วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ทส.เตรียมเปิดอุทยานแห่งชาติ 127 แห่ง วันที่ 1 กค.นี้

วราวุธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ประกาศวันที่ 1 ก.ค.นี้ เตรียมเปิดอุทยานแห่งชาติ 127 แห่ง พร้อมจำกัดนักท่องเที่ยว วิงวอนเว้นระยะห่างทางสังคม และไม่ทิ้งขยะเพื่อรักษาชีวิตสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม 


12 มิถุนายน 63 เวลา 10.30 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวว่า “ตามที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีประกาศปิดอุทยานแห่งชาติ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ตามมาตรการเฝ้าระวังโควิด - 19 นั้น วันนี้ขอแจ้งให้ทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 จะมีการเปิดให้บริการอุทยานแห่งชาติ 155 แห่ง แต่ยังมี 28 แห่ง จะยังคงปิดให้บริการอยู่ เช่น อุทยานแห่งชาติทางทะเลทางด้านฝั่งอันดามัน เนื่องจากช่วงนี้เข้าสู่ฤดูมรสุม หรืออุทยานแห่งชาติภูกระดึงที่ปัจจุบันอยู่ในช่วงของฤดูฝน 

ซึ่งโดยสรุปแล้วอุทยานแห่งชาติจะเปิดให้บริการ 127  แห่ง จะมีอุทยานแห่งชาติ 64 แห่ง เปิดให้บริการได้ 100% และอุทยานแห่งชาติอีก 63 แห่ง จะเปิดให้บริการแค่บางส่วนของพื้นที่ เริ่มตั้งแต่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป ซึ่งอุทยานแห่งชาติจำนวน 64 แห่ง ที่เปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยว 100% นั้น จะเปิดให้บริการตามช่วงเวลาปกติ และอุทยานแห่งชาติทุกแห่งจะมีการจำกัดการรองรับของนักท่องเที่ยวแตกต่างกันไปอีกด้วย”


นายวราวุธ รมว.ทส. กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังมีเวลาอีก 16-17 วัน ก่อนถึงวันที่ 1 ก.ค.63 ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะต้องเร่งพัฒนาระบบต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว เช่น นักท่องเที่ยวต้องตรวจสอบได้ว่าอุทยานแห่งชาติที่ต้องการจะไปนั้นเปิดให้บริการหรือไม่ ส่วนการไปท่องเที่ยวอุทยานฯ ยังคงต้องตระหนักถึงการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) ซึ่งมีความสำคัญมาก และไม่อยากให้อุทยานแห่งชาติเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดการระบาดของโควิด - 19 ระลอก 2

ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติจึงต้องเตรียมความพร้อม และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบถึงมาตราการการป้องกัน covid-19 ด้วย เช่น แต่ละจุดจะต้องมีการจำกัดนักท่องเที่ยว มีการตรวจสอบการเข้าออก (Check In - Check Out ) จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก และไม่ให้นักท่องเที่ยวรวมตัวกัน โดยให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าภายในอุทยานแห่งชาติ ทั้งนี้ ในวันที่ 1 กรกฎาคม อาจจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง เพราะเป็นการเริ่มต้นเปิดอุทยานแห่งชาติในรูปแบบของการท่องเที่ยววิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม”

“ทั้งนี้ ตลอดช่วงระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา มนุษย์ไม่ได้เข้าไปวุ่นวายกับสิ่งแวดล้อมกับธรรมชาติตลอดจนสัตว์ป่า ซึ่งทุกท่านจะสังเกตได้ว่าธรรมชาติได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว สัตว์ป่าทั้งสัตว์บก,สัตว์น้ำมีความสุขกับการใช้ชีวิตในบ้านของเขา จึงอยากขอให้ทุกท่านท่องเที่ยวกับแบบวิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งอุทยานแห่งชาติที่กำลังจะเปิด 127 แห่งนั้น คงต้องฝากให้นักท่องเที่ยวทิ้งขยะในที่ที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ เพราะช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

จะเห็นได้ว่าไม่มีข่าวสัตว์เสียชีวิตเพราะขยะเลย อย่างไรก็ตาม หากเปิดการท่องเที่ยวแล้วพบว่านักท่องเที่ยวทิ้งขยะจำนวนมาก มีสัตว์ตายจากขยะพลาสติก ก็จะปิดอุทยานฯ อีกครั้ง เพราะการปิดอุทยานฯ ในช่วงการแพร่ระบาด โควิด-19 พบว่าธรรมชาติฟื้นตัว สัตว์บก และสัตว์ทะเลอุดมสมบูรณ์ขึ้นอย่างมาก” นายวราวุธ กล่าวทิ้งท้าย






DITP ชวนผู้ประกอบการ SMEs ร่วมปรับมุมคิด เปลี่ยนโมเดลธุรกิจ กับโครงการต้นกล้าทูโกล


กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  ขอเชิญชวนผู้ประกอบการ SMEs ไทย (ภาคใต้)  “ปรับมุมคิด เปลี่ยนโมเดลธุรกิจ ไปสู่เป้าหมายใหม่” ในเวทีการค้าโลก  กับโครงการ TONKLA TO GOAL (ต้นกล้าทูโกล) ซึ่งผู้ประกอบการจะได้ร่วมติวเข้มกับกูรูตัวจริง พร้อมพบผู้นำเข้ารายใหญ่ อาทิ กลุ่มเซ็นทรัล และคิงพาวเวอร์  ผ่านระบบออนไลน์ (online)  ตามแนวความคิดการทำธุรกิจยุควิถีใหม่ (New Normal)   ซึ่งโครงการนี้แบ่งออกเป็น 3 ระยะ  โดยจะเพิ่มความเข้มข้นเจาะลึกเนื้อหา  พร้อมแนะแนวทางปฏิบัติที่จะทำให้ผู้ประกอบการขายสินค้าได้จริง!!! 

ผู้ประกอบการ SMEs ภาคใต้ ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ – 15 มิถุนายน 2563 ดัง Link : https://forms.gle/H392wAAdmkkCsxrh6  หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข 064 196 2469  อีเมล์ tonklatogoal2020@gmail.com

สำหรับผู้ประกอบการภาคตะวันออก และภาคเหนือ สามารถติดตามข่าวการรับสมัครได้ที่เว็บไซต์กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  www.ditp.go.th    หรือ สายด่วน 1169






โครงการสบู่สู้ COVID-19 และบริษัทพันธมิตร

นำสบู่และสิ่งของต่างๆ มอบให้กับ รพ.ตำรวจเพื่อหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ ใช้ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ระหว่างปฏิบัติหน้าที่

คุณบุ๋ม ตรีรัก รักการดี และคุณเอ้ ชุติมา นัยนา เป็นตัวแทนของเหล่าศิลปินยุค 90 โครงการสบู่สู้ COVID-19
ได้มอบสบู่จิ๊กซอว์ มี บูล การ์เดียน โซพ ที่มีส่วนผสมของสารสำคัญ
Chloroxylenol สามารถทำความสะอาดและ
ลดการสะสมของแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำนวน
1,000 ก้อน ที่คนไทยทุกคนที่ร่วมบริจาคเงินช่วยสนับสนุนเข้าโครงการมาให้กับโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งที่ 4  โดยมี พล.ต.ท.ชนินทร์ ชะโยชัยชนะ นายแพทย์ (สบ๘) เป็นตัวแทน  พล.ต.ท.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่ เป็นผู้รับมอบเพื่อนำไปให้คุณหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ใช้ทำความสะอาดล้างมือและอาบน้ำหลังจากเสร็จจากวอร์ด COVID-19 ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่เกิดวิกฤติการระบาดไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่นๆ ที่เป็นพันธมิตรของโครงการสบู่สู้ COVID-19 ร่วมนำสิ่งของมามอบให้โรงพยาบาลตำรวจในครั้งนี้ด้วย ได้แก่น้ำดื่มตรา ซัน-กรีนจำนวน 480 ขวด โดยคุณ วรพรรณ สินธุโสภณ บริษัท เค.จี.เอ็น. วอเตอร์ จำกัด, เจลแอลกอฮอล์ จำนวน 28 ลิตร โดยคุณทัตภณ และคุณณภัชชา จีโชตินันท์
บริษัท วธูธร จำกัด
, SRS เจลแอลกอฮอล์ จำนวน 50 หลอด และเซริเซ่ สบู่เหลว จำนวน 50 ขวด โดยคุณศิริญญา พงษ์ประยูร บริษัท เซริเซ่ แมนนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด, เอธิลแอลกอฮอล 95% Food Grade ขนาด 500 มล. จำนวน 4 แกลลอน โดยคุณรักชาติ อินเจริญ บริษัท สยามเดลิเชี่ย เทรดดิ้ง จำกัด, ISOPROPYL ALCOHOL 75% สำหรับทำความสะอาดพื้นผิววัสดุเท่านั้น แกลลอนละ 1 ลิตร จำนวน 40 แกลลอน โดยคุณวรัญญา คำดี บริษัท ซัน มูน อินเตอร์เนชันเนล จำกัด และหน้ากากผ้า จำนนวน 100 ชิ้น โดยคุณวิชญาพัส ทศภา บริษัท ซีดีเอส เทรดดิ้ง 88 จำกัด

สบู่ที่โครงการมอบให้มีประโยชน์กับคุณหมอ และพยาบาลที่ทำงานใกล้กับเชื้อไวรัส มาช่วยกันเพียงคนละ 30 บาท ร่วมบริจาคได้ที่เลขที่บัญชี 214-1-42581-7 ชื่อบัญชี โครงการสบู่สู้ COVID-19 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเงิน 30 บาทของทุกคนสามารถช่วยปกป้องและให้กำลังใจคุณหมอ พยาบาล รวมไปถึงคนไข้ให้ห่างไกลและพิชิตกับเชื้อ COVID-19 ได้อีกทาง 


วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2563

Airbnb ชี้สัญญาณท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวหลังคลายล็อกดาวน์

Airbnb จับสัญญาณท่องเที่ยวไทย ชี้ฟื้นตัวแรงหลังคลายล็อกดาวน์ เผยยอดจองที่พักสำหรับท่องเที่ยวภายในประเทศไทยพุ่งขึ้นเทียบเท่าช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 พบเติบโตถึง 13% จุดหมายปลายทางยอดนิยมได้แก่ กรุงเทพฯ หัวหิน พัทยา เชียงใหม่ และเพชรบุรี ตอกย้ำชัดเจนถึงการเป็นแพลตฟอร์มที่เอื้อต่อการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับธุรกิจท่องเที่ยวในท้องถิ่นและชุมชน มีส่วนช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศ



Airbnb เปิดเผยข้อมูลล่าสุดที่แสดงให้เห็นถึงสัญญาณการกลับมาของการท่องเที่ยวในประเทศไทยหลังผู้คนเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง จากข้อมูลการสำรวจของ Airbnb ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม ถึง 6 มิถุนายน 2563 มียอดจองการท่องเที่ยวในภายในประเทศไทยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 13 เมื่อเปรียบเทียบเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา แม้การเดินทางจะหยุดชะงักไปช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่จากข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นว่าผู้คนยังอยากที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวเช่นเคย และคาดว่าการท่องเที่ยวภายในในประเทศกำลังฟื้นตัวและเติบโตสูงในเวลาอันใกล้นี้


มิสเตอร์เซียว คัม ฮอง ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Airbnb เปิดเผยว่า “Airbnb เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีของการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะการเดินทางไปพักผ่อนในวันหยุดที่จุดหมายใกล้บ้าน จากข้อมูลใหม่ล่าสุดทำให้เราเชื่อมั่นมากขึ้นว่านักเดินทางต่างมองหาประสบการณ์ท้องถิ่นที่เข้าถึงได้ง่าย มีความเป็นเอกลักษณ์ และราคาไม่แพงเกินเอื้อม การท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย

ซี่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้ประเทศไทยฟื้นตัวได้เร็ว Airbnb มีความยินดีที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาล องค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว รวมถึงชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในประเทศไทยเพื่อช่วยพื้นฟูการท่องเที่ยวด้วยวิธีที่รับผิดชอบต่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประชาชนในท้องถิ่นและธุรกิจขนาดเล็กซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การท่องเที่ยวกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไวยิ่งขึ้น”


ขณะที่การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว จะเห็นได้ว่าการท่องเที่ยวในประเทศได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะจุดหมายปลายทางที่ใช้เวลาเดินทางในระยะสั้น นอกจากประเทศไทยแล้ว การท่องเที่ยวภายในประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก็มีการขยายตัว ซึ่งเห็นได้จากยอดจองที่เพิ่มขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา ทั้งในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยในเดือนพฤษภาคมการจองที่พักของ Airbnb กว่าร้อยละ 60 เป็นจุดหมายไกลจากตัวเมือง

จากข้อมูลล่าสุดของ Airbnb ที่ทำการสำรวจการจองที่พักในช่วง 30 วันที่ผ่านมา พบว่าจุดหมายปลายทางยอดนิยม ได้แก่ กรุงเทพ หัวหิน พัทยา เชียงใหม่ และเพชรบุรี ซึ่งเป็นจุดหมายที่ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองถึงร้อยละ 45



นอกจากนั้น ระหว่างวันที่ 18-24 พฤษภาคม 2563 มียอดการจองที่พักสำหรับการเดินทางในประเทศเป็นจำนวนหลายคืนบนแพลตฟอร์ม Airbnb ทั่วโลก ซึ่งมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และระหว่างวันที่ 5-7 มิถุนายนที่ผ่านมา มีมูลค่าการจองที่พักโดยรวมสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ เพื่อตอบรับความต้องการในการเดินทางระยะใกล้นี้ Airbnb จะมีการอัปเดตแอปพลิเคชั่นและหน้าเว็บไซต์เพื่อช่วยให้นักเดินทางสามารถค้นหาสถานที่แปลกใหม่ใกล้บ้านด้วยการจองทริปท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงฟีเจอร์การจองอย่างเร่งด่วนอีกด้วย

แม้ว่าการท่องเที่ยวทั่วโลกจะชะลอตัว แต่ Airbnb ยังมีศักยภาพช่วยสามารถสร้างเม็ดเงินกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นในแต่ละประเทศ โดยในปี 2562 Airbnb ได้มีส่วนหนุนเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นตลาดหลักกว่า 30 แห่งทั่วโลกให้เติบโต ด้วยมูลค่ารวมกันถึง 117 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากปี 2561

นอกจากนั้น ชุมชนเจ้าของที่พักและนักเดินทางของ Airbnb ในประเทศไทยได้สร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจกว่า 40,000 ล้านบาท ในปี 2562 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 17 เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ข้อมูลจากการสำรวจ Airbnb Compact Survey ปี 2562 ระบุว่า ร้อยละ 80 ของนักเดินทาง Airbnb ที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยกล่าวว่า เจ้าของที่พัก Airbnb ได้แนะนำสถานที่ภายในละแวกที่พวกเขาพักอยู่หรืออยู่ไม่ไกลจากแถวที่พัก จากการสำรวจเดียวกันยังพบว่า 5 อันดับที่นักเดินทาง Airbnb ใช้จ่ายไปมากที่สุด ได้แก่ ร้านอาหาร จำนวน 1.1 หมื่นล้านบาท, การช้อปปิ้ง จำนวน 5.5 พันล้านบาท, ความบันเทิง จำนวน 5.5 พันล้านบาท, การเดินทาง จำนวน 4.6 พันล้านบาท และการซื้อข้าวของเครื่องใช้ทั่วไป จำนวน 4.4 พันล้านบาท


วิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการท่องเที่ยวให้ต่างไปจากเดิม ทั้งนี้ Airbnb สนับสนุนให้เจ้าของที่พักและนักเดินทางมีความรับผิดชอบต่อสังคมและปฏิบัติตามข้อบังคับและคำแนะนำของหน่วยงานทางการในแต่ละประเทศเมื่อออกเดินทาง

ตัวแทนหลักสูตรนักบริหารระดับสูงกระทรวงคมนาคม รุ่นที่ 1 เข้ามอบเงินสนับสนุน สนข. จัดตั้งตู้ปันสุข


นางวัฒนา สิทธิวิทยาภรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด(มหาชน),นางสาวลักษณวดี ธนามี ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศการขนส่งและจราจร สำนักงานนโยบาย 
และแผนการขนส่งและจราจร , นายเริงศักดิ์ ทองสม ผอ. กองพัฒนาระบบการขนส่งและจราจร สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร และนายวศิน วรรณพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด ตัวแทนผู้เข้าอบรมหลักสูตรหลักสูตรนักบริหารระดับสูงกระทรวงคมนาคม รุ่นที่1 เข้ามอบเงินสนับสนุน จำนวน 10,000 บาทให้แก่ สำนักงานนโยบายและแผน การขนส่งและจราจร เพื่อจัดตั้งตู้ปันสุข โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร  ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร และผู้บริหาร เป็นผู้รับมอบ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 ณ สำนักงานนโยบายและแผน การขนส่งและจราจร

วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เฮอริเทจ เชียงราย ต้อนรับการกลับมาของโรงแรม จัดโปรสุดคุ้ม !!!


ต้อนรับการกลับมาของโรงแรมฯ ใจกลางนครเจียงฮาย สุดโก้หรู สะดวกสบายในการเดินทาง

สัมผัสความแตกต่างในศิลปะและวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวที่โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย 

สุดคุ้ม!..โปรพิเศษ
คูปองห้องพัก 3 วัน 2 คืน จ่ายเพียง 3,060 บาทสุทธิ

เงื่อนไขโปรโมชั่น
• สำหรับห้อง Deluxe Room เท่านั้น
• ฟรีอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน จำนวน 2 วัน
• เครื่องดื่มต้อนรับตอนเช็คอิน
• อัตราค่าบริการดังกล่าวรวมภาษีและค่าบริการแล้ว
• พักได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
• สำรองห้องก่อนเข้าพักภายใน 7 วัน
• ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกหรือคืนเงิน
• ต้องเข้าพักต่อเนื่องกันเท่านั้น (ไม่สามารถแยกวันเข้าพักได้)   
• เข้าพักได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2563
จองวันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2563 เท่านั้น

สอบถามเพิ่มเติม โทร 083 979 9909 Line ID.  Non_ap



📩 sales@heritagechiangrai.com
📩 salesbkk@heritagechiangrai.com
📩 reservation@heritagechiangrai.com
💻 www.heritagechiangrai.com





วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2563

โปรแรงสู้โควิด งัดกว่า 20 แบรนด์สินค้าออร์แกนิค สินค้าสุขภาพและความงาม ลดกระหน่ำ 70%


LAB Society เอาใจคนรักสุขภาพ ล่าสุดสองผู้บริหารหนุ่ม นายวรานนท์ พลายวงษ์ และนายณิชพน แซ่ตั้ง แห่งบจ. เอ็น. ดับเบิลยู. ไฟน์เนสท์ โพรดักส์ จัดแคมเปญการตลาด ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในยุคนิวนอร์มอล ด้วยโปรโมชั่น ลดเบอร์แรงพุ่งแซงปรอท มอบส่วนลดสูงสุดถึง 70% กับสินค้าออร์แกนิค สินค้าสุขภาพและความงาม ทั้งสกินแคร์ เมคอัพ อุปกรณ์ล้างหน้า และสินค้าธรรมชาติที่มาพร้อมนวัตกรรมแปลกใหม่ที่ขนมาให้เลือกมากกว่า 20 แบรนด์ สำหรับลูกค้าที่ช้อปผ่านออนไลน์ครบ 500 บาท ขึ้นไป จัดส่งฟรีทันที! พลาดไม่ได้แล้ว!

พบสินค้าคุณภาพดีๆ ราคาโดนๆ แบบนี้ได้ซื้อได้ที่ LAB Society ทุกสาขา
หรือผ่านทางเว็บไซต์ www.lab-society.com/
 Line : @labsociety https://t.co/pDyyHCKtYV
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 02-1366927

ธีรพรคลินิก บุกขึ้นดอยแบ่งปันความสุขและสร้างกำลังใจ

มอบเครื่องอุปโภค บริโภคผู้ยากไร้ในถิ่นทุรกันดาร

ธีรพรคลินิก  สถาบันศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า นำโดย นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ พร้อมด้วยทีมงาน  บุกขึ้นดอยในอำเภอ ท่าสองยาง จังหวัดตาก เพื่อนำข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการอุปโภคและบริโภค ไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านและชาวเขาที่อยู่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดาร รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19   ทั้งนี้เพื่อร่วมเป็นกำลังใจ ตลอดจนบรรเทาความเดือนร้อนและความทุกข์ยากลำบากให้กับพี่น้องคนไทย และก้าวข้ามวิกฤติในครั้งนี้ไปด้วยกัน

ธีรพรคลินิก  สถาบันศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า นำโดย นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ พร้อมด้วยทีมงาน  บุกขึ้นดอยในอำเภอ ท่าสองยาง จังหวัดตาก เพื่อนำข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการอุปโภคและบริโภค ไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านและชาวเขาที่อยู่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดาร รวมถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19   ทั้งนี้เพื่อร่วมเป็นกำลังใจ ตลอดจนบรรเทาความเดือนร้อนและความทุกข์ยากลำบากให้กับพี่น้องคนไทย และก้าวข้ามวิกฤติในครั้งนี้ไปด้วยกัน

สำหรับอำเภอท่าสองยาง เป็นอำเภอในจังหวัดตาก ที่ติดชายแดนประเทศพม่า ริมแม่น้ำเมย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขาสูงตามแนวทิวเขาถนนธงชัย ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำไร่  ระยะทางจากตัวอำเภอเมืองตากถึงอำเภอท่าสองยางประมาณ 169 กิโลเมตร  การนำข้าวเครื่องใช้ที่จำเป็นมาแจกจ่ายให้กับประชาชนในครั้งนี้ประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม รวมไปถึงขนมสำหรับเด็กๆ อีกด้วย



       
สำหรับ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์  เป็นชาวจังหวัดตากโดยกำเนิด  ได้เปิดสถาบันศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ภายใต้ชื่อ “ธีรพร คลินิก” ให้บริการเสริมความงามในย่านเขตคลองสานมากว่า 30 ปี และปัจจุบันได้ดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งอาเซียน 

สำหรับผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดการบริการเพิ่มเติมได้ที่  FB : Teerapornclinic.official 
www.teerapornclinic.com  หรือติดต่อสอบถาม/จองคิว ได้ที่  02-026-3265

“DEBUT” โปรเจ็คยักษ์แห่งปี

LINE ประเทศไทยผุด “DEBUT” โปรเจ็คยักษ์แห่งปี
เดินหน้าปั้นไอดอลยุคดิจิทัล ชิงเงินและรางวัลมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท


LINE ประเทศไทย ผุดโปรเจ็คยักษ์แห่งปี DEBUT (เดบิวต์) ชวนผู้สนใจร่วมสมัครเวทีเฟ้นหาไอดอลยุคดิจิทัลครั้งแรกของเมืองไทย เพื่อปั้น 3 “InfluenceStar” ไอดอลนิยามใหม่ ซึ่งเป็นส่วนผสมระหว่าง Influencer และ Star ที่มีเสน่ห์และความสามารถครบครันทั้งเรื่องงานสายบันเทิง และทักษะการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในยุคดิจิทัล ชิงเงินและรางวัลรวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท พร้อมร่วมเวิร์คช็อปใน “ไลน์ เดบิวต์ แคมป์” ฝึก 5 ทักษะจาก 5 ไอดอลเทรนเนอร์ดังจากหลากวงการก่อนเตรียมแจ้งเกิดในวงการบันเทิงสุดปังและโลดแล่นบนแพลตฟอร์มของ LINE ประเทศไทย


 ครูเกี้ย - ณธกฤต กาญจนมัณฑนา หัวหน้าฝ่ายการพาณิชย์ คอนเทนต์ และมีเดีย LINE ประเทศไทย ผู้รับหน้าที่เป็น Headmaster ของโปรเจ็คนี้ เผยว่า “ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยกับเวทีเฟ้นหาไอดอลยุคดิจิทัลที่มีความสามารถครบครัน มีความเป็น InfluenceStar คือมีส่วนผสมระหว่าง ‘Influencer’ และ ‘Star’ มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่มาพร้อมกับความสามารถครบครัน ทั้งทักษะการแสดง ร้องเพลง เต้น ความคิดสร้างสรรค์ในงานคอนเทนต์และเข้าใจการใช้เทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงผู้ติดตาม และที่ขาดไม่ได้คือเปิดใจรับความท้าทาย มีทัศนคติที่ดี เปิดรับความแตกต่างทางสังคมและเพศ และนี่คือไอดอลที่เรามองว่าจะสามารถยกระดับวงการได้ในอนาคต”

สำหรับโปรเจ็ค DEBUT จะคัดเลือก InfluenceStar 3 คน เพื่อเป็นไอดอลยุคดิจิทัล ก่อนจะเข้าร่วมเวิร์คช็อปสุดเข้มข้นใน “ไลน์ เดบิวต์ แคมป์” ที่รวมเอา 5 ไอดอลเทรนเนอร์ผู้คร่ำหวอดจาก 5 วงการที่จะมาถ่ายทอดทักษะรอบด้านให้แก่ไอดอลทั้ง 3 อย่างเข้มข้น เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่วงการบันเทิงพร้อมเป็นอินฟลูเอนเซอร์คุณภาพของเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น ครูเกี้ย ณธกฤต จาก LINE ประเทศไทย (Headmaster) ถ่ายทอดความสำคัญและบทบาทการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในยุคดิจิทัล ครูโค้ดดี้ อรรถพล (Creative Content Trainer) เพิ่มทักษะการสร้างคอนเทนต์ออนไลน์อย่างสร้างสรรค์ ครูบิว อรพรรณ (Acting Trainer) ปูพื้นฐานทักษะการแสดงให้พร้อมต่อยอดในวงการบันเทิง ครูแนน วาทิยา (Voice Trainer) เทรนการร้องเพลง พร้อมทักษะการใช้เสียงให้น่าฟัง และ ครูเจด้า อภิสราฐ์ (Dance Trainer) สร้างทักษะการเต้น เพิ่มความมั่นใจ ให้เคลื่อนไหวอย่างมีเสน่ห์
นอกจากนี้ ไอดอลทั้ง 3 จะได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินกับ LINE ประเทศไทย เป็นระยะเวลา 2 ปี และโอกาสในการแจ้งเกิดกับการร่วมแสดงบทนำในซีรีส์เรื่องใหม่ของ LINE TV และร่วมสร้างคอนเทนต์กับ Good Day Official ผู้ผลิตคอนเทนต์ออนไลน์ชื่อดังของเมืองไทย พร้อมสิทธิพิเศษในการใช้สื่อและช่องทางการสื่อสารบน LINE Ecosystem เพื่อแจ้งเกิดในโลกดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น LINE Official Account, LINE TIMELINE, LINE STICKERS และอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับผู้สนใจสมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 15 - 28 ปี สัญชาติไทย ไม่จำกัดเพศ โดยผู้สมัครจะต้องเตรียมภาพและวิดีโอคลิปเพื่อประกอบการสมัครดังนี้
1.  ภาพถ่าย 3 ภาพ ได้แก่ ภาพหน้าตรง, ภาพครึ่งตัว และภาพเต็มตัว

2.  คลิปวิดีโอแนะนำตัวเอง ไม่จำกัดรูปแบบ ความยาวไม่เกิน 3 นาที

3.  คลิปวิดีโอแสดงความสามารถพิเศษ (ร้อง,เต้น,แสดง,ฯลฯ) ไม่จำกัดรูปแบบ ความยาวไม่เกิน 3 นาที 

โดยสามารถสมัครได้ผ่านช่องทาง LINE Official Account : @lineidolth เท่านั้น ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 ก่อนจะคัดเลือกเข้ารอบ 20 คนเพื่อเข้ารอบออดิชั่นต่อหน้าคณะกรรมการ เพื่อเป็น 1 ใน 3 InfluenceStar คนแรกที่จะได้เป็นไอดอลยุคดิจิทัลแรกของเมืองไทย  

LINE IDOL Official Account เพื่อสมัครและรายละเอียดเพิ่มเติมที่ @lineidolth : https://lin.ee/2kW2PWiSX/wcvn/LINEIDOL/PRNews 

VDO รายละเอียดรับสมัคร: https://lin.ee/GI7yzkQ/wcvn/LINEIDOLVDO

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2563

อพท.จับมือภาคีผุดข้อปฏิบัติด้านสุขอนามัยมอบชุมชนท่องเที่ยวใช้เพื่อเข้ายุควิถีปกติใหม่


อพท. จับมือภาคีเครือข่าย จัดทำข้อปฏิบัติของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนเพื่อสุขอนามัยปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพ ให้ชุมชนเป็นแนวทางในการดำเนินกิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตามแนวทางมาตรฐานด้านสุขอนามัย หรือ SHA หวังสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวตามวิถีปกติใหม่หรือ New Normal   

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน) หรือ อพท. กล่าวว่า อพท.ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดทำ “ข้อปฏิบัติของแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนเพื่อสุขอนามัยปลอดภัยใส่ใจในสุขภาพ”เพื่อเป็นแนวปฏิบัติให้กับชุมชนท่องเที่ยวและผู้มาเยือนโดยข้อปฏิบัติดังกล่าวอ้างอิงจากโครงการแนวทางความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing ThailandSafety & Health Administration หรือ SHA การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.)  และมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด – 19สำหรับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่ร่วมพัฒนาข้อปฏิบัตินี้ได้แก่ กรมอนามัย กรมควบคุมโรค คณะทำงานขับเคลื่อนการพัฒนาการตลาดการท่องเที่ยวโดยชุมชนภายใต้คณะอนุกรรมการการท่องเที่ยวโดยชุมชนในคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติสถาบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน เครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนระดับภูมิภาค 5 เครือข่าย และชมรมเครือข่ายส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนในพื้นที่พิเศษที่ได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาร่างข้อปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของชุมชนอย่างแท้จริงในรายละเอียดข้อปฏิบัติจะประกอบด้วย มาตรฐานเบื้องต้นด้านสุขลักษณะอาคารและอุปกรณ์เครื่องใช้การจัดอุปกรณ์ทำความสะอาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคข้อควรปฏิบัติของผู้ให้บริการในชุมชนและข้อปฏิบัติของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปในชุมชนท่องเที่ยวและข้อปฏิบัติในแต่ละจุดบริการท่องเที่ยวของชุมชน เป็นต้นซึ่งชุมชนท่องเที่ยวสามารถนำข้อปฏิบัตินี้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่หากชุมชนท่องเที่ยวต้องการรับรองจากมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย AmazingThailand Safety & Health Administration หรือ SHA ก็สามารถสมัครเพื่อรับการประเมินและรับตราสัญลักษณ์ SHA ในประเภท นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว “การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในประเทศเป็นอย่างมากและยังรวมไปถึงชุมชนท่องเที่ยวที่มีรายได้เสริมจากการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน



อพท. ในฐานะหน่วยงานประสานความร่วมมือในการขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตระหนักในปัญหาดังกล่าว และยังเห็นถึงความสำคัญของความปลอดภัยในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน  ดังนั้นเมื่อสถานการณ์กลับมาสู่ปกติชุมชนและนักท่องเที่ยวจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่วิถีปกติใหม่ หรือ NewNormal ชุมชนที่ทำท่องเที่ยวจึง ต้องปรับตัวเพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไปในอนาคตโดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ข้อปฏิบัติที่จัดทำขึ้นครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ตัวชุมชนเองและนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน”ผู้อำนวยการ อพท. กล่าว อย่างไรก็ตาม อพท. ยังร่วมฟื้นฟูและเยียวยาภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและยกระดับชุมชนท่องเที่ยวสู่ตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพหลังวิกฤตการณ์โควิดโดยร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสมาคมท่องเที่ยวนำผู้เชี่ยวชาญของบริษัทนำเที่ยวภายใต้สมาคมท่องเที่ยวไปให้ความรู้ชุมชนท่องเที่ยวในการออกแบบโปรแกรมท่องเที่ยวให้ตอบโจทย์ตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพพร้อมร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขในพื้นที่ โดยจะนำข้อปฏิบัติฯ นี้ ไปร่วมยกระดับชุมชนท่องเที่ยวเพื่อให้พร้อมในการบริการอย่างมีคุณภาพและมีสุขอนามัย ปลอดภัย ใส่ใจในสุขภาพ เพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพหลังวิกฤตโควิดคลี่คลายต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ททท. ร่วมกับ UNDP Thailand ชูพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

วันนี้ (5 มิถุนายน 2563) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ Mr. Renaud Meyer, the UNDP’s Resident Representative for Thailand ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สะท้อนถึงเจตนารมย์ในการเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ โดยต้องการนำเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ให้มาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม

บันทึกข้อตกลงดังกล่าว เป็นความมุ่งมั่นของ ททท. ในการสร้างความสมดุลในห่วงโซ่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยและการพัฒนาแบรนด์ประเทศไทยให้มีคุณค่าเทียบเท่ากับการท่องเที่ยวในต่างประเทศ โดยได้จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับ The United Nations Development Programme (UNDP) Thailand ซึ่งมีเนื้อหาความร่วมมือใน 4 ข้อ คือ การบูรณาการ SDGs ในกระบวนการทำงานของ ททท.  การส่งเสริมให้ SDGs เป็นหลักการพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน  การแบ่งปันประสบการณ์การจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของประเทศไทย และการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญและองค์ความรู้ด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน


นอกจากนี้ การจัดทำบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ร่วมกับ UNDP ยังเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยภายหลังวิกฤตโควิด-19 ที่จะช่วยปรับสมดุล (Rebalance) ในห่วงโซ่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยใหม่เพื่อความยั่งยืน สามารถรักษาธรรมชาติที่กำลังฟื้นตัวให้คงอยู่ในสภาพอุดมสมบูรณ์ สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวบนพื้นฐานของการรักษาสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และสร้างวิถีใหม่ในการจัดการท่องเที่ยวแบบ New Norm ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างยั่งยืนวิถีใหม่ในการจัดการท่องเที่ยวแบบ New Norm ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างยั่งยืน

 
ทั้งนี้ ตลอดการทำงาน 60 ปีที่ผ่านมา ททท. ได้ให้ความสำคัญของการส่งเสริมตลาดและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ริเริ่มโครงการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) ขึ้นในปี พ.ศ. 2539 และจัดพิธีมอบรางวัลในวันที่ 27 กันยายน    (วันท่องเที่ยวโลก) ทุก 2 ปี 

นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงการสร้างสมดุลทางการท่องเที่ยวอีกมากมาย อาทิ แคมเปญ Amazing Thailand Go Local แคมเปญ 7Greens แคมเปญท่องเที่ยวชุมชน แคมเปญลดโลกเลอะ รวมถึงการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีการยกระดับคุณภาพสินค้าและจัดการความยั่งยืนผ่านโครงการประกวดรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย อันเป็นผลดีต่อการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น การสร้างสมดุลระหว่างธรรมชาติและการท่องเที่ยว รวมถึงการปลูกจิตสำนึกและสร้างกระแสการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาเยือน

น้ำผึ้ง ปิ่นเจริญ ทำด้วยใจหน้ากากผ้า (mask) ตอบโจทย์ป้องกันโควิด-19

หน้ากากผ้า (mask) ตอบโจทย์ป้องกันโควิด-19


ตอนนี้เดินไปทางไหนก็เห็นแต่คนสวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะในพื้นที่แออัดหรือบนรถสาธารณะ เพราะนอกจากจะป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้แล้ว ยังป้องกันเชื้อโรคได้ หน้ากากอนามัยแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติและการใช้งานแตกต่างกัน เรื่องต้องรู้ รับมือกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนา (COVID-19) กับผลิตภัณฑ์งานฝีมือ กับงาน Handmade ด้วยคุณภาพที่น่าสนใจของผลิตภัณฑ์ และคุณภาพของสินค้า
ได้สร้างแรงดึงดูดใจ  เรื่องราวเหล่านี้อาจเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่เราได้เห็นการปรับตัวของ


น้ำผึ้ง ปิ่นเจริญ 
 ผู้หญิงมากความสามารถคนนี้ แต่เบื้องหลังแนวคิดของเขาคืออะไร ทำไมน้ำผึ้ง จึงไม่
กลัวกับการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ แม้แต่การจับมือกับเพื่อนๆ ผลิตหน้าหน้ากากผ้า 3 ชั้น ใส่แผ่นกรองกันชื้นได้ ด้วยความตั้งใจคือ  อยากให้ทุกท่าน ใส่ปลอดภัย  สบายผิวหน้า และ มีความลิมิเต็ท เอดิชั่น โดยการเลือกใช้ผ้า คอทตอล 100% +ผ้ามัสลินเกรดA  ป้องกันแบคทีเรีย ,เชื้อรา ,และนุ่มสบายหายใจโล่ง สามารถซักได้ทุกวัน คุณสมบัติของผ้าคือ ยิ่งซัก ยิ่งนิ่ม ใส่สบาย พิเศษ สำหรับมอบให้ ผู้บริหาร ผ้าพรีเมี่ยม เช่น ผ้าเนื้อนุ่มคอทตอล100% ผ้าไหมซาติน Italy

น้ำผึ้ง รับจัดทำพิเศษโดยทุกท่านสามารถ Inbox หรือ ทัก ไลน์ ในราคาเริ่มต้นเพียงชิ้นละ 59-99 บาท
โดยขอบคุณทุกๆ 50 บาท จากลูกค้าทุกท่าน น้ำผึ้งแบ่งปันมอบตู้ปันสุขทุกวันโดยเบื่องต้นต้องบอกว่ามือใหม่ทำด้วยใจ ผ่านไปด้วยดี 3 เดือนแล้วภูมิใจมากกับการตอบรับจากเพื่อนๆ พี่ๆ และผู้ใหญ่ใจดีที่ให้ความเอ็ดดู สนับสนุนมาโดยตลอด

Face Book : numpung pincharoen

ท่ามกลางวิกฤตการณ์ฝุ่นควันจนมาถึงไวรัสร้ายโควิด-19 ที่ทำให้เราได้เห็นอะไรที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นมาก่อนเลยในชีวิตนี้ ตั้งแต่ 7-11 ปิดหลังสี่ทุ่ม หิวแต่นั่งกินข้าวที่ร้านไม่ได้ ไปจนถึงสั่งชาบูแถมหม้อไปกินที่บ้านการปรับตัวหรือการเปลี่ยนแปลงธุรกิจเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในช่วงเวลานี้ โควิด-19 เป็นโรคระบาดที่ป้อนความรู้และความบันเทิงให้เราได้ไม่สิ้นสุด คิดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก รู้จักดูแลตัวเองให้แข็งแรง พร้อมต่อสู้เชื้อโรคมีการออกแบบและทดสอบการใช้งานจริง  เพื่อปรับประยุกต์ให้เกิดการใช้งานได้จริง ทำให้วิกฤตครั้งนี้ เราได้เห็นชาวโลกในเฟสบุ๊กหลายหมื่นคนรวมตัวช่วยกันทำความดี


น้ำผึ้ง  ปิ่นเจริญ  เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการทำหน้ากากผ้า เป็นผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ค่อนข้างยาก 
ทั้งที่มีความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระดับสูง  จนมีการผลิตหน้ากากผ้าออกมาจำหน่าย เพื่อ
เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค  เมื่อสามารถปรับเปลี่ยนวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสได้ภายใต้องค์ความรู้
และวัตถุดิบที่มีคุณภาพ  ฝึกต่อไป...... น้ำผึ้ง งานไม่ยาก สังเกตุดีๆ ทุกๆ เนื้องานไม่ยาก Communication & 4 เสาหลัก Integrity Relations Existence Enrollment สำคัญมากที่สุดในทุกการทำงาน & ทำทีม


บอกต่อไปว่า การปรับตัวหรือการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในช่วงเวลานี้  แม้ว่า น้ำผึ้ง  ปิ่นเจริญ  เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างการทำธุรกิจเล็ก เพื่อสามารถปรับเปลี่ยนวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสได้ภายใต้องค์ความรู้  และวัตถุดิบที่สามารถหาได้ในยุคปัจจุบัน กับวิกฤตโควิด-19
ครั้งนี้ ถือได้ว่าเหมือนคลื่นสึนามิที่กวาดธุรกิจน้อยใหญ่ล้มหายไปภายในข้ามคืน และความหวาดวิตกกับความเสี่ยงในการติดเชื้อ และการถูกเลิกจ้างงาน ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจ เองต่างก็มียอดขายที่ชะลอตัวลง หน้ากากผ้าแบบถูกหลักอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ค่อนข้างยาก  ทั้งที่มีความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  จนมีการผลิตหน้ากากผ้าออกมาจำหน่าย
เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค แต่ด้วย DNA ของน้ำผึ้ง ปิ่นเจริญ ชีวิตที่ไม่เคยยอมแพ้แม้นสะกครั้งสักครั้งเดียว เขาเลยพยายามปรับ mindset อยู่ตลอดเวลา  กับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปหลัง โควิด-19 เพื่อชีวิตและภาระต่างๆ รอดจากเหตุการณ์ ครั้งนี้ไปด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม เวลานี้พอมีสต็อกวัตถุดิบที่เพียงพอต่อการผลิตเป้นจำนวนมาก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ล่าสุดมีการแบ่งปันผ่านตู้ปันสุข ย่าน บางกะปิ รามคำหง ช่วงนี้เป็นจังหวะที่ต้องเข้าไปทำเพื่อช่วยประชาชนไปด้วยในการมีหน้ากากผ้าไว้สำหรับป้องกันตนเอง ส่วนช่องทางการจำหน่ายในปัจจุบัน Tel.and id.line 0879118282


สำหรับหน้าตาจะเป็นอย่างไรนั้น หาคำตอบให้ได้ เพียงคลิกเดียว
สามารถรับชมผลงานได้ที่นี่  เปิดให้ผู้คนทั่วโลกพรีออเดอร์ เลือกผ้าก่อนได้ตามใจชอบ มีลายผ้าให้เลือกเกิน 60 ลายผ้า  มีสต๊อกเล็กๆ กรณีลูกค้าต้องการด่วน มีพร้อมส่ง ทั้งแบบเรียบหรู และสีสดใสสวยงาม Tel.and id.line 0879118282

ติดตามเรื่องราวของน้ำผึ้ง ปิ่นเจริญ
Face Book : numpung pincharoen

#FightTogether #Covid19 #Restaurant #NewNormal

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2563

แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ พร้อมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ช่วงมาตรการผ่อนปรนในระยะ 3
รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ พร้อมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และอำนวยความสะดวก
ให้แก่ผู้โดยสาร ช่วงมาตรการผ่อนปรนในระยะ 3  โดยยังคงเข้มงวดมาตรการ Social Distancing
และจัดขบวนรถเสริม 18 เที่ยว/วัน ในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็น วันจันทร์ – ศุกร์ 

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด เปิดเผยว่าภายหลังจาก
ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 เห็นชอบมาตรการคลายล็อกกลุ่มกิจการ และกิจกรรมระยะที่ 3 โดยเริ่มในวันที่ 1 มิถุนายน 2563 นั้น บริษัทคาดว่าเมื่อดำเนินการตามมาตรการผ่อนปรนดังกล่าวจะส่งผลทำให้มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล  ลิงก์ เพิ่มขึ้นในช่วงวันธรรมดาจันทร์ – ศุกร์ เหมือนที่เพิ่มขึ้นจากในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งยังไม่มีมาตรการผ่อนปรนที่มีผู้โดยสารเฉลี่ย 15,230 คน/วัน เพิ่มขึ้นเป็น 22,463 คน/วันในช่วงเดือนพฤษภาคมที่มีมาตรการผ่อนปรนระยะ 1 และระยะ 2 โดยหลังจากมีมาตรการผ่อนปรนระยะ 3 คาดว่าจะมีผู้โดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 30,000 คน/วัน ดังนั้นบริษัทจึงได้ดำเนินการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

โดยในส่วนของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทยังคงขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการ Social Distancing อย่างเข้มงวด ขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารเว้นระยะห่าง 2 เมตรขณะรอซื้อตั๋วโดยสาร และตรวจวัดอุณหภูมิ , ขอความร่วมมือผู้โดยสารยืนในระยะห่างที่เหมาะสมขณะใช้ลิฟต์ และบันไดเลื่อน , ขอความร่วมมือผู้โดยสารทุกท่านสวมใส่หน้ากากอนามัยก่อนเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า ,ขอความร่วมมือผู้โดยสารสร้างระยะห่างในขบวนรถไฟฟ้าอย่างน้อย 1 เมตรตลอดการเดินทาง , ขอความร่วมมือผู้โดยสารโปรดรอรถไฟฟ้าขบวนถัดไปในกรณีที่มีผู้โดยสารหนาแน่นภายในขบวน , ดำเนินการจำกัดปริมาณผู้โดยสารที่จะขึ้นสู่ชั้นชานชาลาและภายในขบวนรถไฟฟ้า (Group Release) โดยกำหนดพื้นที่ในการยืนรอห่างกัน 1 เมตร

ด้านมาตรการอำนวยความสะดวก บริษัทได้เพิ่มขบวนรถเสริม ในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็น วันจันทร์ – ศุกร์ เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้นของผู้โดยสารได้  ซึ่งเป็นมาตรการที่บริษัทดำเนินการ สอดคล้องตามมาตรการผ่อนปรนของ ศบค.มาตลอด โดยบริษัทได้ปรับเพิ่มขบวนรถเสริมในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า-เย็น วันจันทร์ – ศุกร์ เป็น 10 เที่ยว/วัน ในช่วงมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 1 และเพิ่มเป็น 14 เที่ยว/วัน ในช่วงมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 และล่าสุดได้เพิ่มเป็น  18 เที่ยว/วัน ในช่วงมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 หรือหากมีผู้โดยสารใช้บริการหนาแน่นมากก็จะพิจารณาเพิ่มเติมขบวนรถเสริมอีกเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้บริการของผู้โดยสาร

ทั้งนี้หากในอนาคตมีการประกาศมาตรการผ่อนปรนระยะต่อไป บริษัทก็ได้เตรียมความพร้อมในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกในการใช้บริการอย่างสูงสุด

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2563

โอเอซิสสปามีความพร้อมในการเปิดให้บริการอีกครั้ง (หลังสถานการณ์ Covid-19 ) เริ่มคลี่คลาย

โอเอซิสสปาพร้อมเปิดให้บริการอีกครั้ง
โอเอซิสสปามีความพร้อมในการเปิดให้บริการอีกครั้ง(หลังสถานการณ์ Covid-19 )
เริ่มคลี่คลาย ตั้งแค่วันที่ 4 มิถุนายน นี้


โดยมีมาตรการด้านความสะอาดและความปลอดภัยตามข้อบังคับของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อให้ผู้รับบริการและผู้ให้บริการมีความมั่นใจ พบกับมิติใหม่ของการทำสปา ที่โอเอซิสสปาสาขาใกล้บ้านคุณ ทั้ง กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต และ พัทยา พร้อมทั้งรับโปรโมชั่นส่วนลดสุดพิเศษมากกว่า 50% เปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00 น.–21.00 น. ทุกวัน 




สอบถามหรือจองสปา 
โทร. +6622622122
www.oasisspa.net  
หรือทาง LINE: @oasisspa 
#oasisspaalwaysloveyou

ข่าวประชาสัมพันธ์

การประชุมสุดยอดทางธุรกิจ Chile-ASEAN Business Summit 2025

 เปิดศักราชใหม่แห่งการค้า นวัตกรรม และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม กรุงเทพฯ, 10 กันยายน 2568  การประชุม Chile-ASEAN Business Summit 2025 เปิดฉากอย่...

โวยวายดอทคอม