บ่ายวันนี้
(16 ตุลาคม 2562) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “น้ำใจ”
รณรงค์การเป็นเจ้าบ้านที่ดีพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยมีนายธเนศวร์
เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ (ททท.) นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว (ททท.) ให้การต้อนรับและร่วมแถลงข่าว ณ
ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร ททท.
นายพิพัฒน์
รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเป็นอุตสาหกรรมหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 คาดว่าจะถึงกว่า 41 ล้านคน
โดยมียอดรายได้ราว 2.21 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นรายได้ 1 ใน 5
ของรายได้ทั้งหมดของประเทศไทย โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทยต้องได้รับการต้อนรับและดูแลที่ดี
ตามนโยบายที่ได้วางไว้ 4 ด้าน คือ 1. การยกระดับความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว (Safe)
2. การส่งเสริมความสะอาดในแหล่งท่องเที่ยว (Clean) 3. การส่งเสริมความเป็นธรรมในการท่องเที่ยว (Fair) รณรงค์และส่งเสริมผู้ประกอบการไม่ให้เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว
และ 4. ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนและรักษ์สิ่งแวดล้อม (Sustainability)
ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน (Community-Based Tourism) เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนและลดความเหลื่อมล้ำ ดังนั้น โครงการ “น้ำใจ”
รณรงค์การเป็นเจ้าบ้านที่ดี พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว
จึงเป็นโครงการที่สามารถกระตุ้นจิตสำนึกให้คนไทยทุกคนร่วมกันดูแลรักษา แหล่งท่องเที่ยวควบคู่กับการดูแลนักท่องเที่ยวเพื่อเป็นการสร้างรากฐานการเป็น
"เจ้าบ้านที่ดี" ต่อไป
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ
รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. เปิดเผยว่า ททท.
ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญเรื่องการเป็นเจ้าบ้านที่ดี การส่งมอบสินค้าและบริการที่สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือน เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ถึงบทบาท ความสำคัญของเจ้าบ้านที่ดี อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวและสร้างความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยในระยะยาว ที่ผ่านมา ททท.
มีการดำเนินการขยายผลการเป็นเจ้าบ้านที่ดีสู่ท้องถิ่น โดยการจัดทำโครงการเสริมสร้างเครือข่ายทางการท่องเที่ยวเจ้าบ้านที่ดี
มีการกำหนดรูปแบบการจัดอบรมที่มุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพให้กับบุคลากรระดับปฏิบัติในชุมชนทั่วประเทศ
รวมถึงจะทำหน้าที่เป็นผู้นำในการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้เข้าอบรม เพื่อร่วมผลักดัน ให้เกิดการบริหารจัดการตามแนวทางเจ้าบ้านที่ดีอย่างยั่งยืนและเป็นระบบทั่วทุกภูมิภาค
ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์องค์กรที่มุ่งเน้นในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
(Preferred
Destination) อย่างยั่งยืน ดังนั้น โครงการ “น้ำใจ”
รณรงค์การเป็นเจ้าบ้านที่ดีพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว จึงเป็นการปลุกกระแสสังคมไทยให้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วย
"น้ำใจ" ซึ่งเป็นเสน่ห์แบบไทยที่มัดใจคนทั่วโลก
พร้อมปลูกจิตสำนึกในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี มีใจรักและดูแลสิ่งแวดล้อม
เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลก
นายธเนศวร์
กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการ “น้ำใจ” รณรงค์การเป็นเจ้าบ้านที่ดีพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว
ในครั้งนี้ ททท. ได้ร่วมมือกับ 6 หน่วยงานพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
สื่อมวลชนและสถาบันการศึกษา ได้แก่ สมาคมรถเช่าไทย สหกรณ์เดินรถพัทยา คลื่นวิทยุ
จส.100 สวพ.91 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ รวมพลังสนับสนุนการเป็นเจ้าบ้านที่ดีและมีน้ำใจกับนักท่องเที่ยว
โดยในวันนี้ได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามอบเข็มกลัดน้ำใจให้กับพันธมิตรผู้ร่วมแสดงพลังน้ำใจ และมอบเกียรติบัตรพร้อมเข็มกลัดน้ำใจให้กับตัวอย่างเจ้าบ้านที่ดีที่เคยช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ในเหตุการณ์ต่างๆ จำนวน 4 ท่าน ได้แก่ นายชัด อุบลจินดา, นายสุนทร อ่านเขียน, นายประวิทย์
มีเพียร และนายอธิชนม์ ฉะฉ่ำ นอกจากนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ปล่อยขบวนรณรงค์ สร้างกระแสพลังน้ำใจกระจายไปยังแหล่งชุมชนต่างๆ
เพื่อสร้างการรับรู้ไปสู่ภาคประชาชนอีกด้วย
นอกจากนี้
ได้มีการจัดกิจกรรมออนไลน์ผ่าน Facebook Fanpage : amazing ไทยเท่
และเว็บไซต์ www.namjaitat.com กับกิจกรรมพลังน้ำใจไทยไม่มีหมด
เพื่อสร้างกระแสผ่านสังคมสื่อโซเชียลมีเดีย ชวนคนไทยมาแต้มน้ำใจไทยให้ทั่วโลกโซเชียลด้วยการเติมไอคอน
(icon) น้ำใจให้ภาพ profile หรือ
แชร์ภาพไปยัง instagram พร้อม #พลังน้ำใจไทยไม่มีหมด
#namjaithai หลังจากนั้นสร้างการรับรู้เรื่องราวของน้ำใจไทย โดยการคัดเลือกภาพและเรื่องราวแห่งน้ำใจ
มาสร้างเป็นมิวสิกวิดีโอ ชุด “น้ำเอยน้ำใจ” จากน้ำใจคนไทยทุกคน ซึ่งได้นำเพลง
“น้ำเอยน้ำใจ” โดยนายอัสนี โชติกุล เพื่อสื่อสารเรื่องราว
“น้ำใจ” ให้ชัดเจนและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนไทยได้มากยิ่งขึ้น
รวมทั้งยังได้มีการจัดกิจกรรมเวิร์กชอปสร้างพลังน้ำใจ
โดยเริ่มจากกลุ่มคนไทยที่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยว อาทิ กลุ่มรถแท็กซี่
มัคคุเทศก์ รวมทั้งสร้างรากฐานในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และจิตอาสา ภายใต้หัวข้อ
“น้ำใจ...สิ่งเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่” โดย อาจารย์จตุพล ชมภูนิช
นักพูดผู้มีชื่อเสียง พร้อมทั้ง เวิร์กชอปสอนภาษาอังกฤษฉบับเจ้าบ้าน
เพื่อให้ทุกคนพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในทุกสถานการณ์ โดยอาจารย์สอนภาษาอังกฤษชื่อดังนายคริสโตเฟอร์
ไรท์
ปัจจุบันประเทศไทยได้รับการยอมรับในการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก
ด้วยรางวัลมากมาย อาทิ ในปี 2018
ได้รับรางวัล Best
Country For People ได้รับการโหวตจากผู้อ่านนิตยสาร Conde
Nast Traveller และในปี 2019 ได้รับรางวัล "Connoisseur
Circle hospitality Awards 2019" รางวัล “Best
Destination of the Year” อีกทั้งเมืองไทยยังได้ครองอันดับ 3
ประเทศที่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกจึงได้ถูกจัดให้เป็นเมืองน่าเที่ยว
ติดอันดับ 2 ของโลก โดยนักท่องเที่ยวชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม อาหารอร่อย
วัฒนธรรมที่น่าหลงใหล รวมไปถึงชอบคนไทยที่มีน้ำใจ มีรอยยิ้มอยู่เสมอ
ชอบช่วยเหลือโดยไม่หวังผลตอบแทน” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด กล่าวในตอนท้าย