แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าว แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ข่าว แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ททท. ร่วมเปิดตัว "ศูนย์ดูแลสุขภาพและความงาม ARTEMES Health and Beauty Destination Phuket”


เย็นวันนี้ (2 ธค 64) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยรองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ นางสาว ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ร่วมแสดงความยินดีและเป็นประธานเปิดตัว  “ศูนย์ดูแลสุขภาพและความงาม ARTEMES Health and Beauty Destination Phuket” ให้บริการทางการแพทย์ สร้างความมั่นใจและยกระดับคุณภาพชีวิตนักท่องเที่ยว ตามยุทธศาสตร์ Medical and Wellness Destination ผลักดันประเทศไทยสู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับนานาชาติ 

นายแพทย์ณรงค์ฤทธิ์ ฮาวรังษี รักษาการรองประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม 6 บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดตัวการบริการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย ทันตกรรม ศัลยกรรมความงาม ไปจนถึงการรักษาโรคเฉพาะทาง ด้วยจุดแข็งด้านการมีคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีประสบการณ์สูง 

ททท. เชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของประเทศไทย ซึ่งติดอันดับที่ 13 ของโลก จะสามารถสร้างรายได้มากกว่า 9.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ คิดเป็นร้อยละ 38 ของจำนวนนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในภูมิภาคเอเชียทั้งหมด  ทั้งตลาดมีแนวโน้มเติบโตราวร้อยละ 14 ต่อปี จากข้อมูลตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความได้เปรียบในการแข่งขันด้าน Medical Hub โดยเฉพาะการเสนอขาย High-Tech กับ High-Touch ผ่าน Wellness Tourism ของประเทศไทยต่อไป 





#AmazingThailand #MedicalTourism #BangkokHospital #ARETEMES

วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

“รัฐศาสตร์-นิเทศศาสตร์” ม.กรุงเทพธนบุรี จัดสัมมนาพิเศษในระบบ ZOOM หัวข้อ “SANDBOX MODEL ก้าวแรกการท่องเที่ยว สู่การเปิดประเทศในก้าวต่อไป” 18 ก.ค.นี้




คณะรัฐศาสตร์ ร่วมกับ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ร่วมกันจัดสัมมนาพิเศษในระบบออนไลน์ (ZOOM) ในหัวข้อ “SANDBOX MODEL ก้าวแรกการท่องเที่ยว สู่การเปิดประเทศในก้าวต่อไป” โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ คุณนัทธี  ถิ่นสาคู  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดภูเก็ต และ รองประธานคณะกรรมาธิการ การท่องเที่ยว, คุณธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต และคุณรัตนชัย สุทธิเดชานัย ที่ปรึกษานายกเมืองพัทยา ดำเนินรายการโดย รศ.ดร.กมลพร กัลยาณมิตร คณบดีคณะรัฐศาสตร์ และ รศ.ดร.สุกัญญา บูรณเดชาชัย คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี 

โดยมี ธนภณ  โอภาสธัญกร (ต้อม นิรันดร์) และ แอปเปิ้ล-กิรษา หอมเสียง เป็นพิธีกร ในวันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป 
ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมรับฟังการสัมมนาพิเศษในครั้งนี้ได้ที่
Join Zoom Meeting
ใส่รหัสผ่าน ห้องประชุม
Meeting ID: 998 976 4605
Passcode: 654321




วันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

แค่คิดก็ฟินแล้ว อิ่มอร่อยมื้อสาย สไตล์สเปนกับ “อูโนมาสบรั้นช์” เดลิเวอรี่ส่งให้คุณถึงที่บ้าน

แค่ยกหูแล้วโทรสั่ง ห้องอาหารอูโนมาส โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมให้คุณได้สัมผัสรสชาติอาหารสไตล์สเปนแท้ๆ กับเมนู “อูโนมาสบรั้นช์” ที่พร้อมให้บริการส่งตรงถึงบ้านของคุณ โดยรวบรวมบรรดาซีฟู้ดสดใหม่คุณภาพเยี่ยมนานาชนิด จากที่จัดเรียงรายบนน้ำแข็ง อาทิ ก้ามปูอลาสก้าเนื้อหวาน กุ้งล็อบสเตอร์แคนาเดียน (1 ชิ้นต่อ 1 ท่าน) กุ้งลายเสือ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กั้ง ปลาแซลมอนรมควัน ทานพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บ รวมถึง หลากหลายเมนูทาปาสต่างๆ ให้คุณเลือกรับประทานตามใจชอบ นอกจากนี้ยังมีขนมปังอบเนย “บาแก็ต” เป็นขนมปังแท่งยาวๆ จากเมืองปารีส พร้อมเสิร์ฟให้ทุกท่านได้ลิ้มรส รวมทั้ง “เปอติฟูร์” ขนมชิ้นเล็กๆ ขนาดพอดีคำ เชิญสัมผัสรสชาติและวัฒนธรรมของชาวสเปน ในราคาเพียง 7,999 บาทถ้วน ต่อ 2 ท่าน เสิร์ฟพร้อม แชมเปญ จี เอช มุมม์ แกรนด์ กอร์ดอง ขนาดจุ 0.75 ลิตร หรือ ราคาเพียง 15,555 บาทถ้วน ต่อ 4 ท่าน เสิร์ฟพร้อมแชมเปญ จี เอช มุมม์ กอร์ดอง รูจ หนึ่งในสุดยอดแบรนด์แชมเปญของโลก จากขวดแม็กนัม หรือขวดใหญ่ ขนาดจุ 1.5 ลิตร หรือสองเท่าของขวดแชมเปญปกติ 


ขอให้ทุกท่านไว้ใจในการปรุงที่พิถีพิถัน ทั้งความสะอาด ปลอดภัย ใส่ใจ และห่วงใย เราขอการันตีด้วยประกาศนียบัตรโรงแรมที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA (Amazing Thailand Safety and Health Administration) จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทั้งอิ่ม ทั้งฟิน ปลอดภัยกับอาหารมากมายพร้อมส่งได้แล้วตั้งแต่วันนี้

สั่งก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน ส่งทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00 - 19.30 น. ส่งฟรี 10 กม.แรก กิโลเมตรถัดไป 20 บาทต่อกิโลเมตร

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งอาหารได้ที่ โทร. 02-100-6255 หรืออีเมล์: diningcgcw@chr.co.th 

ติดตามข่าวสารของห้องอาหารอูโนมาสได้ที่ เว็บไซต์: www.unomasbangkok.com

เฟสบุ๊ค: UNO MAS

อินสตาแกรม: Unomas_Bangkok

วันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

"มณฑล โพธิ์คาย " พร้อมสมาชิกพรรคภูมิใจไทย รณรงค์ชวนชาวมีนบุรี ฉีดวัคซีนป้อง covid

วันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา สส.มณฑล โพธิ์คาย  พรรคภูมิใจไทยพร้อมนายพิชิตชัย รัชตามพร และเหล่าสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่เขตมีนบุรี เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ชาวมีนบุรีลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันโควิค ผ่านแอปฯ"หมอพร้อม" ให้เร็วที่สุด ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวคุณเอง ครอบครัวและคนที่เรารัก

ซึ่งการฉีดวัคซีนยังระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้ารับการฉีดวัคซีนในหัวข้อต่างๆ เริ่มจาก 1.ใครรับวัคซีนได้แล้วบ้าง? คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปและผู้ป่วยที่มีโรคเสี่ยง 7 โรค สามารถลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีนได้แล้วที่แอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” หรือสามารถโหลด Line official account “หมอพร้อม” ในไลน์แอปพลิเคชั่นได้เลยวันนี้เพื่อเลือกวันและจุดเพื่อรับวัคซีน

ส่วนประชาชนทั่วไปอายุตั้งแต่ 18-59 ปี จะสามารถเริ่มลงทะเบียนเพื่อกำหนดวันและสถานที่รับวัคซีนได้ตั้งแต่ 31 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไปที่แอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” หรือ Line official account “หมอพร้อม“

เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ในภาวะปกติโดยเร็ว และยังร่วมกันแจกหน้ากากอนามัยแก่พี่น้องชาวมีนบุรีเพื่อความปลอดภัยในการดำเนินชีวิต









วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

DITP ยกระดับการส่งออกผลไม้เข้าสู่ตลาดชิงต่าว


 

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จัดโครงการยกระดับการส่งออกผลไม้เข้าสู่ตลาดชิงต่าว ภายใต้ธีมงาน “Qingdao Thai Fruits Golden Months 2021” พบว่าผลไม้สดที่ขายดีที่สุด ได้แก่ ทุเรียน มะพร้าว และส้มโอ โดยเฉพาะหมอนทองและก้านยาว ที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวจีนอย่างท่วมท้น คาดการณ์สั่งซื้อภายใน 1 ปี คิดเป็นมูลค่า 196 ล้านบาท

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เดินหน้าหาช่องทางใหม่ๆ ในการขยายตลาดส่งออกให้กับผลไม้ไทย ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยได้ดำเนินโครงการยกระดับการส่งออกผลไม้เข้าสู่ตลาดชิงต่าว ภายใต้ธีมงาน “Qingdao Thai Fruits Golden Months 2021” ร่วมกับห้างสรรพสินค้า Hisense Plaza และผู้นำเข้าผลไม้ไทยเมืองชิงต่าว บริษัท Shangri Fruit




ทั้งนี้ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและโปรโมทผลไม้ไทยโดยใช้ชื่องาน 水果1+N (แปลว่า “ผลไม้ 1+ N” ซึ่งหมายถึง ทุเรียนที่เป็น King of Fruits และขวัญใจชาวจีน + ผลไม้ไทยอีกหลายชนิด) ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 1 สัปดาห์  ระหว่างวันที่ 15 – 23 พฤษภาคม 2564 ณ ซูเปอร์มาเก็ต Gran Vida ภายในห้างสรรพสินค้า Hisense Plaza เมืองชิงต่าว มณฑลซานตง ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์ที่มีชื่อเสียงของเมืองชิงต่าว คาดว่ามูลค่าที่ได้จากการจัดงานครั้งนี้คิดเป็น 31.5 ล้านบาท และคาดการณ์การสั่งซื้อภายใน 1 ปี จำนวน 1,200 ตัน คิดเป็นมูลค่า 196 ล้านบาท

ซึ่งภายในพิธีเปิดงานเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 มีการแสดงวัฒนธรรมไทย การร้องเพลง การเล่นเกมชิงรางวัลผลไม้ไทย และการแนะนำอาหารไทยและประชาสัมพันธ์ร้านอาหารไทยที่ได้รับตรา “Thai SELECT” รวมทั้งแจกชิมอาหารไทยที่ทำจากผลไม้ ได้แก่ ส้มตำ และพัฟ “ทุเรียน” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคชาวชิงต่าวได้เป็นจำนวนมาก

 

นางสาวชนิดา อินปา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว กล่าวว่า เบื้องต้นภายในงานพิธีเปิดงานที่ผ่านมา พบว่าผลไม้สดที่ขายดีที่สุด ได้แก่ ทุเรียน มะพร้าว และส้มโอ โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์หมอนทองและก้านยาว ที่ปีนี้ห้างฯ ได้นำมาจัดโปรโมชั่นลดราคาถูกลงมากกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคชาวจีนเป็นจำนวนมาก





นอกจากนี้ สคต.ชิงต่าวยังได้ร่วมกับผู้นำเข้า เชิญ KOL ด้านอาหารชื่อดังของเมืองชิงต่าว ชื่อ Hounengchi (โหวเหนิงชือ) ซึ่งมีผู้ติดตามในแอปพลิเคชัน Douyin (Tiktok) มากกว่า 690,000 followers มาร่วมไลฟ์สดภายในงาน และทำคลิปเชิญชวนผู้บริโภคชาวชิงต่าวให้ไปเลือกซื้อผลไม้ไทยที่ซูเปอร์มาเก็ตฯ ทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อกระตุ้นการบริโภคผลไม้ไทยในเมืองชิงต่าวให้มากขึ้น

สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169











วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2564

“ภูมิใจไทย” เลือก “นิกกี้- ณิฐ์ภาวรรณย์” ตัวแทนพรรคประจำเขต 10 ดอนเมือง

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา มีการประชุมจัดตั้งตัวแทนพรรคภูมิใจไทย กรุงเทพมหานครเขตเลือกตั้งที่ 10 ดอนเมือง โดยมี สส.มณฑล โพธิ์คายเป็นประธาน , คุณ สิรวิชญ์ บ่อถ้ำ, คุณณัฐพล จรัสสุริยพงศ์, คุณสมัย โกกเจริญพงศ์ คุณพิชิตชัย รัชตามพร , ดร.จิณณา สืบสายไทย, คุณสำคัญต่อชาติ เอี่ยมอ่ำ, คุณโพสินทร์ มีนธนานันท์และทีมงานภูมิใจไทยกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่กกต. ร่วมสังเกตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย

การประชุมในครั้งนี้มีขึ้นเพื่อแต่งตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำเขตในพื้นที่กทม.ตามกฎหมายกกต.ที่ทุกเขตต้องมีการจัดตั้งตัวแทน  ซึ่งการประชุมดังกล่าวมีสมาชิกพรรคกว่าสองร้อยคนร่วมกันเลือกตั้งตัวแทนพรรคภูมิใจไทย ณ ซอยเวฬุวนาราม 36 เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

การเลือกตัวแทนพรรคเขต 10 ดอนเมือง เริ่มขึ้นเวลา 10.00 น. – 11.00 น. เป็นอันเสร็จการนับคะแนนการเลือกตั้งโดยผู้ที่ได้รับการลงคะแนนเป็นอันดับหนึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนพรรคเขต 10 ดอนเมือง

โดยปรากฏว่า นางสาวณิฐ์ภาวรรณย์ (นิกกี้)  แตงเอี่ยม อดีตผู้สมัครสส.เขตดอนเมือง พรรคภูมิใจไทย ได้รับคะแนนเสียงท่วมท้นจากสมาชิกพรรคที่มาลงคะแนนการเลือกตั้ง ให้เป็นตัวแทนพรรคเขต 10​ ดอนเมือง ประจำกรุงเทพมหานคร






ทั้งนี้การประชุมจัดตั้งตัวแทนพรรคภูมิใจไทยดังกล่าว จัดขึ้นท่ามกลางความเข้มงวดด้านมาตรฐานความปลอดภัยจากการระบาดโรคโควิด - 19 โดยมีอุปกรณ์วัดอุณหภูมิ การแจกเจลและหน้ากากอนามัย ให้กับประชาชนที่มาในนามสมาชิกพรรคเกือบสองร้อยคน

อย่างไรก็ตามพบว่า การเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคและร่วมกิจกรรมการจัดตั้งตัวแทนของเขตดอนเมืองในครั้งนี้ เกิดกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น คาดว่าจะมาจากผลงานพรรคภูมิใจไทยที่ผ่านมาสองปี อาทิ เรื่องกัญชาทางการแพทย์ งานด้านสาธารณสุข ทำให้ต่างให้ความสนใจงานทางการเมืองด้านสาธารณสุข อสส.ในเขตกทม.จำนวนมากขึ้น อีกด้วย





วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ห้ามพลาด !! งานบล็อกเชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย ส่งท้ายปี 2020

ขนทัพกูรูตัวจริงแห่งวงการบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล

กับงาน “Blockchain Thailand Genesis 2020 Exclusive Edition”

 


ห้ามพลาด !! กับงานบล็อกเชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย “Blockchain Thailand Genesis 2020 Exclusive Edition” เปิดโลกสินทรัพย์ดิจิทัลและอุตสาหกรรมบล็อกเชน The World of Digital Asset and Blockchain Ecosystem ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม 2563 นี้ พร้อมขนทัพผู้รู้และกูรูตัวจริงแห่งวงการบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลแบบครบทุกมิติมารวมกันที่นี่ เพื่อคุณ “ฟรี”

.​สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ตอกย้ำความสำเร็จเพื่อขับเคลื่อนไทยสู่ยุคใหม่แห่งสินทรัพย์ดิจิทัลกับงานบล็อกเชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย กับงาน “Blockchain Thailand Genesis 2020 Exclusive Edition” เปิดโลกสินทรัพย์ดิจิทัลและอุตสาหกรรมบล็อกเชน The World of Digital Asset and Blockchain Ecosystem ในวันที่ 26 ธันวาคม 2563 ณ สามย่านมิตรทาวน์ 

โดยภายในงานจะพบกับเวทีให้ความรู้และกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการจากทัพกูรู ผู้รู้ ตัวจริง เสียงจริงในจากวงการบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัลแบบครบทุกมิติ กับ 4 ประเด็นสุดร้อนแรงที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนเศรษฐกิจโลกไปตลอดกาล ได้แก่ สกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติ, ระบบการเงินกระจายศูนย์, สินทรัพย์ดิจิทัล และการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้เพื่อการประกอบการ 

พบกับกูรูมากมาย อาทิ

• ดร.นภนวลพรรณ ภวสันต์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมเทคโนโลยีทางการเงิน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ - STO vs. ICO : แนวทางกำกับดูแลในปัจจุบันและอนาคต

• คุณสัญชัย ปอปลี - Blockchain Technology จิ้กซอว์ชิ้นสุดท้ายในการสร้างเมืองอัจฉริยะ

• คุณสรานี สงวนเรือง - Disruption การเติบโตของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล

• คุณโฉลก สัมพันธารักษ์ - ทิศทางตลาดจะไปทางไหนต่อเมื่อ Bitcoin ทะลุ All Time High

• คุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ - ปฏิรูปประเทศไทยด้วยระบบบล็อกเชน!?

• คุณชัชวาลย์ วัฒนะโชติ - หลักทรัพย์ vs. สินทรัพย์ดิจิทัล อะไรคือโอกาสในการลงทุนที่ดีกว่า

• คุณอัครเดช เดี่ยวพานิช - สินทรัพย์ดิจิทัลในโลกยุค 4.0

• คุณกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร - สถาบันการเงินกับโลกยุคการเงินไร้ศูนย์กลาง (CeFi & DeFi)

​เรียกได้ว่ามางานเดียว ครบจบทุกมิติ ..ซึ่งผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถลงทะเบียนรับชมงานออนไลน์ “ฟรี” ได้ที่ https://btg2020.blockchain-th.com หรือสอบถามข้อมูลรายละเอียดกิจกรรมต่างๆ เพิ่มเติมที่ www.facebook.com/blockchainthailandevent

วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2563

คนข่าวมาขายของ #4


ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย   นำโดย นางสาว  ศตกมล วรกุล ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัทเอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน)  (ที่ 3 จากซ้าย)
นายมงคล บางประภา นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (ที่ 4 จากซ้าย)

พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ เตรียมจัดงาน “คนข่าวมาขายของ # 4” เพื่อเปิดพื้นที่ให้แก่สื่อมวลชน และอดีตสื่อมวลชนทุกสำนัก ได้นำสินค้าของดีมีคุณภาพในราคากันเองมาร่วมออกบูธ รวมทั้งมีการจัดประมูลของที่ระลึกจากบุคคลมีชื่อเสียง โดยรายได้จากการจัดงานครั้งนี้จะนำเป็นสวัสดิการสำหรับสื่อมวลชนที่ประสบวิกฤตการจ้างงาน

ซึ่งงานดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563
ณ บริเวณลานรามา ฮอลล์ ชั้น G ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์

วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2563

สถานการณ์ “ปลอมแปลงเนื้อสุกรเป็นเนื้อวัว” ระบาดทั่วไทย

ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.ปกรณ์ ปรียากร ผู้อำนวยการสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทยและนายมารุตเมฆลอยจากสมาคมการค้าและนักธุรกิจไทยมุสลิมเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อหาแนวทางป้องกันการการปลอมแปลงเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะสถานการณ์ “ปลอมแปลงเนื้อสุกรเป็นเนื้อวัว” ระบาดทั่วโดย เพื่อร่วมกันกำหนดเพิ่มบทลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคและสร้างความเชื่อมั่นต่อเครื่องหมายการรับรองฮาลาลประเทศไทย ณ ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ อาคารรัฐสภา (เกียดกาย)

รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากกรณีการปลอมแปลงเนื้อสุกรให้เป็นเสมือนเนื้อวัวเพื่อนำมาขายแก่ผู้บริโภคเกิดขึ้นตั้งแต่ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2563 โดยมีผู้นำมาจำหน่ายแก่ผู้ประกอบการร้านอาหารในชุมชนมุสลิมละแวกต่างๆรวมทั้งการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ซึ่งเกิดความวิตกกังวลต่อผู้บริโภคทั้งที่เป็นมุสลิมและมิใช่มุสลิมโดยได้มีผู้บริโภคผู้ประกอบการร้านอาหารและองค์กรศาสนาอิสลามทั้งมัสยิดในชุมชนเริ่มนำส่งตัวอย่างเนื้อที่ต้องสงสัยทั้งในรูปของเนื้อสดและที่แปรรูปแล้วเข้ามาให้ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกว่าเป็นจำนวนทั้งสิ้น๔๒ตัวอย่างผลการวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการพบว่าเนื้อต้องสงสัยที่ส่งเข้ามาทำการตรวจสอบนั้นเป็นเนื้อวัวปลอมที่มาจากการที่ผู้ผลิตนำเนื้อสุกรมาหมักด้วยเลือดวัวสดกว่า 70% ขณะเดียวกันตัวอย่างเนื้อที่ได้มาจากการที่ผู้บริโภคสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตรวจพบว่าเป็นเนื้อสุกรทั้งหมดก่อให้เกิดความวิตกกังวลต่อผู้บริโภคทั้งที่เป็นมุสลิมและไม่ใช่มุสลิมสร้างภาวะขาดความเชื่อมั่นต่อเนื่องไปถึงเนื้อวัวที่ขายในท้องตลาดโดยทั่วไปผู้บริโภคที่เป็นมุสลิมยิ่งมีความวิตกกังวลศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเรียกร้องให้องค์กรภาครัฐภาคเอกชนและองค์กรศาสนาอิสลามดำเนินการตรวจสอบและวางมาตรกรป้องกันให้เด่นชัดเพราะเรื่องเหล่านี้เป็นการกระทำที่เข้าข่ายการหลอกลวงผู้บริโภคอย่างชัดเจน

โดยศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีมติดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนเพื่อนำไปสู่ความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค 5มาตรการประกอบด้วย


1.      มาตรการสื่อสารเตือนภัยผู้บริโภค

2.      มาตรการป้องปรามผู้ค้า

3.      มาตรการปราบปรามผู้กระทำความผิด

4.      มาตรการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานฮาลาล

5.      มาตรการการสร้างความเชื่อมั่นในการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) จากโรงเชือดสัตว์ถึงผู้บริโภค

นอกจากนี้ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลจุฬาฯ ยังให้บริการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างเนื้อวัว หากผู้บริโภคท่านใดสงสัยว่าอาจจะเป็นเนื้อหมู เพื่อสร้างความร่วมมือในการแก้ปัญหาร่วมกัน โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.halalscience.org 


ทั้งนี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดประชุมร่วมกับคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อชี้แจ้งและอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ “ปลอมแปลงเนื้อสุกรเป็นเนื้อวัว” พิจารณาทบทวนพระราชบัญญัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนว
ทางในการป้องกันการปลอมแปลงเนื้อสัตว์เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคและสร้างความเชื่อมั่นต่อเครื่องหมายการรับรองฮาลาลประเทศไทยต่อไปรศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน กล่าวปิดท้าย

วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2563

“เคอี กรุ๊ป” จับมือ “อาลีบาบา คลาวด์” สร้าง “SKY OS” แพลตฟอร์มแรกในเอเชีย เชื่อมโยงธุรกิจรีเทล-อสังหาฯครบวงจร ติดอาวุธผู้ประกอบการร้านค้าไทย


แม้จะอยู่ต่างอุตสาหกรรมกัน ก็สามารถจับมือกันมาเขย่าวงการธุรกิจได้ ล่าสุด “เคอี กรุ๊ป” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับชั้นนำของประเทศไทย จับมือ “อาลีบาบา คลาวด์” ผู้นำเทคโนโลยีระบบการจัดการอันดับหนึ่งของเอเชีย สร้างนิวโมเดลแพลตฟอร์มแรกในเอเชีย ภายใต้ชื่อ “SKY OS”เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงธุรกิจแบบครบวงจรและทันสมัยของเมืองไทย อีกทั้งยังสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้หลากหลายธุรกิจ ตั้งแต่ธุรกิจค้าปลีกร้านค้าศูนย์การค้า และอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท หวังช่วยผู้ประกอบการร้านค้า และธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มช่องทางการขายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายการลงทุนด้านเทคโนลียี ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจนไล่ตามไม่ทัน

“นางศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอี กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับ บริษัท อาลีบาบา คลาวด์ จำกัด นำโดย“นายไทเลอร์ ควิว”ผู้จัดการของอาลีบาบา คลาวด์ ประจำประเทศไทย ร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อกลุ่มค้าปลีก, ร้านค้า, ศูนย์การค้า และอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ภายใต้ชื่อ “SKY OS” (สกาย โอเอส) เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงธุรกิจแบบครบวงจรและทันสมัยของเมืองไทย อีกทั้งยังสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้หลากหลายธุรกิจ นอกจากแพลตฟอร์มสำหรับธุรกิจค้าปลีกแล้ว ยังคาดว่าจะมีการพัฒนา“SKY OS” (สกาย โอเอส) พัฒนาระบบให้ครอบคลุมการบริหารธุรกิจเรียลเอสเตทอื่นๆ ในอนาคต

ทั้งนี้ “SKY OS” (สกาย โอเอส) ได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์มของอาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) ซึ่งเป็นระบบดิจิทัลอัจฉริยะ และเป็นเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานหลักของอาลีบาบาซึ่งโซลูชั่นของอาลีบาบา คลาวด์ ได้ให้การสนับสนุนธุรกิจต่างๆ อย่างประสบผลสำเร็จมาแล้วมากมาย ทั้งธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เทคโนโลยีการเงินโลจิสติกส์ สื่อดิจิทัล และ ธุรกิจบันเทิง ตลอดจนระบบจ่ายเงิน เกตเวย์ และระบบการชำระเงินแบบไร้เงินสดหรือ E-Wallet ที่สมบูรณ์ครบวงจร ทำให้มั่นใจได้ว่า ระบบ Sky OS จะเป็นระบบที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ประกอบการในประเทศไทย



จุดเด่นของ“SKY OS” (สกาย โอเอส) คือการรวบรวมแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบนี้ให้กับพันธมิตรธุรกิจ และร้านค้าต่างๆ สามารถนำไปใช้ในการบริหารงานและบริหารการขาย เพื่อเพิ่มช่องทางการขายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด บนแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพที่สุด โดยไม่ต้องกังวลกับการลงทุนไล่ตามเทคโนลียีที่เปลี่ยนแปลงเร็ว เนื่องจาก “SKY OS” (สกาย โอเอส) จะเป็นผู้พัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ภายใต้สเตทออฟดิอาร์ต 5 หลักการทำงานสำคัญคือ

1. โครงสร้างสำหรับการทำระบบลอยัลตี้และแคมเปญ พัฒนาระบบให้ผู้ประกอบการทุกประเภทธุรกิจ สามารถนำบิ๊กดาต้าไปใช้ในการเพิ่มฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อการส่งโปรโมชั่นผ่านทุกสื่อที่เข้าถึง เช่น โปรแกรมสะสมแต้ม และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ตลอดจนการสร้างแคมเปญที่ประสบความสำเร็จด้วยการเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ

2. เป็นโมเดลธุรกิจแบบ O2O หรือออนไลน์ ทู ออฟไลน์ (Online to Offline) ผสมผสานระหว่างธุรกิจจากออนไลน์ไปยังออฟไลน์ โดยนำคุณภาพของออฟไลน์มาช่วยยกระดับให้กับออนไลน์ ในการขายและการทำการตลาด การโอนที่รวดเร็วและการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับผู้ค้าปลีก

3. เป็นระบบที่ทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อ เพราะมีพื้นฐานมาจากโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกของอาลีบาบา คลาวด์รวมถึงมีระบบสนับสนุน ณ จุดขาย หรือ POS ซึ่งใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ประกอบการ

4. แพลตฟอร์มบิ๊กดาต้า พร้อมระบบการสร้างชุมชนผู้ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่พัฒนาโดยอาลีบาบา คลาวด์ จะช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงบิ๊กดาต้าและการใช้งานได้ ผู้ค้าปลีกจะสามารถสร้างชุมชนของผู้ใช้ และเข้าถึงแต่ละกลุ่มได้แม่นยำมากขึ้น

5. สร้างสังคมไร้เงินสด ช่วยสร้างสังคมไร้เงินสด ผ่าน กระเป๋าเงินออนไลน์ คูปองและ voucher ออนไลน์ และมีระบบสะสมแต้มและแลกคะแนนสะสม ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ค้าปลีกได้แทบทุกรูปแบบที่ธุรกิจต้องการ 

“SKY OS” (สกาย โอเอส) จะเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด รวมถึง โครงการหมู่บ้าน คอนโดมิเนียม สำนักงาน โรงแรม อพาร์ทเมนต์ ตลาด และค้าปลีก โดยอำนวยความสะดวกในทุกด้านที่ธุรกิจต้องการ และเป็นท่าเชื่อมต่อไปยังบริการด้านบัญชี แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า การเก็บและจ่ายเงิน บริการออนดีมานด์ ประกัน และอีกมากมาย บริการเหล่านี้มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพคอยรองรับ โดยมีราคาที่เข้าถึงได้

ทั้งอาลีบาบา คลาวด์ และเคอี กรุ๊ป ต่างเห็นพ้องว่า แพลตฟอร์ม“SKY OS” (สกาย โอเอส)มีโอกาสทางการตลาดสูง และมีประโยชน์อย่างมากในเทรนด์ของโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยแพลตฟอร์มนี้ถือเป็นครั้งแรกในไทยและเอเชีย และจะเริ่มเปิดให้บริการภายในปลายปีนี้ สำหรับลูกค้าและร้านค้าของศูนย์การค้า ภายใต้การบริหารของกองรีท BKER ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้แก่ ศูนย์การค้า คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC), เดอะคริสตัล เอกมัย รามอินทรา-ราชพฤกษ์-ชัยพฤกษ์, เดอะซีน, เพลินนารี, อมอรินี, สัมมากร เพลส ราชพฤกษ์-รามคำแหง-รังสิต และแอมพาร์คจุฬา 

ในระหว่างนี้ หากมีผู้ประกอบการร้านค้าประเภทธุรกิจทั้งขนาดใหญ่และเล็ก แม้ไม่ได้อยู่ในกองรีท BKER ก็สามารถเข้าร่วมในแพลตฟอร์ม“SKY OS” (สกาย โอเอส)ได้ อีกทั้งยังมั่นใจได้เพราะพัฒนาโดยอาลีบาบา คลาวด์ ซึ่งมีความเสถียร และพิสูจน์แล้วจากการทำงานให้กับธุรกิจในหลายภูมิภาค

“นางศุภานวิต”กล่าว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้จะส่งเสริมให้เกิดการใช้เทคโนโลยีมากขึ้นในประเทศไทย เพื่อเสริมกลยุทธ์ในการแข่งขันทางธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพในการค้าขายอย่างมีประสิทธิภาพด้วยศักยภาพของอาลีบาบา คลาวด์ ที่เป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย เทคโนโลยีนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญทางธุรกิจในการช่วยสร้างยอดขาย เพิ่มฐานลูกค้า ให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้า รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการใช้บริการคลาวด์มากขึ้นในประเทศไทย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต”

“SKY OS เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับทั้งร้านค้าและผู้เช่า เรามั่นใจว่าด้วยเครื่องมือต่างๆ ของอาลีบาบา คลาวด์ จะตอบโจทย์ความต้องการที่ซับซ้อนของเจ้าของธุรกิจได้ ด้วยประสบการณ์จากการทำงานให้กับธุรกิจค้าปลีกทั่วโลกมาแล้วมากมาย 

“SKY OS” (สกาย โอเอส) มีคุณสมบัติหลักที่พิเศษในด้านการสร้างโปรแกรมลอยัลตี้ ที่ร้านค้าและศูนย์การค้าในไทยสามารถนำไปใช้ได้โดยไม่ต้องลงทุนในการสร้างระบบพื้นฐานขึ้นมาใหม่ด้วยตนเองโดยมีสิ่งที่พิเศษกว่าแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ดังนี้

1. การให้สิทธิประโยชน์ที่มากกว่าซึ่งปกติร้านค้าอาจไม่สามารรถทำได้ และสามารถร่วมกับร้านค้าอื่นๆ ในการร่วมมือหรือแลกเปลี่ยนสิทธิประโยชน์ผ่านแพลตฟอร์มนี้

2. การสะสมคะแนนของทุกร้านค้าและทุกธุรกิจลูกค้าทุกท่านที่สมัครเป็นสมาชิก สามารถสะสมคะแนน หรือแลกเปลี่ยนแต้มได้จากทุกร้านค้าในระบบ “สกาย โอเอส”

3. การทำโปรโมชั่นแบบแลกเปลี่ยนกันระหว่างร้านค้า หรือธุรกิจ หรือรูปแบบอื่นๆร้านค้าสามารถทำโปรโมชั่นการตลาดข้ามหมวดหมู่ธุรกิจได้ ทำให้ลูกค้าสามารถสะสมคะแนนผ่านกิจกรรม อาทิ การทำกิจกรรมร่วมการเล่นเกมส์ และการถ่ายรูป ซึ่งระบบสามารถจัดเป็นการสะสมคะแนนได้ทุกรูปแบบ 

โดยร้านค้าภายในศูนย์การค้า สามารถใช้เพียงโทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์ในการยืนยันการสะสมแต้มให้ลูกค้า และยืนยันการใช้สิทธิพิเศษ ร้านค้ายังสามารถนำแพลตฟอร์มนี้ไปเป็นแพลตฟอร์มของร้านค้าได้ เพียงปรับอินเทอร์เฟซการใช้งานของfront-end หรือหน้าจอให้เป็นของร้านค้านั้น รวมถึงประยุกต์ให้เข้ากับโปรแกรมสะสมคะแนนของทางร้าน และไม่ว่าร้านค้า หรือผู้ประกอบการจะไม่ได้อยู่ภายในศูนย์การค้าในเครือ BKER ก็สามารถใช้บริการได้ ในต้นทุนที่ต่ำกว่าการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมาเองอย่างมาก อีกทั้งสามารถปรับฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ได้ง่าย

โดยทั่วไปหากธุรกิจต้องการพัฒนาแอปพลิเคชั่นขึ้นมาด้วยตนเอง จะมีค่าใช้จ่ายในการพัฒนาแพลตฟอร์มราว 800,000-5,000,000 บาท สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง แต่หากใช้บริการพัฒนาแอปพลิเคชั่นของ “SKY OS” (สกาย โอเอส)จะค่าใช้จ่ายราว 300,000-1,000,000 บาทเท่านั้น โดยขึ้นอยู่กับความยากง่าย ดังนั้นสกาย โอเอส จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ประกอบการในการสร้างฟีเจอร์พื้นฐานที่ครบถ้วนสำหรับบริหารจัดการโปรแกรมลอยัลตี้และแคมเปญต่าง การทำการตลาดแบบอัตโนมัติ และการวิเคราะห์บิ๊กดาต้าสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ โดยธุรกิจสามารถเลือกที่จะเป็นผู้ดูแลระบบหลังบ้านเอง หรือว่าจ้างให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลระบบได้ 

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาแอปพลิเคชั่น คือความเสถียร ความเร็ว การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และหน้าจอการใช้งานที่น่าใช้ สิ่งเหล่านี้ล้วนมีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง และดูแลระบบความปลอดภัยและภาษาของโปรแกรม ซึ่งอาจพบปัญหาได้หากใช้ผู้พัฒนาที่ไม่ใช้โปรแกรมภาษาล่าสุดในการพัฒนา และจะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการลงทุนเพิ่มเติม  ซึ่งแพลตฟอร์มสกาย โอเอส ที่พัฒนาโดยอาลีบาบา คลาวด์ จะทำให้เจ้าของธุรกิจก้าวข้ามความเสี่ยงเหล่านี้ และสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนได้ทั้งออฟไลน์และออนไลน์

ข่าวประชาสัมพันธ์

กสอ. จัดกิจกรรมส่งท้ายหนุนผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน ด้วย “DIPROM: NextAgriX 2025

กสอ. จัดกิจกรรมส่งท้ายหนุนผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน ด้วย “DIPROM: NextAgriX 2025 : เครือข่ายธุรกิจ เพื่ออนาคต >> เริ่ม...

โวยวายดอทคอม