วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2567

จังหวัดนนทบุรีจัดกิจกรรมเดินแฟชั่นโชว์ ชุดผ้าไทยสไตล์นนท์ และกิจกรรมการประกวดออกแบบตัดเย็บชุดผ้าไทยสไตล์นนท์


วันนี้ (30 มี.ค. 67) ที่บริเวณสถานีกาชาดและชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนนทบุรี อุทยานเฉลิมพระกาญจนาภิเษก อำเภอเมืองนนทบุรี  จังหวัดนนทบุรี  นายสุธี  ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วย นางสุนิชฌาน์ ทองแย้ม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนนทบุรี เป็นประธานในงานกิจกรรมเดินแฟชั่นโชว์ ชุดผ้าไทยสไตล์นนท์ และกิจกรรมการประกวดออกแบบตัดเย็บชุดผ้าไทยสไตล์นนท์  โดยมีการบูรณาการและมอบหมายให้นางรักใจ กาญจนะวีระ พัฒนาการจังหวัดนนทบุรี และทีมงานสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนนทบุรีเป็นหน่วยงานหลักในการร่วมขับเคลื่อนกิจกรรม  ทั้งนี้เพื่อพัฒนาผ้าไทยเข้าสู่ตลาดแฟชั่น สร้างรายได้ให้ชุมชนสามารถจัดการออกแบบตัดเย็บ “ชุดผ้าไทยสไตล์นนท์” ในธีม "ผ้าไทยใส่ให้สนุก"ได้อย่างลงตัว  พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงคุณค่าและคุณภาพของผ้าไทย มีความสวยงาม

สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้จริงในทุกโอกาส ทั้งการเดินเที่ยว การไปทำงาน หรือทำกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ ที่ผ้าไทยสามารถนำมาตัดแต่งเติม เสริมความงาม เสริมเสน่ห์ และความลงตัวของการแต่งกาย สามารถสะกดทุกสายตา สร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นให้พี่น้องประชาชนทุกช่วงวัยหันมาเลือกผ้าไทยสวมใส่ในชีวิตประจำวันกัน



#เดินแบบผ้าไทย

#ผ้าไทยใส่ให้สนุก

#ชุดไทยสไตล์นนท์

#ออกแบบชุดผ้าไทยสไตล์นนท์

#จังหวัดนนทบุรี

#พช_นนท์

ทอล์คโชว์การกุศล “โครงการหมอสะอาด ทำดี ได้ดี”


เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2564 เวลา 14:00 น ถึง 16:00 น ที่ผ่านมา ณ หอประชุมใหญ่บพิตรพิมุขมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ  โครงการหมอสะอาด จัดกิจกรรมทอล์คโชว์การกุศล “โครงการหมอสะอาด ทำดี ได้ดี “ โดย “พระอาจารย์สุโชติปฺชโชโต” ประธานโครงการหมอสะอาดสำนักสงฆ์ป่ามะขาม ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานจัดงาน  โดยมีวิทยากรนักพูดในตำนาน อ.จตุพล ชมพูนิช กับอาจารย์เสน่ห์ ศรีสุวรรณ  ในงานนี้ได้มีกิจกรรมหลากหลาย อาทิเช่น การแสดงดนตรีของกลุ่มเยาวชนศิลปินน้องเพชรและเพื่อนๆ กิจกรรมการแยกขยะจำลองบนเวที เป็นต้น





PETCH เพชร Petty Rock  มือกีตาร์ชาวไทย ที่ปัจจุบัน เซ็นต์สัญญาออกเพลงกับค่ายเพลงระดับโลกอย่าง River Man  ที่ดูเเลวง อย่าง Deep Purple , Alice Cooper , Placebo เเละในอดีตเคยดูแลวง Nirvana  น้องเพชร เริ่มเล่นกีตาร์ตอน 5 ขวบ จนก้าวสู่ระดับโลกและกำลังจะไปทัวร์คอนเสิร์ตกับ Deep Purple เร็วๆนี้   ซึ่งกำลังจะเดินทางไปโชว์ตัวใน 6 ประเทศ 

โดยมีผลิตภัณฑ์เสื้อยี่ห้อ haas  ได้มอบทุนสนับสนุนเป็นค่าเดินทางเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท  ในงานนี้ “พระอาจารย์สุโชติ” ประธานโครงการหมอสะอาดได้เล่าถึงที่มาของโครงการหมอสะอาดอันมีประวัติความเป็นมา น่าสนใจและได้กล่าวถึง “นิตยา ลักษณวิสิษฐ์”  ซึ่งเป็นผู้ติดทองหลังพระให้การสนับสนุนโครงการหมอสะอาดจนทำให้มีวันนี้

นอกจากนี้ยังจัดให้มีกิจกรรมคืนสู่เหย้าของกลุ่มยุวทูตน้อยหมอสะอาด ซึ่งมีเยาวชนหมอสะอาด อาทิเช่นน้องเจสสิก้าคิง  ยุวทูตน้อยหมอสะอาดคนแรกของโครงการ ทูตวัฒนธรรมหมอสะอาดคนแรกของประเทศไทยน้องพู่กัน เด็กชาย  สมาวรรธน์ เพชรประสิทธิ์  ดารานักแสดงรุ่นเยาว์วัยรุ่นซึ่งเป็นยุวทูตรุ่นแรกๆของโครงการและยังมี “น้องจัส” นักเรียนพระราชทานจากโรงเรียนมหาไถ่ขอนแก่นพร้อมเพื่อนๆ TJ Dance อาทิเช่นน้องนิโคลน้องกีวีและเหล่าผองเพื่อนในงานที่เป็น เยาวชนจิตอาสาหมอสะอาด  และในงานนี้ยังมีการร่วมรุ่นคืนสู่เหย้าของเหล่ายุวทูตน้อยหมอสะอาด รุ่นแรกของโครงการตั้งแต่ปี 2560 อีกด้วย

ในงาน มีจัดเลี้ยงเย็นตาโฟ  2 สี  ผู้ร่วมรับประทานอาหารได้ ร่วมกิจกรรมเคาน์เตอร์แยกขยะ  จุดส่งคืนบรรจุภัณฑ์  ที่จัดเตรียมไว้ โดยมีเหล่า จิตอาสาหมอสะอาด  คอยให้บริการแนะนำ  ซื่งจุดส่งคืนบรรจุภัณฑ์ ถือเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น หนึ่งเดียวในโลกของ โครงการหมอสะอาด  

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม ให้แขกผู้มีเกียรติ ร่วมกิจกรรม เคาน์เตอร์แยกขยะจำลองบนเวที นำโดยหม่อมหลวงสุธีเทพ จรูญโรจน์ ,  ซิสเตอร์ ดร. ชวาลา เวชยันตต์  จากโรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง โรงเรียนต้นแบบศูนย์เรียนรู้โครงการหมอสะอาดสากล  , บาทหลวงชิตชนนท์ แสงประดับ ผู้จัดการ โรงเรียนดรุณาราชบุรีวิเทศศึกษา , บาทหลวงพงศ์ศิระ คำศรี ผู้จัดการ โรงเรียนเซนต์ยอแซฟยานนาวา , ซิสเตอร์ซิสเตอร์พรทิพย์ กันทู โรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง, พระมหาวรา โชติวโร ผู้อำนวยการหน่วยเผยแผ่ศีลธรรมกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม วัดป่าสุนทรธรรมาราม จังหวัดชุมพร  คณะภิกษุสงฆ์และแขกผู้มีเกียรติ
ขึ้นร่วมกิจกรรมเคาน์เตอร์แยกขยะจำลองบนเวที




ในงานนี้มีผู้ใหญ่ที่ให้การสนับสนุนโครงการหมอสะอาดเข้าร่วมงานจำนวนมากจากหลากหลายสาขาอาชีพ ซึ่งเป็นทั้งเครือข่ายเก่าที่มีอยู่แล้วและเครือข่ายใหม่ที่เข้ามาตลอดงานอย่างอบอุ่น  สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน ในกิจกรรมทอล์คโชว์ของ อาจารย์เสน่ห์ศรีสุวรรณ และ อาจารย์จตุพร ได้รับความประทับใจ เสียงหัวเราะ และความประทับใจเป็นอันมาก ถือว่าการจัดงานในครั้งนี้ เป็นการรวมพลทำให้เกิดแรงบันดาลใจและความเข้าใจต่อเนื่อง ซึ่งจะเกิดกิจกรรมต่อไปในภายภาคหน้า

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

งานจบยังช็อปต่อได้ สินค้าโอทอปนิยามใหม่กระแสไม่ลด

ใครที่พลาดชมและช็อปในงาน STYLE Bangkok 2024 ซึ่งนำสินค้าโอทอปมาแปลงกาย ใส่ความคิดสร้างสรรค์สุดล้ำ ต่อยอดมรดกวัฒนธรรมและงานฝีมือท้องถิ่นให้ก้าวสู่ตลาดโลกได้อย่างน่าภาคภูมิใจ โชว์ศักยภาพของนักคิด นักออกแบบไทยในอุตสาหกรรมสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น ลองมาดูบางตัวอย่างสินค้า OTOP ที่รวบรวมไว้ในบูธ OTOP Marche ว่ามีอะไรบ้างและน่าสนใจขนาดไหน                                                                                                                                                                                                         Pheangjai เพียงใจ จากกำแพงเพชร นำเศษโฟมยางพาราที่เหลือจากโรงงานผลิตหมอนยางพารามาออกแบบตัดเย็บใหม่ โดยนำแรงบันดาลใจจากภูมิปัญญาการเย็บที่นอนและหมอนโบราณมาออกแบบรูปทรงสมัยใหม่ เป็นรูปใบไม้และใบบัว ต่อยอดธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน  

Thansuda ธัญสุดา ผู้ผลิตเครื่องหนังจากนนทบุรี นำเศษหนังที่ย่อยสลายยาก มาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วต่อกันเป็นรูปทรงใหม่ของสินค้าไลฟ์สไตล์ที่สวยเก๋สะดุดตาเช่น กระเป๋า โคมไฟ พวงกุญแจ 

NERA by Natipong ลูกปัดมโนราห์ จากสงขลา นำอัตลักษณ์ของชุมชน ผสานกับศักยภาพของช่างฝีมือที่มีอยู่แล้ว มาต่อยอดเป็นของใช้ของตกแต่งที่ทำจากลูกปัดมโนราห์ เช่น กระเป๋า เครื่องประดับ และสินค้าไลฟ์สไตล์ต่างๆ 

Indie-Go กลุ่มแปรรูปผ้าย้อมสีธรรมชาติจากสกลนคร นำเศษผ้าย้อมครามซึ่งเป็นสินค้า GI ของจังหวัดมาตัดต่อสไตล์ patchwork ขึ้นรูปกระเป๋า โดยบรรจงคัดสรรคู่สีและเสริมความแข็งแกร่งด้วยผ้าแคนวาส ผ้ายีนส์ และหนัง กลายเป็นงานฝีมือที่ละเอียดประณีต

AMPHAN จากแม่สอด ผลิตถ่านดูดกลิ่นรูปทรงทันสมัย โดยนำเศษเมล็ดปาล์มที่เหลือจากการเผาในโรงสีมาต่อยอดด้วยดีไซน์ ผสมกับงานปั้นด้วยมือ 

Hin Din Zign ผู้ผลิต Art Toy จากเซรามิก ภายใต้แบรนด์หินดินทราย โดยนำพุทธศิลป์มาเป็นแรงบันดาลใจ แต่ละชิ้นเป็นงานปั้นมือ นำเสนอคอลเลคชั่นล่าสุุด ชื่อ กองทัพธรรม ผสมผสานพระพุทธรูปกับหุ่นยนต์ เพื่อให้โดนใจนักสะสม Art Toy

Silathip ศิลาทิพย์ครกหิน จากตาก คิดนอกกรอบโดยนำหินแกรนิตมาออกแบบและแปรรูปให้กลายเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและมีประโยชน์ใช้สอย ทั้งของใช้ในบ้าน ในสำนักงานและเครื่องประดับ  

Vichaikul Lacquerware วิชัยกุลเครื่องเขินจากเชียงใหม่ นำภูมิปัญญาเทคนิคการทำเครื่องเขินที่สืบทอดมาเป็นรุ่นที่ 6 ผสานกับเทคโนโลยีทันสมัยในการเคลือบผิวให้เกิดความทนทาน หยิบลวดลายโบราณมาลดทอนให้เกิดความร่วมสมัย กลายเป็นสินค้าของใช้ประจำวัน เช่น กระเป๋า เคสโทรศัพท์ พวงกุญแจ

Phet Ploy Jewelry จากจันทบุรี รับประกันว่าพลอยทุกเม็ดผ่านพิธีกรรมเป็นพลอยสายมูโดยแท้้ นำเสนอเครื่องประดับที่ออกแบบสำหรับปีนักษัตรนี้ด้วยมังกรทองกับนพเก้า 

 Primapearl ผลิตเครื่องประดับไข่มุกในภูเก็ตมาเป็นรุ่นที่ 3 รีแบรนด์เป็นพรีม่าเพิร์ล และนำวัสดุอื่น เช่น เปลือกหอยมุกมาประยุกต์เป็นเครื่องประดับตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน

 Worlacha ชุมชนทุ่งบัวหลวง ปทุมธานี ภายใต้แบรนด์วรชา นำก้านดอกบัวหลวงมาทำเป็นเส้นใย ผลิตเสื้อ กระโปรง กางเกง และผลิตภัณฑ์จากผ้าที่มีนวัตกรรม ทันสมัยและรักษ์โลก


นอกจากนี้ยังมีโอทอปอีกหลายแบรนด์ เช่น Panitan ปณิธาน ห้องเสื้อที่เน้นเส้นใยธรรมชาติ, Piyasila ปิ
ยสีลา ผลิตสินค้าแปรรูปจากเส้นใยกัญชง,  V ve Jewelry วีเว่ จิวเวลรี่ เครื่องประดับพลอยสไตล์มินิมอล, Paper Art Thai เปเปอร์อาร์ตไทย นำกระดาษมาแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดูเหมือนเซรามิก Mae Ing Shibori and Ingtara แม่อิงชิโบริ และอิงตารา วิสาหกิจชุมชนผ้ามัดย้อมชิโบริสีธรรมชาติ, Maka Design มาฆะ ดีไซน์ ปั้นหนังเป็นดอกรักแล้วนำมาร้อยเป็นพวงมาลัย Luxses รักษ์เศษ นำเศษผ้ามาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ Pawana Design ภาวนาดีไซน์ เน้นเสื้อผ้าจากวัตถุดิบธรรมชาติ ForFun Studio เซรามิกทำมือภายใต้แบรนด์ฟอฟัน    Yayee แบรนด์ผ้าปาเต๊ะยาหยี นำสถาปัตยกรรม Sino-Portuguese ที่โด่งดังของภูเก็ตมาพิมพ์บนผ้าและตัดเย็บเป็นชุดที่มีเอกลักษณ์ เป็นต้น                                                                                                                                                                                                                                               ผู้สนใจสามารถติดตามและเข้าไปชมผลงานของนักออกแบบไทยเหล่านี้เพิ่มเติมได้ที่ www.stylebangkokfair.com หรือ Facebook/Instagram/TikTok : Style Bangkok Fair
หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169 หรือสั่งซื้อสินค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของแต่ละแบรนด์

ทรูจาจัง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ อีกหนึ่งร้านเด็ดย่านเจริญกรุงที่ต้องมาลอง

ร้านอาหารสไตล์คอมฟอร์ ชวนสัมผัสความอร่อยของเมนูและอาหารสไตล์เกาหลีแบบคอมฟอร์ตฟู้ด ผ่านบรรยากาศสบายๆ ไปกับร้าน TRUE JJAJANG “ทรูจาจัง” Korean Chinese Cuisine 

เมนูอาหารแบบฉบับเกาหลีดั้งเดิม เปิดใหม่ย่าน เจริญกรุง วัดพระยาไกร ใครอยากลองทานอาหารเกาหลีกับรสชาติแบบดั้งเดิม ต้องมาทาน บอกเลย อร่อยเหมือนไปทานที่เกาหลีพร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารเกาหลีรสชาติต้นตำรับ วัตถุดิบจากประเทศเกาหลี  พร้อมรองรับทุกช่วงเวลามื้ออร่อยจากเมนูจาจังมยอน รส ดั้งเดิมเส้นสด  มีหลากหลายเมนู เมนูเด็ดของร้านที่ต้องห้ามพลาด 

ทรูจาจัง ร้านอาหารเกาหลีย่านเจริญกรุง77 รสชาติเกาหลี จากเชฟเกาหลีเเท้ สูตรต้นตำรับ ทุกเมนูผ่านการคิดค้นสูตรจาก “เชฟเกาหลี”  มั่นใจได้ในคุณภาพของวัตถุดิบ และรสชาติเข้มข้นสไตล์เกาหลีแท้ พร้อมการบริการสุดอบอุ่นหัวใจ ในราคาสุดคุ้มค่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ร้าน

สำหรับเมนูจังมยอน ที่เป็นไฮไลท์ไม่ว่าใครที่มา “ทรูจาจัง” แห่งนี้ ต้องสั่งมาลองรับประทาน  ที่เสิร์ฟความอร่อยด้วยเส้นสดนุ่มหนึบ คลุกเคล้าซอสรสชาติดั้งเดิมแบบฉบับเกาหลีแท้ๆ 

เมนูต่อมาคือ จัมปง เผ็ดร้อน กลมกล่อม เส้นสดเหนียวนุ่มกำลังดี คลุกเคล้ากับเส้นสดที่ทำเอง เครื่องซีฟู้ดเยอะจัดเต็ม รสชาติเข้มข้น ที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนชวนหิวตั้งแต่เมนูยังไม่ลงเสิร์ฟที่โต๊ะ อร่อยครบรสได้ในจานเดียว ด้วยราคาประหยัด

TRUE JJAJANG “ทรูจาจัง” Korean Chinese Cuisine
ในส่วนของบรรยากาศสาขาถูกออกแบบตกแต่งมาให้มีความโมเดิร์นคลาสสิก ด้วยการใช้โทนสีที่ให้ความรู้สึกสว่าง ผ่อนคลาย และอบอุ่นอย่างมีระดับ เพดานมีความสูงโปร่งทำให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการรู้สึกโล่งสบายมีการใช้เฟอร์นิเจอร์ ผสมผสานกับผ้าบุโซฟา ให้ความเรียบง่าย นั่งสบาย และมีความเป็นธรรมชาติ มีโซนรองรับทั้งชั้น 1 และชั้น2 สำหรับรองรับลูกค้า  ซึ่งทั้งสองโซนสามารถรองรับ ลูกค้าที่มาใช้บริการทั้งแบบมาเดี่ยว มาเป็นคู่ ตลอดจนมาเป็นกลุ่มได้ และอีกหนึ่งความพิเศษของ “ทรูจาจัง” ทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์เกาหลี ตอบโจทย์ สำหรับผู้ที่อยากออก ไปรับประทานข้าวนอกบ้าน หรือสั่งไปทานที่บ้านได้ง่ายๆ มีพื้นที่และยินดีต้อนรับให้ได้ร่วมทานอาหารกับครอบครัวได้อย่างสบายใจอีกด้วย





จุดเริ่มต้นของ จาจังมยอน สืบย้อนกลับไปถึงสมัยราชวงศ์โชซ็อน เมื่อโชปิดอินช็อนเป็นเมืองท่า ชาวจีนจำนวนมากจากชานตงจึงอพยพมาอาศัยในย่านหนึ่งของเมือง ซึ่งทุกวันนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่ออินช็อนไชนาทาวน์ชาวจีนเป็นผู้ตั้งร้านอาหารจีนแลซ็อนเะดัดแปลงสูตรแบบดั้งเดิมให้เข้ากับความชอบของชาวเกาหลี

สำหรับเมนูที่เป็นไฮไลท์ไม่ว่าใครที่มา TRUE JJAJANG แห่งนี้ ก็ต้องสั่งมาลองรับประทาน จาจังมยอน  หรือบะหมี่ซอสดำรสชาติเข้มข้น  เส้นสดเหนียวนุ่มกำลังดีเส้นสดคลุกเคล้าซอสราดซอส Black bean sauce รสชาติเข้มข้น 

จัมปง เผ็ดร้อน กลมกล่อม คลุกเคล้ากับเส้นสดที่ทำเอง เครื่องซีฟู้ดเยอะจัดเต็ม เส้นเหนียวนุ่มอร่อย

ทังซูยุก หมูทอดผัดซอสเปรี้ยวหวาน #ทังซูยุค สูตรเด็ดจากเชฟเกาหลี ด้านนอกกรอบ เนื้อหมูด้านในชุ่มฉ่ำ ซอสเปรี้ยวอมหวานกำลังดีหมูสันนอกทอด ราดซอสรสชาติเปรี้ยวอมหวาน 

จาจังมยอน / จัมปง / ทังซูยุค

เมนูใหม่ของร้าน

เจยุค ผัดหมูแดง / เนื้อบุลโกกิ



อร่อยทุกเมนูเจอกันที่ร้าน หรือสั่งเดลิเวอร์รี่ก็เจอกันที่บ้าน

💚 Lineman ✅Grab 🧡Shopee 

True Jjajang Korean Cuisine 

ร้านอาหารเกาหลีฟีลตามสั่งร้านเด็ดย่านเจริญกรุง

พิกัด : ถนน เจริญกรุง 77 (ติดกับตึก HP Tower)

https://maps.app.goo.gl/uV9F1Nx3D9zRYdhY9

เปิดทุกวัน 11.00-21.30

 โทร. 02-002-2655 

 Line : @truejjajang



ร้านทรูจาจัง มีที่จอดรถใกล้ๆไม่ต้องเดินไกลสะดวกสบาย

-ตึกHP รถยนต์ 40บาท/ชม.

-จักรยานยนต์ 20บาท

-มวยไทย รถยนต์ 30บาท/ชม.

#truejjajang #นึกถึงอาหารเกาหลีนึกถึงทรูจาจัง #ทรูจาจัง #ร้านเด็ดบอกต่อ #koreafood 

#ร้านอาหารใกล้ฉัน #ร้านอาหารเจริญกรุง #จาจังมยอน #จัมปง #ทังซูยุก #koreanfood #deliciousfood

#toptotravel


ป่าน วงวีทรีโอ ผุดธุรกิจเพื่อสุขภาพ “Wenzel Organic Farm Khao Yai”

 แลนด์มาร์กสุขภาพดี๊ดีแห่งใหม่ของเขาใหญ่

คุณกัญภัส ศรีณรงค์ ชยานุวัฒน์ หรือ ป่าน วงวีทรีโอ  หนึ่งในเจ้าของธุรกิจโรงเรียนวีมุส แตกไลน์ธุรกิจเพื่อสุขภาพออแกนิคแบบยั่งยืน  นำที่ดินครอบครัว 9 ไร่ ในเขาใหญ่ เนรมิตเป็นฟาร์ม ภายใต้ชื่อ Wenzel Organic Farm Khao Yai   เกิดจาแรงบันดาลใจของป่านและสามี (แชมป์ - นพพล ชยานุวัฒน์) ช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาด  จึงเกิดไอเดียเมื่อเราใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งสามีป่านเป็นหัวเรือใหญ่ลงแรง ศึกษาองค์ความรู้ด้านการปลูกอย่างจริงจังและนำโนฮาวน์มาใช้ให้เหมาะสมในการปลูกแต่ละฤดูบริเวณที่ดินเขาใหญ่  ต้องการให้เกิดความยั่งยืนด้านสุขภาพจริงๆค่ะ

จุดเริ่มต้นเล็กๆของเราสองคน  จากการปลูกถั่วงอก ปลูกผักง่ายๆ  รวมระยะเวลากว่า 4 ปี และวางแผนการบริหารจัดการที่เป็นระบบ ต่อยอดด้วยการยกระดับถมดินขึ้นเพื่อทำเป็นร้านอาหารรองรับในฟาร์ม และเปิดโซนใหม่ AI fresco Dining Experience ซึ่งลูกค้าที่มาใช้เป็นบริการเป็นกลุ่มครอบครัว หรือคู่รัก ที่ชื่นชอบวิถีธรรมชาติ อาหารที่ไม่ปรุงแต่ง โต๊ะอาหารอยู่ท่ามกลางฟาร์มผัก ได้บรรยากาศที่สุด Exclusive เพราะมีแค่โต๊ะเดียว รวมถึงได้สูดอาการสดชื่นที่โอบล้อมไปด้วยภูเขารอบด้าน  เปิดให้บริการในช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ และอังคาร เท่านั้น ช่วงเวลา 17.00 น.เป็นต้นไป 

ขณะนี้ส่วนร้านอาหารของฟาร์มยังรองรับจำนวนลูกค้าจำกัด จึงทำให้ลูกค้าต้องโทรจองล่วงหน้าเพื่อความสะดวกแน่นอนความตั้งใจของป่านเพื่อให้ลูกค้าเห็นวิวสวย พระอาทิตย์ตก นั่งรับประทานอาหารที่ดีต่อร่างกายสูดอากาศบริสุทธ์ใกล้ชิดธรรมชาติ มีความสุขและอิ่มใจที่ได้รับการตอบรับอย่างดี ”




“สำหรับป่าน วันนี้มีฐานลูกค้าที่เป็นลูกค้าประจำ ยังคงสั่งสินค้าจากฟาร์มสม่ำเสมอ ธุรกิจผักที่เราปลูกล้วนคุณภาพ  เช่น ไข่ไก่ โดยเราได้ไปศึกษาข้อมูลการเลี้ยงไก่จากประเทศญี่ปุ่น มาผสมผสานในสไตล์ฟาร์มเราค่ะ ไม่กักขัง เลี้ยงด้วยการปล่อยให้เดินเป็นธรรมชาติ ไก่เราจะอารมณ์ดีและมีความสุข  เราเองลองผิดลองถูก จนได้สูตรน้ำหมักส่งต่อความปลอดภัยไปยังลูกค้าทุกท่าน ทุกการใส่ใจผลิตภัณฑ์เพื่อให้ผลิตผลผัก อาทิ กวางตุ้ง ขึ้นฉ่าย ต้นหอม ตะไคร้ ขิง ข่า ผักชี ใบกระเพรา ให้ได้คุณภาพ รวมถึงได้ทราบว่าฤดูใดควรปลูกอะไรที่เหมาะสมตามฤดูกาลอีกด้วย 

ทั้งนี้กลุ่มเป้าหมาย เน้นกลุ่มรักษ์สุขภาพ ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก หรือลูกๆ พาคุณพ่อคุณแม่มารับประทาน นับว่าการตอบรับได้ดีมากขึ้น กลยุทธ์ ปากต่อปาก  กลุ่มสินค้าขายดีอันดับ 1 ไข่ไก่ สีส้มสดสวย เราไม่มีหน้าร้านจึงเปิดให้จองพรีออเดอร์คะ  นอกจากนี้ยังมีไส้กรอกโฮมเมด , ผักสลัด  เคล็ดลับระหว่างลูกค้ากับทางเราคือใส่ใจและก็จดจำลูกค้าได้คะ ไม่ให้มีช่องว่าง ป่านต้องขอขอบคุณลูกค้าที่เข้าใจผลิตภัณฑ์ผักที่ปลอดสารพิษออแกนิค ใบไม่ได้สวยเป๊ะ มีรอยรูบ้างก็ยังคงซื้อสม่ำเสมอ ทุกการซื้อสินค้าหรือมาอุดหนุนเป็นกำลังใจให้แก่ป่านและสามี รวมถึงทีมที่ทำงานฟาร์มค่ะ”



อย่างไรก็ตามธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพกำลังมาแรง หลังไวรัส-19 ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพตัวเองมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย ภาพรวมในต่างประเทศก็คึกคัก การเติบโตในปี 2024 นี้ คาดว่าฟาร์ม Wenzel Organic Farm Khao Yai   จะมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์จากการประชาสัมพันธ์และการแอคทีฟการออนไลน์

สามารถติดตามผ่าน FB : Wenzel Organic Farm Khao Yai
หรือแอปพลิเคชั่น Line : @wenzelfarm และ  IG : wenzel.organic.farm

วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567

พยัคฆ์ มอเตอร์ ปลื้ม EV BIKE กระแสตอบรับดี ตั้งเป้าเสิร์ฟมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเข้าถึงทุกกลุ่มผู้ใช้งาน


นายภาณุ ศีติสาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท พยัคฆ์ เพาเวอร์ คอร์ป และบริษัท พยัคฆ์ มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า จากสถิติของกรมการขนส่งทางบก เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ระบุว่ามีรถจักรยานยนต์ขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย จำนวน 22,137,636 คัน ยังไม่รวมรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอีกจำนวนมากที่ไม่ได้อยู่ในระบบขึ้นทะเบียน หลายปัจจัยที่ทำให้คนไทยหันมาขับขี่ยานยนต์สองล้อ ปัญหาการจราจรติดขัดในวิกฤตช่วงเวลาเร่งด่วน ระบบขนส่งมวลชนไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ เข้าถึงเฉพาะถนนสายหลัก ตรอกซอกซอยจำนวนมากที่กระจายอยู่ทั่วเมือง หรือการใช้รถมอเตอร์ไซค์เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางไปยังระบบขนส่งสาธารณะ 


ขณะที่ภาครัฐส่งเสริมนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต และกำหนดให้ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายในกลุ่ม S-Curve พร้อมประกาศเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2065 ทุกภาคส่วนต่างตระหนักถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้อัตราการเติบโตของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ EV เป็นเมกะเทรนด์ที่น่าจับตา ด้วยเหตุผลการประหยัดเงินค่าน้ำมัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดภาวะโลกร้อน ปราศจากมลพิษทางเสียง ค่าใช้จ่ายการดูแลรักษาต่ำ ประกอบกับยานยนต์ไฟฟ้ามีสมรรถนะสูง เทคโนโลยีนำสมัย ดีไซน์สวย ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าและได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

พยัคฆ์ มอเตอร์ ดำเนินธุรกิจนำเข้า ประกอบ จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ และได้รับการแต่งตั้งจาก ZHEJIANG CFMOTO POWER ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ รถ ATV รถ UTV ชั้นนำของโลกและเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ZEEHO (ซีโฮ่) ประเดิมเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยการจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง 3 รุ่น คือ AE6+, AE8+ และ AE8 S+ ภายใต้การควบคุมด้านคุณภาพจาก CFMOTO โดยตรง ด้วยสมรรถนะคุณภาพสูง ดีไซน์โดดเด่นสะท้อน DNA แบรนด์ ZEEHO และเทคโนโลยีล้ำสมัย ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ใช้ในเวลาอันรวดเร็ว ล่าสุดในปีนี้เปิดตัวใหม่ 2 รุ่น คือ ZEEHO AE2 รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด และ ZEEHO C!TY SPORT รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ ทุกรุ่นตอบโจทย์ความต้องการและเข้าถึงทุกกลุ่มผู้ใช้งาน ในระดับราคา 35,000 - 150,000 บาท 


นายพุทธพงศ์ สมใจ ZEEHO Product Advisor บริษัท พยัคฆ์ มอเตอร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า จากการสำรวจข้อมูลและวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พบว่า ผู้ขับขี่จำนวนมากต้องการรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที่ตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ เข้าถึงทุกช่วงวัย ใช้งานง่ายไม่ซ้ำซ้อน เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานขับขี่ในบริเวณที่พักอาศัย สถานที่ภายใน เช่น สำนักงาน โรงแรม แคมปัส หรือการเดินทางที่ไม่ไกลนัก จึงได้นำ ZEEHO AE2 มารองรับความต้องการของผู้ใช้งานในกลุ่มนี้ ซึ่งพบว่าในจำนวนนี้มีทุกเพศและทุกช่วงอายุ วัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงวัย คาดว่าความต้องการของตลาดในเซกเม้นต์นี้จะมีค่อนข้างสูง นอกจากนี้ ทาง พยัคฆ์ มอเตอร์ ได้นำเสนอรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ AE6SE และ AE8SE เพื่อรองรับความต้องการและขยายฐานกลุ่มลูกค้าที่สนใจ AE6 และ AE8 ในรูปแบบ Special Edition ซึ่งพร้อมจำหน่ายจริงในไตรมาส 3 ของปีนี้ และนอกจากนั้นจากการเก็บรวบรวมข้อมูลยังพบว่า อัตราความต้องการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มผู้ใช้งานเชิงพาณิชย์ ได้แก่ กลุ่มไรเดอร์ กลุ่มโลจิสติกส์ ขนส่งพัสดุ ธุรกิจอาหาร กลุ่มที่ให้บริการเดลิเวอรี่ ตลอดจนกลุ่มลูกค้าองค์กร มองว่า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจะช่วยองค์กรประหยัดค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนค่าครองชีพได้ คาดการณ์ว่า ยอดความต้องการรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทั้ง Home Use และการใช้งานเชิงพาณิชย์ภายในปีนี้ น่าจะมีแนวโน้มเติบโตก้าวกระโดดอย่างแน่นอน

ขณะเดียวกัน เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเป็นที่นิยม การรองรับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตย่อมจำเป็นอย่างยิ่ง พยัคฆ์ มอเตอร์ ร่วมกับ พาวเวอร์ เน็คซ์ คิดค้นแพลตฟอร์มระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ 72V สำหรับระบบนิเวศ (Ecosystem) รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบสลับแบตเตอรี่ ด้วยการพัฒนา Smart Battery ในรูปแบบ Swappable ซึ่งเป็นลิเธียม แบตเตอรี่ ที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด UN R136 ตลอดจนทั้งระบบตู้ชาร์จแบบสลับแบตเตอรี่ Fast Charge ที่เชื่อมต่อ Big Data ผ่านเครือข่ายอัจฉริยะประสิทธิภาพสูง True5G ระบบแพลตฟอร์ม 72V มาพร้อมระบบโครงข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบสลับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย ทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทั้งความเร็วและระยะทาง เหมาะกับการใช้งานในภาครัฐและเอกชน ธุรกิจรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ บริการจัดส่งอาหารและพัสดุ ซึ่งทาง พยัคฆ์ มอเตอร์ และ พาวเวอร์ เน็คซ์ เปิดรับพันธมิตรที่สนใจร่วมลงทุน เพื่อรองรับความต้องการในอนาคต


ปัจจุบัน พยัคฆ์ มอเตอร์ มีตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและศูนย์บริการ ทั้งจากการร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายและพันธมิตร จำนวนมากกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ โดยในไตรมาส 2 คาดว่าน่าจะเพิ่มจากเดิมอีก 20 แห่ง รวมกว่า 50 แห่ง เพื่อมอบความมั่นใจให้กับผู้ใช้ด้วยคุณภาพ บริการหลังการขาย และการควบคุมคุณภาพภายใต้บริษัทฯ ผู้ผลิตจากต่างประเทศ ในปีนี้ พยัคฆ์ มอเตอร์ ตั้งเป้ายอดขาย ไม่น้อยกว่า 2,000 คัน และวางเป้าหมายการเติบโตไม่น้อยกว่า 20% ในทุกๆ ปี เพื่อก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า




สนใจรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ZEEHO สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE OFFICIAL: @ZEEHO.THAILAND และ เฟซบุ๊กเพจ ZEEHO Thailand Official 

สนใจร่วมลงทุนระบบแพลตฟอร์ม 72V สอบถามได้ที่สายด่วน
โทร. 084 215 8989 หรือ Line ID: @powernext หรือ e-mail: info@powernext.co.th

ข่าวประชาสัมพันธ์

พม. จับมือ มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์, GDH, และ มูลนิธิ 5 For All พาคุณตา คุณยาย ไปดูหนัง

ส่งเสริมคุณค่าความสำคัญระหว่างผู้สูงอายุและครอบครัว วันนี้ 26 เมษายน 2567 เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดแถล...

โวยวายดอทคอม