มนุษยชาติ หากดำเนินชีวิตโดยมีธรรมะเป็นที่พึ่ง เป็นที่ระลึก ย่อมส่งผลให้ชีวิตมีแต่ความสงบและสันติสุข
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่จัดการศึกษาพระพุทธศาสนาบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ และสร้างพุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาจิตใจและสังคม ได้ส่งเสริมและสนับสนุนนักวิจัยจากบัณฑิตวิทยาลัย ลงพื้นที่ดำเนินการวิจัยเพื่อพัฒนาฐานข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยววิถีพุทธ โดยจัดทำเป็นชุดความรู้และสื่อดิจิทัลที่ทันสมัย การจัดกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการพัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวแบบ 2 ภาษา คือ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีพุทธของประเทศไทยในระดับนานาชาติ
พระสุธีรัตนบัณฑิต รศ. ดร. ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย กล่าวว่า พระพุทธศาสนาเกิดขึ้นมากว่า ๒,๖๐๐ ปีแล้ว ประประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ นับถือศาสนาพุทธ ด้วยความและศรัทธา ก่อให้เกิดการสร้างโบสถ์ วิหาร เจดีย์ วัตถุสถาน เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ขึ้นมากมาย สิ่งเหล่านี้ กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า อีกทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้และเผยแผ่พระพุทธศาสนา
สำหรับเส้นทางท่องเที่ยววิถีพุทธเพื่อการนันทนาการ แบ่งเป็น 3 สาย ประกอบด้วย 1) สายเกจิอาจารย์ รูปเคารพ และวัตถุมงคล 2) สายสถาปัตยกรรมและจิตรกรรม และ 3) สายประเพณีวัฒนธรรมและอนุรักษ์ธรรมชาติ
ส่วนเส้นทางท่องเที่ยววิถีพุทธเพื่อการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ก็แบ่งเป็น 3 สายเช่นเดียวกัน ประกอบด้วย 1) การปฏิบัติธรรมแบบอานาปานสติ 2) การปฏิบัติธรรมแบบสติปัฏฐาน และ 3) การปฏิบัติธรรมแบบกายเคลื่อนไหว
ทุกภูมิภาคของประเทศไทย มีเรื่องราวที่สะท้อนถึงรากเหง้า ความเป็นมาของบรรพชน รวมถึงวิถีชีวิตของคนไทย ส่งต่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ แฝงไว้ด้วยหลักคิด หลักธรรม ในการดำเนินชีวิต อีกทั้งประเทศไทยยังมีสถานปฏิบัติธรรม ที่มีบรรยากาศร่มรื่นและเงียบสงบด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ การได้มาปฏิบัติธรรมจึงเปรียบเสมือนการเติมพลังให้กับชีวิต
ทุกๆ ปี จะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อการท่องเที่ยววิถีพุทธ ดินแดนสยามเมืองพุทธ และสยามเมืองยิ้ม ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวและผู้สนใจเรียนรู้พระพุทธศาสนาและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
ท่องเที่ยววิถีพุทธในยุคดิจิทัลได้ที่ www.travel2thailand.com
Tiktok & facebook: buddhisttourism or travel2thailand
Youtube: travel2thailand