วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

รมต.จิราพร’ เปิดงาน ‘มหกรรมไกล่เกลี่ยเรื่องร้องทุกข์ของผู้บริโภค


วันนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2568) เวลา 09.45 น. นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมไกล่เกลี่ยเรื่องร้องทุกข์ของผู้บริโภค” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างและพัฒนากระบวนการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในทุกมิติ เพื่อให้ผู้บริโภคที่ถูกละเมิดสิทธิได้รับความช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ




นางสาวจิราพร กล่าวถึงความสำคัญของการคุ้มครองผู้บริโภคว่า “ถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งผู้บริโภคต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิอย่างเท่าเทียมกันการคุ้มครองดังกล่าว ไม่เพียงแต่เป็นสิทธิพื้นฐาน แต่ยังเป็นมาตรฐานที่ทุกคนควรได้รับเพื่อสร้างสังคมที่มีความเป็นธรรมและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งปัญหาหลักที่พบส่วนใหญ่มีมายัง สคบ. ได้แก่ กรณีการขายสินค้าหรือการให้บริการที่ไม่เป็นไปตามที่ตกลง ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขเรื่องร้องทุกข์ให้รวดเร็วขึ้น



การจัดกิจกรรมนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการส่งเสริมการไกล่เกลี่ยมิติใหม่ ในรูปแบบการไกล่เกลี่ยแบบกลุ่ม ซึ่งเป็นการแก้ไขข้อพิพาทกลุ่มที่มีประเด็นร้องทุกข์ในลักษณะเดียวกัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหามากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนการช่วยเหลือผู้บริโภคได้มากขึ้นหลายเท่าตัว เมื่อเทียบการดำเนินงานในลักษณะการไกล่เกลี่ยรายกรณี ที่ปัจจุบัน สคบ. มีการแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคเฉลี่ยเดือนละ 250 เรื่อง แต่เมื่อเริ่มกิจกรรมการไกล่เกลี่ยเป็นกลุ่ม และมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถช่วยเหลือผู้บริโภคได้เป็นจำนวนมากขึ้นถึง 3 เท่า ซึ่งจะช่วยยกระดับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นางสาวจิราพร กล่าว

ทั้งนี้ กิจกรรม “มหกรรมไกล่เกลี่ยเรื่องร้องทุกข์ของผู้บริโภค” จัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยนำกระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยแบบกลุ่มมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้การแก้ไขปัญหามีความรวดเร็วขึ้น เมื่อเทียบกับการดำเนินการแบบรายกรณี โดยจะช่วยลดขั้นตอน ลดระยะเวลา และเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจ โดย สคบ. จะดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับกระบวนการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคและส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจในอนาคต 

นอกจากนี้ สคบ. ยังได้ใช้ระบบ “OCPB Mediate” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มไกล่เกลี่ยออนไลน์ ที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถยื่นเรื่องร้องทุกข์ และขอความช่วยเหลือได้ทุกที่ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของ สคบ. ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความสะดวกสบายอีกด้วย


ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 10 สมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ ในพระบรมราชูปถัมภ์


ดร.ชินวัฒน์ สกุลตั้งไพศาล นายกสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดงานทำบุญเลี้ยงพระ เนื่องในโอกาสครบรอบ 91ปี สมาคมฯ โดยมีพระราชปัญญาวชิโรดมฯ เจ้าอาวาสวัดเทพเจติยาจารย์ และประธานสถาบันพลังจิตตานุภาพ เป็นประธานในพิธีสงฆ์ ที่สมาคมฯ เมื่อวันก่อน

สมาคมนักเรียนเก่าพันธมิตรเข้าร่วมทำบุญ อาทิ สุทธิกร เจียรไพฑูรย์ ,ประธานสมาคมนักเรียนเก่ามหาวิทยาลัยจีน กุลเชฏฐ์ วังน้ำทิพย์ กรรมการบริหารสมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุนฯ นฤมล คุณานุกูร กรรมการสมาคมนักเรียนเก่าออสเตรเลียฯ กอบลาภ โปษะกฤษณะ ประธานกรรมการบริหาร และเติมศักดิ์ สิงห์สมบูรณ์ นายกสมาคมนักเรียนเก่าต่างประเทศ 




โดยมี กรรมการสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษฯ อุปนายก ฐิติภูมิ จามิกรานนท์, กมลวัน บุณยัษฐิติ ประธานฝ่ายปฏิคม, จันทิมาและภาวิณี นะวิโรจน์ กรรมการฝ่ายวิชาการ, พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร ที่ปรึกษาฝ่ายหารายได้, ศุภนิดา สกุลตั้งไพศาล ประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์, ปีเตอร์ สมบูรณ์เจริญ ประธานฝ่ายสาราณียกร,  ดร.ลาวัณย์ฉวี สุจริตตานนท์ ประธานฝ่ายองค์กรสัมพันธ์, ดร.จินดารัตน์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้จัดการสมาคมฯ และ เอิร์ธ สายสว่าง





สายสีแดง ร่วมมือ ธพส.เปิดทดลองให้บริการ EV Bus เชื่อม ศูนย์ราชการฯ กับ สถานีหลักสี่

รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ร่วมกับ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) เตรียมเปิดทดลองให้บริการ EV Bus เชื่อมต่อการเดินทางจากศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ไปยังสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง(สถานีหลักสี่) เพิ่มความสะดวกในการเดินทาง เริ่ม 3 มีนาคม 2568 นี้

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า ด้วยอัตราการเติบโตของปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการดำเนินนโยบายอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทตลอด ในปีแรก เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา จนถึงปี 2568 นั้น บริษัทฯ จึงวางแผนร่วมกับ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) เพื่อพัฒนาการเดินทางด้วยระบบขนส่งรอง หรือ Feeder ในการช่วยเพิ่มความสะดวกสบายด้านการเดินทางของประชาชน พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชนแทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล
ซึ่งจะช่วยลดปัญหาจราจรติดขัดและอุบัติเหตุบนท้องถนนและส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชนเพื่อความยั่งยืน อีกทั้งยังช่วยลดมลพิษจากการเดินทางด้วย ดังนั้นจึงเกิดเป็นโครงการในการใช้รถขนส่งสาธารณะที่ใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานไฟฟ้า หรือ EV Bus (Electric Bus) ในการขับเคลื่อนที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเตรียมทดลองให้บริการเชื่อมต่อระหว่างศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ และสถานีรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง(สถานีหลักสี่) ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 3 มีนาคม 2568 นี้ โดยมีระยะทางประมาณ 4.5 กิโลเมตร พร้อมกับจุดรับ-ส่งจำนวน 4 จุด ได้แก่ 1. สถานีอาคาร B ประตู 2 (ฝั่งทิศใต้) 2. สถานีด้านหน้าอาคารสนับสนุน (อาคารพดด้วง) 3. สถานีปากซอยแจ้งวัฒนะ 5 และ 4. สถานีฝั่งตรงข้ามอาคารสนับสนุน (อาคารพดด้วง), โดยการให้บริการในช่วงทดลอง จะเป็นการเปิดให้บริการฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดช่วงระยะเวลาการทดลอง ตั้งแต่เวลา 06.00 - 19.00 น. ในวันจันทร์-ศุกร์ โดยจะสิ้นสุดการทดลองให้บริการในวันที่ 31 สิงหาคม 2568 รวมระยะเวลาในการทดลองให้บริการทั้งสิ้น 6 เดือน

ทั้งนี้ EV Bus จะช่วยให้การเดินทางในเส้นทางที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงนั้น เป็นไปได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และลดความยุ่งยากในการเดินทาง อีกทั้งการใช้ EV Bus ยังช่วยลดมลพิษจากการเดินทาง เป็นยานพาหนะที่ปลอดภัยและไม่ปล่อยควันพิษออกสู่สิ่งแวดล้อม โครงการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการพัฒนาโครงข่ายการขนส่งมวลชน ในเขตระหว่างพื้นที่กรุงเทพมหานครกับชานเมืองให้มีประสิทธิภาพและสามารถเข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้น จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดการใช้ยานพาหนะส่วนบุคคล และช่วยลดปัญหาจราจรติดขัดในพื้นที่ที่มีความหนาแน่น รวมถึงส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะที่มีความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

บริษัทฯ จะดำเนินกิจการเคียงข้างประชาชน และจะมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการรถไฟฟ้าด้วยมาตรฐานระดับสากล สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ รักษามาตรฐานการปฏิบัติงานในด้านการเดินรถ และซ่อมบำรุง รวมทั้งรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจขององค์กร ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมืองอย่างยั่งยืนต่อไป

โดยท่านสามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง โซเชียลมิเดียทุกแพลตฟอร์ม Facebook Fan Page, Twitter , Instagram, Youtube, Tiktok พิมพ์ชื่อ “RED Line SRTET” หรือส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง และ www.srtet.co.th

“มากกว่าการเดินทางคือ ...ความพิเศษ”
รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

โซแอนด์ + รีเน่ ขอนแก่น คอนโดฯ CP LAND ผ่าน EIA ฉลุย!

เร่งสร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ทำเลทองใจกลางกังสดาล

27 กุมภาพันธ์ 2567 - กรุงเทพ, บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญ ของโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองขอนแก่น SOū& Khon Kaen (โซ-แอนด์ ขอนแก่น) และ RI-NÉ Khon Kaen (รี-เน่ ขอนแก่น)  แบรนด์คอนโดมิเนียมใหม่จาก CP LAND ได้รับการอนุมัติรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA : Environmental Impact Assessment) จาก สำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) เป็นที่เรียบร้อย สะท้อนถึงมาตรฐานการพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย พร้อมเดินหน้าก่อสร้างเพื่อส่งมอบที่อยู่อาศัยคุณภาพสูงในทำเลศักยภาพของย่านกังสดาลซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการศึกษาที่เติบโตอย่างรวดเร็ว 

นายดำรงศักดิ์ ถุงเงิน ผู้อำนวยการอาวุโส CP LAND กล่าวว่า การที่โครงการ SOū& Khon Kaen (โซ-แอนด์ ขอนแก่น) และ RI-NÉ Khon Kaen (รี-เน่ ขอนแก่น) ผ่านการอนุมัติ EIA เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ CP LAND ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ เราให้ความสำคัญกับความต้องการและมุมมองของลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น บุคลากรทางการแพทย์ นักศึกษา First Jobber คนทำงาน และ กลุ่ม Young Affluent (ผู้มีกำลังซื้อสูงในยุคใหม่ ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย) ด้วยการออกแบบที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ผสานดีไซน์ที่ทันสมัย ฟังก์ชันครบครัน ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และ บริการหลังการขายโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจาก Welcome Home Club by CP LAND ที่มาพร้อม การรับประกันนานถึง 10 ปี* เพื่อให้ลูกค้าของเราได้รับความมั่นใจและสัมผัสประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุด สอดคล้องกับปรัชญาของ CP LAND ที่มุ่งมั่นส่งมอบสินค้าและบริการที่มี "คุณภาพเพื่อทุกชีวิต"


โครงการ SOū& Khon Kaen (โซ-แอนด์ ขอนแก่น) คอนโดมิเนียม Low–Rise 8 ชั้น จำนวน 337 ยูนิต สำหรับคนนิวเจน ภายใต้คอนเซปต์ “Play Unbound, Live Inspired” สนุกอย่างไร้ขีดจำกัด สู่แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ผสานความโมเดิร์นและไลฟ์สไตล์ที่อิสระ มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่เติมเต็มความสุขทุกช่วงเวลา อาทิ Co-Working Space,  Lobby Lounge, ที่นั่งพักผ่อน Semi-outdoor, Swimming Pool, Gym, Garden, Sky Garden, EV Charger,  Retail Space และพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเรียน เล่น พักผ่อน  เริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท*

ด้าน RI-NÉ Khon Kaen (รี-เน่ ขอนแก่น) คอนโดมิเนียม High–Rise 31 ชั้น จำนวน 767  ยูนิต ระดับ Luxury ภายใต้คอนเซปต์ “Craft Your Finest Life” ความเรียบง่ายที่สมบูรณ์แบบ  โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เรียบหรูเหนือระดับและแนวคิดที่สะท้อนความเป็นส่วนตัวของการอยู่อาศัย เน้นความสงบ ผ่อนคลาย แต่ยังคงความสะดวกสบายที่เหนือระดับ มาพร้อม Double Sky Facility ส่วนกลางลอยฟ้า 2 ชั้น และสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ Sunset  Lounge ที่มาพร้อมวิวเมืองแบบพาโนรามา, Swimming Pool (Olympic Size ยาวถึง 51 เมตร), Fitness, Wellness Room, Sauna, Gameroom, Twilight Terrace, BBQ Yard, Party Zone, Sunset Garden, Grand Garden, Kids Yard, Business Club, Lobby Lounge, EV Charger ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ต้องการพื้นที่พักผ่อนที่เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย เริ่มต้นเพียง 2.3 ล้านบาท*

ทั้งสองโครงการตั้งอยู่บนทำเลทองของย่านกังสดาล ใจกลางเมืองขอนแก่น รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ ศูนย์การค้า โรงพยาบาล และระบบขนส่งสาธารณะที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ทำให้โครงการนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยคุณภาพสูงในเมืองที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

รับสิทธิพิเศษ! พร้อมส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท เมื่อจองภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568 นี้ พร้อมเงื่อนไขการผ่อนที่สบายขึ้น สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายเยี่ยมชมโครงการได้ที่ https://www.cplandproperty.com/ หรือ โทร 02-088-0999

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด ขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนเเปลงโดยไม่ต้องเเจ้งล่วงหน้า

#CPLAND #ซีพีแลนด์ #CPLANDคุณภาพทุกชีวิต #คุณภาพเพื่อทุกชีวิต #สุขจริงทุกจินตนาการ #AccessibleCommunitiesforLife #คอนโดใหม่ใจกลางขอนแก่น #คอนโดขอนแก่น #คอนโดย่านกังสดาล #SOū& #RI-NÉ #โซแอนด์ #รีเน่ #EIAapproved #EIA #แคมปัสคอนโด

อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ พลิกโฉม ยกระดับงาน "ASIA Sustainable Energy Week"

วางเป้าสู่การเป็นศูนย์กลางการเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดของเอเชีย

อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ตอกย้ำความสำเร็จ ยกระดับการจัดงานใหญ่ด้านพลังงานสะอาด รุกขยายตลาดพลังงานในภูมิภาคเอเชีย กับงาน ASIA Sustainable Energy Week 2025 ด้วยความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมพลังงานสะอาด ปักธงดันไทยเป็นศูนย์กลางการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานยั่งยืนของเอเชีย ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล สู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ในฐานะผู้นำธุรกิจด้านการจัดแสดงสินค้าและกิจกรรมสำหรับการเจรจาธุรกิจระดับโลก พลิกโฉมงานใหญ่ด้านพลังงานสะอาดของอาเซียนอย่าง “ASEAN Sustainable Energy Week” ยกระดับสู่แพลตฟอร์ม เอเชีย กับงาน "ASIA Sustainable Energy Week 2025 (ASEW)" พร้อมขยายขอบเขต และโอกาสสร้างไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อเทคโนโลยี และนวัตกรรมพลังงานยั่งยืนของภูมิภาคเอเชีย เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ขับเคลื่อนอนาคตภาคอุตสาหกรรม การขนส่ง และภาคธุรกิจพร้อมรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในระบบพลังงาน สู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) กรุงเทพฯ วางเป้ารองรับการเติบโต พัฒนา สร้างความมั่นคง และเพิ่มการเข้าถึงด้านพลังงานในทุกภาคอุตสาหกรรมด้วยพลังงานสะอาด ให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียอย่างยั่งยืน รวบรวมผู้นำ ผู้เชี่ยวชาญและผู้ซื้อ จากแวดวงพลังงาน ทั้งในด้านพลังงานทดแทน (Renewable Energy) การจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Energy Efficiency) รวมถึงเทรนด์ของพลังงานในอนาคตที่สำคัญอย่าง ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) ซึ่งทั้งหมดรวมครบจบไว้ในงานเดียว

Nuki Agya Utama, PhD - Director for Energy Policy and Head of the Asia Zero Emission Center (AZE Center) at ERIA กล่าวว่า เอเชียเป็นภูมิภาคที่มีประชากรกว่า 60% ของโลก และมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสูง ทำให้ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันภูมิภาคเอเชียถือเป็นหัวใจสำคัญในเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานโลก ทั้งด้านการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงาน เช่น แบตเตอรี่จัดเก็บพลังงาน (Energy Storage Systems), เทคโนโลยีไฮโดรเจน (Green Hydrogen), และโครงข่ายพลังงานอัจฉริยะ (Smart Grid) ด้วยการเป็นศูนย์กลางของการบริโภค การผลิต และการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาด การก้าวไปสู่พลังงานหมุนเวียนของภูมิภาคนี้จึงเป็นตัวแปรสำคัญในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างยั่งยืน ซึ่งการจัดงาน ASIA Sustainable Energy Week (ASEW) เป็นงานที่จัดต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน และได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญในแวดวงพลังงาน ทำให้เป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี ความรู้ และความร่วมมือ เปรียบเสมือนประตูเชื่อมโยงธุรกิจ และขับเคลื่อนด้านพลังงานของภูมิภาคเอเขีย

นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “เราเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกตลาดพลังงานทดแทนในภูมิภาคนี้ มากว่า 35 ปี และมีเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งจากหลากหลายภาคส่วน ปีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายโอกาสและยกระดับ เพื่อตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นผู้นำด้านการจัดงานเทคโนโลยีพลังงานยั่งยืนที่ครอบคลุมและที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน สู่ระดับเอเชีย และรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน งาน ASEW 2025 จะเป็นเวทีสำคัญที่จะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการพลังงาน นักอุตสาหกรรม นักลงทุน ในการเข้าถึงโอกาสใหม่ๆ ในตลาดพลังงานสะอาด และขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสะอาดของเอเชีย สู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

งาน ASIA Sustainable Energy Week (ASEW) 2025 ถือเป็นหนึ่งแพลตฟอร์มสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนานโยบายแผนพลังงานที่ครอบคลุมเทคโนโลยีพลังงานยั่งยืน เช่น แสงอาทิตย์ ลม น้ำ ไฮโดรเจน และระบบกักเก็บพลังงาน เป็นต้น โดยปีนี้จัดภายใต้ธีม "Empowering Digital Transformation in Sustainable Energy Towards Net Zero" หรือ "ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่ยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล สู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์" โดยมุ่งมั่นให้เป็นศูนย์กลางทั้งในมิติเทคโนโลยีพลังงานยั่งยืนที่ทันสมัยและครบวงจร เป็นจุดนัดพบสำคัญของผู้นำเทคโนโลยี ผู้ซื้อ และผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงด้านพลังงานทดแทน การจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานทั้งจากไทยและต่างประเทศมาร่วมแบ่งปันความรู้ สร้างโอกาสทางธุรกิจและเครือข่ายระดับภูมิภาค โดยปีนี้มีแบรนด์ชั้นนำด้าน เทคโนโลยี นวัตกรรมพลังงานสะอาดกว่า 1,500 แบรนด์ทั่วโลก อาทิ ABB, ATESS, DELTA, HITACHI ENERGY, TESLA, SUNGROW เป็นต้น และพาวิเลียนนานาชาติจากประเทศ เยอรมนี ฟินแลนด์ อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ จีน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และ เกาหลี เข้าร่วมจัดแสดงภายในงาน คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 32,000 คนจาก 65 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ASEW 2025 ยังจัดขึ้นพร้อมกับงาน  MobilityTech Asia – Bangkok (MTAB) 2025 งานแสดงเทคโนโลยีและการประชุมชั้นนำของภูมิภาค ด้านการขนส่งแห่งอนาคตและยานยนต์อัจฉริยะ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งสู่การขานรับต่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างยั่งยืนในงาน ASIA Sustainable Energy Week 2025 วันที่ 2-4 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) กรุงเทพฯ 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือจองพื้นที่ได้ที่ อีเมล asew-th@informa.com
หรือ เข้าชมเว็ปไซด์  www.asew-expo.com

วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

77 ชุดสุดอลัง “แฟชั่น MET GALA” ต้อนรับ Miss Grand Thailand 2025 “A Star is Born”

ผู้สนับสนุนทุ่มเงินสะพัด 120 ล้าน เปิดตัว 11 มงกุฏและของรางวัล ว่าที่ลูกสาว “บอสณวัฒน์” 

เล่นใหญ่ไม่มีแผ่วสำหรับผู้เข้าประกวด Miss Grand Thailand 2025 (มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2025) บนเวทีการประกวดนางงามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี เวทีที่รวม Entertainment และ Beauty ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยปีนี้มีคอนเซ็ปต์ A Star Is Born บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)  เปิดพื้นที่และโอกาสให้ทุกคนได้แจ้งเกิดอย่างเต็มที่ จึงไม่แปลกที่แคมเปญของบอสยอดการสนับสนุน 77 ผู้เข้าประกวด PD และ แฟนคลับตามซัพพอร์ตกันถล่มทลาย แต่ใครจะได้เฉิดฉายในฐานะดาวดวงใหม่ต้องลุ้นกัน 


ล่าสุด บอสณวัฒน์ ยังจัดใหญ่ สั่งปิด MGI HALL ชั้น 6 ศูนย์การค้า Bravo BKK พระราม9 จัดงาน  Welcom Ceremony “Miss Grand Thailand 2025” ต้อนรับผู้เข้าประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ทั้ง 77 จังหวัดอย่างเป็นทางการ รวมถึงผู้สนับสนุนหลักที่รักแกรนด์มากมาย  รายได้สะพัดกว่า 120 ล้านบาท

เปิดเวทีด้วยแฟชั่นโชว์ภายใต้คอนเซ็ปต์ MET GALA โดย เรเชล คุปตะ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2024 ตามด้วยผู้เข้าประกวดทั้ง 77 จังหวัด ขโมยซีน โกยแสงกันอย่างเต็มที่ สวยสะบัดกันต่อกับ ATIPA Fashion Show และ  Aura Rich Fashion Show  โดยมิสแกรนด์ผู้ชนะแคมเปญไลฟ์ปักตะกร้ากับ  Super Grand Sponsor อย่าง ATIPA และ  Aura Rich ทั้ง 10 คน มิสแกรนด์สระบุรี  / มิสแกรนด์ภูเก็ต  / มิสแกรนด์พัทลุง  / มิสแกรนด์ชุมพร  / มิสแกรนด์นครพนม  / มิสแกรนด์กรุงเทพมหานคร  / มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา  / มิสแกรนด์ลำพูน  / มิสแกรนด์ขอนแก่น  / มิสแกรนด์อุดรธานี  / มิสแกรนด์ลำปาง ออร่าความควีนฉายชัด สื่อมวลชนเก็บภาพฉ่ำ ยอดชมแฟนนางงามทาง GRAND TV พุ่งกว่า 6 หมื่นราย

ต่อด้วยซีนเปิดตัวมงกุฎ Miss Grand Thailand 2025 โดยนางงามรุ่นพี่ทีม Miss Grand Thailand 2024 เริ่มต้นที่มงกุฎประจำตำแหน่ง รองอันดับ 5 Miss Grand Thailand 2025 เชิญมงกุฎโดย ภรภัค วราโสภณภักดี รองอันดับ / ปิยะรดา วายุเวช รองอันดับ / ณปภัช รุ่งโรจน์ / เอ็มม่า มาร์ตินี่ /  สุนทรีย์ อ้วนอินทร์ / ยุวพร ทรงงาม และ มงกุฎ Top 5 Miss Grand Thailand 2025 โดย  อรทัย พังจันทร์ รองอันดับ 4 MGT 2024  ธันย์สิตา ดิลกอนันต์สกุล รองอันดับ 3 MGT 2024 กิตติยาพร ฟุ้งมี รองอันดับ 2 MGT 2024 กัญภัสภร รุ่งเรือง รองอันดับ 1 MGT 2024 และ มาลิน ชระอนันต์ Miss Grand Thailand 2024  กับคอนเซปต์ “A Star Is Born” การกำเนิดดาวดวงใหม่ ที่จะยิ่งใหญ่และพร้อมส่องแสงไปกับ Miss Grand Thailand 2025 จากนั้นพิธีกร แชมป์ สกุล ลิมปภานนท์ ประกาศเปิด Vote ผ่านทาง www.missgrandthailand.com โดยรางวัล Miss Popular Vote จะนำพาผู้ชนะ Fast Track เข้าสู่รอบ 11 คนสุดท้าย โดยอัตโนมัติ การันตี ตำแหน่ง รองอันดับ 5 Miss Grand Thailand 2025 และแน่นอนว่าได้เป็น 1 ในทีม MGT 2025 อย่างแน่นอน 

สำหรับกิจกรรมเก็บตัวผู้เข้าประกวด Miss Grand Thailand 2025 ที่ จังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันที่ 9-19 มีนาคมนี้ และค่ำคืน รอบตัดสินในวัน 29 มีนาคม 2568 เตรียมลุ้นและเตรียมต้อนรับ Miss Grand คนที่ 13 กันได้เลย งานนี้ บอสณวัฒน์ ตั้งใจปั้นทันที เตรียมซีรีส์เอาไว้ให้แสดงร่วมกับ อิงฟ้า วราหะ และชาล็อต ออสติน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

T&B Media Global เปิดตัว ECHO OF ETERNITY เว็บคอมมิคส์สืบสวนสอบสวนแห่งยุคที่พาคุณสู่โลกไซไฟปริศนา!


 “ECHO OF ETERNITY” ผลงานเว็บตูนหนึ่งในโปรเจกต์สำคัญของ T&B Media Global ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล IP Legend of the Two Heroes ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้บน WEBTOON CANVAS ประเดิมเปิดตัว 3 ตอนแรกให้อ่านฟรี!

ECHO OF ETERNITY เว็บตูนเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นโดยทีมงานเจนใหม่ของบริษัท ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ พลังแห่งการเล่าเรื่อง และความเข้าใจในโลกดิจิทัล เป็นการนำเสนอ รูปแบบการเล่าเรื่องที่สดใหม่และเต็มไปด้วยการมีส่วนร่วมของผู้อ่าน เมื่อความจริงอาจถูกเขียนขึ้นใหม่! การไขปริศนาและการต่อสู้ระหว่างอดีตกับอนาคตได้เริ่มต้นขึ้นใน การไขปริศนาและการต่อสู้ระหว่างอดีตกับอนาคตได้เริ่มต้นขึ้นในโลกแห่งความลึกลับ แอ็กชัน และไซไฟแฟนตาซี 




เรื่องย่อ: คดีฆาตกรรมที่เปลี่ยนชะตาแห่งโลกอนาคต ในปี 2085 ณ Verdant Wood City เมืองแห่งเทคโนโลยีและธรรมชาติที่ผสานกันอย่างลงตัว ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ… จนกระทั่งเกิดเหตุฆาตกรรมปริศนา นักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ถูกพบเป็นศพภายในห้องทดลอง ภายใต้เงื่อนงำที่ไม่สามารถอธิบายได้ "ซันนี่" สารวัตรจาก CIB และ "หนุ" หัวหน้าหน่วย DSI ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้โดยไม่เต็มใจ ขณะที่ "เบลลา" นักเขียนสาวต้องออกตามหาความจริงเพื่อปกป้องคนที่เธอรัก ยิ่งพวกเขาค้นลึกลงไป ความทรงจำที่เลือนหายไปกลับเริ่มตื่นขึ้น… หรือพวกเขาเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว? เมื่อการฆาตกรรมเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเงื่อนงำที่เชื่อมโยงกับโปรเจกต์ลับ Whole Brain Emulation ศัตรูในเงามืดเริ่มเผยตัว และความลับที่ถูกเก็บซ่อนมาอาจนำไปสู่ จุดจบของทุกสิ่ง! 

ECHO OF ETERNITY เปิดตัวสุดพิเศษพร้อมให้ทุกคนอ่านฟรี! 3 ตอนแรก บน WEBTOON CANVAS เริ่มวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ และทุกๆ 2 สัปดาห์ ในวันพุธ แฟนๆ สามารถใช้แฮชแท็ก #EOE #2heroes
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการค้นหาความจริง และร่วมพูดคุย วิเคราะห์ปริศนา และทฤษฎีต่างๆ ได้ในคอมมูนิตี้ @2heroesth ทาง Facebook, X, Instagram และ YouTube ( คลิกลิงก์ได้ที่ https://bit.ly/40SU1CH )

Echo of Eternity 3 ตอนแรก สามารถอ่านได้แล้ววันนี้! scan QR code
เข้าไปอ่านได้เลย ฟรี!หรือกดลิ้งค์นี้ได้เลย https://bit.ly/4hJN4dj

กระแสแรงอึ้ง ชูชัย เจ้าแม่เพชรหมื่นล้าน โดน! บิ๊ก ทองภูมิ สวมแหวนเพชร ขอแต่งงาน?

ชูชัยไดมอนด์ CHUCHAI DIAMOND โดย คุณชูชัย ชัยฤทธิเลิศ ร่วมกับ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม (EMPORIUM) โดยผู้บริหาร คุณวิกกี้ - อรธิรา ภาคสุวรรณ์ ร่วมจัดงานแฟชั่นโชว์เพชรและเครื่องประดับสุดใหญ่ “CHUCHAI DIAMOND x EMPORIUM” ในธีม Born Again เวอร์ชั่นใหม่เอี่ยม ณ Abandoned Mansion Bangkok โรงแรม The Coach สุขุมวิท 14 กรุงเทพ โดยมี ดร.โก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา และ ชวลิต
นาเมืองรักษ์ (คุณลูกแป๊ะ) รับหน้าที่พิธีกร นำแขกผู้มีเกียรติและเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดังของเมืองไทย อาทิ ดร.อุษณีย์ มหากิจศิริ  ลีโอณีโอ, คุณสุจิตราภรณ์ ศิริวรรณพร, คุณอรุโณชา ภาณุพันธ์, คุณปัญญชลี เพ็ญชาติ, คุณสุธัญญา บุญสูง, ม.ล.ปุญยนุช เกษมสันต์ ดุลยจินดาฯลฯ ร่วมชมแฟชั่นโชว์เพชรสุดว้าวที่ทำเอาทุกคนเกือบลืมหายใจเพราะตะลึงกับเครื่องเพชรแท้สุดอลังของคุณชูชัยที่สุดอลังการแพงล้ำเลิศขนมาให้ประมูลกันอย่างคึกคัก 


เริ่มงานด้วยแฟชั่นโชว์สุดอลังการ นำทีมโดยนางแบบสุดฮอต โยชิ - รินรดา ธุระพันธ์ ที่ปรากฎตัวพร้อมโชว์สร้อยเพชรมากกว่า 40 กะรัตในตำนาน ที่นางงามจักรวาล อย่าง นาตาลี เกลโบวา เคยสวมใส่มาแล้ว พร้อมด้วยคู่รัก LGBTQ ที่กำลังร้อนแรงสุดขีด อย่าง แอนดริว - ธีรเจต พูลสวัสดิ์ และ กล้า - ณัฐพัชร์ เสมอเหมือน หนุ่มที่โดนสาดน้ำร้อนจนทำให้เกิดตำนานบทใหม่ ‘มาฆะกะเทย’ ที่ควงกันมาโชว์ความหวานเดินแบบคู่ครั้งแรกในชีวิต พร้อมเซอร์ไพร์สพิเศษจากคุณชูชัยที่จัดเต็มมอบแหวนให้แอนดริวเป็นของขวัญ เพื่อให้หนุ่มแอนดริวได้คุกเข่าขอกล้าเป็นแฟนอย่างเป็นทางการ พร้อมจุ๊บเบาๆ เรียกเสียงฮือฮาได้มากๆ และฮือฮาไม่หยุดกับบิ๊กเซอร์ไพร์สจากดาราสุดหล่อ บิ๊ก - ทองภูมิ สิริพิพัฒน์ ที่นำแหวนเพชรเม็ดโต มามอบให้กับคุณชูชัย เพื่อเฉลิมฉลองกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งงานนี้หนุ่มบิ๊กบอกว่า “คุณชูชัยให้คนมาเยอะแล้ว วันนี้โอกาสดี อยากจะเป็นคนที่ให้บ้าง จึงนำแหวนมามอบให้ และตั้งใจขอคุณชูชัยเป็นแฟนกลางงาน” ทำเอาหลายคนร่วมยินดีด้วย แต่ก็มีบางคน เอ๊ะห๊ะ! สงสัยหนักอยู่ ว่าใช่ชัวร์หรือไม่? คุณชูชัยเลยเปิดใจสั้นๆ ว่า “เป็นความสัมพันธ์ทางใจต้องรอดูกันไปอีก” แถมยังโชว์ซีนหวานด้วยการจุ๊บจนหลายคนอิจฉาตามกัน


สำหรับช่วงประมูลเพชรหรู จำนวน 5 ชิ้น ที่ออกแบบพิเศษมีเพียงชิ้นเดียวในโลก ได้แก่ จี้ปลาคาร์ป โอปอลล์สีส้มสวยสะพรึง โดยนายแบบ บิ๊ก - ทองภูมิ เป็นผู้สวมใส่ ผู้ที่ประมูลได้ คือ คุณหมอไวท์ หมอดูโอปป้า ถาวโรจน์ หรูเกียรติไชย ขณะที่ ดร.ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา ประมูลได้กำไลเพชร ที่นางแบบฮอต โยชิ เป็นผู้สวมใส่ ด้าน คุณอาภัสรา เตชะรัตนไชย ประมูลจี้ทับทิมพม่าล้อมเพชรสุดงดงาม และ คุณภัทรา เอนกพรพิบูล ประมูลจี้พลอยล้อมเพชรสุดเลอค่า ปิดท้าย คุณตุ๊ก ดร.อุษณีย์ มหากิจศิริ ลีโอณีโอ ประมูลได้แหวนมรกตน้ำงามสวยสดงดงามที่สุด ซึ่งการประมูลครั้งนี้รายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปบริจาคเพื่อซื้อเครื่องช่วยหายใจให้กับโรงพยาบาล และสถานสงเคราะห์เด็กยากไร้อีกด้วย

แฟชั่นโชว์ครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจาก โรงแรมชูชัยบุรีศรีอัมพวา สมุทรสงคราม, โก๋แก่ Koh Kae,สมิติเวช ไชน่าทาวน์, SLC Clinics & Hospital, AIS Serenade, Tube Gallery, Naphon K. Bangkok, Hoyhon Aerial Arts & Pole Bangkok Center ที่ 1 เรื่องเพชรแท้ดีจริงราคาแฟร์ๆ ต้องเพชรชูชัย CHUCHAI DIAMOND กระแสแรงสุดๆ ปาร์ตี้เพชรให้โลกจำแล้ว รอพบกับปาร์ตี้เพชรครั้งใหม่ต่อไป ของคุณชูชัย รับประกันเด็ดจริง

#ชูชัยบิ๊กทองภูมิ #ชูชัยชัยฤทธิเลิศ #CHUCHAIDIAMOND #แอนดริวกล้า #CHUCHAIDIAMONDxEMPORIUM #โยชิรินรดา #ดริวกล้า #แอนดริว #andrewww #klayahhh #kongugrit #เอ็มโพเรียม #EMPORIUM #ชูชัยไฮโซห่มเพช #Chuchaitheuniverse #ชูชัยHoShow


พม. จัดประชุม กผส.หนุนจับมือตำรวจไซเบอร์ ทำแนวทางป้องกันผู้สูงอายุ ถูกหลอก - คุกคามทางออนไลน์


วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายธนสุนทร สว่างสาลี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เปิดเผยภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ครั้งที่ 1/2568 โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุในทุกมิติ 


โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของสถานการณ์ผู้สูงอายุของประเทศไทย ว่าปัจจุบันผู้สูงอายุถูกหลอกลวงทางออนไลน์เพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้สูงอายุไม่สามารถปรับตัวและทำความเข้าใจกับข้อมูลจำนวนมากที่สามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว จึงมักกลายเป็นเหยื่อของเฟคนิวส์และการหลอกลวงบนโลกออนไลน์ ซึ่งจากข้อมูลรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พบว่า ในปี พ.ศ. 2566 มีผู้สูงอายุ ตกเป็นเหยื่อคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จำนวน 12,189 คดี โดยคดีที่สร้างความเสียหายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ มีมูลค่าความเสียหาย เป็นเงินจำนวน 3,000 ล้านบาท 2) คดีหลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ มีมูลค่าความเสียหาย เป็นเงินจำนวน 733 ล้านบาท และ 3)
คดีข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน  มีมูลค่าความเสียหาย เป็นเงินจำนวน 729 ล้านบาท


ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ในสังคมสูงวัย (Cybercrime) กระทรวง พม. และคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ จึงร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) และหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ผลักดันแนวทางการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ในสังคมสูงวัย (Cybercrime) เพื่อรองรับสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

นายธนสุนทร กล่าวว่า ถึงแม้จะมีแนวทางในการป้องกันที่ดี แต่ผู้สูงอายุเองจะต้องมีสติในการทำธุรกรรมทางการเงินหรือการเล่นสื่อออนไลน์ต่างๆ ด้วย คาถา “หยุด คิด ถาม ทำ เริ่มจาก หยุด : เพื่อตั้งสติก่อนตัดสินใจใดๆ เมื่อได้รับสื่อ คิด : คิดถึงประโยชน์ หรือโทษที่อาจได้รับการใช้สื่อ ถาม : ไม่รู้ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมหรือถามจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ และ ทำอย่างถูกต้องรู้เท่าทัน จึงขอฝากลูกหลาน และครอบครัว ให้ช่วยกันหมั่นสังเกตพฤติกรรมของผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด ซึ่งครอบครัวจะสามารถช่วยผู้สูงอายุ ด้วยการให้ข้อมูล ความรู้ และให้คำปรึกษาได้ 





#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #5x5ฝ่าวิกฤติประชากร #พมหนึ่งเดียว #วราวุธศิลปอาชา
#ศบปภ #พันธกิจสำคัญ9ด้าน #ผู้สูงอายุ #คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ

"PeeKaBoo Junior จ๊ะเอ๋! เด็ด เด็ด"

พาน้องๆ สนุกสุดฟิน! คาเฟ่ธรรมชาติ – เค้กสุดคิ้วท์ – พลุกระดาษสุดปัง 



สัปดาห์นี้ อาทิตย์ที่ 2 มีนาคม รายการ "PeeKaBoo Junior จ๊ะเอ๋! เด็ด เด็ด" (พีกาบู้ จูเนียร์ จ๊ะเอ๋! เด็ด เด็ด) น้องๆ หนูๆ จะได้รับชมแอนิเมชันผจญภัยแสนสนุก  เรื่อง  "ซอนนี่ เชฟป่วนก๊วนอร่อย" ตอน "เค้กวันเกิดของบันนี่” เมื่อวันเกิดของซอนนี่เวียนมาถึง ตองกับแอนดี้จึงตัดสินใจจะเซอร์ไพรส์เขาด้วยมาชเมลโล่เต็มคันรถ แต่ขณะที่พวกเขากำลังฉลองกันอยู่นั้นเอง บันนี่ พี่สาวฝาแฝดของซอนนี่ก็มาเยือน และหมีทั้งสองก็ฉลองวันเกิดของพวกเขาด้วยการแข่งทำเค้กวันเกิดด้วยกัน  เรื่องราวจะสนุกแค่ไหน ต้องติดตาม!



จากนั้นพบกับความสนุกใน ช่วง “PeeKaBoo ชวนเที่ยว” กับ ‘พี่จีจี้’ ศุภิสรา วุฒิศาสตร์ ที่จะพาไปสัมผัสบรรยากาศสุดชิลล์ที่ ‘ตามธรรมชาติ Café and Farm’ คาเฟ่น่ารักท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมกิจกรรมสนุกๆ สำหรับน้องๆ ช่วง “PeeKaBoo ชวนชิม” พบกับ ‘พี่เรมี่’ ไอริณ รณเกียรติ ที่ไปลองทำและชิมเค้กสุดคิ้วท์ที่ ‘Grandma’s Café’ รับรองว่าน่ารักและอร่อยสุดๆ ปิดท้ายด้วย ช่วง “PeeKaBoo ชวนโชว์” โดยน้อง ‘ธาม’
นรภัทร นาคะดำรงชัย ที่จะมาโชว์การทำ ‘พลุกระดาษ’ สนุกและง่ายกว่าที่คิด

พบกับความสนุกที่จะมาจ๊ะเอ๋พร้อมกันทุกบ้านด้วยพลังงานบวก แบบ Unlimited ในรายการ “PeeKaBoo Junior จ๊ะเอ๋! เด็ด เด็ด”  (พีกาบู้ จูเนียร์ จ๊ะเอ๋! เด็ด เด็ด) ได้ทุกเช้าวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07.30 น.
ถึง 08.00 น. ทาง #ช่อง 7HD สามารถรับชมพร้อมกันได้ทาง Website https://wwww.ch7.com/ &   https://www.bugaboo.tv/home  


และติดตามความสนุกแบบเต็มอิ่มได้ที่ Bugaboo.TV และ

Facebook : https://www.facebook.com/PeeKaBooJuniorOfficial/

YouTube : https://www.youtube.com/@Peekaboo_Juniorofficial

TikTok : https://www.tiktok.com/@peekaboo_juniorofficial

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าจัด “งานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569”


กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าจัด “งานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569” บนพื้นที่ชุ่มน้ำครั้งแรกของโลก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ดัน "GDP" ไทยขยายตัววันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, เวลา 17.00 น. กรุงเทพมหานคร : ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมาย นางสาวอนงค์นาถ จ่าแก้ว ผู้ช่วยเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เกียรติเป็นประธานงานแถลงข่าวงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569



โดยมี นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร มอบหมายให้ นางวิลาวัณย์ ใคร่ครวญ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร พร้อมด้วย นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ร่วมแถลงข่าว ถึงความพร้อมการจัด “งานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2569” ภายใต้แนวคิด “Diversity of Life, connecting people, water and plants for sustainable living ความหลากหลายแห่งสรรพชีวิต : สายสัมพันธ์แห่งผู้คน สายน้ำและพืชพรรณ สู่การดำรงชีวิตที่ยั่งยืน” พร้อมชูวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” รวมพื้นที่จัดงาน 1,030ไร่ เพื่อนำความรู้แลกเปลี่ยนวิชาการและเทคโนโลยีสู่ระดับนานาชาติ โชว์ศักยภาพพืชสวนโลก โดยเฉพาะการจัดงานบนพื้นที่ชุ่มน้ำเป็นครั้งแรกของโลก มุ่งสู่เป้าหมาย “เมืองอัจฉริยะศูนย์กลางการค้าการลงทุน การท่องเที่ยวและไมซ์ (MICE) ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง” ซึ่งตรงกับเฉลิมฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 10 ปีของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระชนมายุครบ 6 รอบ หรือ 72 พรรษา และวันครบรอบวันสถาปนาเมืองอุดรธานี 134 ปี โดยงานจัดขึ้นในช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 - 14 มีนาคม 2570 |ณ พื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก



นางวิลาวัณย์ ใคร่ครวญ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า “งานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569” สิ่งที่พิเศษที่สุดที่สะท้อนถึงความโดดเด่น คือ เป็นครั้งแรกที่งานมหกรรมพืชสวนโลกจัดขึ้นในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) และเป็นงานพืชสวนโลกบนพื้นที่ชุ่มน้ำครั้งแรกของโลก/Wet Land ณ พื้นที่ชุ่มน้ำหนองแด ตำบลกุดสระ อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี พื้นที่จัดงานรวม 1,030 ไร่ สำหรับการออกแบบพื้นที่และกิจกรรมแบ่งการใช้งานออกเป็นทั้งหมด 6 โซน โดยมีพื้นที่ไฮไลท์การจัดกิจกรรม ได้แก่ โซนพื้นที่ทางเข้า จุดประชาสัมพันธ์ จุดจำหน่ายบัตร ,โซนสวนนานาชาติ สำหรับการประกวดสวนนานาชาติ, โซนอาคารเรือนกระจก (Greenhouse) สำหรับการประกวดพืช และอาคารอำนวยการ (Exhibition Building) สำหรับการประกวดสวนนานาชาติในอาคาร, โซนพื้นที่จัดแสดงนวัตกรรมทางการเกษตรที่ทันสมัย รวมไปถึงแปลงรวบรวมพันธุ์ การปลูกพืชผสมผสาน, โซนสวนการเกษตรไทย และอาคารหลักต่าง ๆ โซนสวนป่าคาร์บอนเครดิตและเรือนเพาะชำ รวมถึงพื้นที่ไฮไลท์การจัดกิจกรรมตลอดทั้งงาน ทั้งหมดนี้สามารถแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการพัฒนาด้านพืชสวนและสมุนไพรของไทย โดยเฉพาะพื้นที่ชุ่มน้ำ อีกทั้งการแลกเปลี่ยน พร้อมส่งเสริมพัฒนาและต่อยอดการเกษตรในระดับนานาชาติ ทั้งทางด้านวิชาการ นวัตกรรม เทคโนโลยี และการวิจัยด้านความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อสร้างพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ให้เป็นศูนย์กลางด้านการค้าการลงทุน และศูนย์กลางนวัตกรรมด้านการเกษตรของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิต การวิจัย และการต่อยอดไปสู่ BCG Model (Bio Economy, Circular Economy, Green Economy) เศรษฐกิจชีวภาพ ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน และระบบเศรษฐกิจสีเขียว สร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ” ​


“งานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569” คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานทั้งสิ้นประมาณ 3.6 ล้านคน ทำให้มีกระแสเงินสดหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจำนวนมหาศาล จากภาคการท่องเที่ยว และการใช้จ่ายเงินของภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการจัดงาน รวมถึงเกิดการกระตุ้นการใช้จ่าย ตลอดช่วงระยะเวลาจัดงาน 134 วัน รายได้สะพัดกว่า 32,000 ล้านบาท (สามหมื่นสองพันล้านบาท)​นอกจากนี้ “งานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569” ยังมีจัดกิจกรรมการประกวดออกแบบมาสคอต เปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชนทั่วไป ในนามบุคคลหรือกลุ่ม ได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ ออกแบบมาสคอตให้สอดคล้องกับคอนเซปต์ของโครงการฯ “ความหลากหลายแห่งสรรพชีวิต สายสัมพันธ์แห่งผู้คน สายน้ำ และพืชพรรณ สู่การดำรงชีวิตที่ยั่งยืน” เพื่อชิงเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท

โดยสามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 1 เมษายน 2568​ส่วน นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ยังได้ฝากเพิ่มเติมต่ออีกว่า “งานนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระดับนานาชาติร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัยจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อต่อยอดงานวิจัยและการพัฒนาพืชสวนของไทย โดยมีเป้าหมายหลักในครั้งนี้ คือ สร้างพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ให้เป็นศูนย์กลางด้านการค้าการลงทุนของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง การนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของคนในท้องถิ่น ซึ่งครั้งนี้ กรมวิชาการเกษตร เชื่อมั่นว่าทุกภาคส่วนพร้อมร่วมมือและขับเคลื่อนในการจัดงาน มีกรอบการทำงานชัดเจน หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เน้นย้ำว่าประเทศไทยยืนยันในความพร้อม และสร้างความมั่นใจให้แก่คณะกรรมการ AIPH ในการดำเนินการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานีให้สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์และทันในการเปิดงานภายในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2569 อย่างแน่นอน”ด้าน นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวถึงความพร้อมของการจัดงานว่า “ในนามจังหวัดอุดรธานี หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนทุกภาคส่วนมีความพร้อมและยืนยันให้การสนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือในการจัด “งานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569” มีแผนการดำเนินงาน และระยะเวลาในการดำเนินงานขั้นตอนต่าง ๆ ที่ชัดเจน ซึ่งจังหวัดอุดรธานีพร้อมก้าวเข้าสู่เมืองที่ยั่งยืน (Sustainable Cities)







โดยมีเป้าหมายหลักคือ สร้างสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ดี สร้างสังคมเข้มแข็ง สะดวก สะอาด ปลอดภัย นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของคนในท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการเกษตรให้เป็นการเกษตรแม่นยำสูง (Precision Agriculture) จัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมจังหวัดอุดรธานี (ศูนย์ AIC) ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี โดยเน้นการนำเทคโนโลยีมาใช้ในภาคการเกษตรเพื่อลดค่าใช้จ่าย และช่วยให้เกษตรกรคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้แม่นยำยิ่งขึ้น เพื่อการต่อยอดและพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งไม่จำกัดอยู่แค่ในพืชสวนเท่านั้น แต่รวมไปถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนอีกด้วยทั้งนี้จังหวัดอุดรธานีมีความพร้อมในการจัดงานในทุกด้าน โดยในด้านลักษณะทางกายภาพที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของจังหวัดอุดรธานี คือ พื้นที่ชุ่มน้ำ (Wetland) หรือที่ภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “ป่าบุ่ง ป่าทาม” ที่มีอยู่กว่า 900 จุด รวมเป็นพื้นที่กว่า 2,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ชุ่มน้ำ คือ พื้นที่บริเวณรอยต่อ ระหว่างพื้นที่บกและพื้นที่น้ำ เป็นระบบนิเวศที่มีความหลากหลาย และก่อให้เกิดประโยชน์แก่มนุษยชาติมากมายในด้านการดำเนินชีวิต การหลอมรวมเป็นหนึ่งของวิถีชีวิตและธรรมชาติ ยกระดับวิถีชุมชนและถ่ายทอดอัตลักษณ์ของชุมชน ต่อยอดสู่แนวคิดวิถีชีวิตสีเขียว (Green Living) ที่มุ่งเน้นการสร้างสมดุลของ “มนุษย์” ในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติที่มีความหลากหลายอย่างยั่งยืน นอกจากนี้จังหวัดอุดรธานียังมีอัตลักษณ์ที่โดดเด่น คือดอกบัวแดง และศิลปะบนเครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง มาผสมผสานจนเกิดเป็นสัญลักษณ์ดอกบัวลายไหบ้านเชียง ซึ่งดอกบัวแดง สื่อถึงทะเลบัวแดง ที่ได้รับการจัดอันดับโดย CNN ให้เป็น 1 ใน 15 ทะเลสาบที่แปลกที่สุดในโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดอุดรธานีที่มีชื่อเสียงระดับโลก“



งานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2569” เป็นงานมหกรรมพืชสวนโลกที่จัดขึ้นในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) และเป็นงานพืชสวนโลกบนพื้นที่ชุ่มน้ำครั้งแรกของโลก ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2

ข่าวประชาสัมพันธ์

สงกรานต์นี้ KFC สาดความแซ่บ! “ป๊อปบอมบ์แซ่บ” ที่ทุกคนรอคอยกลับมาแล้ว!

   ปีใหม่ไทยนี้ นอกจากคนไทยจะได้พักผ่อน กลับบ้านเกิดไปหาครอบครัวให้หายคิดถึงกันแล้ว KFC Thailand ก็อาสาพาเมนูเด็ดที่ทุกคนรอคอย “ป๊อปบอมบ์แซ่...

โวยวายดอทคอม