วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

“บ้านคู่บุญ ครีเอชั่น”ส่งรายการน้องใหม่“Talk Today-ทอล์กทูเดย์” รังสรรค์สาระดีดีเพื่อทุกครอบครัว เริ่ม 1 มี.ค.นี้

บริษัท บ้านคู่บุญ ครีเอชั่น จำกัด ผู้ผลิตและพัฒนาคอนเทนต์คุณภาพสำหรับทุกเพศทุกวัย เตรียมส่งรายการน้องใหม่ "ทอล์กทูเดย์" ลงจอทางช่อง PPTV 36 HD  รายการที่นำเสนอภายใต้คอนเซ็ปต์ คุยสนุก คุยกับเรา ทุกวันจันทร์ เริ่มออนแอร์เทปแรก วันจันทร์ที่ 1 มีนาคมศกนี้ เวลา 14.00-14.30 น. 

โดยนำเสนอเรื่องราวในหลากหลายแง่มุมเพื่อให้คุณผู้ชมสามารถมีแนวทางในการจัดวางชีวิตให้ “สุข” ได้อย่างพอดี พร้อมทั้งนำมาเป็นแนวทางการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่  พร้อมคว้าผู้ประกาศข่าวช่อง PPTV 36 HD ฝีมือดี “กรสุมา เจียมสระน้อย”  เป็นผู้ดำเนินรายการหลักด้วยที่มาสร้างสีสันและเติมเต็มทุกอรรถรสของผู้ชมรายการ 

นางสุภัคศิณี เหล่ารบ กรรมการผู้จัดการบริษัท บ้านคู่บุญ ครีเอชั่น จำกัด 

นางสุภัคศิณี เหล่ารบ กรรมการผู้จัดการบริษัท บ้านคู่บุญ ครีเอชั่น จำกัด  กล่าวถึงการผลิตรายการ  “Talk Today-ทอล์กทูเดย์” ว่า รายการนี้ตั้งใจผลิตเพื่อเป็นสื่อในการจรรโลงใจให้กับผู้ชมได้มีความรัก ความเอาใจใส่ในสิ่งต่างๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็น ผู้คน สิ่งแวดล้อม ต่างๆ และสามารถนาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้  

เพื่อให้ผู้ชมได้ตื่นตัวออกไปท่องเที่ยวและพักผ่อนในสถานที่ที่รายการนำเสนอเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเจริญ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งให้คนในสังคมได้มีข้อคิดในการดำรงชีวิต มีความสุขจากการชมรายการ และนำไปสู่การคิดดี พูดดี ทำดีซึ่งกันและกัน

เพื่อเผยแพร่สาระ แนวคิด รูปแบบ ความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมและขยายโอกาสทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ ได้มีช่องทางในการนำเสนอ สินค้า บริการ สู่ผู้บริโภคตลาดในวงกว้างและ ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น

และท้ายสุดเพื่อเป็นช่องทางการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสาร การสื่อสารการตลาดและการสื่อสารภาพลักษณ์ตลอดจนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ของหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน"

ทั้งนี้สามารถรับชมรายการ Talk Today-ทอล์กทูเดย์  ทุกวันจันทร์ เวลา 14.00 -14.30 น.  โดยมีรูปแบบรายการเป็นการมอบความรู้ความเข้าใจในการพัฒนา เศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม  แบ่งเป็น ช่วงที่ 1 ช่วงที่คุณผู้ชมสามารถไปสัมผัสได้เรื่องราวต่างๆจากทั่วทุกมุมโลก 

โดยเฉพาะรายการเรื่องราวข่าวสารใกล้ตัวและอยู่ในความสนใจของผู้ชม โดยจะวิเคราะห์เจาะลึก และครอบคลุมทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ สังคม กีฬา ท่องเที่ยว คุณภาพชีวิตวัฒนธรรม สาระบันเทิง และข่าวคราวกระแสสังคมธุรกิจ กำลังให้ความสนใจ ยังคงได้รับความนิยมจากผู้ชมทุกยุค นอกจากนั้นยังเป็นช่องทาง ในการนำเสนอเรื่องราวในสังคมไทย สะท้อนภาพเหตุการณ์จริงในสังคม ตอกย้ำ และสะท้อนภาพเหตุการณ์นั้นให้สาธารณชน

สำหรับช่วงที่ 2 เป็นรายการบันทึกเทป การพูดคุย สัมภาษณ์บุคคล ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจด้านสังคม เศรษฐกิจ การพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยให้ความรู้ความเข้าใจในการกระตุ้นการตื่นตัวของผู้ชมไปรู้จักกับสิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นรวบตัว รวมไปถึงทั้งเรื่อง ธุรกิจ การดูแลสุขภาพการกินดีอยู่ดี นวัตกรรมต่างๆที่เป็นประโยชน์ การแนะนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆที่น่าสนใจ และ กิจกรรมดีๆที่เป็นประโยชน์ จากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เป็นต้น

และช่วงที่ 3 นำเสนอกิจกรรมพิเศษที่น่าสนใจในสภาวะปัจจุบัน อาทิ กิจกรรม CSR หน่วยราชการและภาคเอกชน  ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ  การให้ความรู้ที่มีประโยชน์กับประชาชน  การขับเคลื่อนภารกิจด้านสตรีและครอบครัว  การส่งเสริมความเสมอภาค เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร รวมถึงเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการขับเคลื่อนภารกิจด้านต่างๆ ไปในทิศทางที่ดี  รวมทั้งแนะนำเทคโนโลยีใหม่เพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีความก้าวหน้า เป็นต้น

วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

มาทานข้าวให้หายคิดถึงได้ที่หน้าโรงแรม Rayong Marriott Resort & Spa

ผ่านไปแล้ว...กับวันแรกขอการเปิดบูธขายอาหารด้านหน้าของโรงแรม Rayong Marriott Resort & Spa หากใครที่ยังไม่ได้ไปลิ้มรสอาหารระดับ 5 ดาวในราคาย่อมเยา ก็สามารถไปลองกันได้ยังไม่ได้พักก็มาทานอาหารกันได้โดยเมนูที่เรานำเสนอมีดังนี้



ผ่านไปแล้ว...กับวันแรกขอการเปิดบูธขายอาหารด้านหน้าของโรงแรม Rayong Marriott Resort & Spa หากใครที่ยังไม่ได้ไปลิ้มรสอาหารระดับ 5 ดาวในราคาย่อมเยา ก็สามารถไปลองกันได้ยังไม่ได้พักก็มาทานอาหารกันได้โดยเมนูที่เรานำเสนอมีดังนี้

ข้าวหมู ทงคัตสึ
เมนูสุดฮิตจากญี่ปุ่นที่เป็นอาหารที่ง่ายแต่ถูกปากทุกเพศทุกวัยและทุกเชื้อชาติ

วันนี้ไม่ต้องบินไปญี่ปุ่นก็สามารถลิ้มรสเมนูสุดฮิตนี้ได้ที่ Rayong Marriott Resort & Spa กับเมนูที่ชื่อว่า
"ข้าวหน้าหมู Tongkatsu" ที่เราตั้งใจและภูมิใจนำเสนอ

เริ่มจากการคัดเนื้อเนื้อหมูปลอดสาร โดยเชฟมากประสบการณ์จากโรงแรมของเรา เพื่อให้ได้เนื้อหมูที่มีคุณภาพดีที่สุดให้คูณลูกค้าที่รักทุกท่าน เราเลือกใช้เนื้อส่วน Pork loin ซึ่งเป็นส่วนที่นุ่มที่สุดของหมู รับประกับความนุ่มทุกชิ้น! ชุบด้วยเกล็ดขนมปังคุณภาพจากญี่ปุ่น ตั้งใจปรุงและบรรจงทอดอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ข้าวหน้าหมู Rayong Marriott Tongkatsuที่อร่อยนุ่ม ล้ำเลิศ ให้หายคิดถึงญี่ปุ่นกันไปเลย

ข้าวมันไก่
เมนูธรรมดาที่เราจะทำให้ไม่ธรรมดาเริ่มจากการคัดเนื้ออกและเนื้อสะโพก เพื่อให้ได้เนื้อไก่ที่เนียนนุ่มถูกใจทุกส่วนที่คุณชอบเริ่มจากการนำเนื้อไก่ไปต้ม ในน้ำสต๊อกแทนที่จะเป็นน้ำธรรมดาเพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้นเลือกใช้ข้าวหอมมะลิคุณภาพดีและบรรจงหุงเพื่อให้ได้ข้าวมันที่มีความหอม ร่วน แต่ยังมีความนุ่ม เพื่อให้ประสบการณ์การทานข้าวมันไก่ของคุณสมบูรณ์แบบ และส่วนสำคัญที่สุดคือน้ำจิ้มไก่ที่เราปรุงพิเศษโดยเชฟที่ชำนาญในการทำข้าวมันไก่ ซึ่งเป็นสูตรลับของครอบครัวเชฟของเราที่ถ่ายทอดกันมามากว่า 50 ปี และเป็นสูตรเฉพาะในเมนูของ Rayong Marriott Resort & Spa เท่านั้น ทานข้าวมันไก่ทั้งทีก็ต้องให้อร่อยให้คุ้มกับ calories ที่จะได้รับกันหน่อย

มาทานข้าวให้หายคิดถึงได้ที่หน้าโรงแรม Rayong Marriott Resort & Spa
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.......เวลา 08:00 - 14:00

วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

งาน อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ภูเก็ต เซิร์ฟสเก็ต 2021

ททท ร่วมปลุกภูเก็ตกับเทรนด์กีฬาใหม่มาแรงที่สุดในนาทีนี้
กับงาน อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ภูเก็ต เซิร์ฟสเก็ต 2021

ซึ่งจัดโดย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ภายใต้การสนับสนุนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต, เทศบาลนครภูเก็ต และสมาคมกีฬาโต้คลื่นแห่งประเทศไทย ซึ่งใน series แรกเปิดตัวที่เมืองเก่า และจะมีอย่างต่อเนื่องอีกครั้วที่ กะตะ กะรน ป่าตอง
และหาดสุรินทร์ ติดตาม  Amazing Thailand Phuket Surfskate Series 2








ห้ามพลาด!!!!    งานนี้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย นะคะ

วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ก้าวสู่ปีที่ 10 อย่างยิ่งใหญ่ จัดกิจกรรมสุดพิเศษ!

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล  ลิงก์ เดินหน้าสู่การดำเนินงานปีที่ 10 อย่างยิ่งใหญ่ จัดกิจกรรมสุดพิเศษ! ทั้งกิจกรรมการตลาดออนไลน์ และออฟไลน์ รวมทั้งกิจกรรมเพื่อสังคม ส่งมอบความสุขให้แก่ผู้โดยสาร และประชาชน

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด  เปิดเผยว่าในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่จะถึงนี้บริษัทจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ในการดำเนินงานแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้มุ่งมั่นดำเนินงานเพื่อเป็นผู้นำในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าที่มีมาตรฐานในระดับสากลตามวิสัยทัศน์ของบริษัท โดยได้นำระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 : 2015 ที่บริษัทผ่านการรับรองเข้ามาใช้ทั้งในด้านการเดินรถ และซ่อมบำรุง จนทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามมาตรฐาน ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสาร และรายได้มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดให้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารรวมมากกว่า 190 ล้านคน และรายได้รวมกว่า 6,000 ล้านบาท รวมทั้งในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทได้ดำเนินการมาตรการต่างๆตามนโยบายของกรมการขนส่งทางราง และกระทรวงคมนาคม จนสามารถสร้างความมั่นใจในการใช้บริการให้แก่ผู้โดยสารได้เป็นอย่างมาก

ดังนั้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จ และการก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 ในการดำเนินงาน บริษัทจึงได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษ! ทั้งกิจกรรมการตลาดออนไลน์ ออฟไลน์  รวมทั้งกิจกรรมเพื่อสังคม ( CSR )  ส่งมอบความสุขให้แก่ผู้โดยสาร และประชาชน โดยเริ่มจากการเปิดตัวกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ทีมที่ประกอบด้วยเหล่าคนดังทั้งพระเอกช่อง 3เด่นคุณ งามเนตร,  มิสไทยแลนด์เวิล์ด 2019-2020 เกรซ นรินทร ,  นักแสดงช่อง 7  ซูกัส บัณฑวิช และอาธ กษิดิ์ธัช มณีพันธุ์ ทายาทผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย มาร่วมประชาสัมพันธ์การให้บริการและกิจกรรมการตลาดตลอดทั้งปี และเพื่อเป็นของขวัญชิ้นพิเศษ บริษัทได้ผลิต Video Viral ครบรอบ 10 ปีของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล  ลิงก์ ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 และเปิดโอกาสให้ผู้โดยสารได้ร่วมสนุกตั้งชื่อ Video Viral เฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์  ผ่านทางเฟสบุ๊ค Airport Rail Link ( Official Page ) ลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษ พร้อมกันนี้ในวันเดียวกันยังมีกิจกรรมการตลาดแบบออฟไลน์แจกผ้าเช็ดทำความสะอาด (Refreshing Wipe)  จำนวน 10,000 ชิ้น มูลค่าชิ้นละ 65 บาท ฟรี ให้แก่ผู้โดยสารทุกคนที่ แอร์พอร์ต เรล  ลิงก์ สถานีพญาไท และสถานีมักกะสัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป

นอกจากนั้นเพื่อความเป็นสิริมงคล บริษัทได้จัดงานทำบุญเลี้ยงพระเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ณ แอร์พอร์ต เรล  ลิงก์ สถานีมักกะสัน และได้เชิญชวนหน่วยงานภายนอกใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม รวมทั้งหน่วยงานพันธมิตร ร่วมบริจาคสมทบทุนเพื่อประโยชน์สาธารณกุศลกับมูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ได้มีแผนการจัดกิจกรรมการตลาดแบบออฟไลน์เอาใจผู้โดยสารตามแต่ละสถานี โดยเตรียมส่งคาราวานดารา นายแบบ เน็ตไอดอล คนดัง 10 คน ออกแจกเจลแอลกอฮอล์ ฟรี ที่สถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมสุขอนามัยให้แก่ผู้โดยสาร และลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้ข้อกำหนดตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ของกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางรางอย่างเข้มงวด เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสุข และปลอดภัยในการใช้บริการ


ด้านกิจกรรมเพื่อสังคม ( CSR ) ซึ่งเป็นนโยบายที่บริษัทให้ความสำคัญมาโดยตลอด ด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ทั้งในพื้นที่ชุมชน และโรงเรียนใกล้เคียงพื้นที่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล  ลิงก์  รวมถึงพื้นที่ห่างไกลในต่างจังหวัด เช่นล่าสุดเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา "Lost & Found สานฝันเพื่อน้อง ปี 2" มอบวัสดุอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา เครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมปรับปรุงอาคารเรียนอเนกประสงค์ ให้แก่โรงเรียนบ้านหัวแม่โถ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 10 นี้ บริษัทได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมอีกครั้ง โดยเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมแบบทุกมิติ ทั้งการมอบเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นให้แก่กรมราชทัณฑ์ , มอบข้าวสาร และอาหารแห้งให้แก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 , มอบรถวีลแชร์ให้แก่โรงพยาบาลสงฆ์ และมอบทุนการศึกษาให้แก่มูลนิธิสงเคราะห์ชาวไทย เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งทุกโครงการจะแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้


ทั้งนี้บริษัทยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ที่จะมุ่งมั่นเพื่อเป็นผู้นำในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าที่มีมาตรฐานในระดับสากลเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวก และปลอดภัยในการใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล  ลิงก์ ต่อไป

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข Call Center 1690
หรือ www.srtet.co.th , www.facebook.com/AirportRailLink และ Twitter : Airport Rail Link

รพ.ยันฮีจัดใหญ่ ประกาศความพร้อมเพื่อก้าวเข้าสู่ตลาดออนไลน์ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 13:45 น. โรงพยาบาลยันฮี จัดงานแถลงข่าวประกาศความพร้อมเพื่อก้าว
สู่ตลาดออนไลน์ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมตัวใหม่ล่าสุด เพื่อนำร่องสู่ตลาดออนไลน์ โดยมีนพ.สรรพสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการบริษัท ยาอินไทย จำกัด เป็นประธาน ร่วมด้วย นางสาวปิยลักษณ์ อุดมชาติ กรรมการบริษัท เอฟโวชั่นสกิน จำกัด นพ.วัสสะ วัชรากร หัวหน้าศูนย์แพทย์ทางเลือกและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลยันฮี และแขกผู้มีเกียรติที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน ณ ห้องรับรองแผนกแพทย์ทางเลือก และเวชศาสตร์ชะลอวัย ชั้น 7 โรงพยาบาลยันฮี กรุงเทพฯ


นพ.สรรพสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการบริษัท ยาอินไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัท ยาอินไทย จำกัด บริษัท ในเครือ รพ.ยันฮีเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และยาสมุนไพร ให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศมายาวนานโดยโรงพยาบาลยันฮีถือเป็นโรงพยาบาลชั้นนำที่มีชื่อเสียงของเมืองไทยมายาวนานกว่า 34ปี ได้มองเห็นโอกาสต่อยอดความคิดที่ว่าเราสามารถย่อโลกทั้งใบ ให้ใกล้กันได้เพียงปลายนิ้ว โดยมีเป้าหมายคืออยากเห็นคนไทยได้มีสุขภาพดี ด้วยวิธีที่ถูกต้อง ผ่านคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด สะดวก และรวดเร็ว ซึ่งเรามั่นใจว่านี่จะเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ยันฮีเป็น Online Health Hospital and Digital Marketing Product ชั้นนำของเมืองไทย



การจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญของ 2 ผู้นำ ที่มีความสามารถคนละศาสตร์ แต่มีเป้าหมายเดียวกัน ยันฮี ได้จับมือ บริษัท เอฟโวลูชั่นสกิน จำกัด ผู้มีประสบการณ์ทางด้านการจำหน่ายสินค้าออนไลน์มากว่า 10 ปี อีกหนึ่งแรงสำคัญในการผลักดันผลิตภัณฑ์ของโรงพยาบาลยันฮี ให้ก้าวเข้าสู่ Platform Online Marketing อย่างเต็มรูปแบบเพื่อเป็นสะพานเชื่อมให้ผู้บริโภค ได้ปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางได้อย่างใกล้ชิด เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และรวดเร็ว





นางสาวปิยลักษณ์ อุดมชาติ (คุณนุ้ย) กรรมการบริษัท เอฟโวลูชั่นสกิน จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันทิศทางการตลาดของอาหารเสริมในเมืองไทยจะเปลี่ยนไปไม่เพียงแต่ผลลัพธ์ที่ผู้บริโภคต้องการแล้ว แต่ผู้บริโภคจะคำนึกถึงเรื่องความปลอดภัย ความมั่นใจ และผลข้างเคียงที่จะตามมามากขึ้น ซึ่งรพ.ยันฮีได้สร้างความมั่นใจ เชื่อใจ และสัมผัสได้ถึงความปลอดภัยในสินค้าและบริการของโรงพยาบาลตลอดมาด้วยการทำงานที่เป็นระบบ ตั้งแต่การระดมความคิด คิดค้นและวิจัยจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยมาตรฐานและจรรยาบรรณทางการแพทย์ เพื่อสรรหา ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้บริโภค ทำให้สามารถวางใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของโรงพยาบาล เป็นคำตอบที่ดีที่สุด

โดยภายในงาน ยังได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใหม่ล่าสุดของโรงพยาบาลยันฮี“ยันฮีอัลติเมท แอล-คาร์นีทีน (YANHEE ULTIMATE L-CARNITINE)”วิตามินรีเซ็ตรูปร่างโดยนพ.วัสสะ วัชรากร หัวหน้าศูนย์แพทย์ทางเลือกและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลยันฮี กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม “ยันฮีอัลติเมท แอล-คาร์นีทีน” เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่อยากมีรูปร่างอย่างที่ใจต้องการ เป็นวิตามินที่ช่วยในเรื่องการปรับระบบเผาผลาญร่างกายโดยตรง ด้วยความจริงใจ และความใส่ใจของทีมแพทย์ ที่เน้นแก้ปัญหาอย่างถูกจุดให้กับผู้บริโภค โดยคำนึกถึงความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญที่สุดของการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดี เพื่อดูแลสุขภาพของคุณ

ติดต่อสั่งสินค้าได้ที่ บริษัทเอฟโวลูชั่นสกิน จำกัด
โทร 052-009599 หรือ 090-3184615


วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ซีพีแรม เปิดยุทธศาสตร์ 2564 ขานรับเมกะเทรนด์โลก เดินหน้าส่งมอบอาหารปลอดภัย เคียงข้างคนไทยฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน

บริษัท ซีพีแรม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทานมาตรฐานโลก ยังคงเดินหน้าในการเป็นผู้นำด้าน Food provider ของประเทศไทย โดยมีผลิตภัณฑ์ที่คุ้นเคยและพบได้     ในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เช่น ข้าวกล่อง ข้าวปั้น โอนิกิริ ซาลาเปา ขนมจีบ และผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ตรา  เลอแปง ได้ผนึกกำลังกับร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ "อิ่มคุ้ม" สู้วิกฤตเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในปีที่ผ่านมา และเล็งเป้าขยายตลาดเพิ่ม 10% ในปี 2564 นี้ พร้อมทั้งเร่งดำเนินการด้านการพัฒนาสู่ความยั่งยืนให้สอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ อีกทั้งประกาศเปิดตัวกลุ่มสินค้าใหม่ภายใต้ตราสินค้า “ VG for Love ” อาหารสำหรับผู้บริโภคที่มีการบริโภคพืชเป็นหลัก (Plant Based Diet)  ครบ 5 ประเภทรายแรกของไทย

นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด

นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า ปี 2563 เป็นปีที่   เกิดวิกฤตเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไปทั่วโลก เศรษฐกิจไทยก็ได้รับผลกระทบนั้นเช่นกัน หลายธุรกิจชะลอตัว หลายธุรกิจก็ปิดตัวลง รัฐบาลจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายครั้งด้วยกัน ซีพีแรมร่วมกับร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น ดำเนินโครงการเมนู "อิ่มคุ้ม" ซึ่งเป็นเมนูอาหารพร้อมรับประทานในราคาปกติทั่วไป แต่อร่อยและมีปริมาณมากจนกินอิ่มในกล่องเดียวหรือชิ้นเดียว ซึ่งได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี โครงการเมนู "อิ่มคุ้ม" ไม่เพียงแต่เป็นโครงการช่วยลดค่าครองชีพผู้บริโภคเท่านั้น ยังช่วยขับเคลื่อนห่วงโซ่อุปทานอาหารภายใต้การจัดการของซีพีแรมให้เดินหน้าต่อไปภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจได้ เป็นผลให้พนักงานซีพีแรมและพนักงานของคู่ค้าตลอดห่วงโซ่อุปทานยังทำงานเต็มเวลาปกติ ไม่มีการลดคนหรือลดเวลาทำงานลง โครงการนี้จึงเป็นโครงการที่มุ่งผลลัพธ์ช่วยเหลือทางสังคมมากกว่าผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจ แม้ว่าซีพีแรมจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายยอดขายปี 2563 ที่ตั้งไว้ แต่ยังคงสามารถรักษายอดขายในระดับ ที่ใกล้เคียงกับปี 2562 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังสามารถบรรลุเป้าหมายด้านอื่นๆ อาทิ การพัฒนาสินค้าใหม่มากกว่า 338 รายการ การได้รับรางวัลเกียรติยศมากกว่า 13 รางวัล เป็นต้น




สำหรับปี 2564 ซีพีแรมคาดการณ์ว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลกอันเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ยังคงมีต่อเนื่อง แต่จะคลี่คลายลงบ้างตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป โครงการเมนู "อิ่มคุ้ม" ยังคงเป็นกลยุทธ์หลักของซีพีแรม โดยเพิ่มขึ้นอีก 50% และยังคงมุ่งเน้นเป้าหมายทางสังคมมากกว่าเป้าหมายทางเศรษฐกิจ ซีพีแรมกำหนดเป้าหมายการขยายตลาดเพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้ว เป็นมูลค่า 21,310 ล้านบาทในปี 2564 และลงมือสร้างโรงงานเบเกอรี่แห่งใหม่  ที่จังหวัดชลบุรี ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท มีกำลังผลิต 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งโรงงานใหม่แห่งนี้จะสร้างแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในกลางปี 2565 นับเป็นโรงงานเบเกอรี่แห่งที่ 6 หรือโรงงานแห่งที่ 16 ของซีพีแรม

นอกจากนี้ซีพีแรมยังกำหนดเป้าหมายการพัฒนาสู่ความยั่งยืนที่สอดคล้องกับเป้าหมายาการพัฒนาสู่ความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ(UNSDG) และเครือเจริญโภคภัณฑ์ในทุกด้าน ตัวอย่างโครงการที่โดดเด่นเช่น โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต เป็นโครงการที่ให้ความสำคัญของเกษตรกรเสมือนคู่ชีวิต และดำเนินการตามแนวทาง Food3S  โดยซีพีแรมได้แนะนำและส่งเสริมการปลูกสู่เกษตรกรคู่ชีวิต พร้อมกับถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูก และการเก็บเกี่ยวกะเพราให้ได้ผลดี มีผลผลิตต่อไร่สูง เมื่อผลผลิตออกแล้ว ซีพีแรมยังรับซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดทั่วไป สำหรับเป้าหมายโครงการปี 2564 ซีพีแรมจะขยายผลไปสู่เกษตรกรพืชผักชนิดอื่นๆ เช่น ผักคะน้า เกษตรกรได้รับการส่งเสริมอาชีพเพิ่มขึ้น 30% รวมถึงมูลค่าการรับซื้อผลิตผลทางการเกษตรเพิ่มขึ้น 10% และ โครงการเรียนฟรีมีรายได้ (ปัญญาภิวัฒน์ - ซีพีแรม)  เป็นโครงการที่ซีพีแรมได้เล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาสำหรับเยาวชน จึงได้จัดตั้งศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์-ซีพีแรม โดยจัดการศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพประเภทวิชาพาณิชยกรรม และประเภทวิชาอุตสาหกรรม ใช้หลักสูตรของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และจัดการศึกษาในระบบ “ทวิภาคี” เรียนรู้ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติควบคู่กันไป มุ่งเน้นการใช้ประสบการณ์ตรง สนองตอบความต้องการของสถานประกอบการเป็นสำคัญ สำหรับเป้าหมายปี 2564  คือ การมอบทุนการศึกษาตลอดหลักสูตรจำนวน 60 ทุน มีรายได้ระหว่างเรียน 100% และนักเรียนที่สำเร็จการศึกษามีอาชีพรองรับหลังจบการศึกษา 100%

นายวิเศษ กล่าวต่ออีกว่า จากการที่สังคมไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มการบริโภคอาหารที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพ พร้อมกับร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมให้เกิดความสมดุลตลอดห่วงโซ่อาหาร ซีพีแรม   จึงได้พัฒนากลุ่มสินค้าใหม่ออกมาตอบสนองความต้องการกลุ่มผู้บริโภคดังกล่าว โดยขณะนี้ได้ออกมาวางตลาดแล้ว คือ อาหารพร้อมรับประทานภายใต้ตราสินค้า “ VG for Love ” อาหารกลุ่มใหม่สำหรับผู้บริโภคที่มีการบริโภคพืชเป็นหลัก “ Plant Based Diet ” ซึ่งมีไลฟ์สไตล์สอดคล้องทั้ง 4 ความรัก คือ  รักสุขภาพ รักชีวิตสัตว์  รักสิ่งแวดล้อม และรักโลก มุ่งหวังให้เกิดความสมดุลตลอดห่วงโซ่อาหาร         “ VG for Love ” แบ่งประเภทอาหารเป็น 5 ประเภท ได้แก่ หมายเลข 1 อาหารเจ , หมายเลข 2 อาหารวีแกน , หมายเลข 3 อาหารมังสวิรัติกับนม, หมายเลข 4 อาหารมังสวิรัติกับไข่  และ หมายเลข 5 อาหารมังสวิรัติกับนม และ ไข่  ซึ่งบรรจุในบรรจุภัณฑ์ “สีฟ้า” ปิดผนึกมิดชิด เพื่อคงสภาพความสด ใหม่ สะอาด และความปลอดภัยทางอาหารสูงสุด  โดยบรรจุภัณฑ์ “สีฟ้า” นี้ ได้รับการออกแบบจากแนวคิด   “ The Blue Planet ” คือ โลกเราเป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวในสุริยจักรวาลที่เป็นสีฟ้า เวลามองดูจาก นอกโลก “ VG for Love” ได้วางจำหน่ายแล้วผ่านช่องทางแม็คโคร , 7-Eleven(online) ร้านค้าชั้นนำ   ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้งพร้อมจะขยายจุดจำหน่ายคลอบคลุมทั่วประเทศเร็ว ๆ นี้

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ผอ.ททท.ระยอง อ้อนนักเดินทาง ... ชวนจัดทริป กระตุ้นต่อมเที่ยว!

หลังจาก ททท.สำนักงานระยอง  ประสบความสำเร็จไปกับการจัดงาน เส้นทางคนโสด ชวนคนโสดลงเที่ยวจังหวัดระยอง ล่าสุด ทาง ททท.สำนักงานจังหวัดระยอง ปล่อยแคมเปญ SeaYouRayong EP1 ท้า Challenge สร้างสรรค์คลิปวีดีโอพร้อมชวนเพื่อนมาเที่ยวจังหวัดระยอง ผ่าน TIK TOK เปิดให้ร่วมสนุกกันตั้งแต่วันนี้ ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2564 และ... ต่อจากนี้ไป ททท.มีกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่องมาท้ากระตุ้นต่อมท่องเที่ยวของเหล่านักเดินทาง และผู้ที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุด คือ ผอ.ททท.ระยอง 

ทีมงานได้ติดตามแคมเปญ ทริปเส้นทางคนโสด ไปพบกับ คุณอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการสำนักงาน
ททท.ระยอง จัดโปรแกรมท่องเที่ยวจังหวัดระยอง เมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และสังสรรค์ โดยร่วมกิจกรรมแชร์ประสบการณ์ดีดีสำหรับคนโสด


นอกจากกิจกรรมปล่อยปู หาคู่แท้ ที่บริเวณ สะพานรักษ์แสม อ.แกลง ตามด้วย กิจกรรมเล่น Sub Board บริเวณอ่าวไข่ ช่วงเย็นย่ำอาทิตย์ลับขอบฟ้า ทะเลสีครามตามด้วยปาร์ตี้โดนๆ ให้ได้ใจคนโสดกันไปอีก  ส่วนกิจกรรมในวันถัดไป คนโสดร่วมกันสักการะ พระนอนตะแครงซ้ายหนึ่งเดียวในโลก ที่วัดป่าประดู่ และปิดท้ายกันที่ขอพรพระตรีมูรติ เทวาลัยสถาน ดิ โอโซน ไลฟ์สไตล์ มอลล์

“Sea you Rayong”
บริเวณริมหาดอ่าวไข่ เราพบกับผอ.ททท.สำนักงานระยองที่สาละวนอยู่กับการเช็คความเรียบร้อยก่อนที่เหล่าสาวโสดจะลงมาสัมผัสกับบรรยากาศริมหาดในงานค่ำคืนนี้กัน 

คุณอาร์ต - อัครวิชย์ เทพาสิต ผอ.ททท.สำนักงานระยอง เล่าให้ฟังถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวจังหวัดระยอง   “....โดยหลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด เริ่มเป็นศูนย์ ระยองเริ่มมีคนเดินทางเข้ามา แต่ต้องบอกว่า ต้องขอบคุณและชื่นชมความเป็นมืออาชีพของทีมงานจังหวัดระยอง ทั้งผู้ว่าฯ ผู้บริหารสถานประกอบการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง 

ในระหว่างสถานการณ์นั้น ด้วยความเป็น ททท. ต้องเรียนว่าความที่เป็นมืออาชีพจริงๆ รวมทั้งท่านผู้ว่าเองก็ได้ให้ความห่วงใย ก็คุยกับเราอาทิตย์ละหลายๆ ครั้ง เรามีรูปแบบการทำงานที่ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์ เรื่องการสร้างความเชื่อมั่น เรื่องของมาตรฐาน SHA ที่เราตระหนัก และได้พูดคุยและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเข้ามาสมัครมาตรฐาน SHA ให้เพิ่มมากขึ้น



โดยสรุปแล้วตามนโยบายและกลยุทธของทางททท.ได้ร่วมหารือกับทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวระยอง สมาคมท่องเที่ยวของเกาะเสม็ดก็ได้คุยกัน ต้องยอมรับว่า รอบสองนี้ค่อนข้างกระทบสูงมีระยะเวลาที่ยาวนานกับทางระยอง การประชาสัมพันธ์ที่สร้างความมั่นใจ ถึงแม้ยังไม่สามารถเชิญชวนได้อย่างเต็มปากเต็มคำ แต่เรามีแผนในการสร้างความคิดถึง ความโหยหาทะเลระยอง เตรียมไว้อาทิ เรามีเรื่องของ Themes “Sea you Rayong”  ออกมาก่อนเพื่อนเลย มีภาพต่างๆ ออกมาเป็นโปสการ์ด โดยทททท.และทางภาคเอกชนใช้ธีมส์เดียวกัน ช่วยกันแชร์ ช่วยกันทำ”

ศักยภาพของสื่อ Social  ต้องยอมรับว่า กระแสการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ Social ปัจจุบัน มีความจำเป็นและมีความหลากหลายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนำเสนอผ่าน Facebook Fanpage, Line , Tik Tok ,Instagram ททท.สำนักงานระยองเองก็ลงมาเล่นแผนการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบของสื่อโซเชียลเช่นกัน 

ผอ. ททท.สำนักงานระยอง เล่าต่อว่า “. Page ในจังหวัดระยองมีศักยภาพมากมียี่สิบเพจดังๆ หลักๆ ก็ช่วยกันอย่างเต็มที่ในการช่วยกันโปรโมทธีมส์ทะเลในโซเชียลต่างๆ ก็มีผลตอบรับกลับมา ส่วนกิจกรรมที่ทำอยู่ที่สร้างความเชื่อมั่นอีกหนึ่งกิจกรรมในวันนี้ คือ ทริปสายโสด ชวนคนโสดออกมาเที่ยวก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากททท.ส่วนกลาง เปิดแคมเปญไปมีคนจองเข้ามาอย่างถล่มทลายทีเดียว เราลงมาจัดที่ระยอง”  เที่ยวดี มีคืน จังหวัดระยอง 

ช่วงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า หลายคนเริ่มหอบ SUP Board (Stand UP Paddle Board หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า SUP)ลงทะเล กิจกรรมและกีฬาทางน้ำแนวใหม่ ที่กำลังมาแรง เป็นการยืนพายบนบอร์ด  คล้ายๆ เซิรฟ์บอร์ด แต่มีอุปกรณ์เพิ่มคือ ไม้พาย

ซึ่งทางด้านททท.สำนักงานระยอง วางแผนกิจกรรมชายทะเลอันเกี่ยวกับกีฬาเอาไว้หมดแล้ว รวมถึง SUPBoard “กิจกรรมที่จะทำวางแผนไว้หมดแล้ว กิจกรรมชายทะเล SUP Board กิจกรรมด้านกีฬา ..... และที่จะออกเร็วๆนี้จะเป็นกิจกรรม ซึ่งหลังจากเราหารือกับทางสาธารณสุขและในส่วนของจังหวัดถ้าเชิญชวนได้แล้ว เราก็จะทำ “เที่ยวดี  มีคืน จังหวัดระยอง” เชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวโดยมี 5 กิจกรรมที่น่าสนใจด้วยกัน 

กิจกรรมแรก มาเที่ยวมาพักในจังหวัดระยอง ได้ส่วนลดเป็น E Voucher เอาไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นซื้อของที่ระลึก เยี่ยมชมสวนผลไม้ หรือตีกอล์ฟต่างๆ มากมาย อีกกิจกรรม คือ การดำน้ำจะได้ E Voucher เช่นกัน ไปรับประทานอาหารบนเกาะเสม็ดก็จะได้ E Voucher 

กิจกรรมสุดท้าย เชิญชวนนักท่องเที่ยวได้อาจจะมาเป็นหมู่คณะหรือที่มาทำCSR หรือมาเยี่ยมชุมชนที่มาทำกิจกรรม20คนขึ้นไป ก็จะได้E Voucher  น่าจะโปรโมทต้นเดือนมีนาคม เป็นการสร้างความมั่นใจและกระต้นการเดินทางท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดระยองมากขึ้น


นอกจากนั้นแล้ว ทีมของระยองก็กำลังมีการทำ Challenge กิจกรรมเรื่องต่างๆ ผ่านสื่อ Social ที่กำลังได้รับความนิยมคือ TikTok น่าจะสร้างกระแสให้คนกลับมาทะเลระยองได้เร็วขึ้น”  มั่นใจกับมาตรการด้านสาธารณสุข  แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หากนักท่องเที่ยวยังไม่ไว้วางใจในการเดินทางเข้ามายังจังหวัดระยอง อันเนื่องมาจากข่าวคราวการระบาดของโควิด 19 การประชาสัมพันธ์สิ่งใดออกไปก็คงจะไม่สามารถทำให้มั่นใจในความปลอดภัยได้ ซึ่งผอ.ททท.สำนักงานระยองเองได้เน้นย้ำถึงมาตรการการสร้างความปลอดภัยตามมาตรฐาน SHA “....อยากเรียนให้นักท่องเที่ยวทุกท่านมั่นใจ และสบายใจในการมาเยือนระยอง เพราะไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน ภาครัฐเราร่วมกันทำเรื่องมาตรการด้านสาธารณสุขเป็นอย่างดี 

เกือบสองร้อยแห่งผู้ประกอบการที่มีมาตรฐาน SHA มีการร่วมมือกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพราะฉะนั้น เมื่อท่านเดินทางมา ท่านจะได้รับการดูแลอย่างมีมาตรการด้านสาธารณสุขที่มีมาตรฐาน” ผอ.ททท.ระยองกล่าวในตอนท้าย




..... ในช่วงนี้ หากใครเล่น TikTok ลองเข้าไปเซิร์ชหาข้อมูลกิจกรรม ททท.สำนักงานระยองกันคะ มีความสุขกันตั้งแต่ยังไม่เข้าเมืองระยองกันเลยทีเดียว 

#ระยองจองเลย #ระยองปลอดภัย #ระยองเมืองรองไม่เป็นสองรองใคร #ททท.สำนักงานระยอง

ข่าวประชาสัมพันธ์

“หินซ้อน” เปิดตัวเทศกาลท่องเที่ยว “มหัศจรรย์การอาบป่า“ ขานรับลมหนาวช่วงปีใหม่

  เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตำบลหินซ้อน สมาคมท่องเที่ยวสระบุรีและอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี  ร่วมกับตำบลห...

โวยวายดอทคอม