วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565

อิมเมจิน ไทยแลนด์ฯร่วมกับสสส. หนุน PDA และ ผู้นำชุมชนตำบลคลองพนจ.กระบี่

จัดค่ายเยาวชนสุขภาวะปั้นแกนนำพัฒนาชุมชนลดปัจจัยเสี่ยง

จากสถานการณ์ปัจจัยเสี่ยงที่รุมเร้าเยาวชนทุกด้านรวมถึงสารพัดปัญหาที่ตามมาจากโซเชียลมีเดียคนต่างวัย ในครอบครัวและชุมชนห่างเหิน การเติบโตของสังคมเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้ความเป็นชุมชนการเกื้อกูลในอดีตเริ่มจางหายทรัพยากรทางธรรมชาติป่าชายเลนที่เคยถูกทำลายฟื้นคืนกลับมาได้เมื่อหลายสิบปีก่อน เสี่ยงต่อการลดน้อยลงรวมถึงมีโอกาสที่จะหมดไปอีกครั้ง หากชาวชุมชนตำบลคลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ไม่เริ่มสร้างการเปลี่ยนแปลงไม่สานต่อจิตอนุรักษ์ให้เยาวชนคนรุ่นหลังตั้งแต่วันนี้

ดร.อุดม หงส์ชาติกุล ผู้ก่อตั้งห้องปฏิบัติการทางสังคม(ประเทศไทย) และ Imagine Thailand Movement ซึ่งขับเคลื่อนเรื่องการสร้างความร่วมมือและการสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ พื้นที่สุขภาวะต้นแบบ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงให้เยาวชนไทยและสังคมไทยกล่าวว่า จากปัญหาท้าทายทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในตำบลคลองพน เป็นปัญหาเชิงระบบ มีความสลับซับซ้อนซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน  แต่ด้วยความเข้มแข็งของ ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนาและสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน(PDA)ซึ่งมีความห่วงใยต่ออนาคตของเยาวชนและสิ่งแวดล้อมแหล่งอาหาร ทรัพยากรธรรมชาติป่าชายเลน ชุมชนจึงยินดีตอบรับเข้าร่วมโครงการสร้างพื้นที่สุขภาวะเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงกับImagine Thailand Movementภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยเห็นตรงกันว่ากิจกรรมค่ายเยาวชนที่เคยสร้างแกนนำเยาวชนที่เข้มแข็งในอดีต จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมคนทุกวัย              ในหมู่บ้านเพื่อมาร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงและสานต่อจิตอนุรักษ์ป่าชายเลนที่เป็นดั่งSuper Marketของชุมชน





เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนห่างไกลจากปัจจัยเสี่ยงและสร้างจิตอนุรักษ์ จิตอาสา ให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการสร้างพื้นที่สุขภาวะ ดูแลทรัพยากรทางธรรมชาติให้คงอยู่คู่วิถีชุมชนให้นานที่สุด ชุมชนตำบลคลองพน จึงมีการจัด “ค่ายสุขภาวะเครือข่ายเยาวชนตำบลคลองพน”ปี 2565  ขึ้นเมื่อวันที่ 18-20กรกฎาคมที่ผ่านมาณ ศูนย์พัฒนาชนบทผสมผสานกระบี่โดยมีน้องๆนักเรียนตัวแทนเยาวชนตำบลคลองพนตั้งแต่ระดับชั้นป.5-ม.1 เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 50 คน จากโรงเรียนบ้านท่ามะพร้าว โรงเรียนบ้านคลองไครและโรงเรียนอุทยานศึกษากระบี่

นายณธรรมรักษ์จงรักษ์นายกเทศมนตรีตำบลคลองพนพัฒนาเห็นความสำคัญและอยากเห็นคนในชุมชนร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง เพื่อร่วมดูแลเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยงและอนุรักษ์รักษาป่าชายเลน ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดค่ายสุขภาวะฯกล่าวว่า ยินดีให้การสนับสนุนกิจกรรมค่ายเยาวชนอย่างเต็มที่ เพื่อให้เด็กและเยาวชนมาร่วมกันคิดร่วมเรียนรู้ และออกแบบแผนการพัฒนาชุมชนด้วยตัวเขาเอง ดีใจที่มีโครงการดีๆ แบบนี้เข้ามาในตำบลคลองพน สิ่งที่เราเห็นได้ชัดจากกิจกรรมค่าย คือ ชุมชนสะอาดขึ้น ขยะ2ข้างทางไม่มีให้เห็น นั่นเป็นผลมาจากเด็กมีจิตอาสา ชุมชนมีจิตสำนึก โดยทางเทศบาลฯ จะจัดสรรงบประมาณสำหรับจัดกิจกรรมเพื่อขยายให้ครบทั้ง10โรงเรียนในเขตเทศบาลตำบลคลองพนพัฒนาเพื่อสร้างแกนนำเยาวชนให้ครบทุกหมู่บ้าน เพื่อสุขภาวะที่ดีของชาวชุมชนตำบลคลองพนต่อไป



และความพิเศษของค่ายครั้งนี้คือ ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา ปลัดอบต. นายกเทศมนตรี ผู้ใหญ่บ้าน ผู้อำนวยการและคุณครูของโรงเรียนให้ความสำคัญและเข้ามามีส่วนร่วมรับฟังความคิดของเยาวชนทำให้ได้เห็นความคิดที่ดีจากเด็กๆ พร้อมเติมเต็มและหนุนเสริมเปิดโอกาสให้กับเยาวชนได้ลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างเพื่อชุมชนของเขาเอง โดยมีชุมชน หน่วยงานท้องถิ่นคอยสนับสนุน ภายใต้ความเชื่อมั่นว่า การที่ทุกคนมีส่วนร่วมแบบนี้ และมีแกนนำเยาวชนจะทำให้ชุมชนตำบลคลองพน เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในที่สุด  

นายอำนวย ชูหนู ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาชนบทผสมผสานกระบี่ภายใต้ PDAซึ่งให้การสนับสนุนการจัดค่ายเยาวชนตำบลคลองพน และการพัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชนมาอย่างต่อเนื่องกล่าวว่ากิจกรรมค่ายและกระบวนการทำค่ายเป็นเครื่องมือที่หล่อหลอมคนได้ดีที่สุดและพัฒนาเยาวชนได้ง่ายได้เร็วแต่ต้องออกแบบให้สนุกสั้น ทำง่ายและต่อเนื่องขณะที่เนื้อหาในค่ายจะต้องเน้น 3 เรื่องหลักคือ ทักษะชีวิต  จิตอาสา และกีฬาสัมพันธ์เพื่อให้เขารู้จักตัวเองมากที่สุด รู้จักครอบครัว รู้จักชุมชน โดยใช้สโลแกนค่าย“กตัญญู รู้วินัย ใจอาสา กล้าทำดี”

สำหรับชาวชุมชนตำบลคลองพน ค่าย เป็นกิจกรรมที่มีคุณค่าและมีความหมายกับพวกเขาเพราะในอดีตชุมชนแห่งนี้ใช้ค่ายเยาวชน เพื่อเชื่อมพื้นที่ปลุกความรักสามัคคีของคนในชุมชนและเยาวชนให้พร้อมใจกันลุกขึ้นสู้จนพลิกฟื้นผืนป่าชายเลนที่เคยถูกทำลายให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง 

ลุงทวี ทำเผือก และลุงเฉม ลูกบัว เป็นผู้นำชุมชน ที่บุกเบิกทำค่ายเยาวชนร่วมกับชุมชนมาตั้งแต่แรกคือ เมื่อ22 ปีก่อน แม้วันนี้ทั้ง 2 ท่าน อยู่ในวัย 70 กว่าปีแล้ว แต่ก็ยังอดห่วงหลานๆ เหลนๆ ไม่ได้เพราะปัจจุบันปัจจัยเสี่ยงรุมเร้าเยาวชนรอบด้าน ท่านบอกว่า  ช่วงที่ค่ายหยุดพักเด็กอยู่กับบ้าน มีเวลาว่าง  มีความเสี่ยงที่จะถูกชักชวนไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งไม่ดี และอบายมุขต่างๆมากดังนั้นการกลับมาทำค่ายสุขภาวะฯ ในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องน่ายินดีมาก เพราะเด็กจะได้มีพื้นที่ทำกิจกรรม ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และชุมชนจะได้มีแกนนำที่จะมาช่วยกันพัฒนาหมู่บ้านต่อไป

“ค่ายมันช่วยเยาวชนได้เยอะ ทำให้เด็กรักกัน ไม่ทะเลาะกันเด็กที่ผ่านค่ายจะนอบน้อม มีน้ำใจ ไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด และพร้อมที่จะช่วยดึงเพื่อนออกจากสิ่งไม่ดี และเด็กเหล่านี้มีจิตอาสากลับมาช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม มาพัฒนาชุมชน อยากให้มีค่ายแบบนี้ทุกๆปี อยากเห็นเยาวชนและชุมชนอยู่กันมีความสุข ตอนนี้คนเก่าแก่ก็อายุมากแล้ว อยากให้มีเด็กรุ่นใหม่ๆ ลุกขึ้นมาเป็นผู้นำปกป้องชุมชน” ลุงเฉม กล่าวด้วยความห่วงใย

สำหรับค่ายครั้งนี้ สิ่งที่เด็กๆ ได้ติดตัวกลับไปมากกว่าความสนุก คือ ประสบการณ์ที่ล้ำค่า เพราะกระบวนการค่าย ได้สร้างพื้นที่สร้างสรรค์ ที่ถูกออกแบบมาอย่างสร้างสรรค์ โดยแกนนำเยาวนชนรุ่นพี่ ผลผลิตจากค่ายอย่างพี่ต้า พี่ขวัญ พี่วิพี่ดีน ครูเกม ครูอุสที่ต่างยินดีนำมาร่วมเป็นวิทยากร เป็นพี่เลี้ยง นำเอาประสบการณ์มีคุณค่าที่พวกเขาเคยได้รับจากค่ายมาถ่ายทอดให้น้องๆ ผ่านฐานกิจกรรมต่างๆที่สอดแทรกเรื่องภาวะความเป็นผู้นำ ความรักสามัคคี การรู้จักวางแผน ความคิดสร้างสรรค์มีจิตอาสา กล้าทำดี ได้อย่างแนบเนียนจนทำให้น้องๆ รู้สึกปลอดภัย เริ่มเห็นศักยภาพในตนเองกล้าที่จะพูด เปิดใจ เปิดไอเดียและกล้าหาญแสดงตัวลุกขึ้นมาอาสาเป็นแกนนำเยาวชนจบกิจกรรมมีการนำเสนอแผนพัฒนาชุมชน ตามภาพฝันที่พวกเขาอยากเห็น ให้กับผู้ใหญ่ได้รับทราบ เพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีให้เกิดขึ้นในครอบครัวในโรงเรียน และในชุมชนของพวกเขา

“ค่ายสอนให้เราเรียนรู้การเป็นคนดีของสังคมและการทำดีเพื่อชุมชน สอนให้เสียสละ รู้จักอดทน มีวินัย และสอนให้เรากตัญญูต่อหมู่บ้านกล้าทำสิ่งดีๆ นี่คือสิ่งที่ต้าได้จากค่ายเมื่อ10 ปีก่อนจึงอยากส่งต่อสิ่งดีๆนี้ให้น้องๆเพราะมันจะดีต่อตัวเราและดีต่อชุมชนของเราอยากเห็นน้องๆสานต่อกิจกรรมดีๆ ส่งต่อรุ่นสู่รุ่นเหมือนในอดีต เพื่อให้มีแกนนำเยาวชนเพิ่มมากขึ้น และช่วยกันพัฒนาชุมชนสร้างความสุขที่ยั่งยืน”สุพิตาน้ำใสหรือพี่ต้าของน้องๆ กล่าว

และอีกหนึ่งคนสำคัญคือนายวัชรินทร์ มะเม๊าะ อายุ 15 ปี นักเรียนโรงเรียนอุทยานศึกษากระบี่ ลูกหลานของชาวตำบลคลองพนที่อาสาลุกขึ้นมาเป็นแกนนำและเป็นที่ยอมรับจากเพื่อนๆเลือกให้เป็นประธาน กล่าวว่า ปกติเป็นเด็กค่าย ชอบทำกิจกรรม สำหรับค่ายนี้คุ้มค่ามาก ได้เพื่อนใหม่ ความรู้ใหม่ๆ ในเรื่องภาวะผู้นำ สอนให้รู้จักการวางแผนการทำงานเป็นทีม  โดยผู้ใหญ่ให้เด็กๆ ทำกันเอง คิดเองเป็นความรู้ที่เราสามารถนำไปใช้ได้จริงในการพัฒนาชุมชนผมจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดเพื่อชุมชนของเราครับ 

เริ่มวันนี้ยังทันมาร่วมกันสร้างสังคมสุขภาวะให้เยาวชนห่างไกลปัจจัยเสี่ยงและชุมชนมีพื้นที่ปลอดภัยใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีสังคมที่ดี มีสิ่งแวดล้อมที่ดี ติดตามความเคลื่อนไหวการสร้างสังคมสุขภาวะกับ  Imagine Thailand Movement ได้ทาง Facebook Page : Imagine Thailand Movement และ
Website https://www.imaginethailandmovement.com  


ข่าวประชาสัมพันธ์

พบประสบการณ์ใหม่ๆ ในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก

“THAIFEX - Anuga Asia 2024” ที่กำลังจะเริ่มขึ้นเร็วๆ นี้ งาน THAIFEX - Anuga Asia 2024 เป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลายและน่า...

โวยวายดอทคอม