วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2566

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง มอบโล่เกียรติคุณ รางวัลระดับยอดเยี่ยม Safety Awareness Super Model



เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด
ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง มอบโล่เกียรติคุณ รางวัลระดับยอดเยี่ยม Safety Awareness Super Model แก่นางสาวเพ็ญจันทร์ เจริญวงค์ เจ้าหน้าที่สื่อสารองค์กรและลูกค้าสัมพันธ์ ฝ่ายธุรกิจองค์กร ผู้ชนะเลิศจากการประกวดบุคลากรดีเด่น ด้านความปลอดภัย ต้นแบบของความปลอดภัยใส่ใจทุกการทำงานสัปดาห์ความปลอดภัย ในการทำงาน ประจำปี 2566 ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2566

โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน นครศรีธรรมราช เอาใจสายบุฟเฟ่ต์ตามคำเรียกร้อง I



จัดความอร่อยแบบเต็มอิ่มหลากหลายเมนูอาหารและเครื่องดื่ม International Buffet Dinner บุฟเฟต์นานาชาติมื้อค่ำ

ผู้ใหญ่ ราคา 599 บาท / ท่าน

เด็ก (อายุ 6 – 12 ปี) ราคา 299 บาท / ท่าน

พิเศษ!! รับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว 🍺 (ค็อกเทล / สมูทตี้ / เบียร์) สำหรับทุกท่านที่ใช้บริการ

ทุกวันศุกร์ ณ ห้องอาหาร คาเฟ่ เดอ นคร เวลา 18.00 – 21. 00 น.












Dim Sum Buffet Unlimited ที่ห้องอาหารจีนฟาไฉ
อร่อยแบบไม่อั้น กับบุฟเฟต์ติ่มซำ สไตล์แต้จิ๋ว เสิร์ฟพร้อมซุปประจำวัน เมนูจานหลัก และของหวาน จัดให้แบบเต็มอิ่ม

ผู้ใหญ่ ราคา 399 บาท / ท่าน

เด็ก (อายุ 6 – 12 ปี) ราคา 199 บาท / ท่าน

Dim Sum Buffet ให้บริการทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ ณ ห้องอาหารจีนฟาไฉ  

เวลา 11.00 – 14.00 น.






สอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งล่วงหน้า

Line OA : @grandfortunens  https://lin.ee/abVWNhK

านแถลงข่าวโครงการ “โอโซนชิลล์ รินน้ำใจให้อนาคตน้อง”


บริษัท อิลีท แกร๊นซ์ จำกัด ,บริษัท เวฬาดี 1919 จำกัด , บริษัท เอชดับบิวซี ไซเอินซ์ เทค จำกัด ,โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ และ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๔๘ พรรษา ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดงานแถลงข่าวโครงการ “โอโซนชิลล์ รินน้ำใจให้อนาคตน้อง”  โดยจะหักรายได้จากการจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศ OzoneShield (โอโซนชิลล์) ทุก 1 เครื่องจำนวน 5,900 บาท มอบให้
กับโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๔๘ พรรษา ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อใช้เป็นทุนจัดซื้อ ข้าวสาร และอาหารสามมื้อ รวมทั้งอุปกรณ์การเรียนต่างๆ



เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน 2566 เวลา 14.00 น. คุณสมโภช รัตนพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหาร และ ผู้ก่อตั้ง บริษัท อิลีท แกร๊นซ์ จำกัด พร้อมด้วย คุณสายสม วงศาสุลักษณ์ ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๔๘ พรรษาฯ ,คุณธัญญพัทธ์ สายศิริวิทย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เวฬาดี 1919 จำกัด และ คุณขวัญเรือน เหลียวตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ โรงแรม ดิเอมเมอรัล แถลงข่าวโครงการ “โอโซนชิลล์ รินน้ำใจให้อนาคตน้อง” ณ ห้องแกรนด์พาโนรามา ชั้น 14 โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ รัชดาภิเษก โดยมีแขกผู้มีเกียรติมาร่วมงานมากมาย อาทิ คุณเฌอฌญา มาระศรี หุ้นส่วนผู้จัดการ บริษัท เอชดับบิวซี ไซเอินซ์เทค จำกัด,คุณเอกพงษ์ อยู่สำราญ ประธานฝ่ายปฏิบัติการและรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิลีท แกร๊นซ์ จำกัด,คุณภูวสิษฐ์ รัชดิษฐ์บวรชัย ประธานฝ่ายกลยุทธ์เทคโนโลยี บริษัท อิลีท แกร๊นซ์ จำกัด,คุณธนัชทัศน์ บุญช่วย ประธานฝ่ายการตลาด บริษัท อิลีท แกร๊นซ์ จำกัด ฯลฯ ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก คุณโจนัส แอนเดอร์สัน นักร้อง และ คุณปอ-ปุณยวีร์ สุขกุลวรเศรษฐ์ พิธีกรและผู้ประกาศข่าวรับหน้าที่เป็นพิธีกรในงาน



คุณสายสม วงศาสุลักษณ์ ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๔๘ พรรษาฯ

คุณสมโภช รัตนพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหาร และ ผู้ก่อตั้ง บริษัท อิลีท แกร๊นซ์ จำกัด กล่าวว่า “ปณิธานของบริษัทเราให้ความสำคัญของการช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด และโดยเฉพาะ เด็กด้อยโอกาส บริษัทมีความตั้งใจที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่เปิดโอกาสให้น้องๆเหล่านี้ ได้มีโอกาสเรียนรู้และเข้า
สู่ระบบการศึกษาไทยอย่างเท่าเทียมกับเด็กทั่วๆไป เพราะพวกเขาเหล่านี้จะเติบโตกลายเป็นเยาวชนของชาติที่เพิ่มพูนไปด้วยความรู้ ความสามารถ ศักยภาพ ในการพัฒนาชาติไทยในอนาคต




ทางบริษัทฯ เล็งเห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก ที่ให้โอกาสเด็กๆ จึงตัดสินใจว่า เราจะนำผลิตภัณฑ์ ที่เรามี และตอบโจทย์คือต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะด้านสุขภาพ
ให้กับผู้คน มาเป็นส่วนหนึ่ง ในการร่วมสนับสนุนโครงการนี้ เราจึงนำเครื่องฟอกอากาศ OzoneShield
(โอโซนชิลล์) ที่มีประสิทธิภาพในการดูแลทุกๆลมหายใจได้อย่างดีเยี่ยม มาจำหน่าย

โดยทุกๆ 1 เครื่อง เราจะร่วมบริจาคเงิน จำนวน ห้าพันเก้าร้อยบาท ให้กับโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๔๘ พรรษา ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อใช้เป็นทุนจัดซื้อ ข้าวสาร และอาหารสามมื้อ รวมทั้งอุปกรณ์การเรียนต่างๆให้กับน้องๆในโรงเรียน โดยเราจะเริ่มจำหน่ายเครื่องฟอกอากากาศ OzoneShield (โอโซนชิลล์) ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ถึง 31 ธันวาคม 2566 ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ และโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๔๘ พรรษาฯ จะมอบใบเสร็จเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้จำนวนสองเท่าให้กับผู้ซื้อเครื่องฟอกอากาศ OzoneShield (โอโซนชิลล์) ทุกท่าน ”

ด้านคุณสายสม วงศาสุลักษณ์ ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๔๘ พรรษา ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า “สำหรับโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๔๘ พรรษา เดิมชื่อ โรงเรียนร่วมน้ำใจ เป็นโรงเรียนประจำหญิงล้วน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2545 โดยมูลนิธิร่วมน้ำใจต้านภัยเอดส์ มีตนเป็น ประธานมูลนิธิร่วมน้ำใจต้านภัยเอดส์ ร่วมกับกรรมการผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ ท่านอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับเด็กหญิงกำพร้าที่บิดา มารดา เสียชีวิตจากโรคเอดส์ เด็กที่ขาดผู้อุปการะเลี้ยงดูรวมถึงเด็กด้อยโอกาสจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ที่จบชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อให้ได้รับการศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 เป็นโรงเรียนประจำกินนอนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นซึ่งต้องใช้งบประมาณปีละ ประมาณ 22-23 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวได้มาจากผู้มีจิตเมตตาบริจาคทั้งสิ้นและทางโรงเรียนยังได้รับพระเมตตาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม จาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพระราชทานความช่วยเหลือแก่เด็กที่น่าสงสารเหล่านี้มาโดยตลอด ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น 250 คน โดยมีครูและบุคลากรทั้งสิ้น 40 คน ด้วยกัน”

ส่วนคุณธัญญพัทธ์ สายศิริวิทย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เวฬาดี 1919 จำกัด กล่าวถึงเครื่องฟอกอากาศ OzoneShield (โอโซนชิลล์) ว่า “ด้วยแนวคิดของบริษัท เราคิดเสมอว่าจะทำอย่างไรให้เราสามารถก้าวนำหน้าผู้อื่นทั้งการบริหารธุรกิจ และ การสนับสนุนต่อสังคม ในเชิงธุรกิจเพื่อสุขภาพเราระดมความคิดร่วมกับกับนักพัฒนา ทีม R&D คิดค้นเพื่อผลิตสินค้าที่ยังไม่มีใครสามารถผลิตได้ ณ ปัจจุบันหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของเราที่ยังไม่มีใครมีนวัตกรรมนี้คือ “เครื่องฟอกอากาศ OzoneShield (โอโซนชิลล์)”

หากเรา ต้องเผชิญความเสี่ยงกับมลพิษ ทั้งฝุ่น ควัน ไอระเหย และเชื้อโรคในทุก ๆ วัน การมองหานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่จะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีกับตัวเราและครอบครัวนั้นมีความสำคัญ ซึ่งเราขอเสนอเครื่องฟอกอากาศ OzoneShield (โอโซนชิลล์) นวัตกรรมการฟอกอากาศ ที่ผสมผสานเทคโนโลยีการกรอง ดูดซับ ดักจับ และฆ่าเชื้อ พร้อมการออกแบบที่สวยงามและทันสมัย คุ้มค่ากับการจัดการความเสี่ยงทั้งฝุ่น ควัน ไอระเหย และเชื้อโรคได้ในเครื่องเดียว และยังสามารถควบคุมผ่านแอพพลิเคชั่น บนมือถือได้หากเราขาดอากาศ เพียง 3-5นาที ก็ทำให้หัวใจหยุดทำงานและสมองขาดออกซิเจนจนเสียชีวิตได้และถึงแม้ว่า เราจะมีอากาศหายใจ แต่หากปนเปื้อนด้วยมลพิษ ทั้งฝุ่น ควัน สารระเหย และเชื้อโรค ก็เป็นภัยร้ายที่บันทอนคุณภาพชีวิตของเราไม่แพ้กัน ทั้งการเจ็บป่วย เช่น โรคมะเร็ง และเสียชีวิต

ประเทศไทย พบว่า มีผู้เสียชีวิต เฉพาะจาก PM 2.5 สูงถึง 4 เท่าของการเสียชีวิต ผลกระทบจาก PM 2.5 มีทั้งผลระยะสั้น ได้แก่ ระคายเคืองตา คอ และจมูก หัวใจเต้นเร็วหรือผิดจังหวะ ไอ แน่นหน้าอก เหนื่อย โรคหืดหรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังกำเริบ หลอดลมอักเสบหรือปอดอักเสบ

ผลระยะยาว ได้แก่ การเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหืด ภูมิแพ้ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง ปอดเป็นพังผืด มะเร็งปอด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง เด็กคลอดก่อนกำหนด ผลต่อการเจริญเติบโตของปอดในเด็ก ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในอนาคต โดยปกติ ปอดมนุษย์จะพัฒนาเต็มที่เมื่ออายุประมาณ 25 ปี หากมีสารพิษกระทบในช่วงเจริญเติบโตของปอดจะส่งผลเสียต่อสมรรถภาพการทำงานของปอดในระยะยาว”

แคุณขวัญเรือน เหลียวตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ โรงแรม ดิเอมเมอรัล ในฐานะผู้สนับสนุนโครงการดังกล่าว เผยว่า “รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมดีๆ เช่นนี้ ที่ผ่านมาก็ได้มีส่วนร่วมทำกิจกรรมการกุศลช่วยเหลือมูลนิธิฯ ที่อยู่ภายใต้การดูแลหลายครั้งเสมอมา สำหรับในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ที่ทางโรงแรมฯจะมีส่วนช่วยเหลือน้องๆในโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๔๘พรรษาฯ ให้ได้รับอาหารและอุปกรณ์การเรียนต่างๆ ครบถ้วน เราคนไทยที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีนิสัยโอบอ้อมอารีมีน้ำใจในการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน หวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากทุกๆท่าน ช่วยกันบอกต่อและร่วมกันซื้อเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งนอกจากจะได้ใช้ประโยชน์แล้วยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมบริจาค”



​ทางด้าน น้องบุ๋ม – อลิษา พวงพลอย อดีตนักเรียนโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๔๘ พรรษา ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า ขอบพระคุณคุณแม่สายสม และผู้ที่ส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ช่วยกันหารายได้ให้โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๔๘ พรรษาฯ ด้วยการขายเครื่องฟอกอากาศ OzoneShield (โอโซนชิลล์) ตนทราบดีว่าเด็กๆที่อยู่ในโรงเรียนทุกคนล้วนเป็นคนที่มาจากศูนย์ ไม่มีอะไรเลย การได้เรียนหนังสือถือเป็นที่สำคัญต่อชีวิตทุกคน การเปิดโอกาสให้พวกเราได้เรียนถือเป็นการทำกุศลที่ยิ่งใหญ่ของทุกท่าน พวกเราอาจจะมีความสามารถในการเรียนไม่เท่ากัน แต่อย่างน้อยเมื่อเราจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 บางคนก็ยังมีอาชีพติดตัวไปทำงานหารายได้เลี้ยงตัวเอง บางคนก็มีโอกาสไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น”



น้องบุ๋ม กล่าวต่อว่า ตนมาจากครอบครัวยากจน พ่อแม่หย่าร้างกัน มีพี่น้อง 4 คน แต่ทุกคนต้องดิ้นรนช่วยเหลือตัวเอง สำหรับตนก่อนจะได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๔๘ พรรษา ฯ ตนเรียน กศน.ที่อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี พร้อมกับเรียนรำไทยกับคุณแม่ เพทาย ลีละกุล ประธานกลุ่มเยาวชนพี่สอนน้องละครหุ่นคนเพทาย หน้าโรงเรียนบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี  ในระหว่างที่ไปออกบูทในงานนิทรรศการเอดส์ที่โรงเรียนบ้านลาด ทางคุณแม่สายสมไปพบตนพร้อมกับเพื่อนๆอีก 4 คน เลยรับตนและเพื่อนมาเรียนที่โรงเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6  เมื่อจบการศึกษาเพื่อนๆ ต่างแยกย้ายไปเรียนที่อื่น ส่วนตนสอบเข้าเรียนต่อระดับปริญญาตรี ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนาศิลป์ได้ แต่ยังไม่ทันเรียนจบก็ต้องหยุดเรียนต่อในชั้นปีที่ 4 เพราะระหว่างที่ขับรถมอเตอร์ไซค์ไปเติมน้ำมันที่ปั้ม ได้เกิดอุบัติเหตุถูกรถยนต์ชน ทำให้ตนต้องพักการเรียน 1 เดือนเต็มเพื่อรักษาตัวเอง บวกกับตนต้องหารายได้เลี้ยงตัวเองคนเดียว ทั้งค่าที่พัก ค่าเทอม ค่ากิน ค่าอุปกรณ์ ทำให้ไม่มีเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายดังกล่าว ตนจึงต้องหยุดเรียนต่อและไปรับจ้างรำตามงาน รวมทั้งเป็นแอดมินขายสินค้าผ่านออนไลน์ให้ร้านเสื้อผ้าที่ศาลายา จังหวัดนครปฐม

​โชคยังเข้าข้างเมื่อตนถูกคุณแม่สายสมโทรศัพท์ให้มาช่วยรำฉุยฉายพราหมณ์ในงานแถลงข่าวคุณแม่สายสมทราบว่าตนกำลังจะหมดสภาพนักศึกษา เลยให้ตนไปพบท่านรองอธิการบดีของสถาบันฯ เพื่อติดต่อขอรักษาสภาพการเป็นนักศึกษา และท่านพร้อมช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษา ค่าที่พักและค่าใช้จ่าย พร้อมกับเอ่ยปากว่าหากตนเรียนจบ จะเข้ารับเป็นครูสอนรำไทยให้กับน้องๆ ที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๔๘ พรรษา ฯ ตนรู้สึกปลื้มปิติ กับความโชคดีในครั้งนี้เป็นอย่างมากเลยค่ะ”

เครื่องฟอกอากาศ OzoneShield (โอโซนชิลล์) วางจำหน่ายทั่วไป ในราคาเครื่องละ 25,900 บาท
(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.096-849-7089 หรือ ID LINE:Tanyapat07

หากท่านประสงค์อยากร่วมบริจาคเครื่องอุปโภค - บริโภค อาทิ ข้าวสาร สิ่งของ เครื่องใช้ เสื้อผ้า ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือบริจาคเป็นทุนทรัพย์ ท่านสามารถบริจาคเงินโดยวิธีการโอนเข้าบัญชี

• “มูลนิธิร่วมน้ำใจต้านภัยเอดส์” ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสุขุมวิท 23 เลขที่ 204-1-09259-5

• โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางกะปิ เลขที่ 105-4-71544-4

• โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษา (เงินบริจาค) ธนาคารกรุงไทย สาขาลำพูน เลขที่ 511-0-47135-5

หรือท่านสามารถติดต่อบริจาคได้ที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ๔๘ พรรษา ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี เลขที่ 5 หมู่ 9 ตำบลต้นธง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน 51000 โทรศัพท์ 053-092444 โทรสาร 053-092444 ขอได้รับความขอบคุณอย่างสูง






กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับการประกวดแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมระหว่างประเทศ

sacit จัดประกวดแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมระหว่างประเทศ I.CCA. สู่ความก้าวไกลระดับโลกชิงเงินรางวัลกว่า 3 แสนบาท 

กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับการประกวดแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมระหว่างประเทศ International Craft Creation Concept Award 2023 หรือ I.CCA. การออกแบบผลงานศิลปหัถตกรรมไทยที่พร้อมจะก้าวไกลระดับโลก ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 300,000 บาท สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) sacit เชิญชวนนักออกแบบ และกลุ่มผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรม เข้าร่วมโครงการประกวด I.CCA. ภายใต้แนวคิด “ Heritage Fusion: หลอมรวมรากศิลปะอันล้ำค่า” ตั้งแต่บัดนี้ – 25 มิถุนายน 2566


โครงการประกวดแนวคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมระหว่างประเทศ International Craft Creation Concept Award 2023 หรือ I.CCA. ถือได้ว่าเป็นโครงการประกวด ฯ ที่มุ่งเน้นการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ต่อยอด และยกระดับผลงานศิลปหัตถกรรมพื้นถิ่นไทย และสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบ และกลุ่มผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรม รวมถึงนักออกแบบรุ่นใหม่  ที่ sacit ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง 

สำหรับในปี 2566 นี้ sacit ได้ส่งเสริม ต่อยอด และยกระดับ ผลงานศิลปหัตถกรรม โดยสนับสนุนนักออกแบบรุ่นใหม่ และกลุ่มผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรม ให้สร้างสรรค์ผลงานศิลปหัตถกรรม ประกอบด้วย เครื่องไม้ เครื่องสาน เครื่องทอ(ผ้า) เครื่องดิน เครื่องโลหะ เครื่องหนัง เครื่องกระดาษ เครื่องหิน รวมทั้ง สามารถนำเสนอเป็นการผสมผสานหลากหลายวัสดุ และเทคนิคแบบไม่เจอะจงบนผลงานศิลปหัตถกรรม ภายใต้แนวคิด “ Heritage Fusion: หลอมรวมรากศิลปะอันล้ำค่า “ 

โดยจะต้องสร้างสรรค์ผลงานที่มีกระบวนการ หรือเทคนิคเชิงช่างศิลปหัตถกรรมแบบดั้งเดิมผสมผสานกับเทคโนโลยี หรือวัสดุใหม่ ๆ หรือการพัฒนาลวดลาย รูปแบบ ให้เกิดเป็นผลงานนวัตศิลป์ร่วมสมัย เพื่อส่งเสริมให้เกิดประโยชน์ใช้สอย สามารถเข้าถึงคนยุคปัจจุบัน รวมถึงการนำเรื่องราวจากภูมิปัญญาท้องถิ่นมาถ่ายทอดสู่คนรุ่นใหม่ให้เกิดแรงบันดาลใจในการอนุรักษ์ฝีมือผลงานศิลปหัตถกรรมไทย ประกอบด้วย

• รางวัลชนะเลิศ จะได้รับเงินสด 150,000 พร้อมเกียรติบัตรและโล่รางวัลผู้ชนะเลิศ International Craft Creation Concept Award 2023

• รางวัลรองชนะเลิศ จะได้รับเงินสด 100,000 พร้อมเกียรติบัตรและโล่รางวัล

• รางวัล popular Vote จะได้รับเงินสด 50,000 พร้อมเกียรติบัตรและโล่รางวัล






ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถส่งแนวคิด และภาพร่าง (Skatch) ผลงานที่สร้างสรรค์ผ่านการวาดด้วยมือ หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมเพื่อการใช้งาน หรือการตกแต่ง (Decorative, Fashion, Lifestyle Products, Jewelry, Textiles, Art Piece, Innovation ฯลฯ) โดยจัดวางในรูปแบบ การนำเสนอ (Presentation)/ ศิลปะการจัดวาง (Installation Art) เพื่อให้งานมีความน่าสนใจ หรือแสดงออกในเชิงแนวคิด ติดตั้งผลงานบนพื้นที่ขนาดรวมไม่เกิน 2x2x3 เมตร (กว้างxยาวxสูง) ทั้งนี้ สามารถนำเสนอผลงานได้ตามความเหมาะสม จำนวน 1 ผลงาน หรือ มากกว่า 1 ผลงาน (Collection) 

โดยจัดให้มีลักษณะเหมือน หรือแตกต่างกันเพื่อจัดวางเป็นกลุ่มก็ได้ ซึ่งผลงานจะต้องสื่อถึงแนวคิด “Heritage Fusion: หลอมรวมรากศิลปะอันล้ำค่า “ ทั้งนี้ sacit จะดำเนินการจัดประชุมชี้แจงรายละเอียดโครงการ ฯ ให้แก่ผู้สมัครเข้าร่วมโครง ฯ ผ่านระบบ Zoom ในวันที่ 26 มิถุนายน 2566 และ ตัดสินรอบแรก ในวันที่ 30 มิถุนายน 2566 นี้



ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัคร และส่งผลงานเข้าประกวดฯ ได้ตั้งแต่บัดนี้ - 25 มิถุนายน 2566
ผ่านเว็บไซต์ www.sacit.or.th พร้อมกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน

ผ่านลิงค์ Google Form: https://forms.gle/Mk1hzdkavRyKFE1W7 
หรือ ผ่านทางไปรษณีย์: สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน)
เลขที่ 59 หมู่ 4 ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัด พระนครศรีอยุธยา 13290
วงเล็บมุมซอง (I.CCA. 2023)


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ดร.สุกานดา ถิ่นฐาน (ผู้ประสานงานโครงการ)
โทรศัพท์: 086 564 4666
Email: contact.icca2023@
gmail.com


ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จัด “Bangkok Sugar Dinner 2023” กระชับความสัมพันธ์คู่ค้าน้ำตาลจากทั่วโลก

พร้อมส่งสัญญาณการพัฒนาสู่ความยั่งยืนของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทย

       บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด หรือ TSMC ในฐานะตัวแทน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย และภาคอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลไทย จัดงาน “Bangkok Sugar Dinner 2023”   กระชับความสัมพันธ์กับคู่ค้าในอุตสาหกรรม อ้อยและน้ำตาลทรายจากทั่วโลก พร้อมตอกย้ำศักยภาพของประเทศในฐานะผู้ส่งออกน้ำตาลทรายอันดับ 2 ของโลก และการพัฒนาอุตสาหกรรมภายใต้โมเดล BCG สู่การเติบโตบนความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม




       งานเลี้ยงกาลาดินเนอร์ ซึ่งจัดขึ้นในวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายน 2566) ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ภายใต้ธีม “Sweetness Connections on the Chao Phraya” ได้รับเกียรติจาก นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานฯ พร้อมแสดงปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “Sustainable Growth of Sugar Industry” โดยมีผู้บริหารจาก TSMC ได้แก่ นายปราโมทย์ วิทยาสุข ประธานคณะกรรมการฯ  นายวิบูลย์ ผาณิตวงศ์ ประธานคณะกรรมการบริหารฯ คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล กรรมการบริหาร พร้อมคุณอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มมิตรผล และมร. Jose Orive กรรมการบริหาร องค์การน้ำตาลระหว่างประเทศ ให้การต้อนรับ 

      ประธานคณะกรรมการฯ ไทยชูการ์ มิลเลอร์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยโดยสมาคมโรงงานน้ำตาลทราย ได้ร่วมกันจัดงาน Bangkok Sugar Dinner ต่อเนื่องมาแล้ว 4 ครั้งด้วยกัน  โดยครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อปี 2555 เพื่อเฉลิมฉลองผลผลิต   น้ำตาลทราย   10 ล้านตันของไทย พร้อมการประชุม Sugar Conference ซึ่งได้ต้อนรับคู่ค้าในธุรกิจอ้อยและน้ำตาลทรายจากทั่วโลกเข้าร่วมงาน หลังจากนั้น ก็ได้จัดกิจกรรมขึ้นต่อเนื่องทุกๆ 2 ปี โดยในปี 2557 เป็นการฉลอง ความสำเร็จ ครั้งประวัติศาสตร์ที่ไทยสามารถผลิตอ้อยได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 100 ล้านตัน ต่อมาในปี 2559 งาน Bangkok Sugar Dinner 2016 ได้มีการจัดขึ้นเพื่อฉลองความสำเร็จของการผลิตน้ำตาลเกิน 9.7 ล้านตันของไทย  นอกจากนี้ ในงาน   “Thai Sugar Dinner 2018” ซึ่งจัดขึ้นที่พัทยา จังหวัดชลบุรีในปี 2561 เป็นปีที่ไทยสามารถผลิตอ้อยได้ถึง 135 ล้านตัน และผลิตน้ำตาลทรายได้ถึง 14.7 ล้านตัน ถือเป็นปริมาณการผลิตสูงสุดเป็นประวัติการณ์


      “เดิม TSMC มีกำหนดจัดงานเฉลิมฉลองครั้งที่ 5 ในปี 2563 แต่เนื่องจากการระบาดของ โควิด-19 จึงจำเป็นต้องเลื่อนมาปีนี้ โดยงาน Bangkok Sugar Dinner 2023 จัดขึ้นพร้อมกับการประชุม Bangkok Sugar Conference ภายใต้หัวข้อ  ‘Innovative Paths, Sustainable Future’ เพื่อเป็นเวทีพบปะหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อรับมือกับความท้าทายภายใต้บริบทใหม่ของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายโลก  ทั้งนี้ได้รับเกียรติ จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในวงการอ้อยและน้ำตาลทรายจากไทยและนานาชาติร่วมแสดงทรรศนะในการร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมน้ำตาลทรายโลกสู่อนาคตร่วมกัน ในขณะที่งานกาลาดินเนอร์ จัดขึ้นในธีม  ‘Sweetness Connections on the Chao Phraya’ เพื่อสะท้อนความสัมพันธ์และมิตรไมตรีอันดีระหว่างคู่ค้าและผู้อยู่ในอุตสาหกรรมทั้งในไทยและประเทศคู่ค้าจากทั่วโลก” 





     อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทยมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ นอกเหนือจากการสร้างรายได้รวมต่อปีกว่า 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออกแล้ว ยังมีส่วนสำคัญสำคัญ ต่อการเติบโต ของ อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทยมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตแบบทวีคูณของอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น อาหารและเครื่องดื่ม และอุตสาหกรรมชีวภาพ ภาคส่วนเหล่านี้ทำรายได้ให้ประเทศนับล้านล้านบาทต่อปี โดยในปีเพาะปลูก 2560/2561 ผลผลิตน้ำตาลไทยสูงถึง 14.7 ล้านเมตริกตัน ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ โดยนับเป็นผลผลิตอ้อยทั้งหมด 135 ล้านตันอ้อย อย่างไรก็ตาม ในปีการเพาะปลูก 2565/2566 ผลผลิตอ้อยลดลงเหลือ 94 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลได้เพียง  11 ล้านตัน





      หลายปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทยต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้านนอกจากผลกระทบด้านต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น การสูญเสียพื้นที่เพาะปลูกให้กับพืชชนิดอื่นและการพัฒนาด้านอื่นๆ  รวมถึงปัญหาขาดแคลน  แรงงาน และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้ว นายปราโมทย์เสริมว่า ปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นวาระสำคัญระดับประเทศ ที่ไทยให้ความสำคัญและมีการผลักดันนโยบาย ระดับประเทศ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่การพัฒนา ที่ยั่งยืน  โดยอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทยได้ปรับใช้แนวทางการเก็บเกี่ยวสีเขียว โดยมุ่งขจัดการเผาอ้อยก่อนการเก็บเกี่ยวภายในปีการเพาะปลูก  2566-2567 ทั้งนี้ โรงงานน้ำตาลทั้ง 57 แห่งภายใต้เครือข่ายของไทยชูการ์ มิลเลอร์ ซึ่งมีขนาดใหญ่และมีกำลังการผลิตเฉลี่ย 20,000 เมตริกตันต่อวัน ยังเน้นการใช้เทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำเพาะปลูก ปรับปรุงคุณภาพและกำลังการผลิต เพื่อให้สามารถส่งมอบ ผลิตภัณฑ์ ที่ปลอดภัย และมี คุณภาพแก่ผู้บริโภคทั่วโลก

        “ความยั่งยืนถือเป็นแกนหลักของยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทย สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและครอบคลุมผ่านโมเดลเศรษฐกิจ Bio-Circular-Green Economy Model หรือ BCG ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่
ปี 2564-2569 อุตสาหกรรมอ้อย และน้ำตาลทรายเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของ BCG ที่มีการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย การพัฒนาที่ยั่งยืนของ องค์การสหประชาชาติ และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ต้นแบบ BCG จึงมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน โดย TSMC เชื่อมั่นว่าการจัดงานในครั้งนี้ จะช่วยพัฒนาและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจจากทั่วโลก เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวได้” นายปราโมทย์ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์

พบประสบการณ์ใหม่ๆ ในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก

“THAIFEX - Anuga Asia 2024” ที่กำลังจะเริ่มขึ้นเร็วๆ นี้ งาน THAIFEX - Anuga Asia 2024 เป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลายและน่า...

โวยวายดอทคอม