วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ใหม่! แอทแทค 3D ไวรัส คิลเลอร์ ครั้งแรกของผงซักฟอกฆ่าไวรัส 99.9% ที่สุดแห่งนวัตกรรมความสะอาด

บริษัท คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือนและส่วนบุคคลตอกย้ำจุดยืนเรื่องการดูแลสุขอนามัย พร้อมเกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ภายหลังมีการเปิดประเทศ ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด ครั้งแรก! ของผงซักฟอกฆ่าเชื้อไวรัส 99.9% แอทแทค 3D ไวรัส คิลเลอร์สูตรเพื่อสุขอนามัยขั้นสุดของแอทแทค ที่ผสานเทคโนโลยี 3D ไวรัส คิลเลอร์เข้าไปทำลายเปลือกหุ้มของไวรัสทำให้เชื้อไวรัสหมดฤทธิ์และถูกกำจัดออกไปนอกจากนี้สามารถยับยั้งแบคทีเรียบนผ้าได้อีกด้วยซึ่งจะช่วยลดกลิ่นอับและกลิ่นเหงื่อ พร้อมขจัดคราบฝั่งแน่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นผงซักฟอกที่เหมาะกับการซักเสื้อผ้าให้กับทุกคนในครอบครัวร่วมพิสูจน์นวัตกรรมความสะอาดเพื่อสุขอนามัยขั้นสุด ด้วย แอทแทค3D ไวรัส คิลเลอร์ผงซักฟอกสูตรฆ่าเชื้อไวรัส 99.9% ขนาด 750 กรัมในราคา 85บาท ได้แล้ววันนี้ที่ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ

แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ให้ลูกพาพ่อขึ้นรถไฟฟรีวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล  ลิงก์ มอบของขวัญในวันพ่อแห่งชาติ ให้คุณลูกพาคุณพ่อ
ขึ้นรถไฟฟ้า ฟรี! ไม่จำกัดเที่ยว วันที่ 5 ธันวาคม 2563

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นวันพ่อแห่งชาตินั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนสถาบันครอบครัวให้มีความสัมพันธ์ และความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น บริษัทจึงได้จัดกิจกรรมพิเศษเปิดโอกาสให้คุณลูกพาคุณพ่อขึ้นรถไฟฟ้าฟรี! 

ไม่จำกัดเที่ยว ตลอดวัน ในวันที่ 5 ธันวาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 24.00 น.
เพียงคุณลูกพาคุณพ่อมาแสดงตัวที่ห้องจำหน่ายตั๋ว 

(คุณพ่อ และคุณลูกไม่จำเป็นต้องมีนามสกุลเดียวกัน) เพื่อขอรับคูปองเดินทางฟรีที่ห้องจำหน่ายตั๋วก่อนเดินทาง เพียงเท่านี้คุณพ่อก็สามารถเดินทางได้ฟรี


หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 

Call Center 1690 หรือ www.srtet.co.th , www.facebook.com/AirportRailLink 

และ Twitter : Airport Rail Link

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

โรงแรม​ เดอ​ะ​ พาร์ค​ ไนน์​ สุวรรณภูมิ​

 


คุณ​ธรรมจักร์   เหลืองประเสริฐ ตัวแทนเจ้าของ​โรงแรมฯ  และ​คุณ​ชาตรี​ นุ้ย​ประสิทธิ์​ ต้อนรับวงIDOL ยุค60'​s-80's 'HONEY'  พร้อม​นักร้อง​รับ​เชิญ​พิเศษ​ คุณเล็ก​ เพลสลี่ยส์​ ที่มามอบความสนุก​สนาน  และพาทุกท่านหวนรำลึกความทรงจำสมัยยังเฟี้ยวไปกับบทเพลงสากลคลาสสิค​ย้อนยุค  เมื่อเร็วๆนี้













วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

คุณพ่อทานฟรี

วันพ่อเป็นวันดีๆ อีกหนึ่งวัน ที่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันในครอบครัว โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ ขอเชิญคุณมาบอกรักคุณพ่อด้วยอาหารมื้อพิเศษกับโปรโมชั่นสุดคุ้ม“คุณพ่อทานฟรี” ณ ห้องอาหารเดอะมัลเบอร์รี่ ไชนีส ควินซีนใน วันที่  5– 6 ธันวาคม2563  ตั้งแต่เวลา 11.00 – 18.00 น. 


พาคุณพ่อมาฟินเวอร์กับบุฟเฟต์ติ่มซำเสิร์ฟไม่อั้นมีรายการให้เลือกกว่า30 เมนู  อาทิ ฮะเก๋าทอดไส้กุ้ง ฮะเก๋าวาซาบิ กุ้งนึ่งมะนาวซาลาเปาหิมะ ซาลาเปาไข่เค็มลาวาราคา 578 บาทสุทธิ ต่อท่านพิเศษ!คุณพ่ออายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปทานฟรี (เมื่อมากับครอบครัวโต๊ะละ 4 ท่านพร้อมคุณพ่อ)

หรือจะเลือกฉลองด้วยอาหารจีนมงคล “ชุดมั่งมี ศรีสุข”ได้แก่ ซุปหูฉลามทรงเครื่อง เป็ดปักกิ่ง หน่อไม้ทะเลเจี๋ยนคะน้าฮ่องกง ผัดจับฉ่ายซีฟู้ดหม้อดินฮ่องกง ปลากะพงนึ่งซีอิ๊ว อีหมี่ผัดแห้งเนื้อปูและแปะก๊วยตุ๋นมะพร้าวอ่อนราคา 8,888 บาทสุทธิสำหรับ 10 ท่านพร้อมรับฟรีไวน์ 1 ขวด 

สอบถามเพิ่มเติมกรุณาโทร. 02 309 99999 ต่อ 3134 หรือ 091 544 4387 

แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ร่วมงานแสดงเทคโนโลยีรถไฟฟ้า และประชุมเชิงวิชาการ “Rail Asia 2020”

แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ร่วมงานแสดงเทคโนโลยีรถไฟฟ้า และประชุมเชิงวิชาการ “Rail Asia 2020” โชว์ศักยภาพความเป็นผู้นำในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าที่มีมาตรฐานในระดับสากลภายใต้แนวคิด “Learning & Sharing” พร้อมรับภารกิจเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงในอนาคต

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ร่วมงานแสดงเทคโนโลยีรถไฟฟ้า และประชุมเชิงวิชาการ “Rail Asia 2020” ซึ่งบริษัท เอเชีย เอ็กซิบิทชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 26  พฤศจิกายน 2563 ณ แอร์พอร์ต เรล  ลิงก์ สถานีมักกะสัน ภายใต้แนวคิด “Learning & Sharing” พร้อมรับภารกิจเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงในอนาคต





นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่าในระหว่างวันที่ 25 – 26  พฤศจิกายน 2563 ณ แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สถานีมักกะสัน มีการจัดงานแสดงเทคโนโลยีรถไฟฟ้า และประชุมเชิงวิชาการ “Rail Asia 2020” โดยบริษัท เอเชีย เอ็กซิบิทชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งภายในงานจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจเกี่ยวอุตสาหกรรมระบบรางมากมาย ทั้งการจัดประชุมสัมมนาวิชาการ พร้อมด้วยการแสดงนวัตกรรมในอุตสาหกรรมระบบรางจากผู้ประกอบการทั้งชาวไทย และต่างประเทศ

ในส่วนของบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ได้จัดบูทภายใต้แนวคิด “Learning & Sharing” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการที่บริษัทเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ( Learning Center ) ที่สามารถต่อยอดนำความรู้ภายในองค์กรมาพัฒนาศักยภาพการดำเนินงานของบริษัทตลอดระยะเวลา 10 ปีที่เปิดให้บริการ จนกลายเป็นผู้นำในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าที่มาตรฐานในระดับสากล ผ่านการรับรองระบบคุณภาพ ISO 9001 : 2015 ทั้งในด้านการเดินรถและให้บริการ และการซ่อมบำรุง โดยมีการแสดงผลงานต่างๆ ทั้งในด้านอัตราการเติบโต และความพึงพอใจของผู้โดยสาร , ประสิทธิภาพในการให้บริการ หรือผลงานความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก และสถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐ และเอกชนในการช่วยพัฒนาระบบขนส่งทางรางของประเทศไทย รวมทั้งนำเสนอการเตรียมความพร้อมในภารกิจเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง

โดยอัตราการเติบโตของผู้โดยสารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล  ลิงก์ นั้น เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เปิดให้บริการมาตลอด โดยเป็นการเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ซึ่งปัจจุบันรวมแล้วมีผู้ดดยสารมากกว่า 190 ล้านคน ส่วนประสิทธิภาพในการดำเนินงาน บริษัทก็สามารถผ่านเกณฑ์ชี้วัดโดยตลอด ทั้งในด้านการให้บริการ ได้แก่ความพร้อมในการใช้งานของรถไฟฟ้าที่ 100% ที่บริษัทสามารถให้บริการรถไฟฟ้าได้เต็มจำนวนที่ 9 ขบวน มีความตรงต่อเวลาที่สูงถึง 99.46% และมีความน่าเชื่อถือ ในการให้บริการ 100% หรือในด้านความพึงพอใจของผู้โดยสารที่ผ่านเกณฑ์ชี้วัดที่ 4.20 จากคะแนนเต็ม 5 



ด้านความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกในการช่วยพัฒนาระบบขนส่งทางรางของไทย บริษัทผ่านการรับรองจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ให้เป็นองค์กรที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานวิชาชีพ สาขาวิชาชีพรถไฟความเร็วสูง และระบบราง ใน 5 สาขาวิชา ได้แก่ ช่างเทคนิคซ่อมบำรุงระบบช่วงล่างรถไฟฟ้าด้านระบบเครื่องกล ระดับ 4 , ช่างเทคนิคซ่อมบำรุงระบบอาณัติสัญญาณ ระดับ 4, ผู้ควบคุมการเดินรถไฟฟ้า ระดับ 4 , ผู้ควบคุมรถไฟฟ้าความเร็วสูง ระดับ 4 และนายสถานี ระดับ 4

โดยล่าสุดเพื่อพัฒนาระบบการประเมินสมรรถนะบุคคลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัทได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในการพัฒนาระบบ E-Training เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ต้องการเข้ารับการสอบประเมินสมรรถนะกับบริษัท

ด้วยความพร้อมในการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ทำให้มีนักศึกษา และหน่วยงานภายนอกจากสถาบันต่างๆขอเข้าศึกษาดูงาน และฝึกปฏิบัติงานกับบริษัทเป็นจำนวนมาก โดยบริษัทเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้ และศึกษาผ่านการสังเกตการณ์การดำเนินงานจริง และฝึกปฏิบัติงานจริงโดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยให้คำอธิบาย




นอนจากนั้นบริษัทยังได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ในการดำเนินการจัดการองค์ความรู้ ( Knowledge Management ) การดำเนินงานรถไฟฟ้าของบริษัท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รวมทั้งรักษา และพัฒนาองค์ความรู้ของบริษัทให้มีความยั่งยืน และพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และเพื่อเตรียมการให้บริษัทมีความพร้อมมากที่สุดสำหรับรองรับภารกิจใหม่ในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง บริษัทได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าอบรมองค์ความรู้การดำเนินงานของระบบรถไฟฟ้าสายสีแดงในส่วนงานต่างๆทั้งการเดินรถ และการซ่อมบำรุง จากเจ้าของระบบที่เป็นเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อมา
เป็นครูผู้ฝึกสอน ( Key Instructor ) ให้แก่บุคลากรในองค์กร หรือบุคลากรที่บริษัทดำเนินการรับสมัครมาใหม่เพื่อรองรับภารกิจเดินรถไฟฟ้าสายสีแดง

ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เจ้าหน้าที่ครูผู้ฝึกสอนของบริษัท ก็ได้ดำเนินการสอบทานข้อมูลที่ได้รับจากการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่แบบเรียนออนไลน์ภายในองค์กร
พื่อใช้ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นการทบทวนองค์ความรู้ เตรียมความพร้อมในการฝึกอบรมพนักงานใหม่และถือเป็นการ refresher training ครูผู้สอน เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงต่อไป

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข Call Center 1690 หรือ www.srtet.co.th www.facebook.com/AirportRailLink และ Twitter : Airport Rail Link 

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เงินดิจิทัล เปลี่ยนโลกได้จริงหรือ !?

ร่วมเรียนรู้และก้าวสู่โลกยุคใหม่ในงานมหกรรมบล็อกเชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย
ส่งท้ายปี 2020 งาน   “Blockchain Thailand Genesis 2020 Exclusive Edition”

ปัจจุบัน เราได้ยินคนพูดถึงเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain Technology) และสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) กันมากขึ้น บางคนมองว่าสิ่งเหล่านี้คือโอกาสในโลกยุคใหม่ บางคนบอกว่ามันเป็นแค่แชร์ลูกโซ่แบบหนึ่งที่อันตราย เชื่อถือไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้วคำสองคำนี้อาจมีสิ่งที่น่าเรียนรู้ซ่อนอยู่มากกว่าที่คุณคิด 

ก่อนที่เราจะเรียนรู้เรื่องสกุลเงินดิจิทัล เราต้องมารู้จักกับเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain Technology) กันเสียก่อน ว่าบล็อกเชนเปรียบเสมือนเครือข่ายการเก็บข้อมูลแบบหนึ่งที่เชื่อมต่อข้อมูลต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยทุกคนสามารถเข้าถึงและได้รับข้อมูลเดียวกันอย่างโปร่งใส ปลอดภัย และไม่ผิดพลาด นี่จึงเป็นเหตุผลที่มีการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงธุรกรรมทางการเงินที่ต้องการ
ทั้งความเป็นส่วนตัว แต่ยังคงปลอดภัย ตรวจสอบได้ และน่าเชื่อถือ จนเกิดเป็น “บิตคอยน์” (Bitcoin) เงินดิจิทัลสกุลแรกของโลก รวมถึงสกุลเงินใหม่ๆ อย่าง อีเธอเรียม(Ethereum)และอื่นๆ อีกกว่า 3,000 สกุล

ซึ่งปัจจุบัน บิตคอยน์เป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจทัล (Cryptocurrency) ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด เพราะมันเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงที่สุดและมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บิตคอยน์จึงกลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือกที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก จนหลายองค์กรสนใจหันมาลงทุนและเก็งกำไรในบิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลกันมากขึ้น ดังจะเห็นในข่าวการเข้าซื้อบิตคอยน์ของบริษัทระดับโลกอย่าง MicroStrategy, Square Inc. รวมไปถึงการเปิดให้ซื้อเงินดิจิทัลบนแพลตฟอร์มการเงินระดับโลกอย่าง PayPal จนเป็นที่กล่าวขวัญว่า “สกุลเงินดิจิทัล กำลังเปลี่ยนแปลงโลก” เพราะการทำธุรกรรมกับเงินดิจิทัล คือการทำธุรกรรมออนไลน์ที่เป็นไปด้วยระบบคอมพิวเตอร์บนเทคโนโลยีบล็อกเชนซึ่งไม่ต้องอาศัยตัวกลางอย่างธนาคารจัดการอีกต่อไป เราจึงไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ค่าผ่านทาง หรือค่าบริการธุรกรรมใด ๆ ให้กับตัวกลาง มิหนำซ้ำยังสามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วินาทีเทียบเท่ากับความแรงอินเทอร์เน็ตของเรานั่นเอง

และที่สำคัญ สกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน ยังเป็นโอกาสการลงทุนรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ 
อาทิ การชำระเงินออนไลน์ (E-payment), การระดมทุน (Crowdfunding), การกู้ยืมแบบ Peer-to-Peer 
โดยใช้เงินดิจิทัลเป็นหลักประกัน (Collateral Lending) หรือการกู้เงินดิจิทัลเพื่อไปขายทำกำไรในตลาด
ที่ราคาสูงกว่า และนำเหรียญที่ได้มาไปซื้อเงินดิจิทัลในอีกตลาดที่ราคาต่ำกว่าและนำกลับไปคืนที่เรากู้ 
ซึ่งสามารถทำกำไรได้ในเวลาอันสั้นเพียงไม่กี่วินาที (Flash Loans) เป็นต้น

จนถึงตอนนี้ รัฐบาลหลายประเทศก็กำลังพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองในรูปแบบ สกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติ (Central Bank Digital Currency: CBDC) ตัวอย่างเช่น จีนเป็นประเทศแรกของโลกได้ทำการทดลองใช้เงิน “หยวนดิจิทัล” ผ่านแพลตฟอร์มชำระเงินบนมือถือของประชาชนได้จริง รวมถึงยังมีอีกหลายประเทศ ทั้ง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ บราซิล รัสเซีย ได้เริ่มพัฒนาและกำลังจะเริ่มที่จะทดลองใช้สกุลเงินแห่งชาติเป็นของตัวเอง แม้แต่ในภาคเอกชนอย่าง Facebook ก็ได้ทำการวิจัยและพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Libra เพื่อมาใช้ในแพลตฟอร์มของตัวเองด้วย

สำหรับประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงค์ชาติ) ได้ทำการศึกษา วิจัย และพัฒนา โครงการสกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติ ในชื่อ โครงการอินทนนท์ ซึ่งล่าสุดก็ได้ประสบความสำเร็จในการทำการทดสอบต้นแบบของระบบการโอนเงินระหว่างประเทศในเชิงธุรกิจ (Wholesale) ผ่านสกุลเงินดิจิทัลจำลองร่วมกับโครงการ LionRock ของธนาคารกลางฮ่องกงไปแล้วเมื่อมกราคมที่ผ่านมา และในไม่ช้าคนไทยคงจะได้เห็นการใช้เงินดิจิทัลจากภาครัฐมากขึ้นอย่างแน่นอน


เทคโนโลยีบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัล ยังมีประโยชน์ในการสร้างโอกาสขององค์กร รัฐบาล และประเทศชาติให้ก้าวสู่โลกยุคใหม่ ซึ่งเป็นโลกที่ทุกคนจำเป็นต้องเปิดใจยอมรับและเริ่มศึกษาในเรื่องนี้ให้มากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย จึงได้จัดงาน “Blockchain Thailand Genesis 2020 Exclusive Edition” มหกรรมงานบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล The World of Digital Asset and Blockchain Ecosystem ขึ้นเป็นปีที่ 3 เพื่อผลักดันวงการสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนไปสู่อนาคต พร้อมเน้นย้ำในการเป็นเครือข่ายของกลุ่มผู้เผยแพร่องค์ความรู้ด้านบล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุด และขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ยุคใหม่แห่งสินทรัพย์ดิจิทัล โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคม 2563 ณ สามย่านมิตรทาวน์ ภายในงานจะพบกับ เวทีให้ความรู้และกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อต่าง ๆ ภายใต้ 4 หัวใจหลัก ได้แก่ สกุลเงินดิจิทัลแห่งชาติ (Central Bank Digital Currency: CBDC) ระบบการเงินกระจายศูนย์ (Decentralized Finance: DeFi) สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) และการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้
เพื่อการประกอบการ (Blockchain for Enterprise) 

ผู้สนใจเข้าร่วมงานสามารถสำรองที่นั่งออนไลน์ ลงทะเบียนเข้าร่วมงานอบรม หรือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://blockchain-th.com/ และ https://web.facebook.com/blockchainthailandevent/ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ล่องเรือสุดพิเศษ ในโครงการท่องเที่ยววิถีนนท์ และ โครงการเจ้าพระยาสายธาราแห่งวัฒนธรรม

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2563 นางสาวพิมพกานต์ พิพิธธนานันท์ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนางสาวจุไรรัตน์ ชัยทวีทรัพย์ , นายพันธุ์รวี บุนนาค รอง ผู้อำนวยการ สำนักงานฯ และนางชฎารัตน์ ดวงมณี พนักงานการตลาด3 นำสื่อมวลชวนร่วมทำข่าวเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรม"เรือด่วนชวนเที่ยวเกาะเกร็ด" จัดโดยบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จํากัด เส้นทาง กรุงเทพฯ - เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี 


ในการนี้ ททท.สำนักงานกรุงเทพมหานคร พาสื่อมวลชน online จำนวน 11 ราย ร่วมกิจกรรมทริปไหว้พระ ล่องเรือ เที่ยววัดใหญ่ กรุงเทพฯ - เกาะเกร็ด เสนอขายนักท่องเที่ยวจาก กรุงเทพมหานคร เที่ยวชม - ไหว้พระใหญ่ เส้นทาง วัดกัลยาฯ —วัดแดงธรรมชาติ-วัดบางจาก-วัดปรมัยฯ เกาะเกร็ด-วัดไผ่ล้อม-วัดกลางเกร็ด ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศกว่า 130 คน  ร่วมเดินทางร่วม trip ดังกล่าว    

โดยรอบนี้ เดินทางโดยเรือปรับอากาศ 2 ชั้น  เรือล่องเจ้าพระยากับความสะดวกสบาย เพราะ  เป็นเรือโดยสารท่องเที่ยวที่ออกแบบลักษณะเป็นเรือสองท้อง จุผู้โดยสารได้ 202 คน ภายในเรือออกแบบให้มีความโปร่งโล่ง เบาะที่นั่งมีกว้างขวาง ส่วนบริเวณชั้น 2 ของเรือสามารถขึ้นไปชมวิวได้แบบ 360 องศา นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวเช่น Wifi ฟรี, ห้องน้ำในเรือ, ไกด์นำเที่ยว ออกจากท่าสาทร 8.30 น.
ไปไหว้พระและท่องเที่ยวดังนี้







จุดที่ 1 ทริปนี้ออกจากท่าน้ำสาธร 8.30 น.เดินทางไปยังจุดแรก ณ.วัดกัลยาณมิตร 

ไหว้หลวงพ่อโตซำปอกง 

 จุดที่ 2 วัดแดงธรรมชาติ เพื่อสักการะ กราบพระพุทธรูปนาคปรกองค์ใหญ่ 

 จุดที่ 3 เดินทางต่อ วัดบางจาก ไหว้หลวงพ่อดำ

จุดที่ 4 จากนั้นเดินทางต่อ มุ่งหน้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดนนทบุรีที่เกาะเกร็ด ลัดเลาะเกาะเกร็ด แวะหาอาหารกลางวันทานตามอัธยาศัย และชิมอาหารขึ้นชื่ออย่าง ทอดมันหน่อกะลา ไหว้พระนนทมุนินท์ พระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี วัดปรมัยฯ เกาะเกร็ด
ปิดท้ายทริปด้วยไหว้พระนอนองค์ใหญ่ที่สุดในเมืองนนท์ วัดกลางเกร็ด (ออกจากเกาะเกร็ด 16.00 น.)















ทั้งนี้ ททท.สำนักงานกรุงเทพมหานคร จึงร่วมกับ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จํากัด จัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวต่อยอดการเสนอขาย trip ล่องเรือสุดพิเศษ ในโครงการท่องเที่ยววิถีนนท์ และ โครงการเจ้าพระยาสายธาราแห่งวัฒนธรรม จัดทริปในช่วงวันหยุดยาวเดือนธันวาคม 2563 อีก 2 ทริป ดังนี้

1.กิจกรรมพาพ่อขอพรพระใหญ่ กรุงเทพมหานคร - นนทบุรี จัดกิจกรรมวันที่ 5 ธันวาคม 2563 ราคา 250 บาท/คน (ค่าเรือ - ค่ามัคคุเทศก์) 

2.วันหยุดยาว วันที่ 13 ธันวาคม 2563 กับกิจกรรมเที่ยว 5 เมือง ไหว้พระ 5 วัด เส้นทางกรุงเทพมหานคร- นนทบุรี - ปทุมธานี - พระนครศรีอยุธยา ราคา 599 บาท/คน(ค่าเรือ - ค่ามัคคุเทศก์) 

สำรองที่นั่งได้ที่

☏ 086-331-4215
✑ LINE: @cpxboattour

ข่าวประชาสัมพันธ์

วิวัฒนาการของแบรนด์ไทยสู่ตลาดโลก ในงาน STYLE Bangkok 2024

เตรียมตื่นตาตื่นใจกับหลากหลายแบรนด์ไทยที่ไปผงาดในเวทีตลาดโลก ในงาน STYLE Bangkok 2024 มหกรรมแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ชั้นนำของเอเชีย ระหว่างวันที่...

โวยวายดอทคอม