วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2565

รฟฟท.ตอกย้ำภาพการเป็นผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าด้วยมาตรฐานระดับสากล

ด้วยผลสำรวจความพึงพอใจ และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่ปีที่ 12 ด้วยมาตรฐานการดำเนินงานในระดับสากลทุกมิติ  ยกระดับการให้บริการผู้โดยสารอย่างมีประสิทธิภาพ


นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่านับตั้งแต่เป็นผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ มาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปีต่อเนื่องมาถึงการให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ที่เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์มาเป็นระยะเวลากว่า 6 เดือน นั้น สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญมาโดยตลอดก็คือการนำมาตรฐานระดับสากลที่บริษัทได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 : 2015 ขอบเขต : วิศวกรรมและซ่อมบำรุงและงานปฏิบัติการเดินรถไฟฟ้า จาก BV ( Bureau Veritas ) มาใช้ในการให้บริการเดินรถไฟฟ้า เพื่อให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการได้รับความสะดวกสบายสูงสุด และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้โดยสาร ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าบริษัทประสบความสำเร็จตามเป้าหมายเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากสถิติความตรงต่อเวลา และยอดผู้โดยสารที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นภายในระยะเวลา 6 เดือนหลังเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ รวมทั้งผลสำรวจความพึงพอใจผู้โดยสาร

โดยสถิติความตรงต่อเวลา และความน่าเชื่อถือของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงตั้งแต่เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์อยู่ที่ 99.96% และ 99.70% ส่วนจำนวนผู้โดยสารก็เพิ่มสูงขึ้นหลังเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ช่วงแรกอยู่ที่ประมาณ 8,000 – 9000 คนต่อวันเป็นสูงสุดกว่า 13,000 คนต่อวันในปัจจุบัน และผลสำรวจวามพึงพอใจผู้โดยสารที่จากคะแนนเต็ม 5 ปรากฎว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทุกด้าน ด้านการให้บริการโดยรวม 4.40 , ด้านความปลอดภัย 4.39 , ด้านคุณภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกบนสถานีและในขบวนรถ 4.39 , ด้านการประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูล 4.26 , ด้านเหรียญโดยสาร/บัตรโดยสาร และกิจกรรมส่งเสริมการตลาด 4.25 และด้านความน่าเชื่อถือต่อความตรงต่อเวลา ความถี่ และคุณภาพในการเดินรถไฟฟ้า 4.23

ด้วยความสำเร็จดังกล่าว ทำให้บริษัทมีความมั่นใจในการก้าวสู่ปีที่ 12 ของการดำเนินงาน อีกทั้งล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา บริษัทได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 : 2015 ในขอบเขตการปฏิบัติการเดินรถไฟฟ้า ความปลอดภัย และวิศวกรรมซ่อมบำรุง จากหน่วยรับรอง Bureau Veritas (BV) ทำให้เชื่อว่าบริษัทพร้อมที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่ปีที่ 12 ด้วยมาตรฐานการดำเนินงานในระดับสากลทุกมิติ และยกระดับการให้บริการผู้โดยสารอย่างมีประสิทธิภาพ

เริ่มด้วยการยกระดับองค์กรให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านระบบขนส่งทางรางที่สำคัญของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมกับสถาบันการศึกษา และหน่วยงานภายนอกในการจัดฝึกอบรมความรู้ให้แก่นักศึกษา และผู้ที่สนใจในองค์ความรู้ด้านระบบขนส่งทางราง โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญของบริษัท ซึ่งบริษัทผ่านการรับรองจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ให้เป็นองค์กรที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานวิชาชีพ สาขาวิชาชีพรถไฟความเร็วสูงและระบบราง ใน 5 สาขาวิชา จึงมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่จะสามารถถ่ายทอดองค์วามรู้ระบบรางได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโครงการที่สำคัญในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการความร่วมมือทางวิชาการ “การผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านระบบราง การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมด้านระบบรางเพื่อรองรับอุตสาหกรรมระบบราง” ซึ่งร่วมกับกรมการขนส่งทางราง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับระบบรางทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง , มหาวิทยาลัยมหิดล , มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ , มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฯลฯ หรือ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านพื้นฐานการซ่อมบำรุงช่วงล่างรถไฟฟ้า และพื้นฐานระบบอาณัติสัญญาณรถไฟฟ้าร่วมกับมหาวิทยาลัยศรีปทุม ส่วนในอนาคตบริษัทมีแผนเตรียมเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างผู้เชี่ยวชาญสาขาวิชาชีพรถไฟความเร็วสูงและระบบรางกับ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และเตรียมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสถาบันการศึกษาอื่นๆเพื่อร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ด้านระบบราง อาทิ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

นอกจากนั้นบริษัทยังมีแผนงานในการยกระดับการให้บริการด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่เจ้าหน้าที่ โดยมีโครงการ Smile Service ที่บริษัทดำเนินการมาตลอดหลายปี และยังคงมีแผนที่จะดำเนินการต่อไป เพื่อสร้างความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงานให้แก่พนักงานที่ปฏิบัติงานด้านการให้บริการแก่ผู้โดยสาร รวมทั้งสร้างขวัญกำลังใจให้แก่พนักงาน อันจะส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่งานบริการ

นอกจากนี้ตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่มอบหมายให้บริษัทดำเนินการใน 2 เรื่องสำคัญคือการจัดระบบเชื่อมต่อ ( Feeder ) ของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ และการหากิจกรรมหรือนิทรรศการมาจัดที่สถานีกลางบางซื่อนั้น บริษัทได้เตรียมแผนการดำเนินงานทั้ง ในส่วนการจัดระบบเชื่อมต่อ ( Feeder ) ของรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ซึ่งที่เพิ่งเปิดให้บริการไปก็คือ ชัตเทิ้ลเทรน เชื่อมต่อนครปฐม-รังสิตด้วยรถไฟทางไกลและรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยให้ส่วนลด 50% รถไฟทางไกลเส้นทางนครปฐม – ธนบุรี ตามระยะทาง และตามประเภทผู้โดยสารจากปกติราคา 20 – 40 บาท โดยขบวนรถดังกล่าวจะหยุดจอดทุกสถานี รวมถึงสถานีตลิ่งชัน ซึ่งผู้โดยสารสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเพื่อเชื่อมต่อไปยังเส้นทาง ตลิ่งชัน – บางซื่อ – รังสิต ได้ในราคา 12 - 42 บาท นอกจากนั้นบริษัทเตรียมร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดล เพิ่มจุดจอดเส้นทางรถชัตเทิ้ลบัส “ศาลายาลิงค์” ที่ปกติวิ่งในเส้นทาง ศาลายา – บางหว้า เป็นศาลายา – ตลิ่งชัน – บางหว้า โดยเพิ่มจุดจอดที่รถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีตลิ่งชัน ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการเพิ่มช่องทางการชำระเงินด้วยการใช้บัตร บัตร EMV Contactless ซึ่งคาดว่าสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2565

ส่วนการหากิจกรรมหรือนิทรรศการต่างๆมาจัดในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ เหมือนเช่นงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาตินั้น ในอนาคตบริษัทได้เตรียมดำเนินการพูดคุยกับหน่วยงานเอกชนที่สนใจจำนวนมากเพื่อหากิจกรรมหรือนิทรรศการต่างๆมาจัดในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ อาทิเช่น งาน Cat T-Shirt เป็นต้น

ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าด้วยแผนงานดังกล่าวและมาตรฐานระดับสากลที่บริษัทนำมาใช้ขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติจะส่งผลให้บริษัทสามารถก้าวสู่ปีที่ 12 และยกระดับการให้บริการแก่ผู้โดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนบริการลูกค้า 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง รถไฟฟ้าสายสีแดง ยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมือง

ข่าวประชาสัมพันธ์

รองผู้ว่าฯปทุมธานี ชวนพี่น้องชาวปทุมธานี ออกกำลังกายและเล่นกีฬาพร้อมนับแคลอรี

 ผ่าน แอปพลิเคชัน Calories Credit Challenge  “CCC”   วันนี้ (25 ก.ค.67) เวลา 15.30 น. ที่ โรงแรมทินิดี โฮเต็ล บางกอก กอล์ฟ คลับ จังหวัดปทุมธ...

โวยวายดอทคอม