วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2567

เรื่อง กล้วย กล้วย ใจกลาง เมือง บันนังสตา


“เรื่อง กล้วย กล้วย ใจกลาง เมือง บันนังสตา”กับงานมหกรรมกล้วยหิน และของดีอำเภอบันนังสตา 67

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 67 ณ ที่ว่าการอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา นายเชาวลิต สิทธิฤทธิ์ นายอำเภอบันนังสตา ขอเชิญร่วมงานกล้วยหิน และของดีบันนังสตา ประจำปี 2567 ซึ่งทางอำเภอบันนังสตาร่วมกับหน่วยงานราชการและภาคีเครือข่ายในพื้นที่ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นของดีในพื้นที่ให้รู้จักแพร่หลาย เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป อีกทั้งเป็นการขยายฐานตลาดของเกษตรกรผู้ผลิตให้มีความหลากหลายอันนำไปสู่สภาพเศรษฐกิจที่ดีมีคุณภาพ ทั้งนี้ ยังเป็นการสร้างความ ปรองดองสมานฉันท์ ในพื้นที่สังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งปีนี้กำหนดจัดขึ้น ในวันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน 2567 ระหว่าง เวลา 8.30-16.30 ณ บริเวณลานกิจกรรมหน้าที่ว่าการอำเภอบันนังสตา

นายเชาวลิต กล่าวว่า กล้วยหิน เป็นกล้วยป่า พบในธรรมชาติครั้งแรกเป็นจำนวนมากในสภาพอากาศร้อนชื่น บริเวณป่าสองฝั่งแม่น้ำปัตตานี ในพื้นที่ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เนื่องจากทำเลทองแห่งนี้มีผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ มีความชื่นทั้งในดินและในอากาศสูงตลอดทั้งปี กล้วยหิน 1 เครือ จะมีประมาณ 7-10 หวี เฉลี่ยหวีละ 10-15 ผล กล้วยหินเดิมโตได้ในดินแทบทุกประเภท ทนแล้งได้ดี ลำต้นมีขนาดใหญ่ แข็งแรง แตกกอ ไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวนทนทานต่อโรครากเน่า (ตายพราย) มีเปลือกหนาทนทานต่อการขนส่ง และผลแก่เก็บไว้ได้นานนับสัปดาห์ ส่วนต้นอ่อนนำมาปรุงอาหารรสชาติดีกว่ากล้วยน้ำว้า ทั้งนี้ กล้วยหินบันนังสตา ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในวงกว้าง สำนักงานเกษตรจังหวัดยะลา จึงส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน นำกล้วยหินมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าปัจจุบัน กล้วยหินบันนังสตา ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI : GeographicalIndication) ลักษณะผลส่วนใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยม แต่ผลด้านข้างสุดของหวีทั้งสองด้านมักจะเป็นรูปสามเหลี่ยม เปลือกหนา ผลดิบเปลือกสีเขียวเข้ม เมื่อสุกเปลือกสีเหลือง เนื้อแน่น ผลดิบเนื้อแข็งสีขาว ผลสุกเนื้อสีขาวอมเหลืองถึงเหลือง ไม่ติดเปลือก กล้วยหิน ยิ่งสุกงอมจะมีรสชาติออกเปรี้ยว ชาวบ้านนิยมนำกล้วยดิบมาแปรรูป เช่น ทำกล้วยฉาบ ส่วนกล้วยสุก หากต้องการบริโภคให้อร่อยต้องทำให้สุกหรือผ่านความร้อนด้วยการต้ม นึ่ง ปิ้ง ย่าง เช่น กล้วยต้ม กล้วยแขก กล้วยบวชชี ข้าวต้มมัด ฯลฯ

นายเชาวลิต กล่าวต่อว่า กิจกรรมภายในงานปีนี้ ประกอบด้วย การประกวดขบวนพาเหรดของตำบล (อปท. 7 แห่ง) การจัดนิทรรศการบริการให้ความรู้ของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน การประกวดกล้วยหิน การประกวดทุเรียนพันธุ์หมอนทอง สะตอดาน การแข่งขันประกวดอาหารแปรรูปจากกล้วยหิน ประเภทอาหารคาวหวานการแสดงศิลปวัฒนธรรมของนักเรียนโรงเรียนบันนังสตาวิทยา (ชุดบูรงปูเตอรี) การออกร้านจำหน่วยผลิตภัณฑ์ OTOP นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการแสดงบนเวทีกลางตลอดทั้งงาน อาทิเช่น ขุดการแสดงดีเกฮูลู (ชุดลาแยปูเต๊ะ) ชุดการแสดงจากนักร้องท้องถิ่น โดย นางสาวซากียะห์ แก้วแสงสิม (เดะนี ดูซงญอ) เป็นต้น
“เรื่อง กล้วย กล้วย ใจกลาง เมือง บันนังสตา” กับงานมหกรรมกล้วยหิน และของดีอำเภอบันนังสตาที่จะพาทุกท่านไปสัมผัส และรู้จักเรื่องราวของกล้วย และของดีเมืองบันนังสตา ผ่านนิทรรศการ ทั้งเต็มอิ่มไปกับ กิจกรรมมากมาย พร้อม ชม ชิม ซ้อป ร้านค้าต่าง ๆ ที่คัดสรรมาให้ในงานนี้โดยเฉพาะ ณ บริเวณลานกิจกรรมหน้าที่ว่าการอำเภอบันนังสตา ในวันพฤหัสบดี ที่ 5 กันยายน 2567 นี้ วันเดียวเท่านั้น อย่าลืมมาเจอกัน นายเชาวลิต กล่าวในตอนท้าย

O’Daisy ปลื้มกระแสตอบรับ Time’s Up ดีเกินต้าน

“MGI” เตรียมปล่อยซิงเกิ้ล 2 ตอกย้ำความปัง!

กระแสตอบรับดีเกินคาด สำหรับ 7 สาวมากความสามารถวง O’Daisy (โอเดซี่) ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปเบอร์แรก สังกัด MGI ภายใต้การบริหารของ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หลังปล่อยเพลงและมิวสิควิดีโอ Time’s Up (ไทม์ อัพ) ออกสู่สายตาแฟนคลับ เสียงชื่นชมล้นหลาม “ทำดี ทำถึง จึ้งเกิน” ตามสนับสนุนในทุกช่องทาง ต้องชื่นชม บอสณวัฒน์ อิสรไกรศีล กับโปรเจกต์ GRAND T POP (แกรนด์ ที ป๊อป) ทุ่มทุนคัดเลือกจากความสามารถที่ฉายแววบนเวทีการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2024 ที่ผ่านมา ก่อนจะส่งให้ทุกคนไปฝึกร้อง ฝึกเต้น และทำเพลงที่ประเทศเกาหลีใต้ นานนับเดือน โดยได้ แบงค์-ชินดนัย ภูวกุล พี่ชาย แบมแบมGOT7 เป็นหัวเรือใหญ่ในการสร้างสรรค์ชิ้นงานทั้งหมด เรียกว่า “เคี่ยว” กันขั้นสุดทีเดียว 


งานนี้ 7 สาว ประกอบด้วย สเตฟานี่ ณัฐวิกาญจณ์ พฤกษ์อมรกุล , โอลีฟ ศศิชา ดวงเกษ,จานิส ปิยะรดา วายุเวช , นาซ่าร์ พรรวษา คะชุนรัมย์  , ชูการ์ อรทัย พังจันทร์ ,จินนี่ ณปภัช รุ่งโรจน์ และ เอ็มม่า มาร์ตีนี่ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ยอมรับว่ามาไกลและได้อย่างที่ฝันไว้แล้วจริงๆ ขอบคุณแฟนๆทุกคนที่ให้การสนับสนุน โดย 7 สาว O’Daisy เผยว่า “ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ บอสณวัฒน์ และ MGI มากๆนะคะที่เห็นถึงศักยภาพของพวกเรา O’Daisy ต้องยอมรับว่าการเป็นศิลปิน หรือเป็นนักร้องนั้น ไม่ง่ายเลย พวกเราต้องฝึกกันอย่างหนัก ทั้งที่เกาหลี และกลับมาประเทศไทย ก็ซ้อมกันทุกวัน เพื่อให้งานออกมาดีที่สุดทั้งเบื้องหน้า และ เบื้องหลัง เพราะการเป็นนักร้องคือความฝันของเราทั้ง 7 คน และพยายามอย่างมากที่จะผลักดันตัวเองให้ผ่านการคัดเลือกในวันที่ประกวดบนเวทีนางงาม มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2024 ตอนได้ฟังเพลง Time’s Up ทั้งเวอร์ชั่นไทย และ อังกฤษ ได้ดูมิวสิควิดีโอรู้สึกดีใจและหายเหนื่อย เรามาถึงจุดที่เราฝันแล้ว ดีใจที่สุดที่ได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงและแฟนนางงามทุกคน  หลังจากนี้ก็จะพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งๆขึ้นไป และเตรียมตัวสำหรับซิงเกิ้ลที่ 2 ที่จะออกมาในเร็วๆนี้ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ สามารถดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ทาง Apple Music , Spotify , YouTube Music ,Joox , Tidal และ TikTok Music ค่ะ”.

 : Time's Up (English Version)

https://bfan.link/time-s-up-english-version

 : Time's Up (Thai Version)

https://bfan.link/time-s-up-thai-version

#TimesUp #Odaisy 

#Odaisy_official #DEBUT #MGI

❤️‍🔥 Time’s Up Official MV ลงทุกแพตฟอร์ม

https://www.instagram.com/reel/C-fRfPHS9Km/?igsh=MXhsZWc3dHZpc3JraQ== 

https://vt.tiktok.com/ZS2d6yEe9/ 

https://www.facebook.com/share/v/aT8p3fkjV6BgVPSK/?mibextid=WC7FNe 

https://x.com/odaisy_official/status/1822242392411460034?s=46&t=4g0LmTpRctLjbXHGNVvxSg

https://youtu.be/DPu90ouUpI8?si=Fj5pjapa6FPz2cn2

Open House “Shellhut Entertainment” เปิดบ้านต้อนรับ นิสิต นักศึกษา เยาวชน

มาร่วม Up Skill เรียนรู้และแชร์ประสบการณ์ เทคโนโลยีแห่งอนาคตและความยั่งยืน   


Shellhut Entertainment (บริษัทในเครือ  T&B Media Global จำกัด) โดย คุณภาคภูมิ ตันตนันตา รองผุู้บริหาร ร่วมกับ UN Global Compact Network Thailand โดย คุณธันยพร กริชติทายาวุธ ผู้อำนวยการ สมาคมเครือค่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทยชวน นิสิต นักศึกษา และเยาวชนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้  up skills ที่ต้อง level up ในสังคมปัจจุบัน รวมถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคต และ ความยั่งยืน ผ่านบริษัท Shellhut Entertainment ผู้นำการสร้างแอนิเมชัน และ Tech Innovation ของไทย  ณ ทรูดิจิทัลพาร์ค สุขุมวิท          





       
เปิดบ้านแห่งความสุข  3 กิจกรรมหลัก เริ่มจากเปิดบ้านแก่งความสุขกับ สติมา Soft Skill กับทีมผู้สร้าง สติมา เณรน้อยอัจฉริยะ คุณสุนทร การินทร์ Lead project Coordinator และคำสอนจาก พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิระเมธี) ต่อด้วยTranslucia Metaverse พื้นที่ ที่เทคโนโลยี และความสร้างสรรค์มาบรรจบกัน เพื่อสร้างนวัตกรรมเปลี่ยนโลกกับ คุณชรภัทธ์ สันติมากร Chief of experience officer : Translucia Metaverse  จากนั้น คุณคณิน แก้วอินทร์  Social Innovation Director  Shellhut Entertainment ได้พูดถึงนวัตกรรมเพื่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ของ Shelldon นำพาไปสู่โลกอนาคต กับ  เปิดบ้านอย่างมีความสุขกับ คุณพงศ์พัฒน์ อยู่พงษ์พิทักษ์ HROD Executive  นอกจากนี้ยังได้ร่วมทำ workshop ด้านความยั่งยืนกับทีมพัฒนาแอนิเมชันระดับโลก อย่าง Shelldon ที่ออกฉายมากกว่า 180 ประเทศทั่วโลก และเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ Triple Planetary Crisis ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด รวมไปถึงการอยู่ร่วมกันในสังคมโลกอย่างสันติกับทีมผู้สร้างแอนิเมชันคุณภาพ อย่าง “สติมา” เณรน้อย อัจฉริยะ

ดีป้า จัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพเข้มข้น ครู - นักเรียน 100 ทีม

ติวเข้มทักษะโค้ดดิ้ง ฝึกนำเสนอผลงาน ต่อยอดสู่เวทีนานาชาติ


ดีป้า จัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพเข้มข้น ครู - นักเรียน จำนวน 100 ทีม ที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจากทั่วประเทศ เข้าคอร์สติวเข้มทักษะโค้ดดิ้ง จากผู้เชี่ยวชาญ ฝึกนำเสนอผลงานและรับข้อเสนอแนะ ก่อนร่วมประชันไอเดียเพื่อชิงความเป็นหนึ่งบนเวที Coding War เวทีแข่งขันทักษะโค้ดดิ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ภายใต้โครงการ Coding for Better Life

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า โครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย ดำเนินกิจกรรม Coding Bootcamp & Coding Roadshow และ Coding War ใน 8 ภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อเฟ้นหา 100 สุดยอดทีมจากโรงเรียนทั่วประเทศ ที่มีทักษะโค้ดดิ้งเป็นที่ประจักษ์ เข้าสู่กิจกรรมยกระดับศักยภาพด้านโค้ดดิ้งเข้มข้น  ผ่านการสร้างความรู้ความเข้าใจเชิงลึกโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะพัฒนาไปสู่ความรู้ด้านดิจิทัลในระดับที่สูงขึ้น


ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้ทักษะการนำเสนอโครงการ (Pitching) และการบอกเล่าเรื่องราว (Storytelling) ให้น่าสนใจ พร้อมรับข้อเสนอแนะจากทีมวิทยากรระดับแนวหน้าของไทยที่จะมาเป็นที่ปรึกษา (Mentor) ใน 4 หัวข้อหลัก ประกอบด้วย โค้ดดิ้งในชีวิตประจำวัน  โค้ดดิ้ง
เพื่อการเกษตร โค้ดดิ้งวิถีชุมชน และโค้ดดิ้งสำหรับอนาคต พร้อมนำตัวอย่างการนำเสนอโครงการโค้ดดิ้ง และ AI ที่ประสบความสำเร็จมาเป็นแนวทางการเรียนรู้ให้ได้ฝึกฝน ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ นอกจากนี้จะได้เรียนรู้เรื่องการประเมินขนาดของตลาด โมเดลธุรกิจเบื้องต้น และการออกแบบโมเดลธุรกิจ

“กิจกรรมทั้งหมดถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับทุกทีม ก่อนร่วมประชันไอเดียเพื่อชิงความเป็นหนึ่งบนเวที Coding War เวทีแข่งขันทักษะโค้ดดิ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13 - 15 กันยายนนี้ ณ MCC Hall เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ เพื่อชิงชัยสู่การเป็น 10 สุดยอดผลงานนวัตกรรมดิจิทัล ที่จะได้รับรางวัลเป็นอุปกรณ์ดิจิทัลและทุนการศึกษา มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันโค้ดดิ้งบนเวทีระดับนานาชาติ อย่าง Seoul International Invention Fair 2024 (SIIF 2024) ณ สาธารณรัฐเกาหลี” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว



ด้าน นายฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า หลักสูตรในกิจกรรมบ่มเพาะ เป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อพัฒนาทักษะรอบด้าน ช่วยฝึกฝนและเสริมทักษะที่จำเป็นสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน โดยเฉพาะการนำเสนอผลงานให้น่าสนใจ มีประสิทธิภาพ รวมถึงการให้มุมมองทางธุรกิจที่จะต่อยอดไปสู่ Startup ที่เป็นประโยชน์ต่อครูและนักเรียนเพื่อเห็นภาพกว้าง และมีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น โครงการ Coding for Better Life ถือเป็นต้นแบบของการยกระดับการศึกษาที่ครอบคลุมทุกมิติ ไม่เพียงแต่สนับสนุนงบประมาณและอุปกรณ์ แต่ยังมีการพัฒนาบุคลากร สร้างเครือข่าย และการวางแผนเชิงกลยุทธ์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นโครงการต้นแบบให้นำไปต่อยอดพัฒนาการศึกษาด้านอื่น ๆ ได้ในอนาคต 

พร้อมกันนี้ โครงการ Coding for Better Life ยังได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์แบรนด์ซุปไก่สกัด โดย บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ที่ร่วมสนับสนุนโครงการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การมอบ Micro:bit ให้โรงเรียนภายใต้กิจกรรมอัปเกรดห้องเรียนโค้ดดิ้ง มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท และสนับสนุนกิจกรรม AI Roadshow สร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับ AI ในสาขาอาชีพต่าง ๆ ให้กับเยาวชน ครู ผู้ปกครอง และบุคคลทั่วไป รวม 8 จังหวัด และในกิจกรรม Coding War ได้สนับสนุนเงินรางวัล และผลิตภัณฑ์แบรนด์ซุปไก่สกัดฟรีตลอด 1 ปีสำหรับทีมผู้ชนะในระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา พร้อมรางวัลพิเศษสำหรับระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาจำนวน 2 รางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 600,000 บาท บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด สนับสนุนหลักสูตร HUAWEI CLOUD DEVELOPER บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สนับสนุนคูปองการเรียนรู้ผ่าน TRUE DIGITAL ACADEMY เอไอเอ ประเทศไทย สนับสนุนงบประมาณให้แก่โรงเรียนในโครงการฯ และ เทโร เพอร์ฟอร์แมนซ์ คอร์ส ที่มีเป้าประสงค์เดียวกัน คือ การปลูกฝังความรู้ด้านโค้ดดิ้งแก่ประชาชนไทยตั้งแต่ระดับเยาวชน ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้เด็กไทยเติบโตไปเป็นกําลังคนดิจิทัลที่มีคุณภาพ และเป็นกําลังสําคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ร่วมพลิกโฉมการเรียนรู้ Coding ไปพร้อมกันกับโครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร และรายละเอียดโครงการ Coding for Better Life สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย ได้ที่ www.depa.or.th, CodingforBetterLife.com และเพจเฟซบุ๊ก depa Thailand และ Coding Thailand by depa

วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2567

สศท. ส่งเสริมการนำ GI ต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มงานศิลปหัตถกรรมไทย


สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ สศท. จัดนิทรรศการผลงานต้นแบบจากโครงการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อต่อยอดเชิงพาณิชย์ SACIT Concept : Geographical Indications
of Art and Crafts กว่า 60 ผลงาน พร้อมจัดเวที Craft Design Matching ระหว่างผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการสินค้าหัตถกรรม GI กับนักออกแบบ ในงาน Crafts Bangkok 2024 ระหว่างวันที่ 24-28 สิงหาคมนี้ ที่ไบเทค บางนา 

นางพรรณวิลาส แพพ่วง รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย กล่าวว่า สศท.
ให้ความสำคัญด้านการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย เพื่อผลักดันให้เกิดการผลิตงานศิลปหัตถกรรมได้อย่างยั่งยืน และการพัฒนาผลิตภัณฑ์งานคราฟต์ให้ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ของตลาดโลก ดังนั้นการประยุกต์ใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อนำมาช่วยให้ผลิตภัณฑ์งานศิลปหัตถกรรมไทยมีความโดดเด่นเฉพาะตัว สามารถพัฒนาได้อย่างเข้มแข็ง พร้อมทั้งผลักดันผู้ผลิตงานหัตถกรรมสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผลักดันให้ผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรมไทยได้ริเริ่มการยื่นจดความคุ้มครองในทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่สินค้าหัตถกรรมไทยอย่างมีมาตรฐาน 





ในปี 2567 สศท. ได้ดำเนินโครงการ SACIT Concept ซึ่งเป็นกิจกรรมการคิดสร้างสรรค์ผ่านเครือข่ายผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรมไทยในพื้นที่ GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) โดยการทำงานร่วมกันระหว่าง “ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการสินค้าหัตถกรรม GI” กับ “นักออกแบบ” โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยที่เกี่ยวข้องกับการนำวัสดุ วัตถุดิบ การทำสีเทคนิคพิเศษ รวมถึงการออกแบบสร้างสรรค์ผลงานผ่านรูปทรง และฟังก์ชั่นการใช้งาน ให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ผ่านการนำเสนอผลงาน 


รวมไปถึงเรื่องราวในการเล่าเรื่องแนวคิดการเริ่มต้นสร้างสรรค์ผลงาน จนเกิดเป็นผลงานผลิตภัณฑ์ต้นแบบ กว่า 60 ผลงาน ภายใต้แนวคิด “GI Smart Craft Combinations” จากกลุ่มผู้ผลิตงานหัตถกรรมทั่วประเทศ 30 ราย ประกอบด้วย สมาชิก สศท. อาทิ ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม กลุ่มช่างฝีมือ ชุมชนหัตถกรรม ผู้ประกอบการทั่วไป และนักออกแบบ 10 ราย ที่ร่วมผนึกกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย ยกระดับคุณค่าของพื้นที่ GI ด้วยการหยิบยกการใช้ทุนในพื้นที่ อาทิ ทุนทางประวัติศาสตร์ ทุนทางสังคมและวัฒนธรรม ทุนสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับงานศิลปหัตถกรรมไทย ซึ่งผลงานทั้ง 60 ผลงานนี้ สศท. ได้สนับสนุนและส่งเสริมให้ได้รับการยื่นจดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้องค์ความรู้และภูมิปัญญาในการสร้างสรรค์งานหัตถกรรมได้รับความคุ้มครอง เป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือในระดับบสากลต่อไป”

ด้านนางสาววันวรรษา ชุนจำรัส ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรม กล่าวว่า ปีนี้ สศท. ปรับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยสนับสนุนกลุ่มคนสามกลุ่ม ทำงานร่วมกันมากขึ้นในรูปแบบของ Co Creation  ระหว่างผู้เชี่ยวชาญช่วยคัดเลือกนักออกแบบและผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทยชั้นครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และผู้ประกอบการงานหัตถกรรม สศท. ได้นำทั้งสองกลุ่มมา Matching กัน เพื่อให้ทั้งสองกลุ่มใช้ทุนทางวัฒนธรรม ทางสังคมและทางสิ่งแวดล้อมที่ตัวเองมีในการสร้างสรรค์ผลงาน เพื่อให้ผลงานที่ได้รักษาไว้ซึ่งองค์ความรู้ดั้งเดิมและภูมิปัญญาท้องถิ่นของพื้นที่ตัวเองและ สามารถตอบสนองวิถีชีวิต และความต้องการของปัจจุบันของคนทุกกลุ่ม ทุกวัย ได้ ภายใต้คอนเซ็ปต์  “GI Smart Craft Combinations”  นี่คือการผสมที่ลงตัวที่สุดเท่าที่เคยทดลองมา 

นายภูสิษฐ์ จาตุรงคกุล ที่ปรึกษาพาณิชย์นวัตกรรม บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด  กล่าวว่า จากที่มีกิจกรรมในโครงการที่ผ่านมา จะได้เห็นร่องรอยใหม่ ๆ เป็นการนำสิ่งที่เป็นทุนเดิมเป็นภูมิปัญญาเดิม มาเจอกับนักออกแบบและได้ไอเดียใหม่ๆ เกิดร่องรอยใหม่ๆ เกิดขึ้น ทำให้ผลิตภัณฑ์เติบโตเข้าสู่ตลาดนั้น แตกต่าง






ดีกว่า โดนใจตลาดและมีจุดจดจำหรือมีจุดยืนที่ชัดเจน ซึ่งเรื่องราวแบบนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดกระแสใหม่ๆ และการตอบรับใหม่ๆ แก่ผู้บริโภคในมุมใหม่ๆ และเชื่อว่าจากโครงการนี้ จะทำให้ผู้ประกอบการได้เกิดการเรียนรู้และนำแนวคิดเป็นผลพลอยได้นำไปสู่การพัฒนาและต่อยอดได้ดียิ่งๆ ขึ้น 

สศท. ขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมค้นหาแรงบันดาลใจ เติมพลังความคิดสร้างสรรค์จากงานศิลปหัตถกรรมฝีมือคนไทย ที่นิทรรศการ SACIT Concept 2024 ในงาน Crafts Bangkok 2024 ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม นี้ เวลา 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 98-99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค

7 เจี๊ยบบุกโรงเรียน ชวนทำภารกิจ “Out of The Nest องครักษ์พิทักษ์คิดส์”

 

เริ่มแล้วเหล่า 7 เจี๊ยบ จากภาพยนตร์แอนิเมชัน “Out of The Nest องครักษ์พิทักษ์เจี๊ยบ” เดินสายสร้างความสุขสนุกสนานให้กับน้องๆ หนูๆ กับกิจกรรม “Out of The Nest องครักษ์พิทักษ์คิดส์” ตลอดเดือนสิงหาคมนี้

โดยเริ่มออนทัวร์ตั้งแต่วันที่ 19-22 ส.ค. ที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศชลบุรี, โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา, โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร (ปฐมวัย และประถมศึกษา) ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากน้องๆ ที่พร้อมใจเข้าร่วมภารกิจกันอย่างเต็มที่ ตั้งแต่กิจกรรมหน้างาน ถ่ายภาพ Photo Backdrop, เล่นเกม 7 Chick COMBO, กิจกรรมระบายสีที่คาดศรีษะ และสนุกกับ AI Filter ครีเอทผมทรงเจี๊ยบกับ Arther Barber Shop จากนั้นก็นำน้องๆ เข้าสู่โลกของ Out of The Nest องครักษ์พิทักษ์เจี๊ยบ ด้วยการชมตัวอย่างภาพยนตร์ และเพลงประกอบภาพยนตร์สุดน่ารัก แล้วจึงเริ่มปฏิบัติภารกิจตามหาไข่ราชวงศ์กันอย่างคึกคัก ก่อนจะส่งท้ายด้วยกิจกรรมที่ทุกคนตั้งตารอคือ การเปิดตัวพี่ 7 เจี๊ยบสุดคิ้วท์ตัวเป็นๆ ออกมาให้น้องๆ ได้สัมผัสทักทายถ่ายรูป พร้อมเต้นระบำด้วยกันอย่างใกล้ชิด สนุกสนาน และเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะที่สดใส เรียกได้ว่าภารกิจ Out of The Nest องครักษ์พิทักษ์คิดส์ ครั้งนี้สร้างความแฮปปี้ให้กับทุกคนเลย สำหรับน้องๆ โรงเรียนมารีย์วิทยา นครราชสีมา และโรงเรียนสารสาสน์วิเทศโคราช เตรียมฟิตร่างกายเพื่อร่วมภารกิจ  “Out of The Nest องครักษ์พิทักษ์คิดส์”  กับ 7 เจี๊ยบสุดคิ้วท์ ได้ในวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้






สามารถติดตามข่าวสาร อัปเดตความเคลื่อนไหว และกิจกรรมดีๆ

ของ “Out Of The Nestองครักษ์พิทักษ์เจี๊ยบ” ไ
ด้ทาง Facebook :https://www.youtube.com/@Outofthenestofficialwww.facebook.com/OutOfTheNestOfficial // X : https://twitter.com/outofthenestth // TikTok : https://www.tiktok.com/@outofthenest_official // IG : https://www.instagram.com/outofthenestofficial // YouTube : 



เตรียมพบกับการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ของแอนิเมชันสัญชาติไทยเรื่องแรก และเรื่องเดียวที่ได้รับเลือกเป็น Annecy Selection โดยเป็น 1 ใน 12 ภาพยนตร์แอนิเมชันจากกว่า 3,400 เรื่องทั่วโลก ในงาน Annecy International Animation Film Festival ปี 2024 ณ เมืองอานซี ประเทศฝรั่งเศส เทศกาลภาพยนตร์แอนิเมชันที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ทุกโรงภาพยนตร์พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 5 กันยายนนี้

ป.ป.ส. จัดงานมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน 2567

พร้อมเปิดตัวหนังสือ “2 ทศวรรษ กองทุนแม่ของแผ่นดิน” 


วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2567 เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสร็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงเป็นองค์ประธาน งานมหกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน ประจำปี 2567 “2 ทศวรรษ กองทุนแม่ของแผ่นดิน ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง” และทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พร้อมนิทรรศการ  เปิดตัวหนังสือ “2 ทศวรรษ กองทุนแม่ของแผ่นดิน”โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี  พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) ผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนหมู่บ้าน/ชุมชน  กองทุนแม่ของแผ่นดิน ร่วมรับเสด็จ จำนวน 2,400 คน ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทางธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี


พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ในปีนี้เป็นวาระครบรอบ 20 ปี ของ การดำเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จทรงเป็นองค์ประธาน ในพิธีพระราชทานเงินพระราชทานขวัญถุงกองทุนแม่ของแผ่นดินแก่หมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินใหม่ ประจำปี 2567 เพื่อเป็น “ทุนศักดิ์สิทธิ์” อันเป็นศูนย์รวมจิตใจและพลังศรัทธาของเหล่าราษฎรให้ร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านชุมชนและชุมชนของตนเอง ให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมสร้างความร่มเย็นเป็นสุขแก่ราษฎรอย่างยั่งยืน ซึ่งนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 – 2566  มีหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน จำนวน 27,560 แห่ง โดยในปีนี้ เพิ่มขึ้นอีก 1,087 แห่ง รวมทั้งสิ้น 28,647 หมู่บ้าน/ชุมชน และมีการขยายจำนวนหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดินเพิ่มขึ้นทุกปี 


โดยตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เหล่าสมาชิกหมู่บ้านชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน ทุกแห่งล้วนมุ่งมั่น ตั้งใจ สร้างครอบครับให้อบอุ่น รวมพลังสร้างหมู่บ้าน/ชุมชนให้เข้มแข็ง เพื่อป้องกัน เฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหายาเสพติด บนแนวทางสันติวิธี ด้วยการให้อภัย ให้โอกาส ช่วยเหลือประคับประคอง พัฒนาคุณภาพชีวิตให้สามารถหลุดพ้นจากปัญหายาเสพติด และสร้างสังคมที่ปลอดภัยได้อย่างยั่งยืน

“กองทุนแม่ของแผ่นดิน” เป็นกองทุนที่มอบให้กับหมู่บ้าน/ชุมชน โดยมีเป้าหมายมุ่งขจัดปัญหายาเสพติดให้ได้ผลอย่างยั่งยืน ด้วยพลังความดีและความสามัคคีของชาวบ้าน โดยมีองค์ประกอบของกองทุน 3 ส่วน ได้แก่ ทุนศักดิ์สิทธิ์ คือ พระราชทรัพย์พระราชทานที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ได้สมทบงบประมาณส่วนหนึ่ง เพื่อเป็นเงินขวัญถุงและเป็นศูนย์รวมจิตใจคนในหมู่บ้าน/ชุมชนให้ร่วมดำเนินงาน, ทุนศรัทธา การระดมเงินจากสมาชิกสมทบเข้ากองทุนแม่ของแผ่นดินในแต่ละหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงทุนทางสังคมของหมู่บ้าน/ชุมชนที่ต้องการไม่ให้มีปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านอย่างเป็นรูปธรรม และทุนปัญญา ที่ใช้พลังแห่งปัญญาในการหาวิธีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในการระดมทุนเพื่อขยายกองทุน จนสามารถนำไปใช้จ่ายเพื่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดของหมู่บ้านได้ อย่างเพียงพอต่อไป

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ                                พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงห่วงใยปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านและชุมชนทั่วประเทศ ในวาระครบรอบการดำเนินงาน 2 ทศวรรษของกองทุนแม่ของแผ่นดิน ในปีพุทธศักราช 2567 ภายใต้แนวคิด  “2 ทศวรรษ กองทุนแม่ของแผ่นดิน ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง” ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการสดุดีพระเกียรติคุณพระบรมวงศานุวงศ์ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และนิทรรศการแสดง ผลการดำเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดินจากพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ บทเรียนใน การดำเนินงาน รวมถึงนิทรรศการจากตัวแทนหมู่บ้าน/ชุมชน ต้นแบบ 11 แห่ง ภายใต้แนวคิด  “ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง” มาร่วมจัดแสดงอีกด้วย รวมถึงกิจกรรมเปิดตัว หนังสือที่ระลึกวาระพิเศษ หนังสือ “2 ทศวรรษ กองทุนแม่ของแผ่นดิน”

นอกจากนี้ยังมีปาฐกถาพิเศษ โดย พันตำรวจเอก ทวี  สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในหัวข้อ “ความสำคัญของกองทุนแม่ของแผ่นดินกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด” และกิจกรรมการแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง อาทิ คุณปาน ธนพร , ศิลปินจากเวที Golden Song และ การแสดงศิลปะวัฒนธรรม 4 ภาค พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มเติมว่า “กองทุนแม่ของแผ่นดิน” ทำให้พี่น้องประชาชนชาวไทย ได้นำไปพัฒนาและต่อยอดเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อสร้างครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง สร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจ และรู้เท่าทันยาเสพติด โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ท้ายนี้ ทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชนของตนเองได้ โดยการแจ้งเบาะแสยาเสพติด ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. โทร.1386

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2567

โตชิบา ชวนฟินกับ หมาก ปริญ ใน TOSHIBA PRODUCT SHOWCASE

โตชิบา ไทยแลนด์

ขอเชิญสัมผัสนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผสานแนวคิดการออกแบบที่ไร้รอยต่อเข้ากับพื้นที่ภายในบ้านอย่างลงตัว  “JAPANDI Series” ในงาน TOSHIBA PRODUCT SHOWCASE “เพราะเราใส่ใจ...คิดมาให้แล้ว” ในงานยังมีโอกาสลุ้นของรางวัลพร้อมกระทบไหล่พระเอกหนุ่ม สุดอบอุ่น หมาก ปริญ แบรนด์ แอมบาสเดอร์ ของโตชิบา ที่จะมา Meet & Greet กับแฟนๆ อย่างใกล้ชิด วันที่ 24 สิงหาคม เวลา 13:00 น. เพียงแสดงหลักฐานใบเสร็จที่ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่จัดจำหน่ายโดยบริษัทโตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2567 – 24 สิงหาคม 2567 ไม่จำกัดมูลค่า ทุกช่องทาง ณ จุดลงทะเบียนหน้างาน ตั้งแต่ 11:30 – 13:00 น. 20 ท่านแรก ได้สิทธิ์ Meet & Greet ที่นั่ง VIP พร้อมรับทันที!! Toshiba Gift Set มูลค่า 1,390 บาท (1 ใบเสร็จ/1 ที่นั่ง) หรือเพียงถ่ายรูป เช็คอินภายในงาน และโพสต์แบบสาธารณะ พร้อมติดแฮชแท็ก #โตชิบาใส่ใจคิดมาให้แล้ว นำมาแสดง ณ จุดลงทะเบียนหน้างาน ตั้งแต่ 11:30 – 13:00 น. 30 ท่านแรก ได้สิทธิ์ Meet & Greet ที่นั่ง Standard พร้อมรับเสื้อยืดหมาก ปริญ ภายในงานยังมีกิจกรรมมากมาย อาทิ วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม แฟนๆ ออฟ จุมพล พบกันเวลา 14:00 น.

พบกันที่งาน TOSHIBA PRODUCT SHOWCASE วันที่ 24 – 25 สิงหาคม 2567
ตั้งแต่เวลา 10:00 น. – 21:00 น. ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน 

#Toshiba #DetailsMatter #นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต 

ข่าวประชาสัมพันธ์

“หินซ้อน” เปิดตัวเทศกาลท่องเที่ยว “มหัศจรรย์การอาบป่า“ ขานรับลมหนาวช่วงปีใหม่

  เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตำบลหินซ้อน สมาคมท่องเที่ยวสระบุรีและอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี  ร่วมกับตำบลห...

โวยวายดอทคอม