วันพฤหัสบดีที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

ครั้งแรกไทย บลูแคนยอน ผนึกกำลัง เคแอลพีจีเอ ทัวร์ ระเบิดศึก บลู แคนยอน เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ

สนามกอล์ฟ บลู แคนยอน คันทรี คลับ หนึ่งในสนามกอล์ฟที่สวยงามที่สุดของประเทศไทย ได้รับการการันตีจากทั่วโลก ผนึกกำลังกับ เคแอลพีจีเอ ทัวร์ ลีคกอล์ฟอาชีพหญิงของ เกาหลีใต้ แถลงข่าวจัดการแข่งขัน บลู แคนยอน เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ 2024 แข่งขันแบบสโตรคเพลย์ 3 วัน 54 หลุม ไม่มีการตัดตัว ชิงเงินรางวัลรวม 650,000 เหรียญสหรัฐ (หรือราว 22,750,000 บาท) ระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคม 2567 ณ สนาม บลู แคนยอน คันทรี คลับ จ. ภูเก็ต 



งานนี้ได้รับเกียรติจากคุณประพันธ์ อัศวอารี ประธานกรรมการ บริษัท บลู แคนยอน คันทรี คลับ จำกัด เป็นประธานในงานแถลงข่าว โดยมี คุณมีนา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้ช่วยประธานบริหารด้านการตลาด บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด และ คุณพิชญา พูลสถิติวัฒน์ (ผู้นําเข้า และ ตัวแทนจําหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์ ANEW Golf และ SParms ประเทศไทย) ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วย สามนักกอล์ฟสาว “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ, “โปรสตางค์”กรกมล      ศุขอารีย์, และ “น้องน้ำผึ้ง” นวพร สุนทรียภาส นักกอล์ฟสมัครเล่นทีมชาติไทย ร่วมแถลงข่าว ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567


คุณประพันธ์ อัศวอารี ประธานกรรมการ บริษัท บลู แคนยอน คันทรี คลับ จำกัด กล่าวถึงจุดประสงค์ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ว่า "นับเป็นเกียรติที่สนาม บลูแคนยอนฯ ได้เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันเป็นเวลา 3 ปีและนี่ก็คือครั้งแรกที่ เคแอลพีจีเอ ทัวร์ มาจัดการแข่งขันที่ประเทศไทยและยังมีเงินรางวัลรวมสูงถึง 650,000 เหรียญสหรัฐ (22,750,000 ล้านบาท) เราดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมพัฒนา และส่งเสริมกีฬากอล์ฟในเมืองไทยให้ก้าวสู่เวทีระดับโลก ที่ผ่านมามีนักกอล์ฟสตรีของไทยจำนวนมากที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติมาโดยตลอด สิ่งเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นของวงการกอล์ฟในเมืองไทยและยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกอล์ฟเยาวชนรุ่นต่อๆไปอีกด้วย อีกทั้งการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ ผมเชื่อว่าจะส่งผลไปในส่วนอื่นๆ เช่น การกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเอง เนื่องจากมีการถ่ายทอดสดไปทั่ว ทั้งในประเทศไทย และ ต่างประเทศ คือประเทศเกาหลีใต้ด้วย ซึ่งผมเชื่อว่าจะสร้างความสนุกสนานท้าทายแบบครบรสให้กับคนดูได้อย่างแน่นอน เพราะมีนักกอล์ฟสตรีฝีมือดีจาก เคแอลพีจีเอ ทัวร์ ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขัน และที่สำคัญผมอยากจะขอให้คนไทยร่วมใจเชียร์นักกอล์ฟสตรีของไทย 11 คนที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้"


คุณมีนา อัครพงศ์พิศักดิ์ ผู้ช่วยประธานบริหารด้านการตลาด บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์เซียงเพียว และเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ กล่าวว่า บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์เซียงเพียว และเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ในปัจจุบัน โดยการให้การสนับสนุนกิจกรรมกีฬาระดับประเทศและระดับนานาชาติ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาด เนื่องจากกิจกรรมทางกีฬาสามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคของเราได้โดยตรง สามารถทำกิจกรรมทางการตลาดได้หลากหลายและมีสีสัน ที่ผ่านมาเราได้ให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬา ซึ่งล้วนแต่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี เราได้ให้การสนับสนุนกีฬากอล์ฟมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรายการกอล์ฟชายหรือกอล์ฟสตรี เราสนับสนุนนักกีฬาไทย ที่ผ่านมากีฬากอล์ฟเราก็ได้สนับสนุน โปร พีเค  พัชรจุฑา คงกระพันธ์ ซึ่งรายการแข่งขันนี้ โปรพีเคก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันเช่นกัน"


คุณพิชญา พูลสถิติวัฒน์ (ผู้นําเข้า และ ตัวแทนจําหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์ ANEW Golf และ SParms ประเทศไทย) กล่าวว่า "SParms เป็นผู้นำด้านการปกป้องผิวจากแสงแดด มีความเชี่ยวชาญเรื่องปลอกแขนกันรังสี UV ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 ที่ประเทศออสเตรเลีย ปัจจุบัน SParms ได้รับการรับรองใช้งานโดยนักกีฬาชั้นนำทั่วโลกในอุตสาหกรรมการกีฬา ไม่ว่าจะเป็น กอล์ฟ, จักรยาน, ยิงธนู และกีฬาอื่นๆ ในฐานะแบรนด์ เราทำได้ดีที่สุดคือการให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาชนิดต่างๆ ในประเทศไทย เรามีแผนที่จะสนับสนุนชนิดกีฬาที่มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ของเราโดยตรงไม่ว่าจะเป็น กอลฟ์, การปั่นจักรยาน, การยิงธนู และกีฬาอื่นๆ โดยเน้นกีฬากลางแจ้งเป็นหลัก และด้วยคุณสมบัติเด่นของผลิตภัณฑ์ ที่สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี ป้องกันแสงยูวี สวมใส่แล้วเพิ่มความสมาร์ทและดูดียิ่งขึ้น แถมยังซึมซับเหงื่อได้ดี เพื่อให้นักกีฬาพร้อมลุยทุกสถานการณ์"

“โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ เจ้าของแชมป์อาชีพทั้งหมด 21 รายการ และเป็นรองแชมป์รายการเมเ จอร์ Women’s British Open 2018 กล่าวว่า "รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ได้ร่วมเล่นในครั้งนี้ แหวนเคยเล่นในเคแอลพีจีเอ ทัวร์ มาแล้ว 1 ครั้ง ซึ่งครั้งนั้นก็เป็นการรับเชิญเหมือนกันแต่เล่นที่เกาหลีใต้ ส่วนครั้งนี้ได้มาเล่นในเมืองไทย จึงรู้สึกดีใจมาก โดยเฉพาะการที่ได้มาเล่นที่สนามบลูแคนยอน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสนามชั้นนำของเมืองไทย จึงอยากมาเล่นรายการนี้ที่สนามนี้เป็นพิเศษ วงการกอล์ฟของไทยมีการพัฒนาและเติบโตอย่างมาก เรามีนักกอล์ฟที่ทำชื่อเสียงให้กับประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ  เรียกว่าตอนนี้กอล์ฟกลายเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ผู้ปกครองหันมาสนใจ และพยายามหาโอกาสให้ลูกหลานได้เล่น แหวนว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับวงการกอล์ฟของไทยในอนาคต"

“โปรสตางค์” กรกมล ศุขอารีย์ กล่าวว่า "ขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกๆท่านที่ให้โอกาสครั้งสำคัญนี้ รายการนี้เป็นรายการที่ท้าทายมาก ถือว่าเป็นทัวร์ต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้  อีกทั้งได้ร่วมแข่งขันกับมือท็อปของ เคแอลพีจีเอทัวร์ ที่สำคัญคือได้มาร่วมเล่นในสนามที่มีประวัติศาสตร์ และมีความท้าทายมากๆ อย่างบลู แคนยอน ด้วยค่ะ ตอนนี้ความพร้อมมีเต็มที่ค่ะ ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ  มีออกซ้อมทุกวัน และฟิตเนสร่วมด้วยค่ะ ส่วนในด้านการเล่นอื่นๆ ยังไม่มีการปรับอะไรเพิ่มเติม"

ด้าน  “น้ำผึ้ง” นวพร สุนทรียภาส นักกอล์ฟทีมชาติไทย "รู้สึกดีใจมากที่ได้รับเกียรติเชิญร่วมการแข่งขันครั้งนี้ สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ท้าทายสำหรับหนูร่วมลงแข่งกับนักกอล์ฟรุ่นพี่ และยังได้ปะทะกับนักกอล์ฟจากเกาหลีใต้ มีความกดดันบ้าง แต่ก็เตรียมพร้อมเป็นอย่างดี และรายการนี้เป็นรายการสุดท้ายของการเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น หลังจากนั้นก็จะเทิร์นโปร และจะไปคิวสคูล แอลพีจีเอ ต่อไป"

รายการ บลูแคนยอน เลดี้ส์ แชมเปี้ยนชิพ  ได้รับการสนับสนุนจาก Siang Pure, Peppermint Field, ANew Golf, SParms (Sun Protect+) แฟนกอล์ฟสามารถรับชมถ่ายทอดสดผ่านทางทรูวิชั่นส์ ช่องทรูสปอร์ต 5 ระหว่างวันที่ 15-17 มีนาคม 2567 เวลา 13.00-16.00 น.

แฟนกอล์ฟสามารถซื้อบัตรเข้าชม เพื่อสัมผัสบรรยากาศการแข่งขัน และเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากนักกอล์ฟสาว เคแอลพีจีเอ ทัวร์ ได้แล้ววันนี้ โดยบัตรเข้าชมทัวร์นาเม้นต์ทั้ง 3 วัน ราคา 1,000 บาท ชมเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ราคา 800 บาท ส่วนบัตรเข้าชมรายวันราคา วันละ 400-500 บาท หรือซื้อบัตรเข้าชม      บีซี เล้าจ์ แพ็คเกจ (ส่วนลด 20% สำหรับสมาชิก) พบกับความหรูหราใน บีซี เทอร์เรซ (บริการอาหารฟรี, รางวัลจับฉลากมากมาย และเข้าชมการแข่งขันแบบสุดเอกซ์คลูซีฟ บัตรเข้าชมทั้งทัวร์นาเมนท์ ราคา 7,500 บาท เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ราคา 5,000 บาท หรือบัตรเข้าชมในแต่ละวันราคา  2,500-3,000 บาท 

#bluecanyonladieschampionship #bluecanyonphuket

วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

ดื่มด่ำไปกับสปาสุดหรูคู่กับคนที่คุณรักวันนี้ที่ Oasis Spa

ที่ Oasis Spa เราเชื่อว่าทุกๆ ช่วงเวลาในชีวิตควรได้รับการแบ่งปันกับคนพิเศษของคุณ ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีข้อเสนอพิเศษสำหรับคุณและคนที่คุณรัก  เพื่อเพลิดเพลินไปกับการเดินทางสปาหรูหรา (3 ชั่วโมงในราคาพิเศษเพียง 9,999 บาท/เท่านั้น)

🌿 ทางสู่ความสงบ: แพ็คเกจสปา ประจำ 🌿
สปิริตส์ ออฟ ล้านนา (SPIRIT OF LANNA) - 3 ชั่วโมงสู่การฟื้นฟู เริ่มต้นด้วยการทำสครับผิวหรือทรีตเม้นท์หน้าสไตล์รอยัลไทยเพื่อปลุกความเปล่งปลั่งธรรมชาติของผิวคุณ ...สัมผัสประสบการณ์การนวดด้วยสมุนไพรไทยและนวดด้วยน้ำมันอุ่นที่จะช่วยคลายเครียด และเพิ่มพลังงาน พาคุณเข้าสู่ แห่งความสงบ•••

โอเรียนทัล บาลานซ์ (ORIENTAL BALANCE) 
3 ชั่วโมงแห่งความสงบเริ่มการเดินทางของคุณด้วยสครับผิวหรือทรีตเม้นท์หน้าที่เหมาะกับประเภทผิวของคุณ จากนั้นปล่อยให้ภูมิปัญญาโบราณจากการนวดแบบตะวันออกฟื้นฟูร่างกายคุณ ปรับปรุงการทำงานของอวัยวะภายในและส่งเสริมการรักษาตัวเอง....อายุรเวดิก เอ็กซ์พีเรียนซ์ (AYURVEDIC EXPERIENCE) - 3 ชั่วโมงแห่งการผ่อนคลาย เริ่มการเดินทาง สัมผัสของคุณด้วย สครับผิวหรือทรีตเม้นท์หน้า ตามด้วยการหยดน้ำมันหอมระเหยอุ่นๆ บนหน้าผากของคุณเพื่อนำพาคุณเข้าสู่สภาวะการทำสมาธิ การนวดด้วยน้ำมันสมุนไพรอุ่นๆ ตามแบบฉบับอายุรเวท....."จะช่วยให้คุณผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน"




เงื่อนไขการใช้งาน:

1.โปรโมชั่นนี้สำหรับ 2 ท่าน ต้องรับบริการในห้องเดียวกันในเวลาเดียวกัน

2.โปรโมชั่นนี้สามารถใช้ได้ที่สาขา Oasis Spa ในกรุงเทพฯ, เชียงใหม่, พัทยา และภูเก็ต

3.ไม่สามารถใช้โปรโมชั่นนี้ร่วมกับโปรโมชั่นอื่นได้

4.กรุณาจองล่วงหน้าสำหรับโปรโมชั่นนี้และแจ้งเกี่ยวกับ โปรโมชั่นนี้เมื่อทำการจอง...

5.ข้อเสนอพิเศษนี้(มีผลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2024)

6.ข้อเสนอขึ้นอยู่กับสถานะการจำหน่ายที่แต่ละสาขาและอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า

จอง OASIS สปา

เชียงใหม่ : 053-920111

กรุงเทพ 02-2622122

ภูเก็ต 076-337777

พัทยา 038-115888  อีเมล์ res@oasisspa.net

วันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

“ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” นั่งบอร์ด “AJA” มีผลทันที

ติดอันดับ 4 ผู้ถือหุ้นใหญ่ เผยกลยุทธ์การตลาดคู่ขนานโซเชียลเน็ตเวิร์ค

หลังจาก บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA (เอเจเอ) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่าบริษัทได้จัดการประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 4/2567  เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา มีมติรับทราบการลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทของ นางปรางค์ทิพย์ จันทร์วิสิฐศักดิ์  และมีมติแต่งตั้ง นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เป็นกรรมการบริษัทแทน โดยมีวาระตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งตนแทน มีผลทันที โดยนายณวัฒน์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 4 จำนวนกว่า 200 ล้านหุ้น พร้อมช่วยปรับกลยุทธ์ของ AJA อย่างเต็มความสามารถ เผยกลยุทธิ์บุกตลาดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค เริ่มทันทีกับกลุ่มสินค้านวัตกรรมชะลอวัย เอาใจคนรักสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ กลัวแก่ (KAUKAE) พร้อมบุกตลาด



นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เปิดเผยว่า “ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณบอร์ดและผู้บริหาร บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA (เอเจเอ) ที่มองเห็นศักยภาพของผม ซึ่งสาเหตุที่ตอบรับตำแหน่งกรรมการ บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เนื่องจากมีความคุ้นเคย ตั้งแต่ AJA เข้าตลาดหลักทรัพย์และ AJA ได้เป็นสปอนเซอร์การจัดการประกวด มิสแกรนด์ไทยแลนด์ ในทุกปี นับตั้งแต่ปี 2013 และผมก็เป็นผู้ถือหุ้น AJA ระยะยาวน่าจะไม่ต่ำกว่า 8 ปีแล้ว เล็งเห็นความเป็นมาของ AJA รวมถึงปัญหาต่างๆ มาโดยตลอด ประกอบกับทาง AJA ส่งจดหมายเรียนเชิญมา หลังคิดไตร่ตรองจึงได้ตอบรับ เพราะมองเห็นศักยภาพของ AJA ว่าเป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้สิน ถึงแม้จะมีผลประกอบการติดลบ แต่บริษัทไม่มีหนี้ที่เป็นภาระดอกเบี้ย และยังมีทรัพย์สินที่เป็นประโยชน์ในอนาคตมากมาย หากมองและช่วยวางแผนได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะที่ทำการสำนักงานในพื้นที่ต่างๆรวมถึงเครือข่ายที่อยู่ตามต่างจังหวัด ซึ่งการที่ผมเข้ามานั่งในตำแหน่งนี้จะเป็นการเติมเต็ม ทางด้านโซเชียลเน็ตเวิร์คให้กับ AJA ก้าวข้ามธุรกิจแบบเดิมๆ เข้าสู่ธุรกิจที่เป็นคู่ขนานกับโซเชียลเน็ตเวิร์ค 

ประเดิมกับสินค้าหมวดใหม่ของบริษัท AJA คือ นวัตกรรมการชะลอวัยผ่านผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สำหรับคนวัยกลางคน เพราะเชื่อมั่นว่าแฟนคลับ AJA ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งเป้าหมายของผู้สูงวัยทุกคนคือการมีสุขภาพที่ดีและมีอายุยืนยาวแบบแข็งแรงสมบูรณ์อย่างมีความสุข โดยจะมีระบบตัวแทนจำหน่ายและเสริมความแข็งแกร่งด้วยการจำหน่ายผ่านช่องทาง โซเชียลเน็ตเวิร์ค ตามความถนัดและได้ผลดีเสมอในโลกปัจจุบันที่ทุกคนมีโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ สุดท้ายอีกหนึ่งสิ่งที่ผมอยากจะพัฒนาเพิ่มศักยภาพให้กับ AJA หลังจากสำรวจและทราบว่า AJA มีทรัพย์สินที่เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ เหมาะกับการบริหารสต็อกสินค้า และแพ็คสินค้าของตนเองเพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มช่องทางรายได้ในอนาคตด้วยการรับแพ็คสินค้า และสร้างโกดังสต็อกสินค้าให้กับผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่นด้วยครับ” นายณวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

“แพตตี้ – ปภังกร” ปล่อยโฮ! สุดตื้นตัน

คว้าแชมป์ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024” สร้างความสุขให้แฟนกอล์ฟชาวไทย

(ชลบุรี – 25 กุมภาพันธ์ 2567) -  แพตตี้-ปภังกร ธวัชธนกิจ  ทำเบอร์ดี้หลุมสุดท้ายคว้าแชมป์สกอร์รวม 21 อันเดอร์ เฉือนชนะอันดับสองแค่สโตรกเดียว ในกอล์ฟแอลพีจีเอทัวร์ รายการ  “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2024” ณ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พาร์ 72 พัทยา จ.ชลบุรี  เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 

แพตตี้-ปภังกร โปรมือ 43 ของโลก ซึ่งจบรอบสามนำห่างคู่แข่ง 3 สโตรก ทำเพิ่มรอบสุดท้ายอีก 5 อันเดอร์ จาก 6 เบอร์ดี้ รวมถึงเบอร์ดี้หลุมสุดท้าย และ 1 โบกี้ คว้าแชมป์ที่สกอร์รวม 21 อันเดอร์ โดยมี อัลบอน วาเลนซูเอล่า โปรสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งทำรอบสุดท้าย 9 อันเดอร์ จบอันดับสองสกอร์รวม 20 อันเดอร์ ขณะที่อันดับ 3 ร่วมเป็นของ เซ ยัง คิม และ   ฮเย จิน ชอย สองโปรเกาหลีใต้ที่สกอร์รวมคนละ 18 อันเดอร์ 


“ดีใจที่สามารถคว้าแชมป์ต่อหน้าแฟนกอล์ฟชาวไทยและคุณพ่อคุณแม่ ขอบคุณทุกๆ คน รู้สึกโชคดีที่มีแฟนกอล์ฟและครอบครัวคอยสนับสนุน ยอมรับว่าช่วงแรกรู้สึกประหม่า แต่ก็พยายามคุมสติซึ่งก็ทำได้เป็นอย่างดี” แพตตี้-ปภังกร กล่าว

“ก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นผู้ชมและเคยเล่นในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่นมาก่อน เป็นเหมือนความฝันที่ได้แชมป์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ซาอุดีอาระเบียและสัปดาห์นี้ก็ได้แชมป์ที่ประเทศไทย การได้เล่นกับนักกอล์ฟที่ดีสุดในโลก และสามารถปิดท้ายได้อย่างสวยงาม” 

โปรวัย 24 ปี เป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 2 ที่คว้าแชมป์รายการนี้ ต่อจาก เม-เอรียา จุฑานุกาล ที่ทำได้เมื่อปี 2021 โดยรับเงินรางวัล 255,000 ดอลลาร์ฯ (ราว 9.2 ล้านบาท) สำหรับชัยชนะครั้งนี้ นอกจากจะเป็นแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ รายการที่ 2 ของแพตตี้-ปภังกร ต่อจากรายการเมเจอร์ ดิ เอเอ็นเอ อินสไปเรชั่น 2021 แล้ว ยังนับเป็นแชมป์สัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันอีกด้วยหลังจากสัปดาห์ที่แล้วเธอคว้าแชมป์ในรายการของเลดี้ส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย



ขณะที่ ซิม-ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ รองแชมป์เมื่อปีที่แล้ว ทำเพิ่มรอบสุดท้าย 7 อันเดอร์ สกอร์รวม 17 อันเดอร์ จบอันดับ 5 ร่วม โดยโปรวัย 21 ปี กล่าวว่า แม้รอบสุดท้ายจะทำได้ดี แต่ก็เป็นเพียงแค่รอบเดียวที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน“ดีใจค่ะที่ได้กลับมาแข่งแบบจริงจังเป็นแมตช์ที่ 2 ในส่วนสภาพร่างกายนั้นดีขึ้นนานแล้วแต่ความรู้สึกในการเล่นนั้นเพิ่งจะกลับมา วันนี้รู้แล้วว่าต้องคิดอะไรก่อนเล่นแต่ละช็อต” ซิม-ณัฐกฤตา กล่าว 

ลิเลีย วู แชมป์เก่าและมือหนึ่งของโลกชาวอเมริกัน จบอันดับ 7 ร่วม สกอร์รวม 16 อันเดอร์  ส่วน ว่าน-จารวี บุญจันทร์  มือ 199 ของโลก ทำ 5 อันเดอร์ จาก 5 เบอร์ดี้ สกอร์รวม 15 อันเดอร์ จบที่ 9 ร่วม เม-เอรียา จุฑานุกาล แชมป์ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2021” จบที่ 13 ร่วม สกอร์รวม 14 อันเดอร์ โดยมี        ฮัท-สุวิชยา วินิจฉัยธรรม นักกอล์ฟสมัครเล่นที่ได้สิทธิ์แข่งขันรายการนี้จากการคว้าแชมป์ Honda LPGA Thailand 2024 National Qualifiers จบที่ 18 ร่วม สกอร์รวม 12 อันเดอร์ 

พราว-ชเนตตี วรรณแสน ทำรอบสุดท้าย 1 อันเดอร์ จบอันดับ 31 ร่วม ที่สกอร์รวม 8 อันเดอร์  โม-โมรียา จุฑานุกาล และ แพงกี้-แอลล่า แกลิทสกีย์  นักกอล์ฟสมัครเล่นลูกครึ่งไทย-แคนาดา วัย 17 ปี จบอันดับ 41 ร่วม สกอร์รวมคนละ  7 อันเดอร์ , แหวน-พรอนงค์ เพชรล้ำ จบอันดับ 49 ร่วม สกอร์รวม 5 อันเดอร์  เมียว-ปาจรีย์ อนันต์นฤการ อันดับ 60 ร่วม สกอร์รวม 2 อันเดอร์ และ จูเนียร์-จัสมิน สุวัณณะปุระ อันดับ 65 ร่วม สกอร์รวม 1 อันเดอร์



Go Mongolia - Bangkok Road Show 2024 

เตรียมตัวออกเดินทางไปยังใจกลางแห่งมองโกเลีย ดินแดนแห่งการท่องเที่ยวอันแปลกใหม่สุดประทับใจ


เตรียมตัวออกเดินทางไปยังใจกลางแห่งมองโกเลีย ดินแดนแห่งการท่องเที่ยวอันแปลกใหม่สุดประทับใจ ที่ซึ่งคุณจะได้ลิ้มรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ดื่มด่ำไปกับความรุ่มรวยทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ยาวนาน อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนเราตั้งตารอคอยให้คุณมาร่วมเฉลิมฉลองประเพณีอันงดงามและมีชีวิตชีวาที่ซึ่งเป็นมรดกตกทอดกันมาอย่างยาวนานของชาวมองโกเลียจากความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ภายใต้ เซ็นทรัล รีเทล เพื่อเปิดสัมผัสวัฒนธรรมอันมีชีวิตชีวาของมองโกเลียผ่านการแสดงแบบดั้งเดิมและน่าตื่นตาตื่นใจ ค้นพบประวัติศาสตร์อันยาวนานและโอกาสในการไปเยือนสถานที่อันน่าตื่นเต้นร่วมกัน




มรดกทางวัฒนธรรมมีความเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับเอกลักษณ์ประจำชาติที่แสดงถึงตัวตนของชาวมองโกเลียอย่างแท้จริง และเรามองเห็นว่าควรนำเสนอความงดงามดังกล่าวไปสู่เวทีโลก พวกเขาจะได้มองเห็นภาพของประเพณีและวัฒนธรรมที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน รวมไปถึงการมองไปยังอนาคต ทั้งหมดเป็นตัวกำหนดเรื่องราวในการเล่าเรื่องชาติของเรา 



มองโกเลียได้พยายามโอบอุ้มแก่นแท้แห่งความเป็นประเทศด้วยคำว่า "GO" อันเป็นอักษรและคำที่มีความหมายตั้งอยู่ตรงกลาง คุณจะได้เห็นการออกแบบอันฝังแน่นที่อยู่ในดีเอ็นเอของความเป็นมองโกเลีย สำรวจและค้นพบสัญลักษณ์และตัวตนอันแสนพิเศษที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจอันแตกต่างให้กับแต่ละเรื่องราวของมองโกเลีย ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คำว่า "GO" ถือเป็นหัวใจและใจกลางสำคัญของชื่อและชาติของเรา อาจมองเป็นคำง่ายๆ แต่มีความหมายลึกซึ้ง เพราะไม่เพียงแต่กำหนดแรงผลักดันและจิตวิญญาณในความเป็นชาติของเราเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นตัวแทนของชาวมองโกทุกคนบนเวทีโลกอีกด้วย เราได้รวม "GO" ไว้ในปรัชญาการสร้างความเป็นชาติของเราในแบบที่ไม่มีใครทำได้





คำว่า “มองโกเลีย” ถูกสร้างขึ้นโดยใช้สัญลักษณ์แห่งอักษรซอยอมโบ หรือ อักษรสวยัมภู ทั้งหมด โดยแต่ละองค์ประกอบนั้น ได้ถูกนำมาใช้อย่างประณีตเพื่อสร้างรูปแบบตัวอักษรที่โดดเด่น ส่งผลให้เกิดคำที่ทันสมัยและทรงพลังรูปแบบตัวอักษรมีลักษณะหนาและกว้าง โดยผสมผสานความแตกต่างเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดทางสายตา แม้จะมีองค์ประกอบการออกแบบที่ทันสมัย แต่ค่านิยม ประเพณี และความสมบูรณ์ ยังคงถูกรักษาเอาไว้อย่างแน่นเหนียว





สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในมองโกเลีย
มองโกเลีย มีทุ่งหญ้าสเตปป์กว้างใหญ่ ภูเขาสูงตระหง่าน และวัฒนธรรมแห่งชนเผ่าเร่ร่อน ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันล้ำค่าสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาการผจญภัย ค้นพบประวัติศาสตร์ และความงามของธรรมชาติ จนเราสามารถพูดได้ว่า นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุด โดยแต่ละพื้นที่มีเสน่ห์และความดึงดูดเฉพาะตัว:

1. ทะเลทรายโกบี ทะเลทรายโกบี ทอดยาวไปยังทั่วภูมิภาคทางตอนใต้ของมองโกเลีย มีภูมิทัศน์อันน่าหลงใหลของเนินทรายและแนวหิน ดึงดูดนักเดินทางด้วยพืชพันธุ์และสัตว์อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจกับเนินทรายแห่ง Kongoryn Els ที่สูงตระหง่าน ขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์ที่ Flaming Cliffs และดื่มด่ำไปกับการต้อนรับแบบพื้นเมืองของชนเผ่าเร่ร่อน

2. ทะเลสาบ Khuvsgul (คุชกุล) ทะเลสาบ Khuvsgul ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ "Blue Pearl" ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาทางตอนเหนือของมองโกเลีย เป็นสถานที่พักผ่อน พร้อมด้วยอากาศอันบริสุทธิ์สำหรับนักเดินทางที่มาตั้งแคมป์ เดินป่า และชมวิถีชีวิตการเลี้ยงกวางเรนเดียร์ Tsaatan อีกทั้งยังมีน้ำทะเลใสดุจคริสตัลและป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์โดยรอบ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาสำรวจธรรมชาติพร้อมสัมผัสกับวัฒนธรรมอันงดงามของภูมิภาคแห่งนี้ 

3. อุทยานแห่งชาติ Terelj (เทเรลจ์) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันงดงามใกล้กับเมืองอูลานบาตอร์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยหินแกรนิตที่ก่อตัวเป็นรูปทรงเต่าอันเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเงียบสงบเหมาะกับการทำสมาธิท่ามกลางทัศนยีภาพอันสวยงามและลำธารทอดยาว เดินทางเพียงไม่นานจากเมืองหลวงสู่อุทยานแห่งนี้ คุณจะได้ค้นพบความงดงามทางธรรมชาติและมรดกทางวัฒนธรรมของมองโกเลีย

4. อนุสาวรีย์เจงกีสข่าน เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับรูปปั้นคนขี่ม้าสูงตระหง่าน โดดเด่น และสง่างาม ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงริมแม่น้ำตูล หรือเป็นที่รู้จักในนามอนุสาวรีย์รูปปั้นเจงกีสข่าน นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติของมองโกเลีย ด้วยทัศนียภาพอันงดงามและความโดดเด่นทางวัฒนธรรม ทำให้สถานที่เหล่านี้ดึงดูดผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์และนักท่องเที่ยวผู้กระตือรือร้นที่จะเจาะลึกไปยังอดีตของมองโกเลีย

5. Kharkhorin (คาร์คอริน) ในฐานะเมืองหลวงเก่าแห่งจักรวรรดิมองโกล Kharkhorin เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น พระอาราม Erdene Zuu และซากปรักหักพังแห่ง Karakorum เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสำรวจมรดกและประวัติศาสตร์อันยาวนานของมองโกเลีย อีกทั้งยังมี พิพิธภัณฑ์ Kharkhorin ที่จัดแสดงมรดกของอดีตผู้นำเจงกีสข่าน ซึ่งทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญสำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์

6. ทะเลสาบ Ugii (อูกี) ทะเลสาบ Ugii ในจังหวัด Arkhangai อันเงียบสงบและงดงาม ดึงดูดผู้รักธรรมชาติด้วยผืนน้ำอันราบเรียบเงียบสงบ เหมาะแก่การดูนกและกิจกรรมสันทนาการ เช่น ตกปลาและพายเรือ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตแบบเร่ร่อนของชาวมองโกเลียดั้งเดิม ช่วยเพิ่มสีสันและความรู้ให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องการดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างแท้จริงจากสถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าวที่เรานำเสนอ เป็นส่วนหนึ่งของภูมิประเทศที่หลากหลาย วัฒนธรรมอันเก่าแก่ และประวัติศาสตร์อันยาวนานของมองโกเลีย ทำให้ดินแดนแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าจดจำอย่างแท้จริงสำหรับนักเดินทางที่มาเยือน


ผู้เข้าร่วมงาน
The Mongolian TourismOrganization (MTO), องค์กรการท่องเที่ยวมองโกเลีย (MTO) ก่อตั้งขึ้นในปี 2566 รับหน้าที่ดูแลนโยบายภาคการท่องเที่ยว ประกอบด้วยสมาชิกคณะกรรมการ 27 คนที่ได้รับเลือกจากภาคการท่องเที่ยวMTO ให้บริการสมาชิกเกือบ 300 รายจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างภาคเอกชนและองค์กรภาครัฐเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวมองโกเลียทั้งในประเทศและต่างประเทศ



ร่วมสำรวจประสบการณ์อันน่าจดจำไปกับเรา
พิธีเปิดอย่างเป็นทางการ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ตั้งแต่เวลา 16:00 – 18:00น.
ในวันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2567 ตั้งแต่เวลา 11.00น. เป็นต้นไป

ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิร์ล

วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

รฟฟท. เฉลิมฉลองครบรอบ 13 ปี ก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคง

ด้วยการให้บริการรถไฟฟ้าตามหลักมาตรฐานสากล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสดำเนินกิจการครบรอบเป็นปีที่ 13 พร้อมก้าวสู่อนาคตอย่างมั่นคง ด้วยการให้บริการรถไฟฟ้าตามหลักมาตรฐานสากล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน


นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถือเป็นวันครบรอบการก่อตั้งของบริษัทฯ ซึ่งจากประสบการณ์การดำเนินงานกว่า 13 ปี ที่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ได้ดำเนินกิจการในฐานะผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้า 




โดยเริ่มจากการบริหารโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารท่าอากาศยานกรุงเทพมหานคร หรือ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จนมาถึงการได้รับภารกิจสำคัญในการบริหารการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ซึ่งบริษัทฯมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าด้วยมาตรฐานระดับสากล มุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ รักษามาตรฐานการปฏิบัติงานในด้านการเดินรถ และซ่อมบำรุง พัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพอยู่เสมอ รวมถึงรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจขององค์กร อีกทั้งสามารถเชื่อมโยงทุกการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และหลังจากรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงได้ขานรับนโยบาย Quick Win ของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ดำเนินนโยบายอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ในระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ทั้ง 2 เส้นทาง ได้แก่ สายธานีรัถยา ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - สถานีรังสิต และสายนครวิถี ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีตลิ่งชัน ซึ่งเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนในปัจจุบัน รวมถึงสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้บริการสาธารณะมากยิ่งขึ้นนั้น โดยตั้งแต่เริ่มนโยบายดังกล่าวมาเป็นระยะเวลากว่า 4 เดือน ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ในปัจจุบันรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง มีปริมาณผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีค่าเฉลี่ยผู้ใช้บริการอยู่ที่ 27,564 คน/วัน และให้สามารถทำสถิติผู้ใช้บริการสูงสุด (New High) ได้อีกครั้งเมื่อวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้บริการอยู่ที่ 39,451 คน และหากนับตั้งแต่รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี มีปริมาณผู้ใช้บริการรวมมากกว่า 15 ล้านคน ซึ่งบริษัทฯขอให้คำมั่นว่าจะไม่หยุดพัฒนาประสิทธิภาพด้านการให้บริการ และด้านอื่นๆในทุกมิติ รวมถึงผลักดันให้องค์กรเป็นผู้นำด้านระบบขนส่งทางรางที่มีความทันสมัย สามารถเข้าถึงความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม


สำหรับแผนงานด้านการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการด้วยระบบการขนส่งรอง (Feeder)เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง บริษัทฯได้จัดแผนการรองรับ 6 เส้นทาง ได้แก่

1. สถานีตลิ่งชัน –  ถนนบรมราชชนนี 

2. สถานีตลิ่งชัน – บางหว้า 

3. สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – ตลาดนัดจตุจักร 

4. สถานีหลักสี่ – ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ 

5. สถานีหลักหก – มหาวิทยาลัยรังสิต

(เริ่มให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566)

6. สถานีรังสิต – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต

ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการเดินทางระบบการขนส่งรอง (Feeder) อย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงสถานีรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ทั้ง 13 สถานี ได้อย่างสะดวก และมีความปลอดภัยสูงสุด

นอกจากนั้น บริษัทได้จัดงานทำบุญเลี้ยงพระ เนื่องในโอกาสครบรอบ 13 ปี ในวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อความเป็นสิริมงคล และเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 องค์พระผู้ทรงก่อตั้งกิจการรถไฟในประเทศไทย ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ผู้ทรงมีคุณูปการด้วยพระราชวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในด้านการคมนาคมขนส่งทางรางในราชอาณาจักรไทย

อีกทั้งในโอกาสพิเศษครบรอบปีที่ 13 เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณผู้ใช้บริการที่ให้การสนับสนุน และไว้วางใจเดินทางโดยรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงด้วยดีเสมอมา บริษัทฯ จึงได้จัดบูธกิจกรรมส่งเสริมการตลาด โดยมีนักแสดงชื่อดังจากช่อง 7 อาทิ โอ๊ต รัฐธีร์ และ แอนดรูว์ โคนินทร์ มาให้บริการเสิร์ฟเครื่องดื่มจากร้านดัง จำนวนกว่า 1,300 แก้ว อาทิ กาแฟเย็น ชาเขียวเย็น ชาไทยเย็น โกโก้เย็น ให้แก่ผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงทุกประเภท ฟรี !!! ในวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ณ บริเวณ ประตู 13 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. - 16.30 น. หรือจนกว่าของจะหมด


ส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ www.srtet.co.th และสามารถติดตามข่าวสารของบริษัทฯ ได้ทั้งช่องทาง Facebook , Twitter , Instagram Youtube , Tiktok ในชื่อ “RED Line SRTET”

รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง

ข่าวประชาสัมพันธ์

ยูเอฟเอ็ม ครบรอบ 60 ปี แจกทองคำเป็นล้าน รวมกว่า 6 ล้านบาท

เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี  บริษัท ยูไนเต็ดฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ UFM ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแป้งสาลีรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จัดกิจกรรม “...

โวยวายดอทคอม