สานต่อนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนเอสเอ็มอีสองประเทศ
กรุงเทพฯ 28 สิงหาคม 2562 – กระทรวงอุตสาหกรรม
ฉลองโต๊ะญี่ปุ่น (Japan Desk) ครบ 10 ปี สานความสัมพันธ์
ความร่วมมืออุตสาหกรรมไทย-ญี่ปุ่น สร้างความร่วมมือด้านการยกระดับอุตสาหกรรมสู่
4.0 พัฒนาบุคลากร เชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการ และการสร้างโอกาสทางการตลาด
ดึงผู้ประกอบการญี่ปุ่นลงทุนอีก 500 บริษัท คิดเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 70,000 ล้านบาท
พร้อมสร้างความเชื่อมั่น ผุดมาตรการส่งเสริมการลงทุนรูปแบบใหม่
ดึงนักลงทุนญี่ปุ่นเข้าประเทศเพิ่ม
กระทรวงอุตสาหกรรมได้เล็งเห็นและให้ความสำคัญกับความร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งมีบทบาทที่สำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมในประเทศเป็นอย่างมาก
โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)
ได้ริเริ่มพัฒนาความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างไทยกับญี่ปุ่นอย่างเป็นรูปธรรม
โดยได้ร่วมกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (The Japan
External Trade Organization : JETRO) จัดตั้งโต๊ะญี่ปุ่น (Japan Desk) ขึ้น
และมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2552
จากนั้นก็ได้พัฒนาและขยายความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่น
และหน่วยงานเอกชน รวมจำนวน 29 แห่ง รวมลงนาม 32 ฉบับ ซึ่งได้ดำเนินงานมาครบ 10
ปีแล้ว
2) ด้านการพัฒนาบุคลากร การแลกเปลี่ยนบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญ
เพื่อการเรียนรู้วัฒนธรรมการทำงานในองค์กรของประเทศญี่ปุ่น การจัดทำโครงการ Re-Skill
เพิ่มพูนทักษะการทำงานในด้านการพัฒนา SMEs ทุกมิติ
3) ด้านการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการ
โดยการการจัดงาน Business Networking การเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ
การจัดสัมมนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้
การประชุมเครือข่ายความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมในลักษณะ
“การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” หรือ OTAGAI Forum ร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นที่มีความร่วมมือจำนวน
21 แห่ง และ 4) การสร้างโอกาสทางการตลาด การจัดงาน Business Matching การพาผู้ประกอบการไปออกงานแสดงสินค้าที่ได้รับการสนับสนุนพื้นที่โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
อาทิ งานแสดงสินค้านวัตกรรมขององค์การสนับสนุน SMEs แห่งประเทศญี่ปุ่น
(SMRJ) รวมถึงงานแสดงสินค้าของรัฐบาลจังหวัดต่าง ๆ
อาทิ จังหวัดไซตามะ จังหวัดนากาโนะ และกรุงโตเกียว เป็นต้น
ซึ่งสามารถสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้ผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้
กสอ.
ได้รวบรวมตัวเลขการลงทุนจากจังหวัดที่ได้มีการลงนามความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม
จำนวน 21 จังหวัด จากทั้งหมด 47 จังหวัดทั่วประเทศญี่ปุ่น
พบว่ามีจำนวนบริษัทเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ทั้งการลงทุนแบบ FDI แบบ
Joint Venture และการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาสร้างความเข้มแข็งให้แก่อุตสาหกรรมไทยเพิ่มขึ้น
จากเดิมมีผู้ประกอบการญี่ปุ่นมาลงทุน 2,100 บริษัท เพิ่มขึ้นอีก 500 บริษัท
รวมเป็น 2,600 บริษัท คิดเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 70,000 ล้านบาท
“กระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนประเทศตามนโยบายของรัฐบาล
ที่มุ่งหวังยกระดับสู่ไทยแลนด์ 4.0 และพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย s-curve อย่างต่อเนื่อง
โดยมุ่งเน้นที่จะต่อยอดศักยภาพและความสามารถการแข่งขันของประเทศให้มีความพร้อมตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุน
รวมถึงการคิดค้นรูปแบบมาตรการการส่งเสริมการลงทุนรูปแบบใหม่ ๆ
ที่ตอบสนองต่อนักลงทุน โดยเฉพาะ นักลงทุนชาวญี่ปุ่น ทั้งนี้เชื่อว่า โต๊ะญี่ปุ่น
จะเป็นกลไกที่สำคัญในการเชื่อมโยงและสร้างความร่วมมือในด้านต่าง ๆ
ทั้งของภาครัฐและเอกชน ในลักษณะ Win-Win ระหว่างทั้งสองประเทศให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป”
นายสุริยะ กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน นายอัตซึชิ โตโยนากะ
ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (SMRJ) กล่าวเพิ่มเติมว่า
ในโอกาสที่ได้มารับตำแหน่งประธาน SMRJ คนล่าสุด
ขอยืนยันและให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าสานต่อความร่วมมือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างเต็มกำลังความสามารถในการส่งเสริมให้เกิดการสร้างฐานผลิตในประเทศไทย
รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศต่อไป
ด้าน นายชิโร ซะโดะชิมะ
เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางญี่ปุ่นเองนั้น
พร้อมที่จะให้การส่งเสริมและสนับสนุนทั้งด้านวัสดุ สิ่งทอ รวมถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ
และเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะในโครงการ Eastern Economic Corridor หรือ
โครงการ EEC ที่ผู้ประกอบการญี่ปุ่นได้ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก