ด้วยการดูแลห้องน้ำให้สะอาดแบบง่าย ๆ ยุคนิวนอร์มอลกันดีกว่า
ห้องน้ำ นับเป็นพื้นที่สำคัญ ที่จะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรก หรือเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจติดตัวมา หรือการที่ร่างกายต้องสัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ มาตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะเมื่อเวลาที่เราต้องออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน จนดูเหมือนว่าห้องเล็ก ๆนี้ ในอีกมุมหนึ่งก็คืออาจเป็นแหล่งสะสม สิ่งสกปรก หรือเชื้อโรคที่เราชำระล้างออกไป แน่นอนว่า การทำความสะอาดห้องน้ำ จึงเป็นอีกพื้นที่หนึ่งภายในบ้าน ที่ต้องหมั่นคอยดูแล และทำความสะอาดอยู่เป็นประจำเพื่อสุขอนามัยที่ดี สำหรับทุกคนในครอบครัว
พูดถึงการล้างห้องน้ำ หลายคนก็จะรู้สึกลำบากใจ เพราะดูจะเป็นพื้นที่ ที่นอกจากจะมีอุปกรณ์ประกอบอยู่ในนั้นมากมาย มีวัสดุที่แตกต่างกัน รวมถึงบางจุดอาจมีคราบสกปรกฝังลึกที่ยากจะขัดออก ที่สำคัญ เป็นจุดผสมระหว่างพื้นที่เปียกและแห้ง ทำให้การทำความสะอาดดูเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เรื่องนี้ คอดโต้ ( COTTO ) กูรูด้านการดูแลวัสดุกระเบื้องปูพื้น ผนัง ชั้นนำ ที่ใส่ใจในสุขอนามัยที่ดีของคนไทย จากบริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) ขอมาแนะนำเคล็บลับดี ในการทำความสะอาดห้องน้ำแบบง่าย ๆ ด้วยตัวเอง แบบ Health & Clean ที่นอกจากจะทำให้ห้องน้ำ สะอาด ปลอดภัย ดีต่อสุขอนามัยของทุกคนในครอบครัวแล้ว ยังช่วยให้ห้องน้ำดูใหม่อยู่เสมออีกด้วย เริ่มต้นกันด้วย
พื้นห้องน้ำ จุดนี้ นับเป็นจุดที่มีความสำคัญ เพราะเป็นจุดรวมของสิ่งชำระล้าง หรือคราบสกปรกที่ติดมากับการเข้าใช้งาน ทั้งในรูปฝุ่นละออง หรือคราบสกปรกที่มากับสัมผัส รวมถึงคราบสกปรกเกาะติดจากสารเคมีที่ใช้งาน อาทิ ฟองสบู่ ยาสระผม ที่ชำระล้างร่างกาย ซึ่งมักจะมีคราบไคลติดออกมา และเป็นอาหารชั้นดีของเชื้อแบคทีเรีย ความชื้นทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ปกติเราสามารถใช้น้ำสะอาดในการเช็ดถูกระเบื้องหลังใช้ห้องน้ำเสร็จ หากมีคราบฝังแน่นจำเป็นต้องใช้น้ำยาที่แรงขึ้น เลือกใช้น้ำยาจากธรรมชาติทำความสะอาดกระเบื้องและยาแนวโดยเฉพาะ หรือใช้ผงซักฟอกที่มีฤทธิ์ด่างอ่อนๆ เพื่อถนอมกระเบื้องให้ยาวนาน ใช้แปรงขัดชนิดมือจับที่ขนทำมาจากไนลอนหรือพลาสติก จะไม่ทำลายผิวกระเบื้อง หากร่องยาแนวมีสีดำใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำ ใส่ขวดสเปรย์ฉีดทิ้งไว้ 15 นาที ใช้ฟองน้ำหรือผ้าบิดน้ำหมาดเช็ดอีกครั้ง
สำหรับในส่วนผนังห้องน้ำ ซึ่งเป็นส่วนที่สะสมคราบสกปรกเช่นเดียวกัน หลังใช้ห้องน้ำทุกครั้งฉีดน้ำทำความสะอาดผนังก่อนที่คราบสบู่จะแห้งเป็นคราบฝังแน่น แต่ถ้าหากคราบฝังแน่นแล้ว ก็สามารถใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำ ใช้ผ้าชุบแล้วเช็ดผนังตรงที่มีคราบสบู่ ล้างด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้แห้งได้เช่นเดียวกัน หากยาแนวสีขาวแล้วเกิดจุดดำ ให้ใช้ยาสีฟันสูตรไวท์เทนนิ่งกับแปรงสีฟันเก่าๆ มาขัดออกได้
นอกจากนี้ หลังการใช้งานทุกครั้ง ควรเปิดประตูห้องน้ำเพื่อระบายอากาศ ลดความชื้นของพื้นและผนัง ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยชะลอการเกิดคราบสกปรกและเชื้อโรคต่างๆ ได้ หรือปัจจุบันกำลังปรับปรุงห้องน้ำพื้นผนังที่มีความเสี่ยง หรือหลีกเลี่ยงการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย สามารถเลือกใช้กระเบื้องปูพื้นและผนังที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเกิดแบคทีเรีย อาทิ กระเบื้องไฮจินิก ที่มีเทคโนโลยีพิเศษในการยับยั้งถึงต้นตอของแบคทีเรีย ด้วย Silver Nano ที่อยู่ในชั้นสีของกระเบื้อง ซึ่งจะส่งประจุบวกเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ได้ผลมากกว่า 90% ไม่สะสมสิ่งสกปรก จึงทำความสะอาดได้ง่ายกว่ากระเบื้องทั่วไป ปราศจากไอระเหยที่เป็นพิษในอากาศ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสารปนเปื้อนปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมก็จะช่วยให้มั่นใจในความสะอาดและมีสุขอนามัยที่ดีได้ทุกวัน และที่สำคัญ กระเบื้องปูพื้นที่ใช้กับพื้นที่เปียกบ่อย ๆ ควรเลือกกระเบื้องที่มีค่า R ประมาณ 11 ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่เหมาะสมสำหรับกระเบื้องปูพื้นที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการลื่นล้มหมดจากเรื่องพื้นและผนัง ก็มาถึงเรื่องของ สุขภัณฑ์ ซึ่งนับเป็นจุดที่มีองค์ประกอบเรื่องวัสดุที่หลากหลาย
เชื่อมั้ยว่า หลายคนคิดว่าโถชักโครกด้านใน หรือ ฝารองนั่งจะพบเชื้อโรคมากที่สุด แต่จุดที่เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคที่คนคิดไม่ถึง คือ ปุ่มกดชักโครก ซึ่งสามารถใช้น้ำยาฟอกขาวผสมน้ำเปล่า ใช้ผ้าชุบน้ำยาเช็ดทำความสะอาด ส่วนตัวโถสุขภัณฑ์ด้านใน ก็ใช้น้ำยาทำความสะอาดเทลงชักโครกด้านใน ปิดฝาทิ้งไว้ 5-10 นาที ใช้แปรงด้ามยาวขัดถู สำหรับตัวโถด้านนอกใช้แปรงนุ่มจุ่มน้ำยาขัด หากเจอคราบสกปรกฝังแน่น ให้เทน้ำยาทิ้งไว้แล้วค่อยขัดอีกครั้ง ตามด้วยน้ำเปล่าล้างทำความสะอาดทั้งหมด อีกครั้ง
นอกจากนี้ ในส่วนฝารองนั่งและฝาปิด ใช้แปรงขนนุ่มๆ จุ่มน้ำยาทำความสะอาด ที่ผสมจากน้ำยาล้างจานและน้ำเปล่า ขัดทำความสะอาดเบาๆ และล้างด้วยน้ำเปล่า ไม่ควรใช้น้ำยาชนิดกรดเพราะจะทำลายเนื้อพลาสติก เปลี่ยนเป็นสีเหลือง เรื่องสำคัญสิ่งสุดท้ายคือ การกดชักโครกโดยปิดฝาครอบ ทำให้แบคทีเรียไม่แพร่กระจาย เราจึงจำเป็นต้องทำความสะอาดชักโครกอยู่เสมอ เพื่อสร้างความปลอดภัยในการใช้งานในทุกๆ เวลา
สายฉีดชำระ อุปกรณ์สำคัญอีกจุดหนึ่ง โดยเฉพาะตรงที่จับสายฉีดชำระ จัดเป็นจุดรวมเชื้อโรคและสกปรกที่สุด แต่จุดที่มักเป็นปัญหาก็คือรูสายชำระ วิธีทำความสะอาด คือ ใช้สก๊อตไบรท์ขัดถูบริเวณ รูสายชำระ แล้วเปิดน้ำแรง ๆ ไล่หินปูนออก ก่อนใช้งานทุกครั้ง โดยควรฉีดน้ำออกจากสายชำระก่อนสักเล็กน้อย จากนั้นจึงใช้กระดาษทิชชูเช็ดให้แห้งและฉีดน้ำอีกครั้งก่อนใช้งานตามปกติ และอย่าลืมเช็ดทำความสะอาดที่จับสายฉีดชำระด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่ผสมไว้ด้วย เพียงแค่นี้ ก็ช่วยให้สายฉีดสะอาดน่าใช้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ถัดมาที่จุดสุดท้าย คือ ก๊อกน้ำและอ่างล้างหน้า ซึ่งนับเป็นจุดที่มีการใช้งานบ่อยที่สุด อุปกรณ์สองชิ้นนี้มีโอกาสเกิดคราบสกปรกฝังแน่นและเชื้อแบคทีเรีย จากสบู่ล้างมือ โฟมล้างหน้า หรือคราบฟองจากการแปรงฟัน การทำความสะอาด ก๊อกน้ำให้สะอาดแวววาว สามารถใช้น้ำมะนาวผสมเข้ากับเบกกิ้งโซดา แล้วใช้แปรงสีฟันเก่ามาขัดถูให้ทั่วก๊อกน้ำ และล้างออก พร้อมฆ่าเชื้อโรคด้วยการผสมน้ำยาฟอกขาวกับน้ำเปล่า แล้วใช้ผ้าชุบทำความสะอาดอีกครั้ง ส่วนอ่างล้างหน้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดกรดไฮโดรคลอริกเหมือนกับชักโครกแต่เจือจางกว่า โดเทน้ำยาให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ค่อยใช้แปรงขัดให้ทั่ว แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง นอกจากนี้ขวดสบู่ล้างมือก็ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะบริเวณแป้นกด ใช้ผ้าชุบน้ำยาฟอกขาวเจือจางเช็ดทำความสะอาด หรืออาจเลือกใช้ก๊อกน้ำที่มี ที่จ่ายสบู่ในตัว และควบคุมการใช้งานผ่านระบบเซนเซอร์ ก็ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องความสะอาด และใช้ชีวิตที่ Health & Clean ได้มากกว่าเดิม
นอกจากนี้ยังมีส่วนอื่น ๆ ที่อยู่ในห้องน้ำ อาทิ กระจก หากสกปรกรีบเช็ดด้วยผ้าก่อนที่จะแห้งติด หรือใช้น้ำยาเช็ดกระจกและกระดาษหนังสือพิมพ์ขัดเช็ดให้สะอาด หากกระจกหมองให้เอาน้ำสบู่ผสมน้ำสมสายชู ใช้ผ้าชุบแล้วบีบหมาดเช็ดถูเบาๆ ผ้าม่านพลาสติก ก็ควรจะทำความสะอาดด้วยการซักน้ำสบู่อ่อน ๆ หรือ น้ำยาซักผ้าผสมน้ำอุ่นผึ่งให้แห้งโดยการตากลมเพื่อไม่ทำให้สีผ้าม่านจืดจาง หากมีเชื้อรา ให้นำผงฟูผสมกับน้ำมะนาวทาบริเวณที่มีเชื้อรา จากนั้นนำไปแช่ในน้ำเกลือ 1 ชั่วโมง ล้างด้วยน้ำเปล่าก็จะทำให้ผ้าม่านสะอาดได้เหมือนใหม่
สายฉีดชำระ อุปกรณ์สำคัญอีกจุดหนึ่ง โดยเฉพาะตรงที่จับสายฉีดชำระ จัดเป็นจุดรวมเชื้อโรคและสกปรกที่สุด แต่จุดที่มักเป็นปัญหาก็คือรูสายชำระ วิธีทำความสะอาด คือ ใช้สก๊อตไบรท์ขัดถูบริเวณ รูสายชำระ แล้วเปิดน้ำแรง ๆ ไล่หินปูนออก ก่อนใช้งานทุกครั้ง โดยควรฉีดน้ำออกจากสายชำระก่อนสักเล็กน้อย จากนั้นจึงใช้กระดาษทิชชูเช็ดให้แห้งและฉีดน้ำอีกครั้งก่อนใช้งานตามปกติ และอย่าลืมเช็ดทำความสะอาดที่จับสายฉีดชำระด้วยน้ำยาทำความสะอาดที่ผสมไว้ด้วย เพียงแค่นี้ ก็ช่วยให้สายฉีดสะอาดน่าใช้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ถัดมาที่จุดสุดท้าย คือ ก๊อกน้ำและอ่างล้างหน้า ซึ่งนับเป็นจุดที่มีการใช้งานบ่อยที่สุด อุปกรณ์สองชิ้นนี้มีโอกาสเกิดคราบสกปรกฝังแน่นและเชื้อแบคทีเรีย จากสบู่ล้างมือ โฟมล้างหน้า หรือคราบฟองจากการแปรงฟัน การทำความสะอาด ก๊อกน้ำให้สะอาดแวววาว สามารถใช้น้ำมะนาวผสมเข้ากับเบกกิ้งโซดา แล้วใช้แปรงสีฟันเก่ามาขัดถูให้ทั่วก๊อกน้ำ และล้างออก พร้อมฆ่าเชื้อโรคด้วยการผสมน้ำยาฟอกขาวกับน้ำเปล่า แล้วใช้ผ้าชุบทำความสะอาดอีกครั้ง ส่วนอ่างล้างหน้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดชนิดกรดไฮโดรคลอริกเหมือนกับชักโครกแต่เจือจางกว่า โดเทน้ำยาให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ค่อยใช้แปรงขัดให้ทั่ว แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง นอกจากนี้ขวดสบู่ล้างมือก็ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะบริเวณแป้นกด ใช้ผ้าชุบน้ำยาฟอกขาวเจือจางเช็ดทำความสะอาด หรืออาจเลือกใช้ก๊อกน้ำที่มี ที่จ่ายสบู่ในตัว และควบคุมการใช้งานผ่านระบบเซนเซอร์ ก็ช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องความสะอาด และใช้ชีวิตที่ Health & Clean ได้มากกว่าเดิม
นอกจากนี้ยังมีส่วนอื่น ๆ ที่อยู่ในห้องน้ำ อาทิ กระจก หากสกปรกรีบเช็ดด้วยผ้าก่อนที่จะแห้งติด หรือใช้น้ำยาเช็ดกระจกและกระดาษหนังสือพิมพ์ขัดเช็ดให้สะอาด หากกระจกหมองให้เอาน้ำสบู่ผสมน้ำสมสาย
ชู ใช้ผ้าชุบแล้วบีบหมาดเช็ดถูเบาๆ ผ้าม่านพลาสติก ก็ควรจะทำความสะอาดด้วยการซักน้ำสบู่อ่อน ๆ หรือ น้ำยาซักผ้าผสมน้ำอุ่นผึ่งให้แห้งโดยการตากลมเพื่อไม่ทำให้สีผ้าม่านจืดจาง หากมีเชื้อรา ให้นำผงฟูผสมกับน้ำมะนาวทาบริเวณที่มีเชื้อรา จากนั้นนำไปแช่ในน้ำเกลือ 1 ชั่วโมง ล้างด้วยน้ำเปล่าก็จะทำให้ผ้าม่านสะอาดได้เหมือนใหม่
ห้องน้ำในบ้านดีไซน์สวยอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องทำความสะอาดให้ถูกสุขลักษณะอย่างน้อยสัปดาห์
ละ 1 ครั้ง แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ยาวนานอีกด้วย อย่างไรก็ดี เทคนิคการทำความสะอาดเหล่านี้ สามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ ได้ตามความเหมาะสมแต่จะดีไม่น้อย ถ้าเราเลือกวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในพื้นที่ส่วนนี้ ไม่ว่าจะเป็นพื้นผนัง หรือสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่ ๆ มาช่วยลดการสะสมของเชื้อโรค และคราบสกปรกมาให้เลือกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนับเป็นการช่วยลดภาระ การทำความสะอาดไปในตัว แถมยังเพิ่มสุขอนามัยให้กับสมาชิกในครอบครัวอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจทำห้องน้ำให้เป็นพื้นที่ Health & Clean อย่างมีดีไซน์ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอคำปรึกษาได้ที่ https://www.cotto.com/ หรือ https://www.facebook.com/cottoofficial/ สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ หรือติดตาม โปรโมชั่นพิเศษสำหรับคนพิเศษทุก ๆ วัน ได้ที่ https:/www.cottolife.com/ และLine Official Account : @COTTOlife >> http://bit.ly/2D5BeJd หากต้องการสัมผัสความสวย สะอาด เพื่อความมั่นใจได้ที่ COTTO Life ชั้น 2 SCG Experience สาขา Crystal Design Center (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา) โทร.02-586-2186 , 06-3906-7576