“ผึ้งน้อยเป็นหูเป็นตา” ฝึกทักษะความปลอดภัยทางถนน เน้น 4 ระวังต้องรู้!! เพื่อลดอุบัติเหตุ
ภายใต้แคมเปญ “ระวังหมดอายุ STAY SAFE” เครือข่ายเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน พัฒนาถนนสาทรเป็นต้นแบบถนนปลอดภัย หรือ ปลอดอุบัติเหตุ ล่าสุด ร่วมกับ กทม. โรงเรียนวัดดอน โรงเรียนวัดยานนาวา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนน โดยการสนับสนุนของ สสส. จัดกิจกรรม “อบรมผึ้งน้อยเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม” หรือ Social Ear Social Eye Bees for Road Safety ณ โรงเรียนวัดยานนาวา เขตสาทร มุ่งเสริมสร้างความรู้และเพิ่มพูนทักษะความปลอดภัยทางถนน ให้กับน้องๆ เยาวชน ได้เรียนรู้ผ่าน 4 ฐานกิจกรรม เน้นย้ำ 4 ระวัง ต้องรู้ คือ ระวังทางข้าม ระวังทางแยก ระวังความเร็ว และระวังน็อก ซึ่งสอดรับกับนโยบายของกรุงเทพมหานคร เรื่องการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน
สำหรับจุดประสงค์ของกิจกรรมนี้ เพื่อบ่มเพาะและเพิ่มพูนทักษะชีวิต ให้เยาวชนสามารถใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำในการสร้างการเปลี่ยนแปลง เพื่อร่วมกันสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
ดร. อุดม หงส์ชาติกุล ประธานเครือข่ายเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม กล่าวว่า “เด็กและเยาวชนมีบทบาทสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก จากการมีส่วนร่วมของเด็กเยาวชน ซึ่งเป็นคนที่ผู้ใหญ่รักมากที่สุด และสามารถทำให้พฤติกรรมของผู้ใหญ่หรือคนในสังคมเปลี่ยนแปลงได้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องมีการบ่มเพาะ ให้เด็กและเยาวชน ได้มีความรู้ และมีทักษะในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย รวมถึงสามารถทำหน้าที่เป็น “ทูตน้อยหรือผึ้งน้อยเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม” ในการสะกิดเตือนคนที่เขารัก และคนที่รักเขา ให้มีความระมัดระวังการใช้รถใช้ถนนเสมอ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตสาทรที่มีการจราจรคับคั่ง ทำอย่างไรให้ทุกคนที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ มาเรียนหนังสือ มาทำงาน หรือมาท่องเที่ยว เดินทางสัญจรอย่างปลอดภัย และเดินทางกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยทุกวัน”
ด้าน ด.ช.วิทธิพงษ์ แก้วอำนาจ หรือ กัน ป.5 โรงเรียนวัดดอน เล่าว่า “ได้ฝึกการข้ามทางม้าลาย ที่ก่อนข้ามต้องมองซ้ายมองขวา แล้วยกมือสูงๆ ตอนที่กำลังข้ามให้คนขับรถเห็น และต้องไม่เล่นกัน ทุกครั้งที่คนขับหยุดรถให้ข้ามเราต้องโค้งขอบคุณด้วย จากการอบรม ทำให้เห็นความสำคัญของหมวกกันน็อกมากขึ้น ว่าต้องใส่ทุกครั้งที่ใช้รถ ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดอุบัติเหตุ อาจจะเสียชีวิตได้”
สำหรับ ด.ญ.กัญชรส ศรีสมบัติ หรือ เกรซ ชั้น ป.5 โรงเรียนวัดยานนาวา เล่าว่า “ได้เรียนรู้ป้ายจราจร เครื่องหมายต่างๆ มากขึ้น ได้รู้จักป้ายที่มีรูปรถไฟ ป้ายที่มีรูปเครื่องบิน ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และได้เรียนรู้การข้ามถนนอย่างถูกต้อง การใช้หมวกกันน็อก ได้เล่นการ์ดเกม ชอบฐานการ์ดเกมมากที่สุด เพราะสนุกและมีคะแนน”
ปิดท้ายที่ ด.ช.ปัณณทัต เหมือนสวรรค์ หรือ เน ชั้น ป. 5 โรงเรียนวัดยานนาวา เล่าว่า “ได้เรียนรู้ป้ายทางด่วน ป้ายห้ามจอด ได้รู้ว่าหมวกกันน็อก มีความแข็งแรงต่างกัน หมวกแบบไฟเบอร์ป้องกันการกระแทกได้ดีกว่าแบบพลาสติก จึงมีความปลอดภัยมากกว่า อีกฐานที่ได้เล่นคือฐานระดมสมอง ได้วาดรูปสิ่งที่คิดว่าจะเป็นไปได้ในอนาคต คือหมวกกันน็อก ในอนาคตจะมีเครื่องฉายภาพไปข้างหน้า สามารถดูข่าวหรือเรื่องราวต่างๆ ได้ เพื่อเราจะไม่ต้องก้มดู ตอนนี้เห็นความสำคัญของหมวกกันน็อกมากขึ้น ต่อไปจะใส่ทุกครั้งที่ซ้อนท้ายใช้รถ และจะไปบอกทุกคนใส่หมวกกันน็อก เพื่อป้องกันสมองจากแรงกระแทกหากเกิดอุบัติเหตุ”
ผู้สนใจมีส่วนร่วมหนุนเสริม หรือร่วมมือเพื่อการขยายผล สามารถ ติดต่อได้ที่
Facebook Page: เป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม https://www.facebook.com/penhoopentar