เบเยอร์ประกาศความสำเร็จในงานสถาปนิก’68 ตอกย้ำความเป็น “ผู้นำนวัตกรรมสี 2in1” ยกทัพสี 2in1

เบเยอร์ประกาศความสำเร็จในงานสถาปนิก’68 ตอกย้ำความเป็น “ผู้นำนวัตกรรมสี 2in1” ยกทัพสี 2in1 สำหรับ ปูน-ไม้-โลหะ พร้อมเปิดตัวพันธมิตรระดับโลก IRPC และ Allnex จากกลุ่ม ปตท. พัฒนานวัตกรรมที่ทั้งสะดวกและคงทนสำหรับภาคอุตสาหกรรมภายใต้ชื่อ “IBIC”

บริษัท เบเยอร์ จำกัด เปิดตัวความสำเร็จครั้งใหม่ในงาน สถาปนิก’68 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสีของไทย ด้วยการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ “สี 2in1” ครบทุกพื้นผิว ทั้งปูน ไม้ และโลหะ ที่ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน พร้อมเพิ่มความสะดวกและความทนทานให้กับทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและกลุ่มอุตสาหกรรมหนัก

ในโอกาสเดียวกัน เบเยอร์ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรระดับโลก IRPC และ Allnex จากกลุ่ม ปตท. ภายใต้โครงการ IBIC: IRPC BEGER INNOVATION COATING เพื่อร่วมพัฒนาเทคโนโลยีสีและเคมีก่อสร้างที่มีคุณสมบัติทนทานต่อสภาพแวดล้อมรุนแรง รองรับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไปจนถึงโครงสร้างธุรกิจน้ำมันและกลุ่มพลังงานปิโตรเลียมทั้งบนบกและกลางทะเล และระบบโครงสร้างที่ต้องการความมั่นใจสูงสุด

สี 2in1 ของเบเยอร์ เป็นนวัตกรรมที่รวมคุณสมบัติของสีรองพื้นและสีทับหน้าไว้ในหนึ่งเดียวด้วยขั้นตอนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ทำให้คุณภาพเนื้อสีนิ่ง สม่ำเสมอ ทุกกระป๋อง จึงไม่ต้องผสมน้ำ ไม่เพียงช่วยลดขั้นตอนการทาสี แต่ยังช่วยลดต้นทุนแรงงานและเวลาการทำงาน เหมาะสำหรับทั้งบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ ไปจนถึงภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ด้วยคุณภาพที่ผ่านการพัฒนาและรับรองจากพันธมิตรระดับโลก เบเยอร์จึงสามารถมอบผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง สะดวกต่อผู้ใช้งาน และตอบโจทย์ความยั่งยืน

ดร.วรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ กล่าวว่า“การประกาศความร่วมมือภายใต้ชื่อ IBIC ครั้งนี้ ไม่เพียงตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของเบเยอร์ แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับผลิตภัณฑ์สี 2in1 ของไทยให้ตอบโจทย์ได้ทั้งด้านความสะดวก ความสวยงาม และความทนทานในระดับอุตสาหกรรม โดยมีพันธมิตรด้านวัตถุดิบและเทคโนโลยีระดับโลกร่วมสนับสนุน”

ทั้งนี้ เบเยอร์ยังคงเดินหน้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการสีในประเทศไทยและภูมิภาค พร้อมตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ไทยที่กล้าคิด กล้าทำ และพร้อมผลักดันอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน

GIT เปิดเวทีประกวดออกแบบเครื่องประดับระดับโลก ครั้งที่ 19

โรงแรมในเครือฟอร์จูน ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP LAND ขอเชิญชวนส่งท้ายฤดูร้อนด้วยแคมเปญสุดพิเศษ “Happy Summer” ที่จะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์พักผ่อนท่ามกลางวิวเขาหรือริมน้ำสุดโรแมนติกพร้อมมอบส่วนลดพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกการเข้าพักเต็มไปด้วยความสุขและความประทับใจ ในบรรยากาศสบายๆ และบริการที่อบอุ่นจากโรงแรมในเครือฟอร์จูน ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2568

โปรโมชั่นพิเศษจากโรงแรมในเครือฟอร์จูน

1.โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน นครศรีธรรมราช 

Weekday (วันอาทิตย์ – พฤหัส)

Superior ราคา 1,505 บาท 

รวมอาหารเช้าสำหรับ  2 ท่าน

Weekend  (วันศุกร์-เสาร์) 

Superior รวมอาหารเช้า ราคา 1,655 บาท 

รวมอาหารเช้าสำหรับ  2 ท่าน

สำรองห้องพักหรือสอบถามเพิ่มเติม โทร 075 841 888

2. โรงแรมฟอร์จูน โคราช 

Superior room ราคา  1,455 บาท

Deluxe room ราคา  1,555  บาท

Executive room ราคา   2,255  บาท

Suite room ราคา   5,555  บาท

รวมอาหารเช้าสำหรับ  2 ท่าน

สำรองห้องพักหรือสอบถามเพิ่มเติม โทร 044 079 900 

3.โรงแรมฟอร์จูน คอร์ทยาร์ด เขาใหญ่

Classic Room ราคา 1,790 บาท (รวมอาหารเช้า 2 ท่าน)

Classic Room ราคา 1,590 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า)

สำรองห้องพักหรือสอบถามเพิ่มเติม โทร 044 071 616

4.โรงแรมฟอร์จูนริเวอร์วิว นครพนม (วิวแม่น้ำโขง)

Weekday (วันอาทิตย์ – พฤหัส)

Superior 1,399 บาท

Deluxe River View 1,599 บาท

Deluxe Pool Side 1,799 บาท

Panorama River View 1,999 บาท

Weekend (วันศุกร์ – เสาร์)

Superior 1,599 บาท

Deluxe River View 1,799 บาท

Deluxe Pool Side 2,299 บาท

Panorama River View 2,499 บาท

รวมอาหารเช้าสำหรับ  2 ท่าน

สอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองห้องพัก โทร 042 522 334

5.โรงแรมฟอร์จูนวิวโขง นครพนม

Superior Room วิวเมือง ราคา 1,099 บาท (รวมอาหารเช้า 2 ท่าน) 

Superior Room วิวเมือง ราคา 899 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า)

Deluxe Room วิวแม่น้ำ ราคา 1,299 บาท (รวมอาหารเช้า 2 ท่าน)

Deluxe Room วิวแม่น้ำ ราคา 1,099 บาท  (ไม่รวมอาหารเช้า)

เงื่อนไข: เข้าพักเฉพาะวันอาทิตย์ – พฤหัส เท่านั้น

สำรองห้องพักหรือสอบถามเพิ่มเติม โทร 042 513 564

6.โรงแรมฟอร์จูน บุรีรัมย์

Deluxe Room ราคา 1,150 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า)

Deluxe Room ราคา 1,350 บาท (รวมอาหารเช้า 2 ท่าน)

สำรองห้องพักหรือสอบถามเพิ่มเติม โทร 044 163 800

7.โรงแรมฟอร์จูน ดีพลัส เขาใหญ่

Weekday (วันอาทิตย์ – พฤหัส)

Superior Room ราคา 999 บาท (รวมอาหารเช้า 2 ท่าน)

Superior Room ราคา 899 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า)

8.โรงแรมฟอร์จูน ดี พิษณุโลก

Superior Room ราคา 1,090 บาท

สำรองห้องพักหรือสอบถามเพิ่มเติม โทร  055 303 910

9.โรงแรมฟอร์จูน ดี เลย

Superior Room ราคา 699 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า)

สำรองห้องพักหรือสอบถามเพิ่มเติม โทร 042 036 630-35

10.โรงแรมฟอร์จูน ดี แม่สอด 

Superior Room ราคา 699 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า)

สำรองห้องพักหรือสอบถามเพิ่มเติม โทร 055 036 899

“Happy Summer” โปรฯใหม่จากโรงแรมในเครือฟอร์จูนทั่วประเทศ
 วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2568 พร้อมวิวเขาหรือริมน้ำสุดโรแมนติก!

ข้อกำหนดและเงื่อนไข :
ชำระเงินเต็มจำนวนก่อนเข้าพัก และไม่สามารถยกเลิกการจองหรือขอคืนเงินได้ สิทธิ์มีจำนวนจำกัด

เงื่อนไขเป็นไปตามที่โรงแรมกำหนด ร่วมสัมผัสความสุขในช่วงท้ายซัมเมอร์นี้และจองห้องพักผ่านโรงแรมในเครือฟอร์จูนใกล้บ้านคุณ

ตั้งแต่วันนี้ – 31 พฤษภาคม 2568

#CPLAND #ซีพีแลนด์  #AccessibleCommunitiesforLife #CPLANDHotel #FortuneHotelGroup #FortuneHotel #โรงแรมในเครือฟอร์จูน #โรงแรมฟอร์จูน #ฟอร์จูนกรุ๊ป #HappySummer #ฟอร์จูนกรุ๊ป #พักผ่อนวิวเขา #รีวิวโรงแรม #ท่องเที่ยวไทย #พักผ่อนริมน้ำ #ซัมเมอร์นี้ #จองห้องพัก

โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น จัดโปรกลางปี 𝗠𝗶𝗱-𝗬𝗲𝗮𝗿 𝗘𝘀𝗰𝗮𝗽𝗲 𝗗𝗲𝗮𝗹

หนีความวุ่นวาย มาผ่อนคลายที่เชียงราย โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่นจัดโปรกลางปีราคาดี สบายกระเป๋า 𝗠𝗶𝗱-𝗬𝗲𝗮𝗿 𝗘𝘀𝗰𝗮𝗽𝗲 𝗗𝗲𝗮𝗹 จองห้องพักวันนี้ รับสิทธิพิเศษฟรีอัพเกรดห้องพักเดอลักซ์เป็นห้องสวีท แล้วมาชาร์ตพลังกาย พลังใจ รับพลังบวก ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2568

ห้องดีลักซ์ ไม่รวมอาหารเช้า 𝟭,𝟱𝟬𝟬.- บาท หรือห้องดีลักซ์ รวมอาหารเช้า 𝟭,𝟳𝟬𝟬.- บาท
แล้วอัพเกรดห้องพักเป็น 𝐄𝐱𝐞𝐜𝐮𝐭𝐢𝐯𝐞 𝐒𝐮𝐢𝐭𝐞 (ขึ้นอยู่กับจำนวนห้องว่าง)

สำรองห้องพักที่: bit.ly/3eCYMKY หรือสอบถามรายละเอียด กรุณาโทร 052 055 888 

โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่นถูกออกแบบอย่างหรูหราได้มาตรฐานระดับสากล รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งสะท้อนถึงศิลปะวัฒนธรรมล้านนา มีล็อบบี้ต้อนรับอันโอ่โถง ล็อบบี้เลาจน์ ออกล้านนาร่วมสมัย ด้วยภาพวาดสีสะท้อนถึงศิลปะพื้นบ้านของชาวเชียงราย ห้องอาหารนานาชาติ ศูนย์ออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่ รวมถึงพื้นที่สีเขียวเหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง  พร้อมติดตั้งเครื่องไบโอโซน (BIOZONE ระบบ Photoplasma Technology) ภายในโรงแรมฯ ซื่งสามารถฆ่าเชื้อโรค PM2.5 และกำจัด ไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา ได้ถึง 99.99% และยังถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาทางด้านมลพิษในอากาศ และพื้นผิวสัมผัส รวมทั้งกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานต่างๆ ทำให้อากาศภายในโรงแรมฯ บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจ ใน การเข้ามาใช้บริการของแขก

www.heritagechiangrai.com

มัชรูม คอตเทจ ฟาร์ม : Mushroom Cottage Farm and Cafe

ทริปนี้อยู่ใกล้กรุงเทพฯ  “กระท่อมเห็ดฟาร์ม แอนด์ คาเฟ่ @ ไทรน้อย” และทานอาหารเมนูเห็ด บรรยากาศร้านดูร่มรื่น ขนาดของร้านไม่ได้ใหญ่มากนัก ด้านหน้าทางเข้าเจอกระท่อมที่ใช้ในการปลูกเห็ดเรียงรายอยู่รอให้เพื่อนๆ และเด็กๆ เข้ามาเก็บเห็ด พร้อมโซนกิจกรรมสนุก ๆ สำหรับครอบครัว และโซนคาเฟ่ สำหรับสายชิล เป็นกิจกรรมที่ให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน

มัชรูม คอตเทจ ฟาร์มเห็ด แห่งนี้เป็นของ คุณนัยนา ยังเกิด กรรมการผู้จัดการ กระท่อมเห็ด มีจุดเริ่มต้นมาจากเดิมตัวเองเป็นพนักงานสถาบันการเงินและได้ใช้เวลาว่างการการทำงานมาทำเกษตรเพาะเห็ด Mushroom Cottage Farm จากฟาร์มเห็ดเล็ก ๆ ในจังหวัดนนทบุรี  “เริ่มจากเป็นธุรกิจเล็ก ๆ เมื่อก่อนนี้ ก็เป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนทั่ว ๆ ไป แต่คิดว่างานประจำไม่มีอะไรแน่นอนเลยมองหาอาชีพเสริมไว้รองรับเพื่อความมั่นคง ความที่เราชอบทานเห็ดเลยอยากทำในสิ่งที่เราชอบ ก็เริ่มไปหาความรู้ ไปเข้าศึกษาหลักสูตรสั้น ๆ ใน ม.เกษตร ฯ  หลังจบปี 2555 ตัดสินใจลงทุนทำฟาร์มเห็ดกับเพื่อนคุณปรียนันท์ แสงดี เริ่มจากเช่าพื้นที่แถวบางบัวทอง 300 ตรว. ก่อนจะมาซื้อที่ดินที่นี่ 2 ไร่ ซึ่งเลยเซ็นทรัลเวสต์เกท เพียงสิบกว่ากิโลเท่านั้น”

คุณจุ๊บ – นัยนา ยังเกิด ต่อยอดสู่ธุรกิจจากเห็ดแบบครบวงจร ศูนย์การเรียนรู้ นำเห็ดนานาสายพันธุ์ มารังสรรค์เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เมนูเห็ดสุดครีเอทีฟที่ไม่เคยลองมาก่อน รวมไปถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร รวมไปถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อีกมากมาย

กระท่อมเห็ด ฟาร์ม นอกจากจะเป็นศูนย์เรียนรู้การเพาะเห็ดและสร้างอาชีพแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ระดับดีมากจ.นนทบุรี ( ปี 2565-2568 ) และล่าสุด Mushroom Cottage Farm ได้เข้าร่วมการยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ( Agro Genius DIPromt 2566 ) จากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยการนำ “เห็ดนางนวลสีชมพู” หาสารสกัดที่มีความโดดเด่นแตกต่างกว่าสินค้าเกษตรอื่นๆสินค้าเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เซรั่มบำรุงผิวหน้าจากเห็ดนางนวลสีชมพู ที่พัฒนาร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนได้รับรางวัล ‘The Best Success Case’ จากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม 

นัยนา ยังเกิด ก่อตั้ง Mushroom Cottage Farm ในปี พ.ศ. 2555 จากความชอบรับประทานเห็ดเป็นการส่วนตัว เริ่มต้นจากการทำกระท่อมเห็ดจิ๋ว ควบคู่กับการแบ่งปันความรู้การเพาะเห็ดเบื้องต้น และเปิดหลักสูตรอบรมสำหรับผู้ประกอบการฟาร์มเห็ดรุ่นใหม่ พร้อมทั้งขยายพื้นที่ เป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องการเกษตรเชิงท่องเที่ยว เพื่อเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้เข้ามาทำกิจกรรมและเรียนรู้เรื่องราวของเห็ดหลากหลายสายพันธุ์ นอกจากเพาะเห็ด ก็เปิดหลักสูตรสำหรับผู้ประกอบการเพาะเห็ดสมัยใหม่ให้มีประสบการณ์ มีโรงเรือนแบบ SMART MUSHROOM COvpjkTTAGE มีเครื่องควบคุมอุณหภูมิ การรักษาความชื้น ก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ เพื่อผลผลิตที่สม่ำเสมอและการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ เป็นโรงเรือนแบบปิด ผู้สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้มีการเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้เรื่องของการเกษตรท่องเที่ยว ก็อยากให้เด็ก ๆ ได้เข้ามาเรียนรู้สายพันธ์ต่างๆ เขาสามารถเก็บเห็ดใส่ในตะกร้าแล้วกลับบ้าน ยกระดับคุณภาพเกษตรปลอดภัยด้วยสินค้าและการท่องเที่ยว  พร้อมให้ผู้ที่มาเยือนได้ลองทำอะไรสนุกๆ  แน่นอนว่าถ้าได้ไปที่มัชรูม คอตเทจ ฟาร์ม เราอาจได้เจอการทดลองใหม่ไม่รู้จบอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์จากกระท่อมเห็ด ฟาร์ม แอนด์ คาเฟ่ มีบริการหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นที่ฟาร์มหลัก อ.ไทรน้อย , ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ ที่ สยามพารากอน (โซนกรูเม่ มาร์เก็ต) อีกทั้งเตรียมรุกตลาดต่างประเทศ ยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนต่าง ๆ ก้อนเห็ดคุณภาพสูงพร้อมให้ผลผลิตเร็วและสม่ำเสมอสูตรเฉพาะของฟาร์ม อัตราการออกดอกดี คุ้มค่าในการลงทุนเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้น ให้คำแนะนำและสอนดูแลโรงเรือนแวะมาเยี่ยมชมและเรียนรู้เทคนิคการดูแลเห็ดที่ง่าย โตไว ออกดอกสวยได้ที่ฟาร์ม เพราะที่นี่ไม่เพียงแต่จำหน่ายก้อนเห็ด แต่ยังสอนการดูแลตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อให้มือใหม่เพาะเห็ดได้อย่างมั่นใจ

Mushroom Cottage Farm and Cafe
มัชรูม คอตเทจ ฟาร์ม และ คาเฟ่

ตั้งอยู่ที่ ไทรน้อย นนทบุรี เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน (ยกเว้นวันจันทร์)
ติดต่อ 097 3246155
หรือแอดไลน์: @mushroomcottage
เส้นทาง : https://maps.app.goo.gl/H1ZPr5zX3w2eRTX27

เอปสันเดินหน้าสานต่อพันธกิจด้านความยั่งยืนบริจาคสนับสนุน 3 องค์กรเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้ายกระดับบทบาทในการสร้างสรรค์สังคมที่ยั่งยืนผ่านการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) ภายใต้แนวคิด “Sustainability” โดยล่าสุดได้มอบการสนับสนุนให้กับ 3 องค์กรที่มีบทบาทสำคัญด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และการศึกษา

กิจกรรมแรก เอปสันได้นำสิ่งของที่ได้รับการบริจาคสิ่งของที่ยังอยู่ในสภาพดี จากพนักงานเอปสัน รวมถึงผู้ที่ทำงานที่อาคารปัน ซึ่งรวบรวมผ่านกิจกรรม “You Share, We Change ปีที่ 2” มอบให้แก่ มูลนิธิกระจกเงา เพื่อส่งต่อให้เกิดการใช้งานต่อไป ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลด ปริมาณขยะ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ในกิจกรรมที่สอง เอปสันได้ร่วมสนับสนุนเงินจำนวน 100,000 บาท เพื่อสนับสนุนกิจกรรม Caps Fair 2025 ฝาแปลงร่าง ซึ่งจัดโดยพรีเชียสพลาสติกแบงค็อก (Precious Plastic Bangkok) ภายใต้มูลนิธิโลกสีเขียว พรีเชียสพลาสติกแบงค็อก เป็นองค์กรที่ทำงานร่วมกับชุมชม โรงเรียน และมหาวิทยาลัย  เพื่อรวบรวมขยะพลาสติกและนำมารีไซเคิลให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเอปสันในการสนับสนุนการลดการใช้พลาสติกและส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

สำหรับกิจกรรมสุดท้าย เอปสันยังได้มอบทุนการศึกษา จำนวน 125,000 บาทให้แก่นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งถือเป็นกำลังสำคัญในการดูแลสุขภาพของประชาชน

ทั้งสามกิจกรรมนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอปสันในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อ
สังคม พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว

ก.อุตฯ ชง ครม. ไฟเขียวเดินหน้ายกระดับข้าว-โคเนื้อ 'สนุกไรซ์พลัส-บีฟวัลเลย์' ทุ่ม 113 ล้าน หวังสร้างมูลค่า 1.1 พันล้าน

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบและเห็นชอบในหลักการโครงการที่เป็นข้อเสนอของภาคเอกชน (กรอ.) ซึ่งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรวบรวมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 ได้แก่ จังหวัดสกลนคร นครพนม และมุกดาหาร หรือที่เรียกกันในชื่อ “กลุ่มจังหวัดสนุก” โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอ 2 โครงการสำคัญ ได้แก่ 1) โครงการสนุกไรซ์พลัส “SNUK RICE PLUS“ และ 2) โครงการบีฟวัลเลย์ “Beef Valley” รวมงบประมาณทั้งสิ้น 113.4 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้สูงถึง 1,134 ล้านบาท และมีผลตอบแทนกลับคืนมาประมาณ 10 เท่า ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะบรรจุโครงการดังกล่าวในแผนปฏิบัติราชการประจำปีของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม และขอรับจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป โดยมีศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 5 และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั้งสามของกลุ่มจังหวัดสนุก ร่วมเป็นหน่วยงานสนับสนุนและขับเคลื่อนโครงการ

โครงการที่เห็นชอบในการประชุม ครม. ครั้งนี้เป็น 2 ใน 21 โครงการของกลุ่มจังหวัดสนุก ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะดำเนินงาน ประกอบด้วย

 1. โครงการสร้างเศรษฐกิจกลุ่มสนุกด้วยอุตสาหกรรมแปรรูปข้าวมูลค่าสูง "SNUK RICE PLUS" (SNUK RICE+) งบประมาณ 61.4 ล้านบาท มีเป้าหมายหลักในการยกระดับอุตสาหกรรมแปรรูปข้าวในพื้นที่ โดยนำข้าวซึ่งเป็นผลผลิตหลักของเกษตรกรในภาคอีสาน มาพัฒนากระบวนการผลิตให้ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพการแปรรูป และสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่จากข้าว รวมถึงการนำผลพลอยได้ (By-product) และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาเพิ่มมูลค่า เช่น แป้งรำข้าว ผลิตภัณฑ์จากแกลบ หรือเยื่อข้าว อีกทั้งยังมีการสร้างแบรนด์ “สนุกไรซ์” ให้เป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาค พร้อมส่งเสริมกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแก้ปัญหาเผาตอซังข้าวหลังเก็บเกี่ยว ภายใต้แนวคิด “SNUK Rice Model: พัฒนา 100 คน 110 กิจการ 150 ผลิตภัณฑ์ และสร้างโมเดลต้นแบบ 10 กิจการ” ซึ่งเน้นการบ่มเพาะคนรุ่นใหม่และผู้ประกอบการในท้องถิ่นให้สามารถต่อยอดอุตสาหกรรมข้าวได้อย่างยั่งยืน 

โดยดำเนินการยกระดับมาตรฐานการผลิตสู่ระดับสากล มีการสร้างเครือข่ายธุรกิจ จับคู่เจรจาทางการค้า และการพัฒนาสินค้าสู่ตลาดระดับภูมิภาคและระดับสากล นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมด้านการตลาดผ่านเทศกาลต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวด้วย

 2. โครงการยกระดับอุตสาหกรรมแปรรูปโคเนื้อ "Beef Valley" งบประมาณ 52 ล้านบาท มุ่งเน้นยกระดับอุตสาหกรรมโคเนื้อในกลุ่มจังหวัดสนุกให้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตและแปรรูปโคเนื้อที่มีมาตรฐานระดับโลก โดยมีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาคุณภาพเนื้อโคในทุกมิติ ตั้งแต่สายพันธุ์ วิธีการเลี้ยง การจัดการหลังการเชือด และการแปรรูป รวมถึงการสร้างแบรนด์ “SNUK Beef Valley” พัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปโคเนื้อเน้นเป็นคนรุ่นใหม่และผู้ประกอบการในพื้นที่ 200 คน 130 กิจการ 130 ผลิตภัณฑ์ และสร้างโมเดลต้นแบบ 3 กิจการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางแข่งขันทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ และจัดกิจกรรมด้านการตลาดผ่านเทศกาลเนื้อ 

“สนุก Beef Festival” รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านอุตสาหกรรม เช่น โรงเชือดมาตรฐาน โรงแปรรูปเนื้อ เครื่องจักรแปรรูป และเทคโนโลยีถนอมอาหาร รวมทั้งจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการท้องถิ่น โดยตั้งเป้ายกระดับอุตสาหกรรมโคเนื้อของภาคอีสานให้เป็น “ผู้นำตลาดของภูมิภาคอาเซียน” ต่อไป

ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งสองโครงการเป็นต้นแบบของการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมตามนโยบายนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ด้านการปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ในการเสริมความแกร่งของห่วงโซ่อุปทานและการช่วยเหลือเอสเอ็มอี ชึ่งมาจากการวิเคราะห์ปัญหา (pain point) และเป็นความต้องการของภาคธุรกิจผ่านการประชุม กรอ. และการรับฟังความเห็นของภาคเอกชน

ในพื้นที่ ก่อนเสนอ ครม. รับทราบและเห็นชอบโครงการทั้งสอง นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะบุคลากร และส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการที่มีศักยภาพที่ต้องการเข้าร่วมพัฒนาในโครงการ ให้สามารถขอสินเชื่อภายใต้กองทุนเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ มาเป็นเงินทุนในการพัฒนาธุรกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดสนุกเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว 

ทั้งนี้ คณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรมได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการในจังหวัดนครพนม จำนวน 2 ราย ได้แก่ 1) บริษัท ไรซ์แฟคทอรี่ จำกัด เพื่อติดตามผลการส่งเสริมผู้ประกอบการที่ได้รับสินเชื่อ “เสือติดปีก” วงเงิน 9 ล้านบาท ซึ่งได้เชิญผู้แทน โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ มาร่วมให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึก 

เพื่อเพิ่มโอกาสธุรกิจและขยายสายการผลิตเพิ่มเติม 2) วิสาหกิจชุมชนกะละแมทูลใจ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นสินค้าพื้นถิ่นและของฝากที่ระลึกต้อนรับ ครม. กระทรวงอุตสาหกรรมจะส่งเสริมด้วยการใช้ Soft Power เพื่อให้เป็นที่รู้จักวงกว้าง รวมถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ยืดอายุผลิตภัณฑ์ให้เก็บได้นานยิ่งขึ้น

"การเคหะแห่งชาติโชว์คะแนนผล การบริหารจัดการความเสี่ยงทุจริตระดับ ‘ดีเยี่ยม’ ปี 2567

การเคหะแห่งชาติประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญ หลังได้รับผลการประเมินความเสี่ยงการทุจริตในระดับ
“ดีเยี่ยม” (Excellent) จากระบบการบริหารจัดการความเสี่ยงการทุจริต (Corruption Risk Management System – CRMS) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ด้วยคะแนน 80 เต็ม 100 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการองค์กรด้วยหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และตรวจสอบได้

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า จากการที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) กำหนดแนวทางการประเมินความเสี่ยงต่อการทุจริตเป็นประจำทุกปี โดยมีเป้าหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต (ศ.ป.ท.) ทำหน้าที่กำกับและผลักดันการบริหารจัดการความเสี่ยงการทุจริตของหน่วยงานภาครัฐให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศจะต้องจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยงการทุจริต พร้อมรายงานผลการดำเนินงานตามแผนดังกล่าว โดยให้ความสำคัญกับ “ด้านที่ 3 การใช้จ่ายงบประมาณ” เพื่อส่งเสริมความโปร่งใสในการบริหารงบประมาณ ลดความเสี่ยงในการเกิดการทุจริต และเสริมสร้างระบบการบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายในของภาครัฐให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น สำหรับในปีงบประมาณ 2567 การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยงการทุจริต และรายงานผลการดำเนินงานตามแผนฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เสร็จสิ้นตามกรอบระยะเวลาที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) กำหนดเรียบร้อยแล้ว

ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า   สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ประเมินผลความเสี่ยงครอบคลุมหน่วยงานรัฐกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ โดยการเคหะแห่งชาติเป็นหนึ่งในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่สามารถคว้าระดับคะแนนสูงสุดอยู่ในกลุ่ม “ดีเยี่ยม” (Excellent) จากระบบการบริหารจัดการความเสี่ยงการทุจริต (CRMS) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งได้ผลคะแนนรวม 80 คะแนนจาก 100 คะแนนเต็ม สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการเชิงคุณภาพ การควบคุมภายใน และระบบติดตามความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ

“คะแนนในครั้งนี้ คือ ผลลัพธ์ของการทำงานที่การเคหะแห่งชาติยึดมั่นในความโปร่งใสและหลักจริยธรรม เราไม่เพียงแค่ผ่านเกณฑ์การประเมินเท่านั้น แต่เรากำลังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับองค์กรภาครัฐ การป้องกันการทุจริต คือ ภารกิจเชิงรุกของเรา ไม่ใช่เพียงแค่ความรับผิดชอบ แต่เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่เราปลูกฝังให้ผู้ปฏิบัติงานการเคหะแห่งชาติทุกระดับ รวมถึงการเคหะแห่งชาติยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์การกำกับดูแลกิจการที่ดี พร้อมส่งเสริมให้ประชาชนและชุมชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบเพื่อยกระดับความเชื่อมั่นและสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน เราจะไม่หยุดอยู่แค่คำว่า “ดีเยี่ยม” แต่จะเดินหน้าสู่การเป็นต้นแบบองค์กรคุณธรรมอย่างแท้จริง” นายทวีพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายอย่างมั่นใจ

“มิสยูนิเวิร์สภูเก็ต2025” แถลงข่าวยิ่งใหญ่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “New Era of Beauty Queen

ยกระดับนางงามไทยสู่สากลขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน พร้อมเผยโฉม 13 นางงาม กระแสแรง!

UNIVERSE IS CALLING ภารกิจจักรวาล ต้องการคนที่มีเป้าหมาย!! ถ้าจะให้จัดเล็กคงไม่ไหว ระดับภูเก็ตต้องยิ่งใหญ่ให้ทุกคนจดจำเท่านั้น! คุณคิม ธีระศักดิ์ ผลงาม และ  คุณกบ ธนพัฒน์ นวลสกุล ผู้ถือสิทธ์การประกวด Miss Universe Phuket 2025 (มิสยูนิเวิร์สภูเก็ต 2025) ทุ่มจัดงานแถลงข่าว Miss Universe Phuket 2025 อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด “New Era of Beauty Queen” จุดเริ่มต้นจากพลังของผู้ที่มีความฝันและมุ่งมั่นในการสร้างเวทีการประกวดที่แตกต่างและมีคุณภาพ ด้วยสถิติที่สามารถผลักดันนางงามจากเวทีระดับภูมิภาคสู่ระดับประเทศได้อย่างสง่างาม คว้ามงกุฎ มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ ได้ถึง 3 ครั้ง และล่าสุดกับ B2B  หลิน-มาลิน ชระอนันต์ มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2024 มอบมงกุฎเกียรติยศ ต่อให้กับมิสแกรนด์ภูเก็ต กชเบล-ศรัณย์รัตน์ เผือกพิพัฒน์ รับตำแหน่ง มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2025  ตอกย้ำถึงศักยภาพของ PD ภูเก็ต ในฐานะผู้บ่มเพาะนางงามได้อย่างดีที่สุด เชื่อมั่นว่า ภูเก็ต จะสามารถผลักดันเวที Miss Universe Phuket 2025 สู่แถวหน้าได้เช่นกัน

สำหรับงานแถลงข่าว ถูกจัดขึ้น ณ ห้องแกรนด์บอลลูน โรงแรม เดอะ พาร์โก้ จ.ภูเก็ต โดย 2 PD คนเก่ง “คุณกบ คุณคิม” ยังคงเดินหน้าและตั้งใจในการ “ยกระดับอุตสาหกรรมนางงามไทย” ควบคู่กับ “การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและท้องถิ่น” เห็นได้จากของที่ระลึกภายในงาน ที่ผลิตจากสินค้าชุมชน อาทิ สครับขัดผิดที่ทำจากส้มแขก พวงกุญแจเต่าทำจากผ้าบาติก และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่สะท้อนแนวคิดและเพิ่ม Soft Power อย่างสร้างสรรค์  นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และ คุณบุษดี สุวรรณรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต รวมถึงผู้สนับสนุนหลัก ร่วมงาน แสดงให้เห็นความสำคัญของการร่วมแรงร่วมใจระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี 

เปิดเวทีด้วย Opening Show ตามด้วยเปิดตัวผู้เข้าประกวดทั้ง 13 คน เรียกเสียงฮือฮา เพราะนอกจากความสวย และ บุคลิกภาพที่สง่างามแล้ว การแนะนำตัวพร้อม Speed ของพวกเธอก็ได้รับความสนใจไม่น้อย ด้วยเอกลักษณ์ ทัศนคติ และความสามารถที่พร้อมจะเป็นตัวแทนของ “นางงามยุคใหม่” ที่สวยทั้งรูปลักษณ์ ความคิด และหัวใจ ต่อด้วยซีนอวดโฉมในชุดราตรี นี่แค่งานแถลงข่าวนะ วันประกวดจริงจะเต็มที่ขนาดไหนต้องไปชม วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 

โดย 2 PD “คุณคิม-คุณกบ” เปิดใจว่า “การประกวด มิสยูนิเวิร์สภูเก็ต ไม่ใช่เพียงแค่เวทีความงาม แต่เป็นพลัง Soft Power ที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล พร้อมเป็นโอกาสในการส่งเสริมศักยภาพของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะผู้หญิงไทยที่เปี่ยมด้วยความฝันและพลังสร้างสรรค์ แต่การจะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องได้รับแรงสนับสนุนจากทุกคน และขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า จังหวัดภูเก็ต ได้รับเกียรติจาก คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล และ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ให้เป็นเจ้าภาพเก็บตัว มิสยูเวิร์ส ไทยแลนด์ 2025 เตรียมงานต้อนรับผู้เข้าประกวดทั้ง 77 จังหวัด ต่อด้วยการต้อนรับผู้เข้าประกวด Miss Universe 2025 (มิสยูนิเวิร์ส 2025) ทั้ง 134 ประเทศ ทั่วโลก ผมจะทำให้เห็นว่าภูเก็ตของเรา ไม่ได้มีดีแค่ทะเล หรือแหล่งท่องเที่ยว แน่นอนครับ” 

สำหรับการประกวด Miss Universe Phuket 2025 จะเริ่มเก็บตัวทำกิจกรรมระหว่างวันที่ 20-24 พ.ค. โดยมุ่งเน้นให้เห็นถึงศักยภาพของผู้เข้าประกวดผ่านกฎเกณฑ์ 5 ข้อหลักๆ คือ รอบ The Gala โชว์ความเป็นตัวตนที่งดงาม / รอบ The Podium ความสามารถในการนำเสนอ ทักษะการพูด / The Project Pitching การนำเสนอโครงการส่งเสริมและต่อยอดสินค้าชุมชน ชิงเงินรางวัล 100,000 บาท/ การประกวดรอบ Preliminary  และ รอบตัดสิน (Final)  ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ณ โรงแรม เดอะ พาโก้ อ.เมือง จ.ภูเก็ต

#MissUniverseThailand2025 #MUTPHUKET #TheNewEraOfBEAUTYQUEEN

#TheNewEraofMUT #MGIxMUT #MissUniverseThailand

ติดตามทุกกิจกรรมได้จากช่องทาง Facebook : มิสยูนิเวิร์สภูเก็ต - Miss Universe Phuket

“บีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่” ภูมิต้องพร้อม ดูแลสุขภาพและผิวให้สดใสแข็งแรง

ขนาดซองพกพา จัดโปรซื้อคู่ถูกกว่า 2 ซอง เพียง 69 บาท ที่เซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขา

เดือนพฤษภาคมนี้ บริษัท บีไชน์ นูทริชั่น พลัส จำกัด ขอแนะนำโปรโมชั่นซื้อคู่ถูกกว่า “บีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่” วิตามินซีจากธรรมชาติ 100% แบบซองพกพาสะดวก ขนาด 5 เม็ด และแถมฟรีอีก 1 เม็ด ซื้อ 2 ซอง เพียง 69 บาท ปกติ 98 บาท และสมาชิก All Member รับ 1 เหรียญ สามารถซื้อบีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่ ภูมิต้องพร้อม ดูแลสุขภาพและผิวให้สดใสแข็งแรง ได้ตั้งแต่วันนี้ - 23 พฤษภาคม 2568 ที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ

“บีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่” (B Shine NaturC) วิตามินซีจากธรรมชาติ ด้วยสารสกัดอะเซโรลา เชอร์รี่ 1000 มก. เทียบเท่ากับผลอะเซโรลาเชอร์รี่สด 4000 มก. จากสวิตเซอร์แลนด์ ผสานคุณค่าจากสารสกัดผลไม้หลากหลายชนิด และยังเพิ่มปริมาณสารสกัดจากทับทิมมากถึง 70 มก. ซึ่งสารสกัดจากทับทิมนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยดูแลผิวพรรณให้แลดูสดใส และเหมาะสำหรับการดูแลสุขภาพในทุกวัน

“บีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่” มีสารสกัดที่มีประโยชน์จากผลไม้และผักหลากชนิด ส่วนประกอบสำคัญใน 1 เม็ด : ประกอบด้วย อะเซโรลา เชอร์รี่ สกัด 1000 มก.(เทียบเท่ากับผลอะเซโรลาเชอร์รี่ 4000 มก.), ซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ 100 มก., เบอร์รี่มิกซ์ 120 มก. (สตรอเบอร์รี่, บลูเบอร์รี่, ราสพ์เบอร์รี่, เอลเดอร์เบอร์รี่, แบล็คเคอร์เรนท์, เรดบีท), สารสกัดจากทับทิม 70  มก., สารสกัดจากเมล็ดลิ้นจี่ 23.75 มก., แคโรทีนอยด์ 7.5% 23.75 มก.

รับประทานเพียงวันละ 1 เม็ด หลังอาหารมื้อเช้าหรือเย็นทันที ช่วยเติมเต็มสิ่งดี ๆ ให้ร่างกาย เหมาะสำหรับทุกช่วงเวลา บีไชน์ เนเจอร์ซี ดีต่อผิวและสุขภาพ 

“บีไชน์” เราให้ความสำคัญกับการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพที่ดี ปลอดภัย และผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ทุกผลิตภัณฑ์มี อย. จากกระทรวงสาธารณสุขของไทย อยากให้ทุกคนสุขภาพดี ช่วยดูแลสุขภาพของคนไทยมากว่า 13 ปี เพื่อให้ทุกคนได้รับสิ่งดีๆ ในทุกวัน 

สามารถติดตามข่าวสาร และดูข้อมูลเพิ่มเติมของบีไชน์ เนเจอร์ซี สูตรใหม่ ได้ที่ www.bshine.co.th,
FB : https://www.facebook.com/BnpHealth และ Line : @Bshine