วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2568

สตาร์ทวันนี้ !! Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025

ครบทั้งสินค้า บริการสุขภาพ สปา &เวลเนส  วันที่ 26-29 มิ.ย.นี้  ไบเทค บางนา คาดเงินสะพัด 120 ลบ. 

เปิดตัววันแรกกับงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 งานเดียวที่รวบรวมสินค้าสุขภาพ  เครื่องมือแพทย์  เวชภัณฑ์  อาหารเสริม  อุปกรณ์ฟิตเนส  เทคโนโลยีทางการแพทย์  อาหารเพื่อสุขภาพ  สปา และเวลเนสที่ครบวงจรที่สุด พร้อมใจมาจัดโปรโมชั่นพิเศษกลางปีรวมกว่า 170 บูธ ตอบโจทย์คนรักสุขภาพและผู้สนใจลงทุนด้านสุขภาพและเวลเนส  ครบเครื่องด้วยกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ  รวมทั้งเสวนาให้ความรู้จากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและต่างประเทศ ที่มาร่วมแบ่งปันองค์ความรู้และอัพเดทเทรนด์สุขภาพระดับโลก  งานจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 29 มิถุนายนี้ ณ ฮอลล์ 101 ไบเทคบางนา  คาดเม็ดเงินสะพัดในงานกว่า 120 ล้านบาท 


หม่อมหลวง ภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  กล่าวว่า  "งาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 เป็นเวทีสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมเวลเนส และสุขภาพของประเทศไทย  ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราทุกคนได้เห็นพัฒนาการและการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของอุตสาหกรรม Wellness & Healthcare ทั้งจากกระแสความใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภคทั่วโลก และการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมหลังยุคโควิด-19   ประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพสูงในอุตสาหกรรมนี้ จากข้อมูลล่าสุด อุตสาหกรรม Wellness & Healthcare ของไทย มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1.2 ล้านล้านบาท และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 6-8% ต่อปี สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสมหาศาลสำหรับผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ให้ความสำคัญกับการผลักดันอุตสาหกรรม Wellness & Healthcare ให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง โดยการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทุกภาคส่วน และนำผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดกรองและเวิร์กช้อปเตรียมความพร้อม 30 ธุรกิจเข้าร่วม ทางด้าน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้คัดสรรวิสาหกิจชุมชนและนิคมอุตสาหกรรมที่มีผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพ และผ่านตราสัญลักษณ์ EEC SELECT ในพื้นที่ 3 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เข้าร่วมงานรวมกว่า 30 ผู้ประกอบการ และสถาบันการเงินชั้นนำ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทย สามารถเข้าถึงแหล่งทุน เครื่องมือทางการเงิน และโอกาสทางการตลาดได้มากยิ่งขึ้น  การจัดงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 ในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดี ที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการไทย ได้แสดงศักยภาพของสินค้าและบริการ ได้พบปะจับคู่ธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงเปิดโอกาสในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจใหม่ๆอีกด้วย" 

ด้านนางสาวณรินณ์ทิพ  วิริยะบัณฑิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ให้รายละเอียดการจัดงานในครั้งนี้ว่า "งาน Thailand Wellness &Healthcare Expo 2025 เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน  อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, SME D Bank, EXIM Bank, บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม, สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC), สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ที่ร่วมกันสร้างเวทีนำเสนอศักยภาพของธุรกิจสุขภาพและเวลเนสไทย  สู่ศูนย์รวมนวัตกรรม บริการ และผลิตภัณฑ์สุขภาพแบบครบวงจร ผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางด้านเวลเนสและสุขภาพในภูมิภาคอาเซียน"

ภายในงานท่านจะได้พบกับผลิตภัณฑ์ สินค้า และบริการ ที่มีความโดดเด่นและน่าสนใจรวมกว่า 170 บูธ ได้แก่ ควอนตัมเมด, เครื่องสแกนร่างกาย 3 มิติจากชีวาโน่, โปรแกรมตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต, คลินิกชะลอวัย 120 Wellness Villa Clinic, โรงพยาบาลรามาธิบดี,  ทีเอฟ คอสเมโทโลจี, นวัตกรรมสกินแคร์จาก EEC, กาแฟข้าวหลามจาก EEC, คลินิกแพทย์แผนไทย อนันตา เวลเนส, ผลิตภัณฑ์จากไม้กฤษณาที่โด่งดังจากพื้นที่ EEC และผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาชุมชน ,Jin Wellbeing Country, จำหน่ายเครื่องมือแพทย์จากเมตา เอสเทติก, มาราธอน , Eco Lifestyle Fitness เป็นต้น  ที่สำคัญยังมีบูธดาวเด่นด้านสุขภาพ เวลเนส และสปา จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามาเสริมทัพในงานด้วย 

ที่สำคัญงานนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขยายคู่ค้าเปิดตลาดเพิ่มด้วยกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เช่น จีน อินเดีย และญี่ปุ่น   อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือกิจกรรมเสวนาเจาะลึกเทรนด์สุขภาพจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย ตลอดจน Influencer ด้านสุขภาพชื่อดังทั้งไทยและต่างชาติ มาอัปเดตองค์ความรู้ต่อเนื่องตลอดงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฮอร์โมน ยีนส์ วัยทอง สเต็มเซลล์ หรือเทคโนโลยีการรักษาโรคแห่งโลกอนาคต 

“เราเชื่อมั่นว่างาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 ในครั้งนี้จะไม่เป็นเพียงแค่งานแสดงสินค้าสุขภาพและเวลเนสเท่านั้น  แต่จะเป็นเวทีเชื่อมโยงคนรักสุขภาพ ผู้ประกอบการ และนักลงทุน ได้มาสร้างแรงบันดาลใจ อัพเดทองค์ความรู้  เทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมทั้งยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างเครือข่ายพันธมิตรอีกด้วย  โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดภายในงานกว่า 120 ล้านบาท  อีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสุขภาพและเวลเนสไทยให้ผงาดสู่แถวหน้าในภูมิภาคอาเซียนต่อไป” นางสาวณรินณ์ทิพกล่าวทิ้งท้าย



ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 ได้ฟรีไม่มีคาใช้จ่ายตลอดทั้ง 4 วัน  โดยสามารถลงทะเบียนเข้างานและจองที่นั่งฟังสัมมนาฟรีในงานได้ที่ลิงค์  https://eventpassinsight.co/el/to/TWHE02   

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 086-314-1482

วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568

MK GROUP คว้ารางวัล Gallup Exceptional Workplace Award ประจำปี 2568

ธุรกิจเชนร้านอาหารรายแรกและรายเดียวของไทยที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรระดับโลก

บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MK GROUP ผู้นำตลาดสุกี้และเชนร้านอาหารชั้นนำในประเทศไทย คว้ารางวัล Gallup Exceptional Workplace Award 2025 ในฐานะ Engagement Winner ถือเป็นจุดหมายสำคัญที่สะท้อนว่าองค์กรให้ความสำคัญกับพนักงานอย่างแท้จริง โดยใช้ข้อมูลเรื่องกลยุทธ์ด้านความผูกพันและจุดแข็งของบุคลากรในการขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ทั้งยังเป็นธุรกิจเชนร้านอาหารรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 จากจำนวน 62 องค์กรชั้นนำทั่วโลกที่ได้รับรางวัลโดย The Gallup Organization บริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับทรัพยากรบุคคลระดับโลก ซึ่งมีความชำนาญและประสบการณ์ด้านการสำรวจความผูกพันองค์กรของพนักทั่วโลกมายาวนานกว่า 90 ปี ปัจจุบันมีฐานลูกค้ากว่า 2 ล้านบริษัทฯ และมีผลงานเป็นที่ยอมรับทั่วโลก

ทั้งนี้เกณฑ์ที่ใช้ในการตัดสินรางวัล มีที่มาจากการสำรวจความผูกพันขององค์กร, คะแนนเฉลี่ยของพนักงานทั้งบริษัทฯ ที่จำนวนพนักงานมากกว่า 5,000 คนขึ้นไป เฉลี่ยที่ 4.20 คะแนน, ผลการสำรวจที่ต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ครั้ง และอัตราการเข้าร่วมตอบแบบสอบถามอย่างน้อย 80% ขึ้นไป นอกจากนี้ยังพิจารณาจากนโยบายด้านทรัพยากรมนุษย์และกิจกรรมต่าง ๆ ขององค์กรที่พยายามสร้างความสุขและความผูกพันอย่างต่อเนื่องในรูปแบบที่ทำได้จริงอย่างเห็นผลชัดเจน

ซึ่งรางวัลนี้แสดงให้ว่า MK Group ให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคนในองค์กร โดยมุ่งสร้างความสุขและความผูกพัน รวมทั้งตอบสนองต่อความต้องการที่แตกต่างกัน การยอมรับฟังความคิดเห็น การปรับเปลี่ยนองค์กรให้ทันสมัยตลอดเวลา การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ การสร้างโอกาสความก้าวหน้าในหน้าที่งาน ตลอดจนการปลูกฝังค่านิยม และสร้างวัฒนธรรมแบบครอบครัวสไตล์ MK Group มายาวนานกว่า 39 ปี ตอกย้ำความเชื่อเรื่องความผูกพันของพนักงานที่มีต่อบริษัทฯ จะเป็นปัจจัยและกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

โดยได้รับเกียรติจากทาง บริษัท แกลลัพ จำกัด (The Gallup Organization) นำโดย คุณเทค ลี (Taek Lee) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และ คุณกันนิกา ซิงห์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็นผู้มอบรางวัลในครั้งนี้ โดยมี คุณแคทลียา ธีระโกเมน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับมอบ

“Charisma Intelligent” อัจฉริยภาพแห่งคุณค่า พลัง (เสน่ห์)


“Charisma Intelligent” อัจฉริยภาพแห่งคุณค่า พลัง (เสน่ห์) ของผู้นำในยุคโลกเปลี่ยน Joy Luck Club Film House จับมือพันธมิตร G-Intelligent และ Ultima Studyo  เปิดเคล็ดลับ ‘คลับค้นสุข’ ปลุกพลังผู้นำสร้างสรรค์ ใน Charisma Intelligent


Joy Luck Club Film House  บริษัทผู้ผลิตผลงานสร้างสรรค์ด้านโปรดักชั่นภาพยนตร์ไทย ภาพยนตร์โฆษณา และคอนเทนต์คุณภาพสูงที่มีประสบการณ์คุณภาพกว่า 21 ปี ที่ได้รับการยอมรับจากเอเจนซีชั้นนำและแบรนด์ระดับโลก ถือเป็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Joy Luck Club Film House ไม่หยุดนิ่ง เตรียมขยายแฟลตฟอร์มในการผลิตและสร้างสรรค์งานนวัตกรรมคอนเทนต์  (Innovation Content Platform) ในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น โดยการจุดประกายร่วมกันระหว่าง G-Intelligent (จี-อินเทลลิเจ้นท์) นวัตกรรมสื่อสร้างสรรค์ ที่มองเห็นไอเดียการนำศักยภาพของการขับเคลื่อนพลังดีๆ ต่อยอดคลับค้นสุข ร่วมกันกับ Ultima Studyo (อัลติม่า สตั๊ดดิโอ) ที่มี อาจารย์ลูกปืน อินทเดช พิทักษ์สรยุทธ  ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์ของ Charisma ที่ออกแบบศาสตร์แห่งคาริสม่า ในรูปแบบ Exclusive Class ภายใต้หลักสูตร  Charisma Intelligent ในโครงการ Joy Luck Club คลับค้นสุข
 

โดยทั้งนี้ทาง ดร.แจว ชนะใจ ต้นไทรทอง CEO บริษัท Joy Luck Club Film House และประธานโครงการ Joy Luck Club คลับค้นสุข ได้กล่าวถึง โครงการ Joy Luck Club คลับค้นสุข กับการเปิดปรากฏการณ์นวัตกรรมคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์และน่าสนใจในยุคโลกเปลี่ยนแปลงสูง ครั้งนี้ว่า

“ Joy Luck Club เราเป็น Production House ที่สร้างสรรค์งานภาพยนตร์ ภาพยนตร์โฆษณา สารคดี ซีรีส์ ละคร มาต่อเนื่อง 21 ปี และกำลังก้าวสู่การสร้างนวัตกรรมคอนเทนต์ (Innovation Content Platform) ในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าในทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยเชื่อมั่นว่าเมื่อโลกเปลี่ยน การพัฒนาศักยภาพการทำงาน รวมถึงการสร้างสมดุลย์ชิวิตต้องเปลี่ยน เราจะทำอย่างไรให้การเรียนรู้ให้เท่าทันหรือก้าวกระโดดไปข้างหน้า เมื่อได้มีโอกาสได้ต่อยอดพูดคุยกับพันธมิตร อย่าง G-Intelligent ที่มีจุดเด่นเรื่องการสร้างนวัตกรรมสื่อด้านแรงบันดาลใจ และมีกลุ่มเครือข่ายด้านต่างๆ ในการขับเคลื่อนคอนเทนต์ กับ  Ultima Studyo ที่จะนำศาสตร์ ‘Charisma Intelligent’ ที่เป็นหลักสูตรในการสร้างอัจฉริยภาพแห่งคุณค่า ส่งเสริมพลัง (เสน่ห์) ให้กับผู้นำในยุคโลกเปลี่ยน ซึ่งถือเป็นอีกก้าวที่น่าสนใจและพัฒนาต่อยอดในอนาคต เราต้องการนำเสอนและสร้างสรรค์ผู้นำที่มีทั้งวิสัยทัศน์  ที่พร้อมเป็น Change Agent ผู้นำการเปลี่ยนแปลงในโลกที่เปลี่ยนเร็วเกินคาดค่ะ

H = Happiness การเชื่อมโยงกับพลังเครือข่ายแห่งการแบ่งปันความสุข ในคลาสนี้ ได้ชวน Joy Happiness Leader  ดารา นักแสดงในด้าน Happiness ที่นอกเหนือจากบทบาทของดารา นักแสดง ที่ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ สังคมส่งเสริมพลังดีๆ อย่างต่อเนื่องกว่าสิบปีมาด้วยกัน อย่างพี่ไมค์ พลภัทร เวลส์ช เจ้าของ Mike Life Together ที่เชื่อมโยงกิจกรรมดีๆ กับเครือข่ายสองล้อ ชุมชนต่างๆ และคุณเอ สุรพันธ์ ชาวปากน้ำ เจ้าของ เพจ เอส่งสุข ที่ ทำโปรเจ็คต่างๆ อย่าง HERO Pattaya Save The Wild Protect The Sea และ กิจกรรมการส่งความสุข ในแบบฉบับของเอ โดยที่ ทั้ง พี่ไมค์และคุณเอ ถือเป็นผู้มีส่วนร่วมที่เป็น Jigsaw สำคัญ ใน Charisma Intelligent คลับค้นสุข ในทุกคลาสอีกด้วย 

ด้าน A - Amazing together โดยในคลาสนี้ จะเป็นการคัดสรรผู้ร่วมสร้างสรรค์ สื่อสาร นวัตกรรมสื่อ สู่ความยั่งยืน รวมถึงผู้ร่วมคลาส จะได้รับคามสุขครั้งนี้ไปด้วยกัน แบบคาดไม่ถึง ในกลุ่มนี้จะเป็น กลุ่มสื่อสร้างสรรค์ , สื่อมวลชน , นักคิด , ดีไซน์เนอร์ หรือผู้จุดประกายที่สร้างสรรค์ มาร่วมสร้างพลังดีๆ ไปด้วยกัน  และด้าน I = Innovation กับพันธมิตรนวัตกรรมสื่อ ไม่ว่าจะเป็น Cyberrex Design , NEX Studio และกลุ่มต่างๆ รวมถึง ด้าน I = Inspirator กลุ่มคนสร้างแรงบันดาลใจ ของคนในด้านต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็น หมอล็อต น. สพ. ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์สัตว์ป่า หมอรักษาช้าง ที่เป็นแรงบันดาลใจจุดเริ่มต้นของอาชีพสัตวแพทย์หลายๆ ท่าน รวม ครูอาสา , เภสัชกรอาสา และอีกหลายบทบาทหน้าที่ขับเคลื่อนสังคมให้เกิดพลังดีๆ ของ G-Intelligent รวมถึง Inspirator  ผู้เชี่ยวชาญด้าน Charisma อย่างคุณลูกปืน อินทเดช พิทักษ์สรยุทธ  เป็นผู้ขับเคลื่อนแรงบันดาล ที่นำคลาส Charisma Intelligent มาปลุกไอเดียสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจให้เกิดผลลัพธ์หรือผลประโยชน์ที่ผู้เรียนรู้หลักสูตรในการสร้างแรงดึงดูด (เสน่ห์) เพื่อสะท้อนคุณค่าและมูลค่าของตัวผู้เรียน ไว้สำหรับเป็นต้นทุนของการเริ่มและต่อยอดคอนเนคชั่นได้เป๊นอย่างดี เรียกได้ว่า คลาสนี้จะยิ่งเป็นพลังขับเคลื่อนด้วยคนทั้ง 4 ด้านสร้างความเป็นเสน่ห์ในความเป็น T H A I ไปด้วยกันสัมฤทธิ์ผลในมุมสื่อสารและสร้างสรรค์ได้ดียิ่งขึ้นค่ะ” กบ สุรดา กล่าว 

สำหรับ Joy Luck Club Film House การเปิดโครงการ Joy Luck Club คลับค้นสุข ในคลาส Charisma Intelligent นี้ถือเป็นความพิเศษที่จะเชื่อมโยงไปถึงโอกาสในการปลุกพลังสร้างสรรค์ของผู้บริหารยุคใหม่ไปด้วยกันค่ะ” ดร. แจว ชนะใจ ต้นไทรทอง กล่าว  สุรดา  กาญจนภัคพงค์ ในบทบาท นักกลยุทธ์สื่อสารสร้างสรรค์ นวัตกรรมความยั่งยืน กล่าวถึงการต่อยอด Charisma Intelligent ครั้งนี้ว่า 

“สำหรับคลาส Charisma Intelligent นี้ ถือเป็นการเชื่อมโยงกับจุดแข็งของ G-Intelligent ที่กลยุทธ์  T H A I  การสร้างความเป็นไทยไปด้วยกัน ที่มีพันธมิตรเครือข่ายทั้ง 4 ด้าน มาเรียนรู้และพัฒนา ในคลาสแรกไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นด้าน

 T = Talent Management  ที่เป็นเครือข่าย องค์กร กลุ่มคน หรือคนที่เก่ง ดี มีคุณธรรม มาเรียนรู้เพื่อขับเคลื่อนสังคม ชุมชน ไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Joy Luck Club Film House , สถาบันการศึกษา , องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ที่อยากขับเคลื่อนสังคมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

ปิดท้ายด้วยหัวใจของ Charisma Intelligent จาก อาจารย์ลูกปืน อินทเดช พิทักษ์สรยุทธ ผู้ก่อตั้ง Ultima Studyo และประธานหลักสูตร กล่าวถึงคลาสนี้ว่า

  “ผู้บริหารและคนรุ่นใหม่ในโลกปัจจุบันให้ความสนใจในการพัฒนา ที่ผู้นำไม่ใช่แค่ ‘บริหารเก่ง’  แต่ต้องเป็นผู้ ‘สร้างแรงบันดาลใจ’ ,  ‘เข้าใจตนเองลึกซึ้ง’ การพัฒนา Charisma Intelligent หรือ ‘อัจฉริยภาพแห่งเสน่ห์’ จึงกลายเป็นศาสตร์ใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้นำการเปลี่ยนแปลง โดยสูตรลับ 4-7-12-12  ในคลาสนี้ใช้เวลาออกแบบกว่า 5 ปี และผ่านการทดลองจริงกับผู้บริหารหลากหลายวงการ โดยใช้หลักการ 3X Tool  Exploring – สำรวจตัวตนภายใน, Exposure – เปิดเผยจุดแข็ง , Expression – แสดงพลังเฉพาะตัว ที่สามารถเรียนกับผู้เชี่ยวชาญและตอบโจทย์ให้ตรงประเด็นในประสิทธิภาพของพลังของบุคคลนั้นได้ในสูตรนี้ครับ”  อาจารย์ลูกปืน อินทเดช พิทักษ์สรยุทธ กล่าว

สำหรับใครที่สนใจร่วมเปิดประสบการณ์ในคลาส Charisma Intelligent  โครงการ Joy Luck Club คลับค้นสุข พื้นที่เรียนรู้ใหม่ ที่เน้นการบ่มเพาะความเป็น ผู้นำผ่านศาสตร์ผสานพลังจากภายใน ไปจนถึงกลยุทธ์นวัตกรรมการสื่อสารและสร้างสรรค์ โดย Charisma Intelligent เสน่ห์ไม่ใช่สิ่งที่สร้างขึ้น แต่มันคือพลังที่คุณมีอยู่แล้ว  เหมาะสำหรับ: ผู้บริหาร นักธุรกิจ นักสร้างแบรนด์ เจ้าของกิจการ ผู้นำการเปลี่ยนแปลง หรือผู้ที่สนใจ ในคลาสเดือนกรกฎาคมนี้ในราคาพิเศษ  สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Joy Luck Club Film House โทร. 02 286 1545  / โปรดิวเซอร์โครงการ คุณกัญญาภัทร 092 353 9391

📌 สนใจสมัครหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม:

📞 โทร: 092 353 9391

📩 อีเมล: info@joyluckclub.co.th

🌐 Facebook: Joy Luck Club Film House

GAC AION ประกาศเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง "AION UT"


"AION UT"ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะครบครันเพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่และเปิดบทใหม่ของวงการยานยนต์ไฟฟ้าในตลาดไทย 

พบกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ของ AION UT รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดจาก GAC Group บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลก โดย AION UT ถือเป็นแบรนด์ยานยนต์พลังงานใหม่ชั้นนำจากประเทศจีน ภายใต้แนวคิด “Let’s Play” ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ผู้รักอิสระ ชอบความสนุก และมองหานวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อยกระดับทุกการเดินทาง”



AION UT มาพร้อมดีไซน์ “Futuristic Minimalism” แรงบันดาลใจจากเมืองมิลาน ผสานศิลปะเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมกำหนดมาตรฐานใหม่แห่งยนตรกรรมไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมเสริมด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัจฉริยะ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ระดับ L2 และฟังก์ชันความปลอดภัยที่ครบครัน อีกทั้งยังรองรับการชาร์จเร็วจาก 30%-80% ในเวลาเพียง 24 นาทีและวิ่งได้ไกลถึง 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)

ราคาเปิดตัว AION UT ทรง Hatchback 5 ประตูในครั้งนี้ เปิดตัวด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ 

● AION UT รุ่น 420 Standard ราคาจำหน่าย 519,900 บาท (ราคาพิเศษ 499,900 บาท)* 

● AION UT รุ่น 500 Premium ราคาจำหน่าย 669,900 (ราคาพิเศษ 649,900 บาท)*

*จำหน่ายในราคาพิเศษตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 กรกฎาคม พ.ศ.2568

● AION UT มอบการอัปเกรดใหม่ให้ลูกค้าโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่เพิ่มคุณค่าและตอบโจทย์การใช้งานจริง

โดยคุณหลุยส์ หลิว (Mr. LOUIS LIU) ตำแหน่ง Vice President of AION Automobile Sales (Thailand) กล่าวว่า

เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง AION ด้วยการอัปเกรดฟีเจอร์สำคัญให้กับ AION UT ทั้งรุ่น Standard และ Premium โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าสูงสุดในการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้แก่ 6 การอัปเกรดสำคัญสำหรับ AION UT รุ่น 420 Standard:

1.ระยะทางขับขี่เพิ่มขึ้นจาก 400 กม. เป็น 420 กม.

ช่วยให้ลูกค้าในพื้นที่นอกเขตกรุงเทพฯ เดินทางได้เพิ่มขึ้นอีก 1 วันโดยไม่ต้องชาร์จ และสำหรับลูกค้าในเมืองก็สามารถขับขี่ทั้งสัปดาห์ด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว

2.ระบบป้องกันการหนีบของกระจกไฟฟ้าจากเดิมมีเฉพาะคู่หน้า ปรับเพิ่มให้ครบ 4 บานสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหลัง เพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งครอบครัว

3-4. ที่พิงศีรษะตรงกลางและที่เท้าแขนพร้อมที่วางแก้วในเบาะหลัง เพื่อเสริมความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารตอนหลัง

5.V2L Output Power เพิ่มจาก 2.2 kW เป็น 3.3 kWเพื่อให้ใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดพร้อมกัน เช่น เตาอบ ตู้เย็น พัดลม เหมาะสำหรับกิจกรรมแคมป์ปิ้ง

6.DC Fast Charging เพิ่มจาก 60 kW เป็น 70 kW ทำให้ชาร์จได้ไวขึ้นและประหยัดเวลาได้มากขึ้น




4 การอัปเกรดหลักสำหรับ AION UT รุ่น 500 Premium:

1.สมรรถนะดีขึ้นอย่างชัดเจนอัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. เร็วขึ้นจาก 8.3 วินาที เหลือ 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุดเพิ่มจาก 150 กม./ชม. เป็น 160 กม./ชม.

2.แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สายเร็วขึ้นจาก 20W เป็น 50W ทำให้ชาร์จได้รวดเร็วมากขึ้น

3.V2L Output Power เพิ่มเป็น 3.3 kW เพื่อให้ใช้งานไฟฟ้าได้หลากหลายมากขึ้น

4.DC Fast Charging เพิ่มเป็น 80 kW ชาร์จได้เร็วกว่า ช่วยลดเวลารอที่สถานีชาร์จ

พิเศษ! สิทธิประโยชน์รวม 9 รายการ* สำหรับลูกค้าที่จองรถช่วงเปิดตัว

นอกจากการอัปเกรดฟีเจอร์แล้ว เรายังมอบสิทธิพิเศษเพิ่มเติมให้กับลูกค้า AION UT เพื่อสร้างความมั่นใจ และความสะดวกสบายในการเริ่มต้นใช้งาน ดังนี้:

1.ข้อเสนอพิเศษ ดาวน์เริ่มต้นเพียง 8,888 บาท ผ่อนรายวันต่ำสุดเพียง 180 บาท

2.รับประกันแบตเตอรี่ และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบรวม 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) , รับประกันตัวรถยนต์ 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)

3.ฟรีอินเทอร์เน็ตบนรถยนต์ 2GB ต่อเดือน นาน 2 ปี สำหรับระบบความบันเทิงภายในรถ

4.บริการอัปเกรดระบบซอฟต์แวร์ OTA บนรถยนต์ตลอดอายุการใช้งาน

5.บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนฟรี 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 8 ปี

6.ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 1 ปีพร้อมบริการจดทะเบียนครบวงจร

7.ฟรีตรวจเช็คระยะครั้งแรก

8.ฟรีแพ็กเกจของตกแต่ง: ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์และพรมปูพื้น

9.โปรโมชันพิเศษสำหรับอุปกรณ์ตกแต่งแท้และอุปกรณ์เสริม ส่วนลดสูงสุดถึง 6,000 บาท เช่น Wall Charger พร้อมบริการติดตั้ง, อุปกรณ์ V2L, ปืนชาร์จพกพาแบบ EU, ชุดสเกิร์ตรถยนต์ และอื่น ๆ (สิทธิประโยชน์นี้มีจำนวนจำกัด สำหรับผู้ที่จองภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2568 เท่านั้น)

การเป็นตัวแทนของความทันสมัยและเทคโนโลยีของ AION UT ในงาน Bangkok Motor Show ปีนี้ เราสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาได้ ติดอันดับที่ 2 ในหมวดแบรนด์พลังงานใหม่ และอันดับที่ 3 ในบรรดาแบรนด์รถยนต์ทั้งหมด ด้วยยอดสั่งจอง AION UT ถึง 4,568 คัน!

การเปิดตัว AION UT ถือเป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์ One GAC 2.0 ซึ่งได้ขับเคลื่อนโครงการในประเทศไทยในทุกด้านไม่ว่าจะเป็น ทั้งผลิตภัณฑ์ การผลิต ช่องทางจำหน่าย บริการ และระบบพลังงาน & โมบิลิตี้ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีกว่า



ในด้านผลิตภัณฑ์ AION UT เป็นโมเดลกลยุทธ์ระดับโลกใหม่ของ GAC ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกของโลกในประเทศไทย และจะมีผลิตภัณฑ์ระดับโลกเพิ่มเติมในอนาคต เรามอบคุณค่าหลัก 3 ประการ คือ

เทคโนโลยี: คุณค่าผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่า เพื่อประสบการณ์ที่ดีกว่าการเพลิดเพลินในไลฟ์สไตล์: มีความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขคุณภาพระดับชั้นยอด: เรานำมาซึ่งคุณค่าที่ยั่งยืนเกินความคาดหมายในด้านการผลิต เราจะเปิดตัวโมเดลดาวรุ่ง 2-3 รุ่นต่อปี ทั้ง EV และ Hybrid พร้อมส่งเสริมการผลิตในท้องถิ่น โดยร่วมมือกับซัพพลายเออร์ท้องถิ่น อัตราการใช้ชิ้นส่วนท้องถิ่นปัจจุบันอยู่ที่ 51% และจะเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ ในด้านช่องทางจำหน่าย ภายในปี 2025 เราจะจัดตั้งตัวแทนจำหน่ายมาตรฐาน ONE GAC จำนวน 80 แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมตลาดสำคัญทั้งหมด เรากำลังเร่งการนำมาตรฐานการขายและบริการระดับโลก (GSSW) มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวแทนจำหน่ายและคุณภาพการบริการ

ในด้านบริการ ในปีนี้จะมีการสร้างศูนย์บริการพรีเมียมมาตรฐาน 5 ดาวจำนวน 50 แห่ง พร้อมอะไหล่ในสต็อกท้องถิ่นกว่า 6,000 รายการ (มีพร้อมใช้ 90% สำหรับกรณีเร่งด่วน) บริการจัดส่งภายใน 24 ชั่วโมงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ 2 วันสำหรับต่างจังหวัด มีช่างเทคนิคที่ได้รับการรับรองกว่า 300 คน พร้อมสนับสนุนศูนย์บริการแบตเตอรี่แห่งแรกของ GAC ซึ่งเป็นแห่งเดียวในประเทศไทยที่สามารถซ่อมแซมชุดแบตเตอรี่ โมดูล และเซลล์ในทุกระดับได้

ในด้านระบบพลังงานและโมบิลิตี้ GAC เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเดียวจากจีนที่มีระบบนิเวศพลังงานครบวงจรในต่างประเทศ โดยดำเนินการสถานีชาร์จ 58 แห่งแล้ว ผ่านแผน "ร้อยเมือง พันเครื่องชาร์จ" และ "ร้อยร้านพลังงานแสงอาทิตย์" ร่วมกับพาร์ทเนอร์และเรายังสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้าน EV อีกด้วย

AION UT คือนิยามใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อคนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์สะท้อนตัวตนอย่างแท้จริง มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นทันสมัย ภายใต้แนวคิด "Futuristic Minimalism" ซึ่งผสานระหว่างความล้ำยุคและความเรียบง่ายอย่างลงตัว ไฟหน้าแบบ Matrix LED ที่คมชัด พร้อมเส้นสายของตัวรถที่เฉียบคม ช่วยเสริมบุคลิกให้ดูสปอร์ตและโฉบเฉี่ยว เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

โดย AION UT มาพร้อม 4 จุดเด่น ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ของวงการยานยนต์ไฟฟ้าดังนี้
จุดเด่นที่ 1 : UTmost Design Milan Design Aesthetics แรงบันดาลใจจากเมืองมิลาน ผสานศิลปะเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย เปลี่ยนทุกการเดินทางให้มีสไตล์เหนือระดับ พร้อมกำหนดมาตรฐานใหม่แห่งยนตรกรรมไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยม

Winky Headlight  แรงบันดาลใจจากดวงตาที่เปล่งประกายและสง่างาม เส้นสายที่โค้งไหลลื่นสะท้อนความล้ำสมัย เสมือนดวงตาที่มีชีวิต มอบเอกลักษณ์เฉพาะตัวและความมีชีวิตชีวาให้กับทุกเส้นทาง

Matrix Cube Light ไฟเลี้ยวหน้าและไฟท้ายทรงคิวบิก โชว์ดีไซน์ที่ผสานเทคโนโลยีกับแฟชั่นได้อย่างลงตัว โดดเด่นสะกดทุกสายตา

จุดเด่นที่ 2 : UTmost Comfort

Playground Cabin Comfort Spaceห้องโดยสารแถวหลังมีพื้นที่กว้างถึง 1,385 มม. พร้อมพื้นที่วางขาที่สะดวกสบายมากขึ้นถึง 905 มม.รองรับผู้โดยสาร 3 คนได้สบายๆ กว้างขวางเกินคาดหมาย

Transformable Seat สนุกกับการปรับเปลี่ยนพื้นที่ห้องโดยสารทั้งแถวหน้าและแถวหลังได้ตามความต้องการ หรือเลือกเปลี่ยนห้องโดยสารให้เป็นเตียงขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย ผสานความสนุกสนานเข้ากับประโยชน์ใช้สอยสูงสุด

Butterfly-shaped Seat สัมผัสประสบการณ์ความสบายด้วยเบาะรูปทรงผีเสื้อ โอบรับทุกสัมผัสได้อย่างนุ่มนวล อ่อนโยน ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ ให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย

จุดเด่นที่ 3 : UTmost Tech

L2 Intelligent Driving

ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา

- เซนเซอร์กะระยะ ด้านหน้า 4 จุด / ด้านหลัง 4 จุด

- ระบบ AUTOHOLD

- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB)

- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD)

- ระบบเตือนการเปิดประตู (DOW)

- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)

- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหลังเข้าใกล้ (RAW)

- ปิดเครื่องและปลดล็อคด้วยสัมผัสเดียวหลังจากการชน

- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชัน Stop & Go (ACC with Stop & Go)

- ระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICA)

- ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW)

- ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCW)

- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)

- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA)

- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)

- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)

- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน (ELKA)

Voice Control

ระบบสั่งการด้วยเสียง รองรับ 2 ภาษา (ไทย / อังกฤษ) รับคำสั่งได้ทั้งจากผู้โดยสารแถวหน้าและแถวหลัง เพื่อความสะดวกสูงสุด

จุดเด่นที่ 4 : UTmost Safety
Global Safety Standard ออกแบบตัวถังให้มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว ด้วยโครงสร้างเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง คิดเป็น 71% ของตัวถัง พร้อมหลังคาที่สามารถรองรับแรงกดได้ถึง 7 ตัน

Magazine Battery 2.0 แบตเตอรี่ล้ำสมัยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ทนทานต่อการบิดตัว 180 องศา โดยไม่เกิดประกายไฟหรือความร้อนสะสม

Long Driving Range
AION UT ขับสบาย เดินทางระยะไกลไร้กังวล พัทยา-โคราช ไป-กลับได้แบบไม่ต้องชาร์จระหว่างทาง มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ดังนี้

- AION UT Standard ระยะทางวิ่งสูงสุด 420 กม. มาพร้อม Magazine Battery 2.0 ขนาด 50.27 kWh

- AION UT Premium ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กม. มาพร้อม Magazine Battery 2.0 ขนาด 60 kWh
Fast Chargeรองรับการชาร์จเร็วจาก 30%-80% ในเวลาเพียง 24 นาที



ภายในห้องโดยสารของ AION UT ได้รับการออกแบบอย่างประณีต เพื่อตอบสนองทั้งด้านความสะดวกสบายและเทคโนโลยีที่ครบครัน โดยมาพร้อมแผงหน้าปัดแบบ Full Digital ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมหน้าจอ Infotainment ขนาด 14.6 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน เบาะนั่งคู่หน้ามาพร้อมระบบระบายอากาศ และฟังก์ชันปรับไฟฟ้า และระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (ในรุ่น Premium) เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดของผู้ขับและผู้โดยสาร

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เบเยอร์ บุกปักษ์ใต้ ผนึกกำลังสถาปนิก จัดเสวนา Designing Future

เปิดทางเลือกใหม่ สู่งานออกแบบยุค Green Building มุ่งสู่การสร้างอาคารอย่างยั่งยืน

บริษัท เบเยอร์ จำกัด ร่วมกับเครือข่าย สถาปนิกปักษ์ใต้ จัดเสวนา “ Designing Future: Design Innovative Tools, Green Materials & Green Finance for Future Architectural Design” เปิดเวทีแลกเปลี่ยนแนวคิดการออกแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม วัสดุรักษ์โลก และการเงินสีเขียว (Green Finance) มุ่งสู่การสร้างอาคารอย่างยั่งยืน 



ในบริบทปัจจุบัน ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างทั่วโลก มีสัดส่วนการปล่อย Carbon Emission สูงถึง 39%
ของการปล่อยคาร์บอนทั้งหมด ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาวะโลกร้อน และภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงขึ้น เบเยอร์ ในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมสีรักษ์โลกของประเทศไทย จึงเดินหน้าผลักดัน Green Innovation for Green Building เพื่อร่วมเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งเป็นภาคธุรกิจแรกที่จำเป็นต้องเร่งปรับตัวอย่างจริงจัง พร้อมกันนี้ ภาคการเงินก็กำลังเดินหน้าออกนโยบาย Green Interest Rate เพื่อกระตุ้นการลงทุนในธุรกิจและอาคารที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม


นอกจากนี้ ในงานยังได้รับเกียรติจาก ดร.สรรพวัฒน์ จตุพัฒน์วรางกูร กรรมการและสาราณียกรของสมาคมแบบจำลองสารสนเทศอาคาร (TBIM), หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีดิจิทัล Aurecon Consulting Thailand และอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มาร่วมบรรยายให้ความรู้เชิงลึกด้าน Green Design และการประยุกต์ใช้ BIM Tools เพื่อช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากงานก่อสร้าง ถ่ายทอดองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้กับกลุ่มสถาปนิกและนักออกแบบในภาคใต้

ภายในงาน นางสาวรัตน์ภัสสกรห์ พราห์มศรีชาย ผู้จัดการแผนกสื่อสารการตลาด ตัวแทน จาก เบเยอร์ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับสภาพอากาศร้อนชื้น ฝนตกหนัก และปัญหาจากฤดูฝน เช่น เชื้อรา และการเสื่อมสภาพของอาคาร ภายใต้แนวคิด “ราคาเท่ากัน ได้คุณภาพเหนือกว่า” อาทิ:

• BegerCool

นวัตกรรมสีลดโลกร้อน รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ลดได้ทั้ง embodied carbon และ operational carbon พร้อมผลวัดที่ชัดเจนมาพร้อม Beger Paint CO2Cal — แอปพลิเคชันหนึ่งเดียวในโลกสำหรับคำนวณค่าการปล่อยคาร์บอนจากการทาสีใหม่! BegerCool 2in1

"เย็นขึ้น ทนกว่า ลดเวลาทำงาน 2 เท่า"

ใช้งานง่าย ไม่ต้องผสมน้ำ ไม่ต้องง้อรองพื้น ลดขั้นตอนการทำงานพร้อมคุณสมบัติการยึดเกาะดีเยี่ยม การันตีด้วย มอก.สีรองพื้นสำหรับงานปูน

กลุ่มสินค้า Solution สำหรับพื้นที่ร้อนชื้น ฝนตกบ่อย:

• BegerShield AirFresh Gold-ion

สีทาภายในสูตรพิเศษ ที่ช่วยกำจัดไวรัส และเชื้อโรคจากหน้าฝน

เหมาะสำหรับอาคารในพื้นที่อากาศร้อนชื้น และฝนตกบ่อย

• Beger Mould Free M-100

นวัตกรรมช่วยกำจัดเชื้อราบนผนัง ใช้งานได้ทุกสภาพอากาศ

• B-3100 Primer กันชื้น

สูตรพิเศษที่สามารถทาหลังฝนหยุดได้ทันที ลดเวลาหน้างาน และแก้ปัญหาในฤดูฝน

• BegerShield Griptech Rustproof 2in1

สีทาเหล็ก 2in1 แห้งไว กลิ่นอ่อน ใช้งานง่าย ให้คุณภาพสูง และปลอดภัย เป็นต้น

การจัดเสวนาครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของเบเยอร์ ในการสนับสนุนสถาปนิกไทย และภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง สู่การออกแบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยนวัตกรรมสีที่ตอบโจทย์ Green Building รองรับแนวทาง Green Finance และ Net Zero Goals ที่กำลังขับเคลื่อนในทุกระดับของภาคธุรกิจ
ณ โรงแรมนิวซีซัน หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สามารถเข้าชมกิจกรรมต่างๆ หรือผลิตภัณฑ์จากทางเบเยอร์ได้ที่ FB: Beger Paint // https://www.beger.co.th/th/index

วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ครูลำดวน นันทะสุธา ศิลปินโอทอป ผ้าทอลายขิดไหม หนึ่งเดียวของหนองบัวลำภู


แม่ครูลำดวน นันทะสุธา 
ศิลปินโอทอป ผ้าทอลายขิดไหม หนึ่งเดียวของ จังหวัดหนองบัวลำภู

งาน OTOP Midyear 2025 ของดีของเด็ดจาก 4 ภาค ของกิน ของใช้ คุณภาพคัดสรรค์ทั่วฟ้าเมืองไทย โอทอป ศิลปิน ,โอทอปขึ้นเครื่อง, โอทอป 5 ดาว ,โอทอปชวนชิม ,โอทอป นาทีทองพบกับMini คอนเสิร์ต ศิลปิน มามอบความสุข อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็คเมืองทองธานี 7 – 15 มิถุนายน 68 เวลา 10.00-21.00 น.



วันนี้ทีมงานโวยวาย ดอทคอม มีโอกาสพบศิลปิน OTOP ในงาน OTOP Mid Year 2025 ในโซนศิลปินโอทอป นางลำดวน นันทะสุธา ผ้าขิดไหมบ้านกุดแห่ จังหวัดหนองบัวลำภู ผ้าขิดไหมเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ มีคุณค่าทางศิลปะและมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของคนในชุมชน ภูมิปัญญาท้องถิ่น ชวนคนไทยและนักท่องเที่มาร่วมกันสนับสนุนสินค้าภูมิปัญญาจากชุมชน เพื่อต่อลมหายใจให้กับงานศิลปหัตถกรรมของไทยกัน

ผ้าขิดไหม คือ ผ้าทอลายขิดที่ทอด้วยเส้นไหม โดยมีลวดลายที่เกิดจากการใช้เทคนิคการทอแบบ "ขิด" ลายขิดที่ปรากฏบนผ้ามีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความเชื่อต่างๆ เช่น ลายดอกไม้ ลายสัตว์ ซึ่งเป็นการสะกิดหรือยกเส้นด้ายยืนขึ้นแล้วสอดเส้นด้ายพุ่งพิเศษเข้าไป เพื่อสร้างลวดลายต่างๆ บนผืนผ้า ผ้าขิดไหมจึงเป็นผ้าที่มีความสวยงาม มีลวดลายที่โดดเด่น และมีความมันวาว 

นางลำดวน นันทะสุธา ประธานกลุ่มทอผ้าขิดไหมบ้านโพธิค้ำ บอกว่า ผ้าลายขิดในภาคอีสานอยากให้เศรษฐกิจในหมู่บ้านดีขึ้น คนในหมู่บ้านมีรายได้เสริมจากการทำไร่ทำนา ไม่ต้องจากบ้านไปทำงานกรุงเทพฯ หรือในต่างจังหวัดที่อยู่ห่างไกลครอบครัว และยังเป็นการช่วยอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมการทอผ้าขิดไหมของชาวชุมชนชนบทให้คงอยู่สืบไป

โดยลายผ้าขิดไหม พบมากในภาคอีสาน เกิดจากแนวคิดของ ครู ลำดวน นันทะสุธา ประธานกลุ่มทอผ้าไหมบ้านกุด แห่ จนทำให้ลายผ้าขิดไหมบ้านกุดแห่ ได้รับรางวัล ชนะเลิศจากแนวความคิดที่นำคำขวัญจังหวัด หนองบัวลำภู “ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อุทยานแห่งชาติภูเก้าภูพานคำ แผ่นดินธรรม หลวงปู่ขาว เด่นสกาวถ้ำเอราวัณ นครเขื่อนขันธ์ กาบแก้วบัวบาน” มาประยุกต์เป็นลายผ้าแบบใหม่ ที่มีความแปลกใหม่ ซึ่งประกอบด้วย ลายดอก พิกุล ลายหัวนาค ลายผีเสื้อ ผ้าขิดไหมสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย



ครู ลำดวน นันทะสุธา  เล่าถึง การทอผ้าขิดเป็นการทอโดยการใช้ไม้เขี่ย หรือสะกิดเส้นด้ายยืน เพื่อเปิดช่องให้สอดเส้นด้ายพุ่งพิเศษเข้าไปสร้างลวดลาย ลวดลายที่ได้มีสัมผัสได้ถึงความนูนลอยออกมาจากผืนผ้า  การฝึกให้กับคนในหมู่บ้านที่สนใจประกอบเป็นอาชีพเสริม ต่อมาสอนให้กับคนที่สนใจที่จะทำเป็นอาชีพ ตลอดจนเป็นห้องเรียนนอกสถานที่สำหรับโรงเรียนในเขตพื้นที่ อ.นากลาง ที่ต้องการให้นักเรียนได้ศึกษาเกี่ยวกับการทอผ้าที่นับวันจะหมดไปจากสังคมชนบท ซึ่งนอกจากจะสอนการทอผ้าแล้วยังสอนให้ออกแบบลวดลายผ้าทั้งลายโบราณและลายประยุกต์สมัยใหม่ เพื่อสร้างความหลากหลายของผ้าไหม จากการที่กลุ่มได้เป็นสมาชิกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษ ทำให้เป็นที่รู้จักและมีตลาดรองรับมากขึ้น

ผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม ประกอบด้วย ผ้าขิดไหม ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไหมพื้นเรียบ ผ้าไหมหางกระรอก ผ้าโสร่งไหม ผ้าลายลูกแก้ว ผลงานที่โดดเด่น คือ ได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในการประกวดผ้าขิดไหม ได้รับโล่สตรีดีเด่น จากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้รับโล่ผู้นำสตรี
ดีเด่นของจังหวัดอุดรธานี ได้รับโล่ผลิตภัณฑ์ดีเด่นประเภทผ้าขิดไหม ได้รับโล่เกียรติบัตรจากการประกวดผ้าลายดอกบัว จากผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู




ครูลำดวน นันทะสุธา
087 2198231





วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บริษัท Secure Connection เปิดตัวผลิตภัณฑ์ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Honeywell


กรุงเทพมหานคร โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ วันที่ 19 มิถุนายน 2568 –  บริษัท Secure Connection Limited ผู้ผลิตกลุ่มผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำจากฮ่องกง ประกาศขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยผลิตภัณฑ์ครบวงจรภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Honeywell โดย Secure Connection เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าจาก Honeywell International Inc. แต่เพียงผู้เดียว สำหรับการผลิต การตลาด การจัดจำหน่ายและการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ได้แก่ เครื่องฟอกอากาศ ผลิตภัณฑ์เสียงสำหรับบ้านและบุคคลทั่วไป อุปกรณ์เสริมสำหรับมือถือและไอที รวมถึงระบบโครงสร้างสายสัญญาณ และสำหรับประเทศไทย คุณพงศ์ภูวัท วงศ์วัชรรักษ์ ดำรงตำแหน่ง Country Manager Thailand ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดการในประเทศไทย

นายโมฮิต อนันต์ ซีอีโอของ Secure Connection Limited กล่าวถึงความสำคัญของการขยายตลาดครั้งนี้ว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Honeywell จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี การเข้าสู่ตลาดครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำของไทยได้แก่ บริษัท อินแกรม ไมโคร(ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท มาซูม่า (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท โคแอน จำกัด และบริษัท ซี.เอส.ไอ. อินเตอร์เทรด จำกัด ในฐานะผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และ บริษัท ออว์ซั่ม มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ในฐานะพันธมิตรในช่องทาง E-Commerce"

ทั้งห้าบริษัทล้วนเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชั้นนำของไทย ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของผลิตภัณฑ์ Honeywell ในตลาดเมืองไทย โดยทั้ง Secure Connection และพันธมิตรต่างมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค




ผลิตภัณฑ์ Honeywell ใดบ้างที่ทาง Secure Connection มุ่งเน้นทำตลาดในประเทศไทย นายโมฮิต กล่าวว่าเราจะมุ่งเน้นการพัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์หลักของ Honeywell ได้แก่ เครื่องฟอกอากาศ อุปกรณ์เครื่องเสียงสำหรับบ้านและบุคคล อุปกรณ์เสริมสำหรับโทรศัพท์มือถือและไอที รวมถึงระบบสายสัญญาณโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยในด้านสุขภาพ ความบันเทิง การเชื่อมต่อ และโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล


“Secure Connection มีแผนขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายและบริการหลังการขายผ่านความร่วมมือกับร้านค้าปลีกรายใหญ่และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์บริการในกรุงเทพฯ และหัวเมืองสำคัญ เสริมความแข็งแกร่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดประเทศไทย และดำเนินโครงการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเพื่อสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นในแบรนด์อย่างยั่งยืน

เรามีแผนจัดตั้งศูนย์รับประกันสินค้าในกรุงเทพฯและหัวเมืองหลัก ผ่านทางตัวแทนจำหน่าย พร้อมพัฒนาทีมช่างเทคนิคมืออาชีพ และรวมถึงมีศูนย์รับฟังข้อเสนอแนะจากลูกค้าที่สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วจากช่องทางโซเชียลมีเดียของเราทั้งหมด โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของ Honeywell ที่จำหน่ายในประเทศไทยได้รับการดูแลด้วยมาตรฐานบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ โปร่งใส และสม่ำเสมอ”

นายโมฮิต ยังกล่าวถึงการปิดยอดขายในไตรมาส 4 หลังสิ้นปี 2568 ในไทยว่า ตนยังตอบตัวเลขไม่ได้ สำหรับยอดขายในปี 2568 นี้ ทั้งนี้ตนหวังว่าประชาชนและผู้บริโภคชาวไทยจะเปิดใจและยอมรับในผลิตภัณฑ์และสินค้าของ Honeywell ซึ่งถ้าประชาชนชาวไทยให้การยอมรับมากขึ้นเท่าไร เราก็จะไม่หยุดพัฒนาสินค้า และพยายามหาสินค้าใหม่ๆมาตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคชาวไทยที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อผลักดันให้เป็นแบรนด์ชั้นนำในไทย  และถ้าเป็นเช่นนั้น เป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่เราต้องการ 19 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ คงจะเป็นไปได้อย่างแน่นอน

“เราฟันธงไม่ได้ว่า สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ตัวไหนของ Honeywell ที่จะก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ที่ทำรายได้หลักให้เรา เพราะเท่าที่ทำตลาดหรือวางจำหน่ายในแต่ละประเทศ สัดส่วนการจำหน่ายสินค้าแต่ละ Product จะเกาะกลุ่มอยู่ที่ 25-35 % ไม่เคยมีสินค้าตัวไหนที่สามารถทำยอดขายได้โดดเด่นสูงถึง 65 %เลย สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดของ Honeywell เราจะเน้นทั้งออนไลน์และออฟไลน์ควบคู่กันไป”

คุณพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินแกรม ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว "เรามีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือในครั้งนี้กับ Secure Connection ด้วยเป้าหมายและแนวทางที่สอดประสานกัน เรามั่นใจว่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Honeywell จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดไทยได้อย่างแท้จริง"

คุณศรัล ดุรงค์เดช กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาซูม่า (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า "การร่วมมือกับ Secure Connection ถือเป็นก้าวสำคัญของเราในการส่งมอบนวัตกรรมใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์ Honeywell ให้กับผู้บริโภคในประเทศไทย เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม"

คุณลักษณ์วัตร์ เหรียญเจริญสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคแอน จำกัด กล่าว"เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับบริษัท Secure Connection ความมุ่งมั่นและวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกันของเราจะช่วยส่งเสริมการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตจาก Honeywell ซึ่งมีความทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยที่เปลี่ยน แปลงไปอย่างต่อเนื่อง"

คุณจินห์ณิภา ศิริกุลประดิษฐ กรรมการบริษัท บริษัท ซี.เอส.ไอ.อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าว "เรารู้สึกยินดีที่ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Secure Connection ซึ่งมีเป้าหมายเดียวกันในการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงภายใต้แบรนด์ Honeywell ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงของผู้บริโภคไทยในยุคปัจจุบัน"

คุณเจษฎา ภวภูตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออว์ซั่ม มาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าว "ความร่วมมือครั้งนี้กับ Secure Connection เป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ Honeywell สู่ตลาดไทย ด้วยความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคและความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่ายเรามั่นใจว่าจะสามารถสร้างความพึงพอใจและคุณค่าให้แก่ลูกค้าได้อย่างยั่งยืน"



การขยายตลาดครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญของ Secure Connection ในการขับเคลื่อนแผนการเติบโตระดับโลกโดยแสดงถึงความมุ่งมั่นในการค้นหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ พร้อมกับการลงทุนเพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในตลาดเมืองไทย

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568

บางกอกแอร์เวย์ส คว้าแชมป์ 9 สมัย

บางกอกแอร์เวย์ส คว้าแชมป์ 9 สมัย สายการบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในโลก และสายการบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในเอเชีย จากการประกาศผล Skytrax World Airline Awards ประจำปี 2025

กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส / 18 มิถุนายน 2568 – บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอีกครั้ง ด้วยการคว้ารางวัลสองรางวัลอันทรงเกียรติยศระดับโลก สายการบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Regional Airline) และ สายการบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในเอเชีย (Best Regional Airline in Asia) จากการประกาศผล Skytrax World Airline Awards ประจำปี 2025 ซึ่งนับเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน โดยพิธีมอบรางวัลจัดขึ้น ณ งาน ปารีส แอร์โชว์ ท่าอากาศยานปารีส-เลอ บูร์เฌต์ ประเทศฝรั่งเศส

รางวัลนี้เปรียบเสมือนรางวัลออสการ์ของอุตสาหกรรมการบิน ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก จากการสำรวจ ความพึงพอใจผู้โดยสารที่มีต่อแต่ละสายการบิน ที่ได้ใช้บริการ ปี 2568 ในการประเมินจากทั่วโลกกว่า  325 สายการบิน



การได้รับรางวัล Skytrax World Airline Awards สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบางกอกแอร์เวย์สในการส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ ผ่านการบริการในแบบฉบับบูทีคแอร์ไลน์อันเป็นเอกลักษณ์ บริการห้องรับรองผู้โดยสารทุกระดับชั้นโดยสาร เมนูอาหารบนเครื่องและในเลานจ์ที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถัน รวมถึงเส้นทางบินที่เชื่อมโยงเมืองวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในภูมิภาค

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า “รางวัลอันทรงเกียรตินี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความตั้งใจและความทุ่มเทของผู้บริหารและพนักงานทุกคน ผมขอขอบคุณผู้โดยสารทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ เลือกใช้บริการของเราอย่างต่อเนื่อง และโหวตให้เราเป็น สายการบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Regional Airline) และ สายการบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในเอเชีย (Best Regional Airline in Asia) ประจำปีนี้ เราจะยังคงรักษาคำมั่นสัญญาในการพัฒนาความเป็นเลิศด้านบริการ ควบคู่ไปกับการเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์

เครือโรงพยาบาลพญาไทและเปาโลจัดโครงการ "ปัน ปัน ปันสุขนี้เพื่อเธอ มอบด้วยใจ ให้ด้วยรัก" ปีที่ 10

เครือโรงพยาบาลพญาไทและเปาโลจัดโครงการ "ปัน ปัน ปันสุขนี้เพื่อเธอ มอบด้วยใจ ให้ด้วยรัก" ปีที่ 10  ณ สถานสงเคราะห์คนชราวาสนะเวศม์ เพ...

โวยวายดอทคอม