แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวกีฬา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าวกีฬา แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

“ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025” ขับเคลื่อนการให้อย่างต่อเนื่อง

ส่งต่อเงินบริจาค 2,149,000 บาท แก่ศิริราชมูลนิธิ เพื่อสนับสนุนอนาคตทางการแพทย์ จากกิจกรรมประมูลการกุศล Charity Night 

(กรุงเทพฯ – 16 กรกฎาคม 2568) การแข่งขันกอล์ฟสตรีระดับโลก “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025” สานต่อเจตนารมณ์แห่งการให้ สนับสนุนและส่งต่อความช่วยเหลือสู่สังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการมอบเงินบริจาคจากกิจกรรมประมูลไอเทมสุดพิเศษและของรักจากนักกอล์ฟระดับโลกในงาน “Honda LPGA Thailand 2025 Charity Night” รวมกับเงินสมทบอื่น ๆ ทั้งสิ้น 2,149,000 บาท ให้แก่ศิริราชมูลนิธิ เพื่อสมทบกองทุนเพื่อผู้ป่วยด้อยโอกาส ฯ ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวาระ 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ของโรงพยาบาลศิริราช และเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข เช่น การจัดหาเครื่องมือแพทย์ที่จำเป็น การส่งเสริมงานวิจัยทางการแพทย์ การมอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษาแพทย์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข และการยกระดับศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง 


กิจกรรม Honda LPGA Thailand 2025 Charity Night จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 ณ โรงแรมเมอเวนพิค สยาม นาจอมเทียน พัทยา จังหวัดชลบุรี โดย ไฮไลต์ของงาน คือ การประมูลของที่ระลึกสุดพิเศษจากนักกอล์ฟระดับโลกที่เข้าร่วมการแข่งขัน อาทิ  ถุงกอล์ฟรุ่นพิเศษจากฮอนด้าพร้อมลายเซ็นจากนักกอล์ฟทั้ง 72 คนที่เข้าร่วมการแข่งขัน, พัตเตอร์และเสื้อกอล์ฟของ แพตตี้–ปภังกร ธวัชธนกิจ, ธงพร้อมลายเซ็นของนักกอล์ฟหญิงไทยทั้ง 12 คนที่ร่วมแข่งขัน, ภาพวาดโปสเตอร์การแข่งขันที่มีลายเซ็นของนักกอล์ฟระดับโลก 5 คน ได้แก่ จีโน่–อาฒยา ฐิติกุล, แพตตี้–ปภังกร ธวัชธนกิจ, รัวหนิง หยิน, ยูกะ ซาโสะ และบรู๊ค เอ็ม เฮนเดอร์สัน รวมถึงเหล็ก 3 ของจอร์เจีย ฮอลล์,  เวดจ์ของพี่น้องฝาแฝดจากญี่ปุ่น ชิซาโตะ และ อากิเอะ อิวาอิ และรองเท้ากอล์ฟของซีลีน บูติเยร์

กิจกรรมนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อสังคมที่จัดควบคู่กับการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง โดยผู้จัดการแข่งขันได้ร่วมมือกับนักกอล์ฟและพันธมิตรในการระดมทุนเพื่อมอบให้แก่ศิริราชมูลนิธิ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รวมถึงการบริจาคในปีนี้ มีมูลค่ายอดเงินบริจาคสะสมกว่า 8 ปี จากกิจกรรมดังกล่าว รวม 13,171,730 บาทการแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์” เป็นรายการกอล์ฟสตรีระดับโลกที่จัดขึ้นในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องถึง 18 ครั้ง ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามทั้งจากนักกอล์ฟระดับโลกและแฟนกีฬาทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ 

โดยมุ่งมั่นในการยกระดับวงการกอล์ฟไทย เปิดโอกาสให้นักกอล์ฟไทยได้ร่วมแข่งขันในเวทีระดับโลก พร้อมส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความตั้งใจของฮอนด้าและพันธมิตรในการสนับสนุนและส่งเสริมกีฬาเพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมไทยสู่อนาคตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568

เอปสันเดินหน้าสนับสนุน LPGA ต่อเนื่อง

มุ่งสร้างโอกาสและความเท่าเทียมในวงการกอล์ฟหญิง

บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น ผู้นำด้านเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์และโปรเจคเตอร์ของโลก ยังคงร่วมมือกับสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี หรือ LPGA ในการแข่งทัวร์นาเมนต์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ครั้งที่ 18 ที่สนามสยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส ในฐานะ Global Partner เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน การสนับสนุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเอปสันในการส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียม และความยั่งยืน ผ่านกีฬา โดยบริษัทฯ เชื่อว่าการเป็นพันธมิตรกับ LPGA จะช่วยมอบโอกาสให้นักกอล์ฟหญิงที่มีศักยภาพได้ไล่ตามความฝันและก้าวสู่เวทีการแข่งขันระดับโลก พร้อมทั้งช่วยพัฒนาวงการกอล์ฟหญิงให้เติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ เอปสันยังให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ของเอปสันในการปฏิบัติงาน รวมถึงนำ เสนอประสบการณ์ซ้อมวงสวิงแบบเสมือนจริง ให้กับผู้เข้าชมการแข่งขันด้วย Golf Simulator Experience โดยเอปสันได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ Trackman ผู้เชี่ยวชาญด้าน Golf Simulator นำเสนอประสบการณ์


ซ้อมวงสวิงแบบเสมือนจริงให้กับผู้เข้าชมการแข่งขัน โดยฉายผ่าน Epson Laser Projector รุ่น EB-L630SU ที่มาพร้อมเทคโนโลยี 3LCD ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส และสร้างบรรยากาศสนามกอล์ฟเสมือนจริง ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยของเอปสัน ผู้เข้าชมสามารถทดลองออกรอบและฝึกซ้อมได้อย่างสมจริงใกล้เคียงกับการแข่งขันจริงมากที่สุด

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ส่องแฟชั่นสุดปังของนักกอล์ฟสตรีระดับโลก ในศึกฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025


การแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 ที่ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา จังหวัดชลบุรี จบลงอย่างตื่นเต้นและประทับใจท่ามกลางผู้ชมกว่า 50,000 คนใน 4 วันของการแข่งขัน โดย แองเจิล หยิน นักกอล์ฟมืออันดับ 17 ของโลกจากสหรัฐอเมริกาคว้า แชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 ไปครอง การแช่งขันกอล์ฟ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 ไม่ได้เป็นเพียงเวทีประชันวงสวิงของสุดยอดนักกอล์ฟระดับโลก ที่ผู้ชมจะได้สัมผัสกับการแข่งขันที่เข้มข้นเร้าใจเท่านั้น แต่ยังเป็นรันเวย์แฟชั่นที่เหล่านักกอล์ฟได้นำเสนอตัวตนผ่านสไตล์การแต่งตัวอันเป็นเอกลักษณ์ที่ผู้ชมได้เพลิดเพลินไปกับแฟชั่นที่โดดเด่น จากดีไซน์และสีสันที่สะกดทุกสายตาตลอด 4 วันของการแข่งขัน กอล์ฟไม่ใช่แค่กีฬา แต่คือรันเวย์แฟชั่น        



ปัจจุบันแฟชั่นเครื่องแต่งกายกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของกีฬาทุกชนิด โดยเฉพาะกอล์ฟอาชีพ ซึ่งมีจุดเด่นด้านสไตล์ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละทัวร์นาเม้นท์และภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก โดยได้รับอิทธิพลจากปัจจัยด้านภูมิประเทศและภูมิอากาศ นักกอล์ฟจากโซนยุโรปจะให้ความสำคัญกับสไตล์การแต่งตัวที่เรียบหรู คลาสสิก และสุภาพ โทนสีที่นิยมจะเน้นสีขาว ดำ กรมท่า เทา และกากี ซึ่งให้ภาพรวมของการแต่งกายดูสง่างามเหนือกาลเวลา ส่วนใหญ่เป็นเสื้อโปโลหรือเสื้อแขนยาวแบบสลิมฟิต แมตซ์กับกางเกงขายาวหรือกระโปรงทรงยาวแค่เข่า สวมรองเท้ากอล์ฟหนังสไตล์คลาสสิก เสริมด้วยหมวก ผ้าพันคอ หรือผ้าคลุมไหล่ ซึ่งลุคเหล่านี้ได้รับแรงบันดาลใจจากแฟชั่นไฮเอนด์และสไตล์ British Country Club ที่สะท้อนประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของกีฬากอล์ฟที่มีต้นกำเนิดจากสกอตแลนด์

ด้าน เอเชีย โดยเฉพาะเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งกีฬากอล์ฟเป็นที่นิยมอย่างมาก นักกอล์ฟส่วนใหญ่นำเสนอสไตล์น่ารักสดใส และอ่อนหวานแบบเอเชีย นิยมโทนสีพาสเทล นีออน หรือเอิร์ธโทน มักเลือกเสื้อเข้ารูปที่มีดีไซน์โมเดิร์น หรือเสื้อคอเต่าใส่ซ้อนเป็นเลเยอร์ กระโปรงสั้นเหนือเข่า กางเกงเข้ารูป รองเท้ากอล์ฟทรงเพรียวบาง สวมหมวกทรงบักเก็ต Visor หรือผ้าปิดหน้า UV 

นอกจากนี้ นักกอล์ฟชาวเอเชียยังให้ความสำคัญกับเทรนด์แฟชั่นในทุกมิติ ตั้งแต่การแต่งหน้าไปจนถึงการทำเล็บสีสันสดใส ซึ่งช่วยเสริมเสน่ห์เฉพาะตัวของนักกีฬาแต่ละคน และทำให้แฟชั่นในวงการกอล์ฟมีความหลากหลายและน่าสนใจยิ่งขึ้น สำหรับโซน อเมริกา มีการปรับสไตล์การแต่งกายให้ดูโมเดิร์นขึ้น เน้นคล่องตัวและลำลองมากขึ้น โดดเด่นด้วยการใช้สีสดใส โทนพาสเทล หรือสีพื้นแบบสบายๆ เสื้อโปโลแขนสั้นหรือแขนกุดมักมาพร้อมลวดลายกราฟิกเพิ่มความสนุกสนาน จับคู่กับกางเกงขาสั้นแบบเบอร์มิวดา (Bermuda Shorts) หรือกระโปรงกางเกง (Skort) รองเท้ากอล์ฟสไตล์สนีกเกอร์ที่เน้นความสบาย มีเครื่องประดับเพียงไม่กี่ชิ้น เช่น หมวกแก๊ป และแว่นกันแดด สไตล์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวสปอร์ตแวร์ ผสมผสานกับเทรนด์ Athleisure ที่เน้นกีฬาและความสบายไปพร้อมกันนักกอล์ฟกับสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์

ลองมาตามติดสไตล์การแต่งกายของนักกอล์ฟในการแข่งขันฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025  ปีนี้ว่ามีใครน่าสนใจบ้าง คนแรกนักกอล์ฟสาวไทยอย่าง แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ แชมป์เมเจอร์และเจ้าของแชมป์แอลพีจีเอ 2 รายการ เลือกสวมชุดโทนสีเข้ม ซึ่งช่วยเสริมบุคลิกสุขุม น่าเกรงขาม และสะท้อนถึงสมาธิที่แน่วแน่ในเกมการแข่งขัน และในการแข่งขันรอบสุดท้ายในประเทศไทยเธอเลือกสวมเสื้อสีแดงสด และกระโปรงสีชาวซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจและความละมุนมากขึ้น

โปรชาวญี่ปุ่น ฮินาโกะ ชิบุโนะ อีกหนึ่งแชมป์เมเจอร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องสไตล์การแต่งตัวสุดเนี้ยบ ไม่ว่าจะเป็นชุดกระโปรงหรือกางเกง ทุกลุคของเธอได้รับการออกแบบมาให้เข้ากับบุคลิกได้อย่างลงตัวโดยผู้สนับสนุนหลักของเธอเอง มาดูแฟชั่นของ ลิน กรานท์ จากสวีเดน เจ้าของแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ โดดเด่นด้วยสไตล์เรียบหรู ชุดของเธอมักเป็นสีล้วน ไม่มีลวดลายกราฟิก จับคู่กับกระโปรงสั้นทรงเข้ารูป หรือกางเกงทั้งขาสั้นและขายาว ส่วนแชมป์เมเจอร์ชาวญี่ปุ่นผู้ซึ่งมาพร้อมกับความน่ารักสดใสอย่าง อายากะ ฟูรุเอะ ซิกเนเจอร์ของเธอคือ ชุดสีสันฉูดฉาด แบบสีนีออน ที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นบนสนาม และดึงดูดทุกสายตาได้อย่างยอดเยี่ยม

ส่วนนักกอล์ฟไทยตัวแทนแห่งสไตล์ที่ผสมผสานความมั่นใจและสมาร์ทลุค จีโน่-อาฒยา ฐิติกุล อดีตมือ 1 ของโลก และแชมป์แอลพีจีเอ 4 รายการ มาพร้อมแนวการแต่งตัวที่แสดงถึงความทะมัดทะแมง ทั้งกางเกงขาสั้นและขายาว พร้อมเสื้อเข้ารูปโดยใช้สีเสื้อโทนหวานในการแข่งขันครั้งนี้ที่ช่วยเสริมบุคลิกของเธอให้ดูเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ แต่ไม่แข็งกร้าวจนเกินไป

นักกอล์ฟสาวดีกรีแชมป์แอลพีจีเอ 2 รายการ เมียว-ปาจรีย์ อนันต์นฤการ สวยอย่างมีสไตล์ไม่แพ้ใคร บางวันเธอดูเป็นสาวหวานด้วยเสื้อและกระโปรงสีหวานเข้าชุด บางวันดูเป็นสาวเปรี้ยวด้วยชุดแซกเข้ารูปที่เน้นความเป็นตัวตนของนักกีฬาแบบสมส่วน มัดผมไว้อย่างเรียบร้อย สวมหมวกใบเก่งเข้ากับใบหน้าและยังมีตัวตุ๊กตาคลุมหัวไม้สุดน่ารักเป็นที่จดจำของแฟนๆ

หันมาส่องแฟชั่นของนักกอล์ฟจากฝั่งสหรัฐอเมริกากันบ้าง เยลิมี โนห์ เจ้าของแชมป์ แอลพีจีเอแรก ฟาวน์เดอร์ส คัพ ที่ให้ความสำคัญกับการเลือกสีสันและลวดลายที่สะท้อนบุคลิก ทั้งดูเป็นมืออาชีพแต่สนุกสนาน และเต็มไปด้วยพลังแห่งความรักในกีฬากอล์ฟ เสื้อผ้าของเธอเน้นความคล่องตัวและสวมใส่สบาย ทรงผมถักเปียหรือมัดเป็นคลื่นที่ดูเป็นเอกลักษณ์ เสริมด้วยหมวกเปิดด้านหลังที่ช่วยให้ลุคของเธอโดดเด่นบนแฟร์เวย์ ถือเป็นการผสานแฟชั่นเข้ากับความเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพได้อย่างลงตัว

จินยอง โค เจ้าของสถิติครองมือ 1 ของโลกยาวนานที่สุด 163 สัปดาห์ และแชมป์เมเจอร์จากเกาหลีใต้ ปีนี้ เธอปรับการแต่งตัวให้ออกแนวพาสเทลมากขึ้น โดยเน้นสวมใส่กระโปรงสองแบบทั้งแบบสั้นและแบบสั้นปลายบานพร้อมสวมถุงเท้ายาว แต่เอกลักษณ์ของเธอซึ่งเป็นที่จดจำคือการสวมชุดสีขาวล้วนแบบออลไวท์ในการแข่งขันในวันสุดท้ายเสมอ



                                                                                                 

มาดูแฟชั่นจาก ฮโย จู คิม นักกอล์ฟชาวเกาหลีใต้ซึ่งมีดีกรีแชมป์เมเจอร์อีกคน มักปรากฏตัวในชุดกางเกงขายาวที่ดูเรียบร้อยพร้อมทั้งหมวกและแว่นกันแดดสุดเท่ตลอดการแข่งขันซึ่งทำให้กลายเป็นสไตล์ประจำตัวของเธอที่แฟน ๆ กอล์ฟจดจำได้เป็นอย่างดี

สำหรับ แอนนาเบล ดิมม็อค นักกอล์ฟสาวมั่นจากสหราชอาณาจักรก็เป็นที่จดจำในชุดเครื่องแต่งกายที่เน้นแนวสุภาพ ใช้เสื้อแขนยาวสีโทนดำ เทา ขาว น้ำเงิน เข้าชุดกับกางเกงขาสั้นหรือกระโปรง ดูงามสง่าตามสไตล์แฟชั่นจากเมืองผู้ดี

นอกเหนือจากนักกอล์ฟที่ยกตัวอย่างมาบางส่วนแล้ว การแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 ในปีนี้ ยังมีนักกอล์ฟชั้นนำจากหลายประเทศรวมทั้งหมด 72 คนมาดวลวงสวิงสุดเร้าใจ พร้อมนำเทรนด์แฟชั่นมาอวดโฉมแก่บรรดาแฟนกอล์ฟให้ได้ชมกันอีกด้วย นอกจากผู้ชมจะได้ลุ้นเกมกอล์ฟที่ตื่นเต้นเร้าใจและกิจกรรมสนุกในแฟนวิลเลจแล้ว ยังได้เพลิดเพลินกับแฟชั่นสุดชิคของบรรดานักกอล์ฟระดับโลกในการแข่งขัน  ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 ที่ผ่านมาอย่างจุใจ

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567

กอล์ฟดิกก์ ผนึกกำลัง ททท. กระตุ้นการท่องเที่ยวกีฬากอล์ฟ ดโครงการ “ตีกอล์ฟ ล่องใต้ สัมผัสวิถีอันดามัน Plus”


บริษัท กอล์ฟดิกก์ จำกัด สตาร์ทอัพไทยเบอร์หนึ่งผู้ให้บริการจองสนามกอล์ฟกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูมิภาคภาคใต้ และผู้ประกอบการธุรกิจสนามกอล์ฟพื้นที่จังหวัดภูเก็ต, กระบี่, พังงา และ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฏร์ธานี เชิญชวนนักกอล์ฟไทยแบกถุงกอล์ฟไปสัมผัสมนต์เสน่ห์ของสนามกอล์ฟภาคใต้ กับโครงการ “ตีกอล์ฟ ล่องใต้ สัมผัสวิถีอันดามัน Plus” AMAZING GOLF IN SOUTHERN THAILAND ตลอดเดือน สิงหาคม – กันยายน 2567  เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกีฬากอล์ฟ และสนับสนุนให้กลุ่มนักกอล์ฟ (Thai Residents) คนไทยและชาวต่างชาติที่พำนัก หรือ ทำงานในประเทศไทยสามารถแสดงเอกสารเพื่อรับสิทธิ์ราคาพิเศษได้ ณ สนามกอล์ฟ
ตามกฎระเบียบข้อบังคับของสนาม อาทิ ใบขับขี่ หรือ ใบอนุญาตทำงาน เป็นต้น ได้วางแผนตีกอล์ฟ ล่องใต้ ชวนครอบครัว เดินทางมาเที่ยวภาคใต้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสนามกอล์ฟพันธมิตรชื่อดังมากมาย อาทิ สนามกอล์ฟในจังหวัดภูเก็ต  อย่าง Red Mountain Golf Club , Loch Palms Golf Club , Blue Canyon Country Club , Laguna Golf Phuket, Mission Hills Phuket Golf Resort & Spa สนามกอล์ฟในจังหวัดกระบี่ อาทิ Pakasai Country Club , Hula Hula Golf Cub, Sofitel Krabi Phokeethra Golf & Spa Resort  สนามกอล์ฟในจังหวัดพังงา อาทิ Katathong Golf Resort & Spa , Aquella Golf & Country Club, Kirinara Golf Course สนามกอล์ฟในเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี อาทิ Santiburi Samui Country Club และ สนามกอล์ฟ กฟผ.เขื่อนรัชชประภา เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังมอบราคาพิเศษ และส่วนลดจากร้านอาหารดัง อาทิ ร้านอาหารโกตุง, โรงแรมระดับ 5 ดาว อาทิ Aonang Princeville Villa Resort & Spa A, สปา
อาทิ AMATAYA Wellness, ท่องเที่ยววิถีชุมชนบ้านไหนหนัง, บริการจัดส่งถุงกอล์ฟ “GOLF BAG DELIVERY by AIRPORTELs และ บริการรถเช่า Budget Thailand เป็นต้น  

สนามกอล์ฟภาคใต้ของประเทศไทย ถือเป็นสนามที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ของตัวเอง โดยมีสนามกอล์ฟที่ตั้งอยู่บนภูเขา เช่น Santiburi สนามกอล์ฟ สันติบุรี สมุย คันทรี คลับ (Santiburi Samui Country Club) จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านภูมิทัศน์ที่งดงามและการออกแบบที่ท้าทาย เช่นเดียวกับ สนามกอล์ฟ เรด เมาท์เทิน กอล์ฟ คอร์ส  (Red Mountain Golf Club) จังหวัดภูเก็ต ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟชั้นนำของเอเชียที่สนุกและท้าทายสำหรับนักกอล์ฟทุกระดับ ได้รับการปรับปรุงมาจากเหมืองแร่ดีบุกเก่า ด้วยสิ่งกีดขวางตามธรรมชาติ หน้าผา หลุมลึก และร่องน้ำในบริเวณสนามกอล์ฟ ให้บรรยากาศการตีกอล์ฟที่แวดล้อมด้วยสัมผัสกับบรรยากาศออกรอบที่เงียบสงบ มีสมาธิได้เต็มที่พร้อมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม นักกอล์ฟต่างพื้นที่สามารถเดินทางมาพักโรงแรม ทินิดี กอล์ฟ รีสอร์ท (Tinidee Golf Resort Phuket) ซึ่งมีตำแหน่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ระหว่างสนามกอล์ฟ เรด เมาท์เทิน และ สนามกอล์ฟ ล็อค ปาล์ม กอล์ฟ คอร์ส อีกด้วย

การตีกอล์ฟในภาคใต้ของประเทศไทยสามารถทำได้ตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูฝน สนามกอล์ฟจะสมบูรณ์ที่สุดเนื่องจากหญ้าได้รับน้ำเต็มที่ และฝนที่ตกในภาคใต้ก็มักจะตกไม่นานช่วงโลว์ซีซัน (LowSeason) นี้มีนักท่องเที่ยวไม่มากนักเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับคนไทย ที่ต้องการเดินทางไปตีกอล์ฟในภาคใต้เพราะราคาดีทั้งสนามและโรงแรมที่พัก

โดยกิจกรรมนี้คาดหวังว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวกีฬากอล์ฟจากทั่วทุกพื้นที่ในประเทศได้เดินทางมาท่องเที่ยวสัมผัสวิถีอันดามันPlus กินอาหารพื้นเมือง และ พักผ่อน นอกจากการตีกอล์ฟตามจุดมุ่งหมายแล้วยังได้อรรถรสชื่นชมความงดงาม มนต์เสน่ห์ของนครเมืองใต้ 



ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท กอล์ฟดิกก์ จำกัด ที่ได้จัดขึ้นร่วมกับภาครัฐวิสหกิจนอกจากนี้ ยังมีความร่วมมืออีกหลายภาคส่วนที่สนับสนุนและก่อให้เกิดรายได้อย่างยั่งยืนกับทุกสนามกอล์ฟ อีกทั้งยังนำพาแอปพลิเคชัน กอล์ฟดิกก์ให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อบุกตลาดกีฬากอล์ฟและการท่องเที่ยวสร้างชื่อเสียงให้สนามกอล์ฟในเมืองไทยที่มีศักยภาพ ทั้งด้านการออกแบบสนาม คุณภาพการให้บริการทีมงาน และ มีแคดดี้ที่ต่างชาติพากันชื่นชมอย่างมาก ถือเป็นซอฟพาวเวอร์ของประเทศไทยเลยทีเดียวทำให้การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของทีมงานกอล์ฟดิกก์ในด้านการให้บริการจองสนามกอล์ฟออนไลน์จึงเข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญในอุตสาหกรรมนี้ 

สอบถามรายละเอียดราคาคนไทย และ Thai residents สามารถแอดไลน์ @golfdigg หรือ สนใจที่ใช้บริการการจองสนามกอล์ฟผ่านแอปพลิเคชันสามารถค้นหา golfdigg ดาวน์โหลดได้ทั้ง IOS | Apple store และ Android | Play store 

สอบถามรายละเอียดได้ที่
Facebook: Golfdigg // LINE: @golfdigg

Customer Support: Call 089-333-1000 // Email: support@golfdigg.com

วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2567

เอปสันย้ำเดินหน้าสนับสนุน LPGA


ภายหลังจบทัวร์นาเมนท์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ครั้งที่ 17 ซึ่งจัดขึ้นที่สนามสยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น ผู้นำด้านเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์และโปรเจคเตอร์ของโลก ได้ประกาศกระชับความร่วมมือกับสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี หรือ LPGA เพื่อขับเคลื่อนอุดมการณ์ขององค์กรในการสร้างสังคมที่ยอมรับในเรื่องความหลากหลายและความเท่าเทียมกัน รวมถึงเป้าหมายในด้านความยั่งยืน ผ่านการเป็น Global Partner ของรายการฮอนด้า แอลพีจีเอ เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน เอปสันยังให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ของเอปสันในการปฏิบัติงาน



โดยบริษัทฯ หวังว่าการสนับสนุนทัวร์นาเมนท์นี้จะสามารถมอบโอกาสให้นักกอล์ฟหญิงที่มีศักยภาพจำนวนมากในการไล่ตามความฝันที่จะได้ลงแข่งและชนะในทัวร์นาเมนท์ระดับโลกของ LPGA และได้พัฒนาวงการกอล์ฟหญิงทั่วโลกต่อไป

วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2567

อิงตะวัน คว้าแชมป์คลาสเอ ชาย ที่รอยัลเชียงใหม่

การแข่งขันกอล์ฟเยาวชนของชมรมนักกอล์ฟเยาวชนไทยภาคเหนือ (NTJGC) สนามที่ 3 ฤดูกาล 2566-2567เมื่อวันที่ 2-3 มีนาคม 2567 ณ สนามรอยัลเชียงใหม่ กอล์ฟคลับ จ.เชียงใหม่ เพื่อคัดตัวเข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟเยาวชนนานาชาติ 2nd PPTV International Junior Golf Championship 2024 ณ สนามกอล์ฟเลควูด คันทรีคลับ จ.สมุทรปราการ ระหว่างวันที่ 23-25 เมษายน 2567

เมื่อจบการแข่งขัน 2 วัน 36 หลุม ปรากฏว่า คลาสเอ ชาย อิงตะวัน หวังรุ่งวิชัยศรี วัย 17 ปีจาก ร.ร.มงฟอร์ตวิทยาลัย คว้าแชมป์ไปที่ 3 โอเวอร์พาร์ 147 ขณะที่ วิชิตา พรมศิลป์ วัย 16 ปีจาก ร.ร.นานาชาติ ยูนิตี้ คอนคอร์ด ซิวแชมป์คลาสเอ หญิงไปที่ 14 โอเวอร์พาร์ 158

คลาสบี ชาย และหญิง แชมป์เป็นของ ซิ วู ปาร์ค และ ซี เบค โฮ ที่ 164 และ 163 คะแนนตามลำดับ

คลาสซี ชาย ณัฐชานนท์ โตวัน วัย 12 ปีจาก ร.ร.ปรินส์รอแยลส์ วิทยาลัย คว้าแชมป์ไปที่ 12
โอเวอร์พาร์ 156

คลาสซี หญิง หมิง รุย หยู วัย 11 ปีจาก ร.ร.นานาชาติสิงคโปร์ คว้าแชมป์ไปที่ 18 โอเวอร์พาร์ 162

คลาสดี ชาย และหญิง แชมป์เป็นของ ธามม์ สรชาติ วัย 9 ปีจาก ร.ร.นานาชาติลานนา และ ซิแมน ชู วัย 9 ปีจาก ร.ร.นานาชาติติณสูลานนท์ ที่ 162 และ 158 คะแนนตามลำดับ

คลาสอี ชาย แชมป์เป็นของ ยัน แบงยิน วัย 8 ปีจาก ร.ร.นานาชาตินครพายัพ ที่ 184 คะแนน และแชมป์คลาสอี หญิง เป็นของ รินรดา สุวรรณธานี วัย 7 ปีจาก ร.ร.นานาชาติลานนา ที่ 231 คะแนน

คลาสเอฟ ชาย และหญิง แชมป์เป็นของ เจสัน ลุย และ ชญาดา ธงยี่สิบหก

ภายในงานแจกรางวัลได้รับเกียรติจาก คุณธารทิพย์ ณ เชียงใหม่   กรรมการที่ปรึกษา
สนามรอยัลเชียงใหม่ กอล์ฟคลับ ร่วมแสดงความยินดี

วันพฤหัสบดีที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

ครั้งแรกไทย บลูแคนยอน ผนึกกำลัง เคแอลพีจีเอ ทัวร์ ระเบิดศึก บลู แคนยอน เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ

สนามกอล์ฟ บลู แคนยอน คันทรี คลับ หนึ่งในสนามกอล์ฟที่สวยงามที่สุดของประเทศไทย ได้รับการการันตีจากทั่วโลก ผนึกกำลังกับ เคแอลพีจีเอ ทัวร์ ลีคกอล์ฟอาชีพหญิงของ เกาหลีใต้ แถลงข่าวจัดการแข่งขัน บลู แคนยอน เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 แข่งขันแบบสโตรคเพลย์ 3 วัน 54 หลุม ไม่มีการตัดตัว ชิงเงินรางวัลรวม 650,000 เหรียญสหรัฐ (หรือราว 22,750,000 บาท) ระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคม 2567 ณ สนาม บลู แคนยอน คันทรี คลับ จ. ภูเก็ต 



งานนี้ได้รับเกียรติจากคุณประพันธ์ อัศวอารี ประธานกรรมการ บริษัท บลู แคนยอน คันทรี คลับ จำกัด เป็นประธานในงานแถลงข่าว โดยมี คุณมีนา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้ช่วยประธานบริหารด้านการตลาด บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด และ คุณพิชญา พูลสถิติวัฒน์ (ผู้นําเข้า และ ตัวแทนจําหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์ ANEW Golf และ SParms ประเทศไทย) ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วย สามนักกอล์ฟสาว “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ, “โปรสตางค์”กรกมล      ศุขอารีย์, และ “น้องน้ำผึ้ง” นวพร สุนทรียภาส นักกอล์ฟสมัครเล่นทีมชาติไทย ร่วมแถลงข่าว ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567


คุณประพันธ์ อัศวอารี ประธานกรรมการ บริษัท บลู แคนยอน คันทรี คลับ จำกัด กล่าวถึงจุดประสงค์ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ว่า "นับเป็นเกียรติที่สนาม บลูแคนยอนฯ ได้เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันเป็นเวลา 3 ปีและนี่ก็คือครั้งแรกที่ เคแอลพีจีเอ ทัวร์ มาจัดการแข่งขันที่ประเทศไทยและยังมีเงินรางวัลรวมสูงถึง 650,000 เหรียญสหรัฐ (22,750,000 ล้านบาท) เราดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมพัฒนา และส่งเสริมกีฬากอล์ฟในเมืองไทยให้ก้าวสู่เวทีระดับโลก ที่ผ่านมามีนักกอล์ฟสตรีของไทยจำนวนมากที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติมาโดยตลอด สิ่งเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นของวงการกอล์ฟในเมืองไทยและยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟเยาวชนรุ่นต่อๆไปอีกด้วย อีกทั้งการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ผมเชื่อว่าจะส่งผลไปในส่วนอื่นๆ เช่น การกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเอง เนื่องจากมีการถ่ายทอดสดไปทั่ว ทั้งในประเทศไทย และ ต่างประเทศ คือประเทศเกาหลีใต้ด้วย ซึ่งผมเชื่อว่าจะสร้างความสนุกสนานท้าทายแบบครบรสให้กับคนดูได้อย่างแน่นอน เพราะมีนักกอล์ฟสตรีฝีมือดีจาก เคแอลพีจีเอ ทัวร์ ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขัน และที่สำคัญผมอยากจะขอให้คนไทยร่วมใจเชียร์นักกอล์ฟสตรีของไทย 11 คนที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้"


คุณมีนา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้ช่วยประธานบริหารด้านการตลาด บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์เซียงเพียว และเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ กล่าวว่า บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์เซียงเพียว และเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ในปัจจุบัน โดยการให้การสนับสนุนกิจกรรมกีฬาระดับประเทศและระดับนานาชาติ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาด เนื่องจากกิจกรรมทางกีฬาสามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคของเราได้โดยตรง สามารถทำกิจกรรมทางการตลาดได้หลากหลายและมีสีสัน ที่ผ่านมาเราได้ให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬา ซึ่งล้วนแต่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี เราได้ให้การสนับสนุนกีฬากอล์ฟมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรายการกอล์ฟชายหรือกอล์ฟสตรี เราสนับสนุนนักกีฬาไทย ที่ผ่านมากีฬากอล์ฟเราก็ได้สนับสนุน โปร พีเค  พัชรจุฑา คงกระพันธ์ ซึ่งรายการแข่งขันนี้ โปรพีเคก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันเช่นกัน"


คุณพิชญา พูลสถิติวัฒน์ (ผู้นําเข้า และ ตัวแทนจําหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์ ANEW Golf และ SParms ประเทศไทย) กล่าวว่า "SParms เป็นผู้นำด้านการปกป้องผิวจากแสงแดด มีความเชี่ยวชาญเรื่องปลอกแขนกันรังสี UV ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 ที่ประเทศออสเตรเลีย ปัจจุบัน SParms ได้รับการรับรองใช้งานโดยนักกีฬาชั้นนำทั่วโลกในอุตสาหกรรมการกีฬา ไม่ว่าจะเป็น กอล์ฟ, จักรยาน, ยิงธนู และกีฬาอื่นๆ ในฐานะแบรนด์ เราทำได้ดีที่สุดคือการให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาชนิดต่างๆ ในประเทศไทย เรามีแผนที่จะสนับสนุนชนิดกีฬาที่มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ของเราโดยตรงไม่ว่าจะเป็น กอลฟ์, การปั่นจักรยาน, การยิงธนู และกีฬาอื่นๆ โดยเน้นกีฬากลางแจ้งเป็นหลัก และด้วยคุณสมบัติเด่นของผลิตภัณฑ์ ที่สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี ป้องกันแสงยูวี สวมใส่แล้วเพิ่มความสมาร์ทและดูดียิ่งขึ้น แถมยังซึมซับเหงื่อได้ดี เพื่อให้นักกีฬาพร้อมลุยทุกสถานการณ์"

“โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ เจ้าของแชมป์อาชีพทั้งหมด 21 รายการ และเป็นรองแชมป์รายการเมเ จอร์ Women’s British Open 2018 กล่าวว่า "รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ได้ร่วมเล่นในครั้งนี้ แหวนเคยเล่นในเคแอลพีจีเอ ทัวร์ มาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งครั้งนั้นก็เป็นการรับเชิญเหมือนกันแต่เล่นที่เกาหลีใต้ ส่วนครั้งนี้ได้มาเล่นในเมืองไทย จึงรู้สึกดีใจมาก โดยเฉพาะการที่ได้มาเล่นที่สนามบลูแคนยอน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสนามชั้นนำของเมืองไทย จึงอยากมาเล่นรายการนี้ที่สนามนี้เป็นพิเศษ วงการกอล์ฟของไทยมีการพัฒนาและเติบโตอย่างมาก เรามีนักกอล์ฟที่ทำชื่อเสียงให้กับประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ  เรียกว่าตอนนี้กอล์ฟกลายเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ผู้ปกครองหันมาสนใจ และพยายามหาโอกาสให้ลูกหลานได้เล่น แหวนว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับวงการกอล์ฟของไทยในอนาคต"

“โปรสตางค์” กรกมล ศุขอารีย์ กล่าวว่า "ขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกๆท่านที่ให้โอกาสครั้งสำคัญนี้ รายการนี้เป็นรายการที่ท้าทายมาก ถือว่าเป็นทัวร์ต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้  อีกทั้งได้ร่วมแข่งขันกับมือท็อปของ เคแอลพีจีเอทัวร์ ที่สำคัญคือได้มาร่วมเล่นในสนามที่มีประวัติศาสตร์ และมีความท้าทายมากๆ อย่างบลู แคนยอน ด้วยค่ะ ตอนนี้ความพร้อมมีเต็มที่ค่ะ ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ  มีออกซ้อมทุกวัน และฟิตเนสร่วมด้วยค่ะ ส่วนในด้านการเล่นอื่นๆ ยังไม่มีการปรับอะไรเพิ่มเติม"

ด้าน  “น้ำผึ้ง” นวพร สุนทรียภาส นักกอล์ฟทีมชาติไทย "รู้สึกดีใจมากที่ได้รับเกียรติเชิญร่วมการแข่งขันครั้งนี้ สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ท้าทายสำหรับหนูร่วมลงแข่งกับนักกอล์ฟรุ่นพี่ และยังได้ปะทะกับนักกอล์ฟจากเกาหลีใต้ มีความกดดันบ้าง แต่ก็เตรียมพร้อมเป็นอย่างดี และรายการนี้เป็นรายการสุดท้ายของการเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น หลังจากนั้นก็จะเทิร์นโปร และจะไปคิวสคูล แอลพีจีเอ ต่อไป"

รายการ บลูแคนยอน เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ  ได้รับการสนับสนุนจาก Siang Pure, Peppermint Field, ANew Golf, SParms (Sun Protect+) แฟนกอล์ฟสามารถรับชมถ่ายทอดสดผ่านทางทรูวิชั่นส์ ช่องทรูสปอร์ต 5 ระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น.

แฟนกอล์ฟสามารถซื้อบัตรเข้าชม เพื่อสัมผัสบรรยากาศการแข่งขัน และเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากนักกอล์ฟสาว เคแอลพีจีเอ ทัวร์ ได้แล้ววันนี้ โดยบัตรเข้าชมทัวร์นาเม้นต์ทั้ง 3 วัน ราคา 1,000 บาท ชมเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ราคา 800 บาท ส่วนบัตรเข้าชมรายวันราคา วันละ 400-500 บาท หรือซื้อบัตรเข้าชม      บีซี เล้าจ์ แพ็คเกจ (ส่วนลด 20% สำหรับสมาชิก) พบกับความหรูหราใน บีซี เทอร์เรซ (บริการอาหารฟรี, รางวัลจับฉลากมากมาย และเข้าชมการแข่งขันแบบสุดเอกซ์คลูซีฟ บัตรเข้าชมทั้งทัวร์นาเมนท์ ราคา 7,500 บาท เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ราคา 5,000 บาท หรือบัตรเข้าชมในแต่ละวันราคา  2,500-3,000 บาท 

#bluecanyonladieschampionship #bluecanyonphuket

วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

“แพตตี้ – ปภังกร” ปล่อยโฮ! สุดตื้นตัน

คว้าแชมป์ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024” สร้างความสุขให้แฟนกอล์ฟชาวไทย

(ชลบุรี – 25 กุมภาพันธ์ 2567) -  แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ  ทำเบอร์ดี้หลุมสุดท้ายคว้าแชมป์สกอร์รวม 21 อันเดอร์ เฉือนชนะอันดับสองแค่สโตรกเดียว ในกอล์ฟแอลพีจีเอทัวร์ รายการ  “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024” ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พาร์ 72 พัทยา จ.ชลบุรี  เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 

แพตตี้-ปภังกร โปรมือ 43 ของโลก ซึ่งจบรอบสามนำห่างคู่แข่ง 3 สโตรก ทำเพิ่มรอบสุดท้ายอีก 5 อันเดอร์ จาก 6 เบอร์ดี้ รวมถึงเบอร์ดี้หลุมสุดท้าย และ 1 โบกี้ คว้าแชมป์ที่สกอร์รวม 21 อันเดอร์ โดยมี อัลบอน วาเลนซูเอล่า โปรสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งทำรอบสุดท้าย 9 อันเดอร์ จบอันดับสองสกอร์รวม 20 อันเดอร์ ขณะที่อันดับ 3 ร่วมเป็นของ เซ ยัง คิม และ   ฮเย จิน ชอย สองโปรเกาหลีใต้ที่สกอร์รวมคนละ 18 อันเดอร์ 


“ดีใจที่สามารถคว้าแชมป์ต่อหน้าแฟนกอล์ฟชาวไทยและคุณพ่อคุณแม่ ขอบคุณทุกๆ คน รู้สึกโชคดีที่มีแฟนกอล์ฟและครอบครัวคอยสนับสนุน ยอมรับว่าช่วงแรกรู้สึกประหม่า แต่ก็พยายามคุมสติซึ่งก็ทำได้เป็นอย่างดี” แพตตี้-ปภังกร กล่าว

“ก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นผู้ชมและเคยเล่นในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่นมาก่อน เป็นเหมือนความฝันที่ได้แชมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ซาอุดีอาระเบียและสัปดาห์นี้ก็ได้แชมป์ที่ประเทศไทย การได้เล่นกับนักกอล์ฟที่ดีสุดในโลก และสามารถปิดท้ายได้อย่างสวยงาม” 

โปรวัย 24 ปี เป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 2 ที่คว้าแชมป์รายการนี้ ต่อจาก เม-เอรียา จุฑานุกาล ที่ทำได้เมื่อปี 2021 โดยรับเงินรางวัล 255,000 ดอลลาร์ฯ (ราว 9.2 ล้านบาท) สำหรับชัยชนะครั้งนี้ นอกจากจะเป็นแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ รายการที่ 2 ของแพตตี้-ปภังกร ต่อจากรายการเมเจอร์ ดิ เอเอ็นเอ อินสไปเรชั่น 2021 แล้ว ยังนับเป็นแชมป์สัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันอีกด้วยหลังจากสัปดาห์ที่แล้วเธอคว้าแชมป์ในรายการของเลดี้ส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย



ขณะที่ ซิม-ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ รองแชมป์เมื่อปีที่แล้ว ทำเพิ่มรอบสุดท้าย 7 อันเดอร์ สกอร์รวม 17 อันเดอร์ จบอันดับ 5 ร่วม โดยโปรวัย 21 ปี กล่าวว่า แม้รอบสุดท้ายจะทำได้ดี แต่ก็เป็นเพียงแค่รอบเดียวที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน“ดีใจค่ะที่ได้กลับมาแข่งแบบจริงจังเป็นแมตช์ที่ 2 ในส่วนสภาพร่างกายนั้นดีขึ้นนานแล้วแต่ความรู้สึกในการเล่นนั้นเพิ่งจะกลับมา วันนี้รู้แล้วว่าต้องคิดอะไรก่อนเล่นแต่ละช็อต” ซิม-ณัฐกฤตา กล่าว 

ลิเลีย วู แชมป์เก่าและมือหนึ่งของโลกชาวอเมริกัน จบอันดับ 7 ร่วม สกอร์รวม 16 อันเดอร์  ส่วน ว่าน-จารวี บุญจันทร์  มือ 199 ของโลก ทำ 5 อันเดอร์ จาก 5 เบอร์ดี้ สกอร์รวม 15 อันเดอร์ จบที่ 9 ร่วม เม-เอรียา จุฑานุกาล แชมป์ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021” จบที่ 13 ร่วม สกอร์รวม 14 อันเดอร์ โดยมี        ฮัท-สุวิชยา วินิจฉัยธรรม นักกอล์ฟสมัครเล่นที่ได้สิทธิ์แข่งขันรายการนี้จากการคว้าแชมป์ Honda LPGA Thailand 2024 National Qualifiers จบที่ 18 ร่วม สกอร์รวม 12 อันเดอร์ 

พราว-ชเนตตี วรรณแสน ทำรอบสุดท้าย 1 อันเดอร์ จบอันดับ 31 ร่วม ที่สกอร์รวม 8 อันเดอร์  โม-โมรียา จุฑานุกาล และ แพงกี้-แอลล่า แกลิทสกีย์  นักกอล์ฟสมัครเล่นลูกครึ่งไทย-แคนาดา วัย 17 ปี จบอันดับ 41 ร่วม สกอร์รวมคนละ  7 อันเดอร์ , แหวน-พรอนงค์ เพชรล้ำ จบอันดับ 49 ร่วม สกอร์รวม 5 อันเดอร์  เมียว-ปาจรีย์ อนันต์นฤการ อันดับ 60 ร่วม สกอร์รวม 2 อันเดอร์ และ จูเนียร์-จัสมิน สุวัณณะปุระ อันดับ 65 ร่วม สกอร์รวม 1 อันเดอร์



วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

สวิงรุ่นเยาว์ร่วม “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 จูเนียร์ กอล์ฟ คลินิก”

ฝึกทักษะกับนักกอล์ฟระดับโลกสร้างแรงบันดาลใจสู่การเป็นยอดนักกอล์ฟในอนาคต

(ชลบุรี – 19 กุมภาพันธ์ 2567) - ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ จัดกิจกรรม “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 จูเนียร์ กอล์ฟ คลินิก” ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งของโครงการ “Road to Honda LPGA Thailand” ที่จัดมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ ได้เรียนรู้และฝึกซ้อมกับนักกอล์ฟชื่อดังระดับโลกแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อเพิ่มพูนทักษะและเสริมสร้างแรงบันดาลใจสู่การเป็นนักกอล์ฟอาชีพในอนาคต

กิจกรรมครั้งนี้มีเยาวชนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมทั้งหมด 53 คน โดยมีนักกีฬากอล์ฟชื่อดังของไทย ได้แก่ ว่าน-จารวี  บุญจันทร์ และ แพงกี้-แอลล่า แกลิทสกีย์ ที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 ระหว่างวันที่ 22-25 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่ง 2 นักกอล์ฟได้ร่วมฝึกสอนเทคนิคการเล่นกอล์ฟในรูปแบบต่าง ๆ  อาทิ การตีแบ็คสปินให้ลูกถอยหลัง, การระเบิดทรายข้างกรีน, การถ่ายน้ำหนักวงสวิง ตลอดจนการควบคุมสมาธิในการตี ฯลฯ รวมทั้งได้สนทนาตอบคำถามของเยาวชนอย่างเป็นกันเอง และถ่ายทอดประสบการณ์ในการแข่งขันกอล์ฟระดับนานาชาติ สร้างแรงบันดาลใจและขับเคลื่อนความฝันสู่การเป็นนักกอล์ฟระดับอาชีพของเยาวชนไทยต่อไป


ว่าน-จารวี บุญจันทร์ กล่าวว่า น้อง ๆ เยาวชนทุกคนมีความตั้งใจอย่างมากที่จะเป็นนักกอล์ฟที่ดี ซึ่งจะต้องเริ่มต้นจากการเรียนรู้ ฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ และออกแข่งขันเพื่อหาประสบการณ์ หากต้องการจะเป็นนักกีฬาระดับอาชีพซึ่งหลายคนก็มีแววว่าจะสามารถทำได้ ในขณะที่ แพงกี้-แอลล่า แกลิทสกีย์  ก็ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ในการแข่งขันกอล์ฟตั้งแต่ระดับสมัครเล่นจนถึงการเล่นในฐานะตัวแทนทีมชาติไทย ก่อนจะได้ร่วมการแข่งขันระดับอาชีพในที่สุด พร้อมทั้งกล่าวว่า ต้องขอขอบคุณฮอนด้าที่จัดกิจกรรมกอล์ฟคลินิกเพื่อเป็นเวทีสำหรับเยาวชนให้ได้เรียนรู้เทคนิคกอล์ฟและรับฟังประสบการณ์จากนักกอล์ฟอาชีพ สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนได้ทำตามความฝันของตนเองในการเป็นนักกอล์ฟในแบบที่ดีที่สุดเท่าที่เท่าที่จะสามารถเป็นได้

ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 เปิดจำหน่ายบัตรทั้งแบบทั่วไปและแบบวีไอพีที่ www.hondalpgathailand.com  โดยผู้ที่ถือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพจะได้ส่วนลดสูงสุด 15% และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี และอายุมากกว่า 60 ปี สามารถลงทะเบียนเข้าชมการแข่งขันโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ hondalpgathailand.com หรือเฟซบุ๊ก www.facebook.com/lpgaThailand
และอินสตาแกรม www.instagram.com/hondalpgathailand

วันศุกร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2567

“ฮัท” สุวิชยา วินิจฉัยธรรม คว้าแชมป์ Honda LPGA Thailand 2024 National Qualifiers

รับสิทธิ์เข้าดวลวงสวิงกับนักกอล์ฟหญิงระดับโลก ศึก ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024                                                                              

(พัทยา - 11 มกราคม 2567) - การแข่งขัน Honda LPGA Thailand 2024 National Qualifiers ณ สยามคันทรีคลับ โรลลิ่งฮิลส์ พัทยา จ.ชลบุรี วันที่ 10-11 กุมภาพันธ์ 2567 ผลปรากฏว่า “ฮัท” สุวิชยา วินิจฉัยธรรม คว้าตำแหน่งผู้ชนะพร้อมรับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 ชิงเงินรางวัลรวม 1.7 ล้านดอลลาร์ฯ ระหว่างวันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา จ.ชลบุรี

“ฮัท” สุวิชยา วินิจฉัยธรรม นักกอล์ฟสมัครเล่นวัย 17 ปี จาก จ.ขอนแก่น  เป็นผู้นำร่วมหลังจบรอบแรก ทำเพิ่มรอบสองอีก 3 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ที่สกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ เฉือนอันดับ 2  “ปาแปง” อลิศา อินทร์ประสิทธิ์ แค่สโตรคเดียว โดย “ฮัท” สุวิชยา วินิจฉัยธรรม ซึ่งเป็นนักกีฬาในโครงการทีมชาติไทย ของสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ทำได้สำเร็จ เพราะนักกอล์ฟที่เก่ง ๆ มีเยอะมาก ทำให้รู้สึกกดดันเหมือนกัน แต่พยายามไม่คิดมาก และสามารถควบคุมตนเองได้ดี ปัจจัยสำคัญก็คือ การฝึกซ้อมที่ต่อเนื่องมาตลอดโดยการควบคุมของคุณพ่อซึ่งก็เป็นแคดดี้ให้ด้วย

สำหรับแผนการเตรียมตัวก่อนการแข่งขัน  “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024” นั้น “ฮัท” สุวิชยา วินิจฉัยธรรม กล่าวว่า จะพยายามมาออกรอบที่ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส ให้มากขึ้นเพื่อทำความคุ้นเคยกับสนาม เพื่อที่จะได้ทำผลงานให้ดีที่สุดในการแข่งขันร่วมกับนักกอล์ฟระดับโลก ซึ่งหากเป็นไปได้ อยากจะร่วมก๊วนกับ ลิเดีย โค มากที่สุด เพราะเป็นไอดอลในการเล่นกอล์ฟของตนเอง และอยากจะขอแรงใจจากแฟนกอล์ฟทั่วประเทศช่วยติดตามเชียร์ด้วยค่ะ

นางสาวมนวรา เพชรพลากร ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับ “ฮัท” สุวิชยา วินิจฉัยธรรม ที่สามารถคว้าแชมป์ Honda LPGA Thailand 2024 National Qualifiers ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้มีนักกอล์ฟไทยที่มีฝีมือจำนวนมาก และการแข่งขันก็เข้มข้น และสูสีมาก ฮอนด้า รู้สึกยินดีและภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนในการสนับสนุนนักกอล์ฟไทยไปสู่ระดับเวิร์ลคลาส และอยากให้แฟนกีฬากอล์ฟติดตามชมการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024  วันที่ 22-25 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา จ.ชลบุรี และร่วมส่งแรงใจให้นักกอล์ฟไทยด้วย  

การแข่งขัน Honda LPGA Thailand 2024 National Qualifiers เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม Road to Honda LPGA Thailand ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน โดยเปิดรับนักกอล์ฟสตรีชาวไทยในระดับอาชีพและสมัครเล่น ร่วมแข่งขันในวันที่ 10 -11 มกราคม 2567 ณ สยามคันทรีคลับ โรลลิ่งฮิลส์ พัทยา จ.ชลบุรี โดยครั้งนี้มีนักกอล์ฟเข้าร่วมชิงชัยมากถึง 83 คน

กิจกรรม Road to Honda LPGA Thailand มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมกอล์ฟในประเทศไทย รวมถึงการมอบโอกาสให้นักกอล์ฟไทยได้สัมผัสประสบการณ์ในเกมการแข่งขันระดับสากลกับเหล่าโปรกอล์ฟสตรีระดับโลก โดยที่ผ่านมาสวิงสาวที่คว้าแชมป์รายการนี้ ได้แก่ กิฟท์ - เบญญาภา นิภัทร์โสภณ (แชมป์ 2019), รีน่า ทัตเทมัตซึ (แชมป์ 2020), พราว - ชเนตตี วรรณแสน (แชมป์ 2021 และ 2022), ซิม - ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ (แชมป์ 2023) และล่าสุด “ฮัท” สุวิชยา วินิจฉัยธรรม (แชมป์ 2024)


สำหรับการแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024” จะเป็นการแข่งขันกอล์ฟสตรีที่เข้มข้นและเร้าใจที่สุดในประเทศไทย โดย ลิเลีย วู นักกอล์ฟสาวอเมริกันวัย 26 ปี มือ 1 ของโลก และเจ้าของตำแหน่งแชมป์ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023” ยืนยันการกลับมาป้องกันแชมป์ ในขณะที่นักกอล์ฟสาวระดับโลกของไทยก็พร้อมที่จะชิงชัยเพื่อคว้าถ้วยแชมป์ให้แฟน ๆ กอล์ฟชาวไทยได้ชื่นชมเช่นเดียวกัน นำโดย จีน-อาฒยา ฐิติกุล, แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ,       เมียว-ปาจรีย์ อนันต์นฤการ, พราว-ชเนตตี วรรณแสน, โม-โมรียา จุฑานุกาล และ เม-เอรียา จุฑานุกาล  แชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 เป็นต้น

สำหรับการแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024” จะเป็นการแข่งขันกอล์ฟสตรีที่เข้มข้นและเร้าใจที่สุดในประเทศไทย โดย ลิเลีย วู นักกอล์ฟสาวอเมริกันวัย 26 ปี มือ 1 ของโลก และเจ้าของตำแหน่งแชมป์ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2023” ยืนยันการกลับมาป้องกันแชมป์ ในขณะที่นักกอล์ฟสาวระดับโลกของไทยก็พร้อมที่จะชิงชัยเพื่อคว้าถ้วยแชมป์ให้แฟน ๆ กอล์ฟชาวไทยได้ชื่นชมเช่นเดียวกัน นำโดย จีน-อาฒยา ฐิติกุล, แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ,       เมียว-ปาจรีย์ อนันต์นฤการ, พราว-ชเนตตี วรรณแสน, โม-โมรียา จุฑานุกาล และ เม-เอรียา จุฑานุกาล  แชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021 เป็นต้น

การแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024 เปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมแล้วทางเว็บไซต์ www.hondalpgathailand.com โดยสามารถติดตามข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ของงาน รวมถึงทางโซเชียลมีเดีย เฟซบุ๊ก www.facebook.com/lpgaThailand และอินสตาแกรม https://www.instagram.com/hondalpgathailand

วันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2567

เปิดฉากอลังการ! “บิ๊กบอส-ชาตรี” นำทัพนักกีฬา ONE มอบของขวัญชาวไทย ด้วย 2 ผลงานกระหึ่มโลกรับปี 2567


ONE เปิดศักราชใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยความมันขั้นสุดของศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในศึก ONE Fight Night 18: ชามิล vs โฮ เทก ยกทัพนักกีฬาแถวหน้าจากทั่วโลกมาประชันฝีมือ ที่ สนามมวยเวทีลุมพินี

วันที่ 13 ม.ค.นี้ พร้อมเปิดตัว “The Apprentice: ONE Championship Edition” ซีซัน 2  อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยถือเป็นรายการซีรีส์เรียลลิตีสุดฮิตทีโด่งดังไปทั่วโลก และ ออกอากาศ ผ่านทาง Netflix กว่า 25 ประเทศในแถบเอเชีย

นายชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้ง ประธาน และซีอีโอของ ONE กล่าวว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดของวัน แชมเปียนชิพ ผลักดันให้เกิดการแข่งขันที่สนุก ตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นในทุกรายการ และมีเป้าหมายสำคัญในการบุกศูนย์การของตลาดการต่อสู้ในต่างประเทศมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น,กาตาร์ และปักหมุดในการครองเจ้าตลาดที่ประเทศสหรัฐอเมริกาให้ได้ 

เริ่มศักราชใหม่ด้วย ศึก  ONE Fight Night 18 ในวันเสาร์ที่ 13 มกราคม ที่สนามมวยเวทีลุมพินี การแข่งขันที่รวมนักกีฬาชื่อดังจากทั่วโลก และยังมี “The Apprentice: ONE Championship Edition” ซีซัน 2 สุดยอดเรียลลิตีระดับโลกที่พร้อมเสิร์ฟให้กับแฟนทั่วโลก ความบันเทิงระดับโลกนี้จะประสบความสำเร็จสูงสุดและครองใจผู้ชมเช่นเดิม

สำหรับศึก ONE Fight Night 18 คู่เอกของรายการ “ชามิล กาซานอฟ” จอมซับมิชชันจากรัสเซีย ผู้รั้งอันดับ 4 ของแรงกิง ONE MMA รุ่นเฟเธอร์เวต (145 – 155 ป.) ดวลฝีมือนักสู้อันตรายจากแดนกิมจิ
“โอ โฮ เทก”  ภายในงานยังได้มีการเปิดให้สื่อมวลชนเข้าชม OPEN WORKOUT การซ้อมรอบพิเศษของสอง นักกีฬาไทย “รุ่งราวี ศิษย์สองพี่น้อง”และ “เสือแบล็ค ท.พราน49” 




ทั้งนี้ “รุ่งราวี ศิษย์สองพี่น้อง” แข้งเหล็กเมืองอุบลฯ พบกับ “ชากีร์ แอล เตครีติ” นักชกเชิงดีจาก อิรัก ที่ตั้งใจมาล้างแค้นแทนพี่ชาย “มุสตาฟา แอล เตครีติ” ซึ่งเคยถูกนักชกไทยเล่นงานมาก่อนหน้านี้ ด้าน
“เสือแบล็ค ท.พราน 49” เตรียมโชว์ฝีมือศึกแรกหลังคว้าสัญญา ONE ผู้แบกความหวังของ ทั้งหมู่บ้านมา เพื่อประกาศศักดานักสู้ชาวกะเหรี่ยงบนเวทียิ่งใหญ่ระดับโลก ปะทะคู่แข่งชาวไอริช “สเตฟาน โคโรดี” 

นอกจากนี้ยังมีการต่อสู้ของนักกีฬายอดฝีมือจากทั่วโลก ได้แก่ การต่อสู้แบบผสมผสาน รุ่นแบนตัมเวต :  ควอน วอน อิล (เกาหลีใต้) พบกับ ชิเนชัตกา โซลเซตเซก (มองโกเลีย), อาร์เทม บีลัคฮ์ (รัสเซีย)  พบกับ เอ็งค์ ออร์กิล (มองโกเลีย), มาร์ค อาเบลาร์โด (นิวซีแลนด์/ฟิลิปปินส์) พบกับ อิบรากิม ดาอูเอฟ (รัสเซีย) , การต่อสู้แบบผสมผสาน เฮฟวีเวต : คัง จี วอน (เกาหลีใต้) พบกับ มิคาอิล จามาล อับดุลลาตีฟ (สหรัฐอเมริกา/เนเธอร์แลนด์), คิกบ็อกซิ่ง ไลต์เฮฟวีเวต : เบย์บูลาต อิซาเอฟ (รัสเซีย) พบกับ ยูริ ฟาร์เซส (โรมาเนีย), มวยไทย ไลต์เวต : เลียม โนแลน (สหราชอาณาจักร)   พบกับ  อาลี อาลีเอฟ (รัสเซีย)

ศึก ONE Fight Night 18 จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 13 ม.ค.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี  ซื้อบัตรได้ที่ Thaiticketmajor.com ถ่ายทอดสด เริ่มคู่แรกเวลา 08.00 น. รับชมทาง เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand,  ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) และช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 10.00 น.


นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวรายการซีรีส์เรียลลิตีสุดฮิต “The Apprentice: ONE Championship Edition” ซีซัน 2 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยเรื่องราวนำเสนอสุดยอดการเฟ้นหาผู้ร่วมงานกับ บิ๊กบอส ชาตรี ผ่านด่านสุดหินทั้งความแข็งแกร่งทางร่างกาย และทักษะที่เหนือชั้นทางธุรกิจ สนุก เข้มข้นครบรสและเป็นซีรีส์ทางธุรกิจที่แปลกใหม่ ประสบความสำเร็จมาแล้วจากซีซันที่ 1 ในปีที่ผ่านมา

ภายในงานแถลงข่าวมีการเปิดตัวผู้เข้าแข่งขันชาวไทย  “วาเนสซา หรือวรรณิสา เตชะพิเชฐวนิช”
โดยมีแขกรับเชิญคนพิเศษ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” แชมป์โลก ONE MMA รุ่นอะตอมเวตหญิง (105 - 115 ป.) ร่วมพูดคุยบนเวทีร่วมกับผู้เข้าแข่งขัน ได้แก่ “กอนซาโล แกสตัน เฮดฮันเตอร์” จากสเปน, “มานูเอลา โลเบลน” นักวิทยาศาสตร์และผู้ให้คำปรึกษาด้านการจัดการจากประเทศเปรูและ“โดรินา ชิไฮยา” จากประเทศโรมาเนีย เจ้าของบริษัทนำเข้าและส่งออกในกรุงเซี่ยงไฮ้ ซึ่ง โดรินา เคยเข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สเป็นตัวแทนของประเทศโรมาเนีย ในปี 2009 


“The Apprentice: ONE Championship Edition” ซีซัน 2 ยังมีเหล่าซีอีโอระดับโลก ที่จะร่วมเป็นเมนเทอร์ ด้านธุรกิจและพิจารณาตัดสินร่วมกับบิ๊กบอส ONE ตลอดซีซันนี้ ได้แก่ “อาซิส อัลุธมาน ฟาโคร”กรรมการ ผู้จัดการและซีอีโอของ Ooredoo Group, “ฟัตมะฮ์ ฮัสซัน อัล เรไมฮี” ซีอีโอของสถาบันภาพยนตร์โดฮา, “ซาเมียร์ ซายน์” ซีอีโอของ Everstone Capital, “รอน ซิม” ซีอีโอของ V3 Group และ “วิคราม สิงหา” ซีอีโอของ Indosat 

ทั้งนี้ ซีซัน 2 นี้มีนักกีฬาซูเปอร์สตาร์ ONE ร่วมเป็นแขกรับเชิญในภารกิจสุดโหด ไม่ว่าจะเป็น “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์”, “เคด รูไทโล” แชมป์โลก ONE ปล้ำจับล็อก รุ่นไลต์เวต (155 – 170 ป.), “โรแบร์โต โซลดิก” นักสู้ MMA ชื่อดังชาวโครเอเชีย, “จอห์น เวย์น พาร์” ตำนานนักมวยไทยชาวออสเตรเลีย และคนอื่นๆ
อีกมากมาย ผู้ชนะในรายการนี้ จะได้รางวัลเป็นสัญญาการทำงาน 1 ปี มูลค่า 250,000 เหรียญดอลลาร์ โดยประจำ ที่สำนักงานใหญ่ของวัน แชมเปียนชิพ ประเทศสิงคโปร์


ติดตามรับชม The Apprentice ONE Championship Edition ซีซัน 2  ทาง Netflix ได้แล้ววันนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์

กสอ. จัดกิจกรรมส่งท้ายหนุนผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน ด้วย “DIPROM: NextAgriX 2025

กสอ. จัดกิจกรรมส่งท้ายหนุนผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน ด้วย “DIPROM: NextAgriX 2025 : เครือข่ายธุรกิจ เพื่ออนาคต >> เริ่ม...

โวยวายดอทคอม