวงการโทรศัพท์มือถือ/สมาร์ทโฟน และท้ายที่สุด “ยืมมั้ย” จะช่วยสร้างอุปสงค์และมูลค่าตลาดอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือให้กลับมาเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยะสำคัญนั่นเอง” นายเกรียงไกร  กล่าว

“ยืม” สมาร์ทโฟนที่ “คุ้มกว่า สมาร์ทกว่า”
ผ่านแอพพลิเคชั่น “ยืมมั้ย” ได้แล้ววันนี้

ทั้งในระบบ iOS และ Android สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 975 5988
หรือเว็บไซต์ yuemmai.com และติดตามข่าวสารโปรโมชั่นดี ๆ ของ “ยืมมั้ย” ได้ที่ Facebook: ยืมมั้ย

วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ไฟล์ทปฐมฤกษ์ JEJU AIR GRAND OPENING JEJU

คอนเซปใหม่ Romatic in Jeju 

ดินแดนสวรรค์บนกลิ่นอายความโรแมนติก



บรรยากาศ....ไฟล์ทปฐมฤกษ์ JEJU AIR GRAND OPENING JEJU, ทรู เวิลด์ ทราเวล  เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา  เปิดตัวบินตรงลงเกาะเชจู  โดยสารเครื่องบินของสายการบิน JEJU AIR บริษัท ทรู เวิลด์ แทรเวล จัด GRAND OPENING JEJU วันปฐมฤกษ์เปิดตัวบินตรงลงเกาะเชจู  โดยสารเครื่องบินของสายการบิน JEJU AIR  เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้เต็มอิ่มกว่าเดิม โดยจะออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ






พักชีวิตที่แสนจะยุ่งแล้วบินหนีเที่ยวเกาหลีด้วยราคาถูก 
ช่วงนี้ประเทศที่มาแรง คงหนีไม่พ้น เกาหลี หลายคนเคยไปเที่ยวเกาหลีมาแล้ว พักชีวิตที่แสนจะยุ่งแล้วบินหนีเที่ยวเกาหลีด้วยราคาถูก  สำหรับใครที่รอคอย ไฟลท์บินตรงสุวรรณภูมิ-เกาะเชจู 2019-2020 บินตรงลงเที่ยวเกาะมรดกโลกง่ายๆ   ในคอนเซปใหม่ Romatic in Jeju โปรแกรมดึงเอากลิ่นอายความโรแมนติก สัมผัสอากาศที่แสนบริสุทธ์  เที่ยวชมเดินแดนแห่งธรรมชาติ ภาพบรรยากาศของเกาะมรดกโลก จัดเรียงในโปรแกรมทัวร์ ที่สำคัญเหมาลำจัดเต็มครั้งนี้พิเศษมากในเรื่องของราคา เริ่มต้นเพียง 5,500 บาทเท่านั้น ห้ามพลาด ทัวร์เชจูเหมาลำบินตรง เป็นทัวร์เต็มรูปแบบ ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก อาหาร รถบัสนำเที่ยว ไกด์ท้องถิ่น คุ้มสุด เปิดเดินทางทุกวันช่องทางติดต่อ

Office : 02-286-2732

Hotline : 098-827-7522

Line : @trueworld

Facebook : True World Travel

เกี่ยวกับ ทรู เวิลด์ ทราเวล : True World Travel


CR.: ภาพ  ทรู เวิลด์ ทราเวล : True World Travel 

ใบอนุญาติประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 11/06891 ให้บริการด้านการท่องเที่ยวทั่วโลก แบบครบครัน
ด้วยตั๋วเครื่องบินราคาถูก จองโรงแรมราคาพิเศษ จองที่พัก-โรงแรมในประเทศ และที่พัก-โรงแรมต่างประเทศ ทั้งนี้ยังรับจัดกลุ่มทัวร์ (Group Tour) ทั้งใน และต่างประเทศ ตลอดจนรับจัด การศึกษาดูงาน
ทั้งในและต่างประเทศ เป็นหมู่คณะ พร้อมยังนำเสนอความถูกสุดคุ้ม ในแพคเกจท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ที่เราคัดสรรอย่างดี เพื่อนำความสุข และบริการที่แสนประทับใจ สู่ทุกท่านตลอดไป



“ธรรมนัส” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในพะเยา

พร้อมมอบนโยบายพัฒนา “กว๊านพะเยา”

วันที่ 20 กรกฏาคม 2562 เวลา 09.00 น. ร้อยเอก ดร. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการในจังหวัดพะเยาเพื่อติดตามแนวทางการพัฒนาพื้นที่กว๊านพะเยา พร้อมทั้งมอบนโยบายการดำเนินงานแก่หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์

นอกจากนี้ยังได้ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำจำนวน 150,000 ตัว ได้แก่ ปลาสร้อยขาว และปลาตะเพียนขาว ปลาเทพา ลงสู่กว๊านพะเยา ตลอดจนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบสถานการณ์ภัยแล้งในกว๊านพะเยาและกองดินบริเวณตำบลบ้านต๋อม ตำบลบ้านสาง และตำบลแม่ใส อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา หลังพบสถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้มีหัวหน้าส่วนราชการและพี่น้องประชาชนในพื้นที่มาให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก



กว๊านพะเยาเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ในเขตภาคเหนือตอนบน ตั้งอยู่เขตอำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา มีพื้นที่ 12,831ไร่ 1 งาน 26.6 ตารางวา ระยะทางยาวประมาณ 15 กิโลเมตร กว้างประมาณ 10 กิโลเมตร ความลึกเฉลี่ยน้อยกว่า  2 เมตร มีรูปร่างคล้ายแอ่งกระทะ หรือกระเพาะหมูเป็นแหล่งรับน้ำจากลำน้ำ 10 ลำน้ำ ได้แก่ ลำน้ำแม่ปืม ลำน้ำแม่เหยี่ยน ลำน้ำแม่ตุ้ม ลำน้ำแม่ต๋ำ ลำน้ำแม่ต๋อม ลำน้ำแม่ตุ่น ลำน้ำแม่นาเรือ ลำน้ำแม่ใส ลำน้ำแม่ต๊า และมีลำน้ำแม่อิงซึ่งเป็นลำน้ำสายหลัก

จากการสำรวจข้อมูลภาคประมงในกว๊านพะเยา พบสัตว์น้ำประมาณ 28-36 ชนิดพันธุ์ ได้แก่ กลุ่มปลาสร้อย ปลาตะเพียน และปลานิล พบชาวประมง จำนวน  17 ชุมชน 344 ครอบครัว โดยการทำประมงส่วนใหญ่จะใช้เป็นเครื่องมือประมงพื้นบ้าน เช่น แห ข่าย ยอ เบ็ด ตุ้ม ฯลฯ ซึ่งรายได้จากการทำประมงโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 7,000 – 9,000 บาท/เดือน 





ในปี พ.ศ. 2482 กรมประมงได้มีการก่อสร้างประตูปิดกั้นลำน้ำอิง เพื่อสร้างประโยชน์ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและเพิ่มพื้นที่ในการเก็บกักน้ำ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งอุปโภคบริโภค และแหล่งเก็บกักน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว
จากตำแหน่งที่ตั้งของกว๊านพะเยา ด้านตะวันออกติดชุมชนเมือง ร้านค้า ร้านอาหารโรงพยาบาล ส่วนด้านตะวันตกติดแหล่งเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์และพื้นที่นาทำให้ปัจจุบันกว๊านพะเยาได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม ที่เปลี่ยนแปลงมากขึ้นตามลำดับ

ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์และปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ ปัญหาการขยายตัวของวัชพืช ปัญหาคุณภาพน้ำเสื่อมโทรมและที่สำคัญที่สุดคือ การประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนักในปี พ.ศ. 2558-2559 ซึ่งทำให้ชนิดและปริมาณของสัตว์น้ำลดลงอย่างมากสำหรับปัญหาที่ทำกินและปัญหาการบุกรุกพื้นที่กว๊านพะเยา

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากรมประมงได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปัญหาในพื้นที่ลุล่วงไปเป็นอย่างมาก โดยแสดงเจตจำนงใช้ประโยชน์ ตามแนวเขต นสล.(พย.0149) เนื้อที่ 12,831 ไร่ 1 งาน 26.6 ตารางวา

ซึ่งมีหลักเขตของกรมธนารักษ์โดยรอบชัดเจน เพื่อให้เกิดพัฒนากว๊านพะเยาอย่างมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ได้แก่ หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาจะส่งผลให้กว๊านพะเยาเป็นแหล่งน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ สร้างรายได้ให้กับประชาชน และก่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืนต่อไป จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนากว๊านพะเยา จำนวน 3 ยุทธศาสตร์ ดังนี้

ยุทธศาสตร์การจัดการปริมาณน้ำกว๊านพะเยา จากในปัจจุบันปริมารเก็บกักของกว๊านพะเยา อยู่ที่ 33.84 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งต้องจัดสรรให้กับเกษตรกรที่อยู่ใต้ประตูน้ำในฤดูแล้ง จำนวนถึง 15 ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี และยังต้องจัดสรรให้กับการประปาส่วนภูมิภาคพะเยา ปีละ 7.2 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ปริมาณน้ำที่เหลือสำหรับการเพาะขยายพันธุ์สัตว์น้ำเพียง 11.64 ล้านลูกบาศก์เมตร

ซึ่งไม่เพียงพอและเป็นปัญหาโดยเฉพาะปี พ.ศ.2558 ที่กว๊านพะเยาประสบกับปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก จนน้ำลดเหลือเพียง 7 ล้านลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ยังมีปริมาณตะกอนไหลลงประมาณปีละ 9 หมื่นลูกบาศก์เมตร (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,2547) ทำให้กว๊านพะเยา ตื้นเขินอย่างมาก โดยข้อมูลประจำเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2559 มีความลึกเฉลี่ยเพียง 0.6 เมตร


ยุทธศาสตร์การจัดการคุณภาพน้ำ จากปริมาณน้ำที่มีน้อยดังกล่าว จึงทำให้คุณภาพน้ำในกว๊านพะเยาเสื่อมโทรมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในฤดูแล้ง โดยจากการศึกษาของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพะเยาที่วิเคราะห์คุณภาพน้ำทุกๆ เดือน เดือนละ 12 จุดสำรวจ และข้อมูลจากสำนักสิ่งแวดล้อมภาคเหนือ จังหวัดลำปาง ซึ่งออกสำรวจคุณภาพน้ำทุกๆ 3 เดือน ระบุตรงกันว่า คุณภาพน้ำกว๊านพะเยาอยู่ในระดับ 4 เสื่อมโทรมมาก ตามมาตรฐานคุณภาพน้ำผิวดิน

ยุทธศาสตรการจัดการสัตว์น้ำ การลดลงทั้งชนิดและปริมาณของ  สัตว์น้ำโครงสร้างประชาคมปลามีการเปลี่ยนแปลง พบโครงสร้างโดยน้ำหนักของกลุ่มปลากินเนื้อต่อปลากินพืชมีสัดส่วนมากเกินไป คุณภาพน้ำเสื่อมโทรมโดยเฉพาะค่าปริมาณความสกปรกในรูปอินทรีย์สาร (BOD) ที่มีค่ามากกว่าค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำผิวดินของกรมควบคุมมลพิษ (2535) ในทุกจุดสำรวจในช่วงที่ปริมาณน้ำในกว๊านพะเยาลดลง การใช้เครื่องมือผิดกฎหมายในการทำประมง เช่น การใช้กระแสไฟฟ้า อวนล้อม ข่ายขนาดช่องตาเล็กเกินไป เป็นต้น

#พะเยาโมเดล
#ภารกิจชาติ
#MissionThailand
#ข่าวเกษตรออนไลน์thaiagronews
#www.thaiagronews.online

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ด่วนๆๆ โฮมโปรแฟร์ ครั้งที่ 4 เริ่มแล้ว งานแฟร์เรื่องบ้าน ลดสูงสุด 70 % พลาดได้รึ



 โฮมโปร จัดใหญ่มหกรรมงานแฟร์เรื่องบ้านที่ทุกคนต้องมาสุดยิ่งใหญ่แห่งปี รับหน้าฝน “โฮมโปรแฟร์” ครั้งที่ 4  จัดเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขมากกว่าเดิม ช้อปเพลินได้ตลอด 11 วันเต็ม พร้อมเนรมิต สินค้า Seasonal Item ให้ฟินกัน...ตลอดหน้าฝน และไฮไลท์สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผู้ใช้งาน (Eco Choice) พร้อมอัดแน่นโปรโมชั่นสุดโดน ลดราคาสูงสุด 70%!! และไลฟ์สไตล์โซน ‘ช้อป กิน ถิ่นสยาม’ ที่ขนขบวนสุดยอดอาหารร้านดังมามากกว่า 150 ร้านค้าทั่วไทย เสริฟความอร่อยให้คนรักบ้านได้อิ่ม อร่อยตลอดทั้งงาน รับประกันความคุ้มค่า สุข สนุกสไตล์ “ช้อป ชิม ชิลล์” ตลอด 11 วัน ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2562 -29 กรกฎาคม 2562 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งเป้ายอดขายกว่า 550 ล้านบาท

นางสาวสิริวรรณ เสริมชีพ ผู้จัดการทั่วไปสายสื่อสารการตลาด บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” เผยว่า งานโฮมโปรแฟร์ ครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ภายใต้คอนเซปต์ ช้อป ชิม ชิลล์ ซึ่งในทุกๆ ปีเราจะจัดงานแฟร์ทั้งในกรุงเทพฯ และตามหัวเมืองใหญ่ อาทิ ขอนแก่น เชียงใหม่ และหาดใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม จากลูกค้าสมาชิกกว่า 3 ล้านคน และลูกค้าสมาชิกใหม่ๆในกลุ่มวัยหนุ่มสาว อายุต่ำกว่า 35 ปี ที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยภายในงานเป็นจำนวนมาก


ความพิเศษของงาน โฮมโปร แฟร์ ในครั้งนี้ นอกเหนือจากการตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มไลฟ์สไตล์ด้วย สินค้า และบริการเรื่องบ้านลดสูงสุดกว่า 70%  โดยเฉพาะสินค้าไฮไลท์ภายในงานที่มีเฉพาะที่โฮมโปร ที่เดียว สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผู้ใช้งาน (Eco Choice)  อาทิ HLS- BU Crafts ผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมสีธรรมชาติ 100% ไร้สารเคมีเจือปนจากภูมิปัญญาท้องถิ่น สู่ระดับสากล, นวัตกรรมเพื่อคนรักสุขภาพ จาน Absorbed Plate และ Moon Plate, ไลฟ์สไตล์ โซน ‘ช้อป กิน ถิ่นสยาม’ โซนเพื่อคนรักความอร่อย ให้ได้มาตระเวนชิม ลิ้มรสเมนูเด็ด จากร้านเด่นดังทั่วเมืองกรุงกว่า 150 ร้านค้า อาทิ เจ๊ติ้ง ซาลาเปาทับหลี, หมูทอดเจ๊จง, จั๊บญวน แม่พลอย, ขนมเบื้องโบราณรัตนะ, เจริญข้าวมันไก่, ข้าวแช่โบราณป้าเฉลียว, โกอ่าง เตี๋ยวเส้นปลา, หมูกรอบนายไซ, ข้าวขาหมูจุฬา, ข้าวแต๋นน้ำแตงโม, ข้าวซอยเสมอใจ และแต่งกาย Theme บรรยากาศความสุขสไตล์ผ้าขาวม้า โฮมโปรยังขยายความสุขเพิ่มเวลาจัดงานเป็น 11 วันเต็ม ให้ได้ช้อปฟิน..ช่วงหน้าฝนอีกด้วย




ขาดไม่ได้กับโปรโมชั่นช้อปเพลินเพื่อคนรักบ้าน ไม่ว่าจะเป็น WEEKDAY SPECIAL ช้อปมันส์ จันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่ 22 กรกฎาคม 2562 - 26 กรกฎาคม 2562 สุขไปกับสินค้าราคาดีต่อใจ อาทิ Samsung QLED TV 82 นิ้ว, LG Smart TV, ตู้เย็น LG, เครื่องปรับอากาศ Mitsubishi Electric, เครื่องซักผ้า Samsung และสินค้าเรื่องบ้านอื่นๆ จัดเต็มมาครบทุกแผนก ไม่ว่าจะเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้า ฮอลล์ 9, ที่นอน เฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้า สินค้าตกแต่งบ้าน ฮอลล์ 9-11, สุขภัณฑ์ อุปกรณ์ห้องน้ำ กระเบื้อง ฮอลล์ 11-12, สินค้าปรับปรุงบ้าน ฮอลล์ 10-12 และจักรยาน เครื่องออกกำลังกาย ฮอลล์ 9-10 งานนี้คุ้มจัดหนัก ได้ส่วนลดเพิ่ม ผ่อนสบาย และรับของสมนาคุณมากมาย


ช้อปครบ...รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่าสูงสุดถึง 50,000 บาท เมื่อช้อปครบ 1,000,000 บาท รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 2,000 บาท เมื่อช้อปครบ 65,000 บาท, รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 6,000 บาท เมื่อช้อปครบ 150,000 บาท รับฟรี บัตรของขวัญโฮมโปร มูลค่า 20,000 บาท เมื่อช้อปครบ 450,000 บาท สิทธิพิเศษสำหรับ HomePro LINE Connect รับความสุข 2 ต่อ ต่อแรก รับฟรี...คูปองส่วนลดมูลค่า 400 บาท ต่อสอง รับสิทธิ์เล่นเกมหมุนวงล้อ เพียงแสดงใบเสร็จมูลค่า 15,000 บาท และสำหรับ สมาชิกบัตรโฮมการ์ด ฟินคูณสาม รับส่วนลดเพิ่มชิลล์ๆ 12.5% และเมื่อช้อปครบ 30,000 บาทขึ้นไป รับส่วนลดเพิ่ม 20%!! พิเศษยิ่งขึ้นเมื่อช้อปวันธรรมดา จันทร์-ศุกร์ ลดเพิ่ม 15% เมื่อช้อปครบ 10,000 บาทขึ้นไป

สำหรับลูกค้าที่ยังไม่สมัครบัตร HomeCard สมัครฟรี!! พร้อมรับ Shopping bag และคูปองส่วนลดมูลค่า 200 บาททันที และรับฟรี คูปองจอดรถ 3 ชม. เมื่อช้อปตั้งแต่ 3,000 บาท ขึ้นไปภายในวัน และสิทธิพิเศษสุด ที่ HomeCard Lounge@ Hall 12 รับบริการของว่าง และเครื่องดื่มฟรีได้อีกด้วย


ลูกค้าบัตรเครดิต โฮมโปร วีซ่า แพลตินัม และลูกค้าบัตรเครดิต กรุงศรี เต็มอิ่มรอยยิ้ม คืนคุ้มทุกสิ่ง รับส่วนลด+รับเพิ่มสูงสุด ถึง 33%!! พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5% หรือเลือกผ่อนทั้งงาน 0% นาน 10 เดือน!! พิเศษเฉพาะงานนี้ สมาชิกบัตรเครดิต โฮมโปร วีซ่า แพลทินัม และบัตรเครดิตกรุงศรี สามารถแลกคะแนนสะสมกรุงศรีโบนัส รับบัตรกำนัลร้านอาหารชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น บาร์บีคิว พลาซ่า, ฟูจิ, เอ็มเค,ซุกิชิ, สเวนเซ่นส์ รวมทั้ง Eatigo แอปจองร้านอาหาร เริ่มต้นเพียง 949 คะแนน ที่หน้าฮอล์ 9 จำนวนจำกัด อัดฉีดความสุข เอาใจสมาชิกน้องใหม่กับ ลูกค้าบัตรโฮมโปร เฟิร์สช้อยส์ รับสิทธิ์สุดพิเศษ ผ่อน 0% ทุกชิ้นทั้งงาน นานสูงสุดถึง 12 เดือน พร้อมลด+รับเพิ่มอีก 13% และโปรโมชั่นสุดคุ้มจากสถาบันการเงินชั้นนำมากมาย มอบเครดิตเงินคืน และสวนลด หรือให้คุณผ่อนง่ายๆ 0% ทั้งงาน!! นานสูงสุดถึง 24 เดือน!! และพลาดไม่ได้กับที่สุดแห่งพรีเมียมเอ็กซ์คลูซีฟ เสิร์ฟถึงมือคนกรุง POINT2SHOP คะแนนสะสมแลกของฟรี!! เพียงใช้คะแนนสะสมจากบัตรโฮมการ์ดหรือบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ แลกของสะสมกันแบบไม่อั้น บริเวณหน้าประตูทางเข้าฮอลล์ 9 ขนมาให้แลกกันแบบจัดเต็ม


พบความสุขรับหน้าฝนสไตล์ ช้อป ชิม ชิลล์ ได้ที่งาน “โฮมโปร แฟร์ 2019” งานแฟร์เรื่องบ้านที่ทุกคนต้องมา เพียง 11 วันเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2562 - 29 กรกฎาคม 2562 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 9-12 งานนี้คนรักบ้านตัวจริงห้ามพลาดเด็ดขาด!! รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.homeprofair.com


ข่าวประชาสัมพันธ์

วิวัฒนาการของแบรนด์ไทยสู่ตลาดโลก ในงาน STYLE Bangkok 2024

เตรียมตื่นตาตื่นใจกับหลากหลายแบรนด์ไทยที่ไปผงาดในเวทีตลาดโลก ในงาน STYLE Bangkok 2024 มหกรรมแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ชั้นนำของเอเชีย ระหว่างวันที่...

โวยวายดอทคอม