วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2568

เกาะลิบง จังหวัดตรัง ไม่ได้มีดีแค่เที่ยว แต่คือการเที่ยวแบบ “Meaningful Travel”

ลิบง เที่ยวด้วยใจ ให้มากกว่าที่ตาเห็น เทรนด์ใหม่ที่นักเที่ยวต้องเช็คอิน!!

ปัจจุบันการท่องเที่ยวกำลังกลับมาคึกคักอีกครั้ง และพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก นักท่องเที่ยวจำนวนมากกำลังมองหาที่พักผ่อนที่ไม่เพียงแค่เติมเต็มประสบการณ์การเดินทาง แต่ต้องช่วยให้พวกเขาได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับมิติความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม ไม่ได้เน้นการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการเดินทางที่ไปเพื่อเรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์  เน้นเที่ยวแบบมีความหมายไม่ใช่แค่การเติมเต็มความสุขให้ตัวเอง แต่ยังเป็นการสร้างโอกาส ความเปลี่ยนแปลงและความยั่งยืนให้กับชุมชนที่เราไปเยือน




การเที่ยวที่มากกว่าการท่องเที่ยว และเป็นการเติมเต็มชีวิตด้วยการท่องเที่ยวที่สร้างคุณค่าให้กับสังคม  บนเกาะลิบง จังหวัดตรัง จึงเป็นการตอบโจทย์นักท่องเที่ยวอีกหนึ่งสถานที่ที่พบว่า เป็นเกาะแห่งมนต์เสน่ห์ที่    อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ  เกาะที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในทะเลตรัง แหล่งชมนกทะเลหายาก มากด้วยหญ้าทะเลอันเป็นแหล่งอาหารของพะยูนฝูงใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ยิ่งไปกว่านั้น บนเกาะและรอบเกาะยังมีความหลากหลายของระบบนิเวศ มีพื้นที่ป่าดิบชื้น น้ำตก ชายหาด ป่าชายเลน ฯลฯ เป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวเน้นธรรมชาติที่ลดการปล่อยคาร์บอน 







โดยหากคิดถึงเกาะลิบง จุดเช็กอินที่นักท่องเที่ยวต้องไปสัมผัสด้วยตา เช่น หอชมพะยูน, สะพานหิน,   หาดหญ้าคา, สันหลังมังกร, ปืนเขาบาตูดูพะยูน, สำรวจร่องรอยประวัติศาสตร์ที่ถ้ำชาวเล, อุโมงค์ป่ายาง ซึ่งนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เกาะลิบงยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสน่ห์ทางวัฒนธรรมจากชุมชน  ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมพื้นถิ่น รสชาติท้องถิ่นกับเมนูข้าวยำ ที่สำคัญยังได้สนับสนุนการสร้างงานสร้างอาชีพภายในชุมชนอีกด้วย เพราะเกาะลิบงเป็นพื้นที่พัฒนาชุมชนแบบองค์รวมภายใต้โครงการ  “ลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา” งานด้านการพัฒนาสังคม ชุมชน และส่งเสริมการออม ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ภารกิจหลักของธนาคารออมสิน ในการเดินหน้าบทบาทการเป็นธนาคารเพื่อสังคม โดยมีเป้าหมายการพัฒนาเกาะลิบงครอบคลุมทุกมิติ รวมถึงการส่งเสริมอาชีพ/สร้างรายได้ และการท่องเที่ยวให้กับชุมชนด้วย เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้สามารถพึงพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสการท่องเที่ยววิถีใหม่  ที่ไม่ใช่เพียงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น และสร้างโอกาสทางอาชีพให้แก่คนในชุมชน พร้อมส่งเสริม  การกระจายรายได้จากเมืองหลักสู่พื้นที่ชนบท แต่เป็นการค้นหาความหมายของเกาะแห่งมนต์เสน่ห์ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และวิถีชุมชน เที่ยวที่นี่ต้องใช้หัวใจ ไม่ใช่แค่สายตา แล้วจะได้ประสบการณ์ที่ลึกและมีความหมายยิ่งขึ้น ในรูปแบบ“Meaningful Travel” ลิบง เที่ยวด้วยใจ ให้มากกว่าที่ตาเห็น 


สามารถดูรายละเอียดได้ทาง : https://ebookservicepro.com/showcase/2025/Libong/

วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ข่าว 7HD เดินหน้าลุย “เลือกตั้ง 69 อนาคตประเทศไทย”

เกาะติด เจาะลึก พร้อมรณรงค์ หยุดขายเสียง จุดเปลี่ยนประเทศ  

ข่าวช่อง 7HD เดินหน้าเปิดแคมเปญข่าวการเมืองครั้งสำคัญ “เลือกตั้ง 69 อนาคตประเทศไทย” เกาะติดสถานการณ์เลือกตั้งทั่วไปปี 2569 อย่างเข้มข้น ครอบคลุมทุกมิติ ทุกพื้นที่ และทุกเสียงของประชาชน พร้อมตอกย้ำบทบาทสื่อมวลชนมืออาชีพ นำเสนอข้อมูลอย่างถูกต้อง เป็นธรรม และน่าเชื่อถือ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของประชาชน พร้อมร่วมรณรงค์สร้างจิตสำนึก “หยุดขายเสียง จุดเปลี่ยนประเทศ” อย่างต่อเนื่อง

รับการเลือกตั้งแบบจัดเต็ม ช่อง 7HD ตอกย้ำบทบาทสื่อมวลชนคุณภาพ ส่ง ข่าว 7HD รายงานข่าวและสกู๊ปพิเศษด้านการเมืองแบบจัดเต็ม ภายใต้แนวคิด “เลือกตั้ง 69 อนาคตประเทศไทย” ตั้งแต่ช่วงก่อนยุบสภา ตลอดกระบวนการหาเสียง ไปจนถึงวันเลือกตั้งจริง โดยใช้เครือข่ายผู้สื่อข่าวทั่วประเทศ รายงานสถานการณ์ตรงจากทุกภูมิภาค สะท้อนภาพรวมการแข่งขันทางการเมือง นโยบายพรรคการเมือง บรรยากาศการเลือกตั้ง และประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างรอบด้าน ให้การเมืองเป็นเรื่องใกล้ตัว เข้าใจง่าย และเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น

การนำเสนอข่าวจะกระจายอยู่ในทุกช่วงข่าวหลักของช่อง 7HD ตลอดทั้งสัปดาห์ อาทิ เช้านี้ที่หมอชิต, สนามข่าว 7 สี, สนามข่าว 7 สี (เสาร์-อาทิตย์), ห้องข่าวภาคเที่ยง, ข่าวเย็นประเด็นร้อน, ประเด็นเด็ด 7 สี และข่าวเด็ด 7 สี พร้อมขยายการนำเสนอผ่านทุกแพลตฟอร์ม ทั้งหน้าจอโทรทัศน์และออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างทั่วถึง 

นอกจากนี้ ข่าว 7HD ยังผนึกกำลังนักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขา ร่วมวิเคราะห์ เจาะลึก และแลกเปลี่ยนมุมมองทางการเมืองในทุกประเด็นสำคัญ ควบคู่กับการทำหน้าที่ของทีมผู้ประกาศข่าวและผู้สื่อข่าวการเมืองชั้นนำของช่อง 7HD นำโดย บัญชา แข็งขัน รองผู้จัดการฝ่ายข่าว และปฏิบัติหน้าที่แทนผู้จัดการฝ่ายข่าว พร้อมด้วยทีมข่าวมากประสบการณ์ อาทิ สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา, กฤษดา นวลมี, เปรมสุดา สันติวัฒนา, เหมือนฝัน ประสานพานิช, ศจี วงศ์อำไพ, ภานุรัจน์ ศนีบุตร, เกณฑ์สิทธิ์ กันธจันทร์, กมลาสน์ เอียดศรีชาย, จีระนันท์ เขตพงศ์, สุคนธ์เพชร ผลประดิษฐานนท์, เจษฎา อุปนิ, อรรถพล ภิญโญ และทีมผู้สื่อข่าวประจำภูมิภาคทั่วประเทศ ร่วมสะท้อนมุมมองจากทุกพื้นที่อย่างรอบด้านแคมเปญ “เลือกตั้ง 69 อนาคตประเทศไทย” ยังอัดแน่นด้วยคอลัมน์และสกู๊ปพิเศษ อาทิ คอลัมน์  “เจาะสนามเลือกตั้ง” สรุปรายงานข่าวรอบวัน ช่วง เจาะก่อนเกม ที่เจาะความพร้อมก่อนลงเลือกตั้งของแต่ละพรรค และ เจาะบิ๊กแมตช์  ออกอากาศ เสาร์-อาทิตย์ รายการห้องข่าวภาคเที่ยง, เจาะคีย์แมน ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ ในรายการเจาะสนามเลือกตั้งสุดสัปดาห์ รวมถึงสกู๊ป “ไว้ใจได้กา(X)” ทุกวันจันทร์, พุธ และศุกร์ ในรายการสนามข่าว, เป็นปากเป็นเสียง เจาะลึกเข้มข้นจากทีมข่าวการเมืองบรรณาธิการข่าวการเมือง เศรษฐกิจ ภูมิภาค คนทั้งทางหน้าจอ ร่วมเจาะลึก และยังเปิดพื้นที่รับฟังเสียงประชาชนตัวจริงจากหลากหลายอาชีพและช่วงวัย สะท้อนเสียงของประชาชนซึ่งเป็นหัวใจของประชาธิปไตยออกอากาศทุกวันอังคาร-พฤหัสบดี ในรายการข่าวเย็นประเด็นร้อน,  รู้ก่อนเลือกตั้ง ออกอากาศทุกวันในรายการข่าวเด็ด, สนามเลือกตั้งสุดสัปดาห์  มาพร้อมกับการรายงานเนื้อหาสุดพิเศษ ครบถ้วนรอบด้าน ทั้งรายงานความเคลื่อนไหวประจำวัน และสรุปความเคลื่อนไหวทางการเมืองรอบวัน และรอบสัปดาห์ วิเคราะห์สถานการณ์ และเกาะติดเกมการเมืองอย่างต่อเนื่อง 

ขณะเดียวกัน ยังมี ละครคุณธรรม ที่เสนอเรื่องราวที่ประชาชนควรรู้ แนะนำสิทธิ หน้าที่ และการเตรียมตัวก่อนเข้าคูหาเลือกตั้ง โดยผู้ประกาศข่าวร่วมแสดง โดยจะออกอากาศช่วง 14 วันสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์  ทางช่อง 7HD กด 35 

สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว เลือกตั้ง 69 ได้ทาง ช่อง 7HD ดูทีวีกด 35 สดออนไลน์ BUGABOO.TV  และช่องทางออนไลน์ Ch7HD NEWS (Facebook, IG, Tiktok) 
Ch7HD (Facebook, IG, TikTok, X และ YouTube) และ เว็บไซต์  www.ch7.com

โบว์ เบญวรรณ อาร์ดเนอร์ – อ้น นพพันธ์ บุญใหญ่ นำทีมถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตผู้สูงอายุ ในละครสร้างสรรค์ “Return to Reset :

เมื่อชีวิตย้อนเวลากลับไป (ไม่) ได้?” ภายใต้โครงการ “Happy Me” สื่อสร้างสรรค์สร้างสังคมสูงวัยเชิงรุก   

วงการบันเทิงไทยเตรียมพบกับละครชุดแนว ดรามา – แฟนตาซี ที่ทั้งอบอุ่น ซึ้ง และชวนตั้งคำถามกับชีวิต กับผลงานเรื่อง “Return to Reset : เมื่อชีวิตย้อนเวลากลับไป (ไม่) ได้?” ละคร 5 ตอน ที่ได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง โบว์ เบญวรรณ อาร์ดเนอร์ รับบทคุณย่า “เนรัญชรา” และ อ้น นพพันธ์ บุญใหญ่ รับบทคุณปู่ “สาคร” พร้อมด้วยนักแสดงร่วม อาทิ กฤตภัทร ธนชิตบุริมนาถ ณัฐศิษฐ์ ไชยประสิทธิ์ และ พราว ทอแสงระพี มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของการเตรียมพร้อมชีวิตในแต่ละช่วงวัยสู่วัยชราที่ต้องเผชิญคำถามสำคัญของชีวิตและความสุข  




ผลงานเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Happy Me สื่อสร้างสรรค์สร้างสังคมสูงวัยเชิงรุก” ที่กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ผลักดันขึ้น เพื่อเปลี่ยนภาพจำของผู้สูงอายุในสังคมไทย จากความอ่อนแอและการพึ่งพิง ไปสู่การ “สูงวัยเชิงรุก” ที่ยังมีคุณค่า มีบทบาท และมีความสุขได้ในทุกช่วงชีวิต 

เนื้อหาของละครผสานความเป็นดรามาและแฟนตาซี ผ่านเรื่องราวของตัวละครที่ได้รับโอกาสย้อนกลับไปทบทวนอดีต เพื่อค้นหาคำตอบว่า ความสุขที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร โดยสอดแทรกแนวคิดเรื่องการเตรียมพร้อมชีวิตในทุกมิติ ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจ ความมั่นคง และความสัมพันธ์ในครอบครัว ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด Active Aging หรือการสูงวัยอย่างกระฉับกระเฉงและมีเป้าหมาย 

ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เปิดเผยว่า โครงการ Happy Me มุ่งสร้างการตระหนักรู้แก่ประชากรวัยทำงาน วัยเตรียมเกษียณ และผู้สูงอายุวัยต้น ให้เห็นความสำคัญของการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและมีความสุขในระยะยาว โดยใช้พลังของสื่อสร้างสรรค์เป็นตัวเชื่อม ลดช่องว่างระหว่างวัย และสร้างความเข้าใจร่วมกันในสังคม พร้อมตั้งเป้าหมายให้ผลงานเข้าถึงประชาชนมากกว่า 1,000,000 คน 

ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวว่า โครงการนี้สะท้อนบทบาทของสถาบันในการขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคม ผ่านสื่อที่เข้าถึงง่ายและมีพลังในการยกระดับคุณภาพชีวิต โดยเริ่มจากการสร้างความสุขทางใจและความอบอุ่นในครอบครัว ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมที่เข้มแข็ง 

 

ขณะที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร สจล. และอาจารย์ประจำวิทยาลัยการจัดการนวัตกรรมและอุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าโครงการ ระบุว่า “Return to Reset” ไม่ใช่เพียงละคร แต่เป็นการถ่ายทอดวิชาชีวิตผ่านตัวละครที่เป็นภาพแทนของผู้คนหลากหลายช่วงวัย ชวนผู้ชมตั้งคำถามกับตัวเองถึงความหมายของความสุข การดูแลกายใจ ความมั่นคง และการมีส่วนร่วมในสังคม ซึ่งล้วนเป็นหัวใจของการสูงวัยเชิงรุก  

นอกจากละครแล้ว โครงการ Happy Me ยังมีพ็อกเก็ตบุ๊ก “Grandpa’s Diary บันทึกรักของคุณปู่” ที่เล่าเรื่องชีวิตของปู่สาครในอีกมุมหนึ่ง ที่ชวนอบอุ่นหัวใจ รวมถึงบทเพลงประกอบละคร “จำได้ไหม” ประพันธ์และขับร้องโดยนักศึกษาหลักสูตร Creative Arts วิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต สจล. ขับร้องโดย โม – ขวัญฤทัย บูรณบุณย์ ที่ช่วยเติมอารมณ์และความหมายให้เรื่องราวยิ่งลึกซึ้ง เมื่อความสุขไม่ใช่ปลายทาง แต่คือการเริ่มต้นใหม่ “การย้อนเวลา” เป็นสัญลักษณ์ของการทบทวนชีวิตในแต่ละช่วงวัย ไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนอดีต แต่เพื่อเข้าใจและยอมรับเส้นทางชีวิตของตนเอง พร้อมค้นพบว่าความสุขที่แท้จริงอาจอยู่ใกล้ตัว และเริ่มต้นได้จากวันนี้ ความสุขไม่ใช่ปลายทางของชีวิต แต่เริ่มต้นได้จากการยอมรับตัวเอง ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ แและแบ่งปันพลังบวกนั้นสู่คนรอบข้างและสังคม

ละครชุด“Return to Reset : เมื่อชีวิตย้อนเวลากลับไป (ไม่) ได้?” เตรียมออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ NBT ทุกวันเสาร์ เวลา 13.00 น. เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม 2568 พร้อมชวนผู้ชมทุกวัยร่วมเดินทางค้นหาคำตอบว่า ชีวิตจะดีได้เสมอ หากเราเริ่มต้นใหม่กับตัวเอง เตรียมพบกับ ละครชุด Mini Series เรื่อง "Return to Reset : เมื่อชีวิตย้อนเวลากลับไป (ไม่)ได้?  เมื่อชีวิตจริงอาจไม่เป็นไปดังคาดหวัง  แม้เวลาจะผ่านเลยไป ไม่มีทางย้อนกลับ เราจะก้าวผ่านความทุกข์สร้างสุขในหัวใจได้อย่างไร ผลงานสร้างสรรค์เรื่องนี้ ชวนผู้ชมมาเตรียมพร้อมชีวิตให้มีความสุขอบอุ่นใจในทุกช่วงวัยจวบจนวันสุดท้ายของชีวิต  รับชมพร้อมกันทุกวันเสาร์ เวลา 13.00น. ทางสถานีโทรทัศน์ NBT เริ่ม เสาร์ที่ 20 ธันวาคม นี้  นำแสดงโดย โบว์ เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์, อ้น นพพันธ์ บุญใหญ่  และทีมนักแสดงคุณภาพ ผลงานนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ควบคุมการผลิตโดยผศ.ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 


ผลิตโดย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง #สจล. #KMITL       
https://youtu.be/wpfl3secFOU

คาเฟ่ แคลร์ (Café Claire) ณ โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ

คริสต์มาสปี 2025 ปีนี้พิเศษจริงๆ เพราะทีมงาน Voy-Y  มีโอกาสมาชิม Festive Afternoon Tea ที่ได้รับแรงบันดาลใจชุดน้ำชายามบ่ายธีมคริสต์มาสของเปิดประสบการณ์น้ำชายามบ่ายในธีมคริสต์มาสสุดน่ารัก เต็มอิ่มกับเทศกาลแห่งความสุข ช่วงบ่ายแห่งเทศกาลที่น่าจดจำ ณ คาเฟ่แคลร์ 




Festive Afternoon Tea เซตนี้ถูกรังสรรค์อย่างประณีตโดย เชฟเรมี เวอริเยร์ (Chef Remi Verrier) เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของปลายปีที่อบอุ่นหัวใจ ทั้งความสุข ความเงียบสงบ และความหมายอันลึกซึ้งของฤดูกาล ทุกเมนูจึงกลายเป็นถ้อยคำแห่งรสชาติ ที่ชวนให้เราใช้เวลาช่วงบ่ายอย่างผ่อนคลาย





เมนูของคาว เริ่มต้นด้วย Petite Gold Nest ที่ให้สัมผัสนุ่มนวลและกลมกล่อมในคำเล็ก ๆ ตามด้วย Golden Truffle Whispers ที่เผยมิติความหรูหราผ่านกลิ่นทรัฟเฟิลอันลุ่มลึก และ Royal Ember Duck ที่ชูรสนัวของเนื้อเป็ดเคล้ากลิ่นเครื่องเทศ




ของหวาน Snow-Kissed Tranquility สีขาวดุจหิมะบนยอดมะพร้าว พร้อมด้วย Festive Macaron (Morello Cherry) ที่ให้สัมผัสกรอบนอกนุ่มใน และความเปรี้ยวหวานแผ่วเบาของเชอร์รี่ที่เติมความสดใสให้เพดานปาก ทั้งสองชิ้นนี้ช่วยสร้างจังหวะที่อ่อนหวาน ทำให้แต่ละคำกลายเป็นเสี้ยวหนึ่งของความทรงจำที่อบอุ่นในบ่ายช่วงฤดูหนาว Luminous Embrace (Candle) คือผลงานที่ทั้งงดงามและเปี่ยมความหมาย ราวกับเทียนที่ส่องประกายท่ามกลางค่ำคืนคริสต์มาส ดั่งสัญลักษณ์แห่งความหวังและการเริ่มต้นใหม่  A Gift of Red Radiance เปรียบเสมือนของขวัญสีแดงที่มอบความยินดีและความปิติของฤดูกาล โอบล้อมบ่ายฤดูหนาวด้วยความละมุน  Enchanted Winter Wood (The Forest) ความแฟนตาซีมาในรูปของป่าสนพาจินตนาการให้เดินลึกเข้าสู่ป่าฤดูหนาว The Deer of Eden ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกวางเรนเดียร์แห่งเทศกาลคริสต์มาส ปิดท้ายด้วย Earl’s Blossom Scone การเดินทางผ่านรสชาติ ที่ค่อย ๆ พาเรากลับสู่ความสงบ อุ่น และอ่อนโยนของฤดูหนาวอีกครั้ง

จิบชาหอมกรุ่นในบรรยากาศอบอุ่นต้อนรับเทศกาลใหม่ บรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง พร้อมเสน่ห์แห่งฤดูกาล ลิ้มลองรสชาติที่ยอดเยี่ยม ช่วงเวลาอันแสนประทับใจ และความสุขในการต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขไปด้วย ชุดน้ำชายามบ่ายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทศกาลนี้ พร้อมให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มกราคม 2026 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการแบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสุขในวันหยุดกับคนพิเศษ

ดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งเทศกาล กับความพิเศษที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถัน  ต้อนรับด้วยคาราวานเมนูของหวานและของคาวที่คัดสรรมาเป็นพิเศษในธีมคริสต์มาส เสิร์ฟพร้อมชาคุณภาพเยี่ยมในบรรยากาศคาเฟ่สุดหรู ที่ช่วยเติมเต็มรสชาติแสนอร่อย ในบรรยากาศที่ชวนอบอุ่นหัวใจ ในช่วงเวลาแห่งความสุขยามบ่ายที่ประณีต เหมาะสำหรับการสังสรรค์และช่วงเวลาส่งท้ายปี




แวะมาสัมผัสประสบการณ์อันเหนือระดับ ท่ามกลางบรรยากาศแสนงดงาม พร้อมอร่อยกับชุดน้ำชายามบ่าย Festive Afternoon Tea ไฝด้ทุกวันที่More information contact 02 125 9080

Café Claire
Location: ชั้น 1 โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ (Oriental Residence Bangkok)

การประชุมวิชาการ 10th ABLS in AEC Symposium


เมื่อเร็ วๆ นี้ สมาคมแพทย์เลเซอร์ผิวหนังและชะลอวัยในอาเซียน (ABLS in AEC) เตรียมจัดการประชุมวิชาการประจำปีครั้งที่ 10 เพื่ออัปเดตองค์ความรู้ด้านเลเซอร์ เวชศาสตร์ชะลอวัย และนรีเวชเพื่อความงาม โดยรวมผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศและระดับอาเซียนมาร่วมแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีล่าสุดและมาตรฐานความปลอดภัยในการรักษา

นายแพทย์สถาพร จินารัตน์ผู้อำนวยการจัดงานกล่าวว่า "การสัมนาครั้งนี้มุ่งเน้น 4 สาขาหลัก ได้แก่ หัตถการเลเซอร์ผิวหนัง, การชะลอวัย, นรีเวชเพื่อความงาม, และ การเพิ่มศักยภาพทางเพศ ผ่านหัวข้อบรรยายที่ครอบคลุมทั้งเทคโนโลยีปัจจุบัน งานวิจัยใหม่ และแนวทางการดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ



ไฮไลต์เนื้อหาวิชาการ

-เลเซอร์ผิวหนัง (Laser Skin Procedures)

อัปเดตการเลือกใช้เลเซอร์ที่เหมาะกับผิวชาวเอเชีย การดูแล before/after treatment ลดความเสี่ยงการเกิดรอยดำ–รอยขาว พร้อมเทคนิคเปรียบเทียบระหว่าง fractional, ablative และ non-ablative รวมถึงการรักษารอยแผลเป็น คีลอยด์ รอยสิว และการกำจัดขนอย่างปลอดภัย

-เวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging Medicine)

เจาะลึกกลไกระดับเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับผิวเสื่อมวัย การใช้หัตถการกึ่งบุกรุก เช่น ร้อยไหม, Microneedling, RF, HIFU ตลอดจนความปลอดภัยของฟิลเลอร์และโบทูลินัมท็อกซิน นอกจากนี้ยังนำเสนอเทรนด์ใหม่ เช่น สเต็มเซลล์ เอ็กโซโซม และเปปไทด์

 -นรีเวชเพื่อความงาม (Aesthetic Gynecology)

ครอบคลุมการฟื้นฟูช่องคลอดด้วยเลเซอร์ CO₂, Er:YAG, RF และ HIFU การศัลยกรรมตกแต่งอวัยวะเพศ เทคนิคผ่าตัดและไม่ผ่าตัด การเลือกผู้ป่วย รวมถึงการแก้ปัญหาภาวะฝ่อและการกระชับอุ้งเชิงกรานแบบสหสาขา"





งานประชุม 10th ABLS in AEC Symposium ถือเป็นเวทีสำคัญสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในการพัฒนาทักษะ อัปเดตนวัตกรรม และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการรักษาคนไข้ในยุคที่เทคโนโลยีการแพทย์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

TSAG เปิดตัวสมาคมนรีเวชความงามแห่งแรกของไทย

นำ AI + Hyperspectrum ยกระดับการรักษาผู้หญิงสู่มาตรฐานสากล

นพ.สถาพร จินารัตน์ นายกสมาคม TSAG – Thai Society of Aesthetic Gynecology เปิดเผยว่า “TSAG ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางองค์ความรู้ด้าน Aesthetic Gynecology ของประเทศไทยและของโลก เรามุ่งเน้นข้อมูลที่ถูกต้อง เทคนิคที่ปลอดภัย และการใช้เทคโนโลยีใหม่อย่างมีมาตรฐาน เพื่อให้แพทย์ไทยสามารถให้การรักษาที่ดีที่สุดแก่ผู้หญิงทุกคน”

นอกจากนี้ยังกล่าวว่า “การนำ AI และ Hyperspectrum Technology มาประยุกต์ใช้ ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการนรีเวชความงาม เพราะช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาแม่นยำขึ้น และทำให้ผู้รับบริการเข้าใจผลลัพธ์ล่วงหน้าก่อนตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น”


TSAG: สมาคมนรีเวชความงามแห่งแรกของไทย
สมาคม TSAG เปิดตัวขึ้นเพื่อยกระดับการรักษาความงามทางนรีเวชของไทยสู่ระดับสากล โดยมองว่าการดูแล “Aesthetic Gyn” ไม่ใช่แค่การปรับรูปทรง แต่เป็นการดูแลผู้หญิงแบบองค์รวม ทั้งด้านความมั่นใจ สุขภาพทางเพศ ความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ และสุขภาพจิตโดยรวม

การก่อตั้งสมาคมเกิดจากปัญหาสำคัญ 3 ประการ ได้แก่

1. ประเทศไทยยังไม่มีศูนย์กลางองค์ความรู้ด้านนี้

2. ประชาชนขาดข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้

3. ประเทศไทยยังขาดนวัตกรรมทางการแพทย์ที่โดดเด่นในสาขา Aesthetic Gynecology

ก้าวใหม่ของไทย: AI CONSULT + Hyperspectrum Imaging ไฮไลต์สำคัญของงานเปิดตัว คือ “AI Predictive Outcome” นวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้รับบริการเห็นผลลัพธ์ล่วงหน้าเสมือนจริง ผ่านเทคโนโลยีหลัก ได้แก่:

Hyperspectrum Imaging วิเคราะห์ความหนาของผิว การไหลเวียนเลือด และสภาพเนื้อเยื่อได้หลายช่วงสเปกตรัม ละเอียดกว่าตาเปล่า

AI Treatment Suggestion ประเมินตำแหน่ง–ปริมาณการฉีด เลือกเครื่องมือ Energy-based ที่เหมาะสม หรือแนะนำการผ่าตัดหากจำเป็น

Predictive Simulation จำลองผลลัพธ์หลังทำหัตถการ เช่น ฟิลเลอร์หรือผ่าตัด ตรงตามความต้องการผู้รับบริการมากขึ้น ลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยพัฒนาแอปพลิเคชัน AI สำหรับประชาชน

TSAG ยังพัฒนา Application AI สำหรับประชาชน เพื่อให้เข้าถึงการดูแลด้านนรีเวชความงามได้ง่ายขึ้น ประกอบด้วย

– AI Consult วิเคราะห์ปัญหาเบื้องต้น

– คำแนะนำที่ถูกต้องตามหลักการแพทย์

– ระบบจองคิวพบแพทย์เฉพาะทางทั่วประเทศ

– รองรับหลายภาษา ตอบโจทย์ Medical Tourism  Roadmap 2569–2571

2569: เปิดตัวแอป AI Consult V1 + เปิด Beta Hyperspectrum Imaging

2570: เชื่อมต่อโรงพยาบาลและคลินิกทั่วประเทศ พร้อมเปิดตัว AI V2

2571: ยกระดับเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการแพทย์ไทย และพัฒนา Medical Software
เชื่อมกับเครื่องมือ AG หลายชนิด TSAG มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลาง AG ของเอเชีย








การเปิดตัวสมาคม TSAG ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของประเทศไทย ในการพัฒนามาตรฐานการรักษาความงามทางนรีเวชและผลักดันให้ไทยก้าวเป็นศูนย์กลาง Medical Hub ด้าน Aesthetic Gynecology ของภูมิภาคเอเชียและในระดับสากล

ข่าวประชาสัมพันธ์

เกาะลิบง จังหวัดตรัง ไม่ได้มีดีแค่เที่ยว แต่คือการเที่ยวแบบ “Meaningful Travel”

ลิบง เที่ยวด้วยใจ ให้มากกว่าที่ตาเห็น เทรนด์ใหม่ที่นักเที่ยวต้องเช็คอิน!! ปัจจุบันการท่องเที่ยวกำลังกลับมาคึกคักอีกครั้ง และพฤติกรรมของนักท่...

โวยวายดอทคอม