ยกระดับขีดความสามารถธุรกิจ
และสร้างสรรค์นวัตกรรม การท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน
เช้านี้ (16 กรกฎาคม 2563) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) โดยนายบุญส่ง คุ้มบุญ
ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ททท. เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวเปิดตัวโครงการยกระดับขีดความสามารถของการท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน
(TAT GYM 2020) ร่วมกับพันธมิตร อาทิ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย
จำกัด ศูนย์วิจัยและพัฒนาการท่องเที่ยวมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และบริษัท ฟายด์ โฟล์ค จำกัด พลิกโฉมวงการท่องเที่ยวไทยหลังวิกฤตโควิด-19
มุ่งพัฒนาศักยภาพคนรุ่นใหม่สู่การเป็นผู้ประกอบการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยการระดมผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศช่วยติดอาวุธ
พร้อมผลักดันการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อต่อยอดและยกระดับธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม
นายบุญส่ง คุ้มบุญ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ททท. เผยว่า สถานการณ์วิกฤตโควิด-19
ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงและต่อเนื่องต่อเศรษฐกิจของประเทศ
โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อาทิ ธุรกิจสายการบิน โรงแรม ร้านค้า ชุมชน
เป็นต้น ทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก ททท. ในฐานะหน่วยงานผู้นำในการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม (Preferred
Destination) อย่างยั่งยืน เล็งเห็นถึงผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว
จึงดำเนินโครงการยกระดับขีดความสามารถของการท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน (TAT GYM 2020) เพื่อยกระดับการท่องเที่ยว โดยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการ
เพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการและเตรียมความพร้อมในการรับมือกับรูปแบบการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป
รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ควบคู่กับขับเคลื่อนมาตรฐานด้านความปลอดภัย ด้านสุขอนามัย และการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ด้วยการต่อยอดนวัตกรรมและเทคโนโลยี บนพื้นฐานของการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
(Sustainable Tourism)
โครงการ TAT GYM 2020 มุ่งเน้นผลักดันผู้ประกอบการการท่องเที่ยวรุ่นใหม่จากทั่วประเทศสู่ความสำเร็จทางธุรกิจในโลกแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ซึ่งได้พัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยเชิญวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่าง
ๆ ร่วมบรรยายในหัวข้อสำคัญ อาทิ ทัศนคติของนักจัดการการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
การท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวหลังภาวะวิกฤต กลยุทธ์การสร้างแบรนด์และการสื่อสาร
การตลาดการท่องเที่ยวยุคดิจิทัลรวมถึงมีที่ปรึกษาทางธุรกิจดูแลตลอดระยะเวลาโครงการให้สร้างสรรค์นวัตกรรมต่อยอดไอเดียได้หลากหลายยิ่งขึ้น
โดยเปิดรับสมัครบุคคลรุ่นใหม่
คัดเลือกเข้าร่วมโครงการจำนวน 10 ทีม ทีมละ 2 คน ซึ่งจะได้รับเงินทุนสนับสนุนทีมละ
10,000 บาท
เพื่อพัฒนานวัตกรรมด้านการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นจริง นอกจากนี้ ทางโครงการฯ
และพันธมิตร จะร่วมสนับสนุนรางวัลให้ 3 นวัตกรรมดีเด่นได้ต่อยอดต่อไป
รวมมูลค่าของรางวัลมากกว่า 150,000 บาท
นางสาวทอปัด สุบรรณรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร
บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด กล่าวว่า ในฐานะที่แอร์เอเชียเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักในวิกฤตนี้ แอร์เอเชีย พบว่าเราให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การวางแผนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในกรอบของ ESG คือ สิ่งแวดล้อม สังคม และการมีธรรมมาภิบาล ทำให้บริษัทสามารถจัดการความความเสี่ยง ปรับตัวและบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น หน่วยงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจึงควรได้รับการติดอาวุธ โดยแอร์เอเชียจะเป็นส่วนหนึ่งร่วมวางแผนพัฒนาศักยภาพของคนรุ่นใหม่ เพื่อร่วมกันสร้างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไป
ผศ.ดร. ณัฏฐินี ทองดี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวเพิ่มเติมว่า
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็วและรุนแรงจากวิกฤตที่กำลังเผชิญ
แต่ก็เป็นอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเร็วอีกเช่นกัน คนในอุตสาหกรรมนี้จึงต้องพัฒนาศักยภาพอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการตลาด
และขณะนี้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างเต็มรูปแบบในการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่การเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะช่วยยกระดับในการให้บริการด้านการท่องเที่ยวจึงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้การท่องเที่ยวไทยเป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างเข้มแข็ง
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการจะต้องมีอายุระหว่าง
18-35 ปี มีจำนวนสมาชิกทีมละ 2 คน
และมีประสบการณ์การทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 1 ปี
อาทิ ผู้ประกอบการที่พัก สมาร์ทฟาร์ม ผู้ประกอบการ สมาชิกกลุ่มชุมชนท่องเที่ยว ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก
เป็นต้น สมัครได้ตั้งแต่
วันนี้ -20 กรกฎาคม 2563 ทางเว็บไซต์ www.tatgym.com ทั้งสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการและรายละเอียดการรับสมัครเพิ่มเติมได้ทาง
www.tatgym.com และ Facebook page: TAT GYM