วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2568

เอปสันเดินหน้าสนับสนุน LPGA ต่อเนื่อง

มุ่งสร้างโอกาสและความเท่าเทียมในวงการกอล์ฟหญิง

บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น ผู้นำด้านเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์และโปรเจคเตอร์ของโลก ยังคงร่วมมือกับสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี หรือ LPGA ในการแข่งทัวร์นาเมนต์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ครั้งที่ 18 ที่สนามสยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส ในฐานะ Global Partner เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน การสนับสนุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเอปสันในการส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียม และความยั่งยืน ผ่านกีฬา โดยบริษัทฯ เชื่อว่าการเป็นพันธมิตรกับ LPGA จะช่วยมอบโอกาสให้นักกอล์ฟหญิงที่มีศักยภาพได้ไล่ตามความฝันและก้าวสู่เวทีการแข่งขันระดับโลก พร้อมทั้งช่วยพัฒนาวงการกอล์ฟหญิงให้เติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ เอปสันยังให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ของเอปสันในการปฏิบัติงาน รวมถึงนำ เสนอประสบการณ์ซ้อมวงสวิงแบบเสมือนจริง ให้กับผู้เข้าชมการแข่งขันด้วย Golf Simulator Experience โดยเอปสันได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ Trackman ผู้เชี่ยวชาญด้าน Golf Simulator นำเสนอประสบการณ์


ซ้อมวงสวิงแบบเสมือนจริงให้กับผู้เข้าชมการแข่งขัน โดยฉายผ่าน Epson Laser Projector รุ่น EB-L630SU ที่มาพร้อมเทคโนโลยี 3LCD ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส และสร้างบรรยากาศสนามกอล์ฟเสมือนจริง ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยของเอปสัน ผู้เข้าชมสามารถทดลองออกรอบและฝึกซ้อมได้อย่างสมจริงใกล้เคียงกับการแข่งขันจริงมากที่สุด

ททท. สำนักงานเชียงราย เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวเชียงราย


ททท. สำนักงานเชียงราย เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวเชียงราย และพะเยาในช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2568 และร่วมสืบสานงานประเพณีสงกรานต์ ปี๋ใหม่เมืองเชียงราย-พะเยา ประจำปี 2568

นายวิสูตร  บัวชุม ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย ซึ่งรับผิดชอบการส่งเสริมการท่องเที่ยว ในด้านการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และการกระตุ้นการตลาดการท่องเที่ยว 2 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงราย และจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ในช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2568 เป็นช่วงที่ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและพะเยา มีงานเทศกาลประเพณีสงกรานต์ หรือปี๋ใหม่เมือง และกิจกรรมท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้จัดขึ้นสุดยิ่งใหญ่ที่เต็มไปด้วยสีสันและมีกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดมากมาย เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทุกท่านมาร่วมกิจกรรมต่างๆ ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของชาวเหนือ ความสนุกสนาน  ตื่นตาตื่นใจจากการแสดงดนตรีสด, ดนตรีพื้นบ้าน, ได้เติมเต็มความสุข และผ่อนคลายตลอดช่วงฤดูร้อนนี้   

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้สนองตอบต่อนโยบายรัฐบาล ให้มีการจัดกิจกรรมตลอดทั้งปี โดยมีจุดมุ่งหมายให้ประเทศไทยท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ภายใต้แคมเปญ "Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025" เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเพิ่มรายได้เข้าสู่ประเทศ โดยในปีนี้ ททท. ได้จัดงาน "เทศกาลเที่ยวเมืองไทย" ระหว่างวันที่ 26-30 มีนาคม 2568 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีการนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวจาก 5 ภูมิภาค 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ  ซึ่งในส่วนขอภูมิภาคภาคเหนือ มีการจัดแสดงหมู่บ้านภาคเหนือภายใต้แนวคิด "Season of North 2025" โดยนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวภาคเหนือในแต่ละฤดู มีการจัดแสดงสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวจากจังหวัดต่าง ๆ ในภาคเหนือ รวมถึงการนำเสนอวัฒนธรรม วิถีชีวิต และอาหารท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือ  เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมภาคเหนือในช่วงฤดูร้อนนี้ โดยเน้นการจัดกิจกรรม "แอ่วเหนือ...กันแบบ 'อยู่ เย็น เป็น สุข'" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ "สีสัน...แอ่วเมืองเหนือหน้าร้อน & COLORFUL SUMMER FEST" และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย  


ในห้วงเดือนเมษายนนี้ มีงานประเพณีสงกรานต์หรือปี๋ใหม่เมืองชาวเหนือนับได้ว่าเป็นงานประเพณีพื้นเมืองที่สนุกสนานรื่นเริงในรอบปี และได้รับความสนใจจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สามารถสะท้อนอัตลักษณ์ ประเพณี และวัฒนธรรมไทยสู่สายตาสากล อีกทั้งยังเป็นหนึ่งใน Soft Power ที่รัฐบาลไทยต้องการนำเสนอสู่สายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งทางองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ประกาศขึ้นทะเบียน "สงกรานต์ในประเทศไทย" เป็นมรดกโลกวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 เป็นประเพณีที่ทรงคุณค่าที่ขอเชิญชวนชาวไทยทุกท่านร่วมกันอนุรักษ์รักษาไว้      

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เดือนเมษายนปีนี้ รัฐบาลได้ยกระดับประเพณีสงกรานต์ของไทยสู่ระดับสากลต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยมีการจัดกิจกรรมสงกรานต์ตลอดทั้งเดือนเมษายน2568 เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติสามารถเลือกสถานที่เล่นน้ำได้หลากหลาย และดึงดูดให้พักค้างในประเทศไทยให้นานขึ้น โดยกำหนดจัดงาน "มหาสงกรานต์ เวิลด์ วอเตอร์ เฟสติวัล 2025" อย่างยิ่งใหญ่ ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่  11-15 เมษายน 2568  และกระจายการจัดงานประเพณีสงกรานต์ไปยัง 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ 



ในส่วนของภูมิภาคภาคเหนือ ททท. สำนักงานภาคเหนือร่วมกับภาครัฐและเอกชน จะจัดงาน "มหาสงกรานต์ & ปีใหม่เมือง 2568" อย่างยิ่งใหญ่เช่นเดียวกัน ในพื้นที  17 จังหวัดภาคเหนือ ตั้งแต่วันที่ 1 -30 เมษายน 2568  โดยเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของประเพณีสงกรานต์ หรือปี๋ใหม่เมืองของชาวเหนือที่ยึดถือปฏิบัติสืบเนื่องกันมาแต่โบราณ  มีกิจกรรมตามขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวเหนือต่างๆ มากมายให้ทุกท่านได้มีส่วนร่วม อาทิเช่น การทำบุญไหว้พระสรงน้ำพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์, การปักตุงก่อเจดีย์ทรายเสริมสิริมงคล,  รดน้ำ-ขอพรแสดงความเคารพผู้ใหญ่ที่นับถือ, การปล่อยนกปล่อยปลาทำบุญเพื่อแสดงความกรุณาต่อสัตว์, ชมขบวนแห่สงกรานต์ที่มีการตกแต่งขบวนด้วยดอกไม้และเครื่องประดับจากวัสดุธรรมชาติ, อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมืองเลิศรสเอกลักษณ์ของชาวเหนือ, ตื่นตาตื่นใจกับชมการแสดงจากกลุ่มศิลปินท้องถิ่น และการเต้นรำ, สนุกสนานไปกับการรดน้ำสาดน้ำเล่นสงกรานต์และเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวครายร้อนต่างๆ เพื่อไปพักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดยาว ทั้งในช่วงที่มีกิจกรรมตามประเพณีประจำปีระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน 2568 และตลอดทั้งเดือนเมษายน 2568    

เพื่อเป็นการสืบสานงานประเพณีและวัฒนธรรมของไทยและกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดพะเยามากยิ่งขึ้น สร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันจัดกิจกรรมและงานประเพณีต่างๆ มากมาย เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของชาวเมืองเหนือ ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 ดังนี้



จังหวัดเชียงราย  ททท.สำนักงานเชียงราย ได้ร่วมกับวัดกลางเวียง  จัดกิจกรรม "สงกรานต์ตานตุง กลางเวียงเชียงราย" ระหว่างวันที่   1 - 30 เมษายน 2568 ณ วัดกลางเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสงานประเพณีปี๋ใหม่เมืองเชียงรายสุดพิเศษตลอดทั้งเดือนเมษายน กับกิจกรรมทำบุญไหว้พระขอพร, สรงน้ำพระเจ้าฝนแสนห่า, กิจกรรมปักตุง 12 นักษัตร, สักการะและสรงน้ำเสาหลักเมืองเชียงราย  ในส่วนงานประเพณีสงกรานต์และกิจกรรมอื่นๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อ กำหนดจัดงานอีกมากมายตลอดทั้งเดือน ในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงราย เทศบาลนครเชียงรายกำหนดจัด “ป๋าเวณีปีใหม่เมือง ประจำปี 2568” ณ บริเวณลานรำวงถนนคนม่วนนครเชียงราย, งานสงกรานต์สันโค้งถนนคนเล่นน้ำ ณ บริเวณถนนสันโค้งน้อย ในระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน 2568 และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าจังหวัดเชียงราย จัดงาน “Chiangrai Songkran Festival 2025” ระหว่างวันที่ 13-15, 19 เมษายน2568 ณ ลานกาสะลองศูนย์การค้าเซ็นทรัลจังหวัดเชียงราย  ในพื้นที่นอกเมือง  อำเภอเชียงของ จัดงาน “ประเพณีมหาสงกรานต์อำเภอเชียงของประจำปี 2568” ในวันที่ 13 เมษายน 2568 ณ ลานข่วงวัฒนธรรมเมืองเชียงของ อ.เชียงของ จังหวัดเชียงราย , อำเภอเชียงแสนร่วมกับเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน จัดงาน “ประเพณีสงกราต์เมืองเชียงแสนประจำปี 2568” ในวันที่ 12 ,16-18 เมษายน 2568 ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย, อำเภอป่าแดดโดยหมู่บ้านท่องเที่ยวชุมชนโป่งศรีนคร จัดงาน”ประเพณีสงกรานต์ปี๋ใหม่เมือง ตำบลโฮงจ้าง2568” วันที่ 19-20 เมษายน 2568 

        
ณ บริเวณลานกิจกรรมสระน้ำบ้านโป่งศรีนคร และ ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2568 สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย จัดงาน “PANDKON-ROMYEN TO DOICHANG TRAIL ในวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2568 ณ บ้านปางขอน อ.เมือง จ.เชียงราย, วัดกลางเวียง จัดงาน”ประเพณีเดือน 8 เช้า เดือน 9 ออก ใส่ขันดอกเสาสะดือเมืองเชียงราย”ระหว่างวันที่ 23-29 พฤษภาคม 2568 ณ วัดกลางเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย               

จังหวัดพะเยา ททท.สำนักงานเชียงรายและศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา(ททท.) ร่วมกับวัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง จัดกิจกรรม “สงกรานต์ตานตุง ไหว้สาบูชาพระเจ้าตนหลวง” ขึ้น ในระหว่างวันที่ 1-30 เมษายน 2568 ณ วัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง อ.เมือง จังหวัดพะเยา   จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านมาร่วมทำบุญไหว้พระขอพร และสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ มีกิจกรรมภายในงานมากมาย อาทิเช่น สรงน้ำองค์พระเจ้าตนหลวง, แขวนตุงวันเกิดบูชาไหว้สาพระเจ้าตนหลวง ๑,๐๐๐ ผืน บริเวณด้านหน้าวิหารหลวง, ร่วมกิจกรรมขนทรายเข้าวัด, ปักตุงเจดีย์ทรายสุดส้าว และเจดีย์ทรายประจำปีเกิด 12 นักษัตร  และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการประดิษฐ์ ตานตุง (ตุงบูชา) เพื่อเป็นพุทธบูชาไหว้พระขอพร พระเจ้าตนหลวง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สำคัญของจังหวัดพะเยา โดยชาวพะเยาและชาวล้านนาเชื่อว่า การปักตุงและการไหว้บูชาพระเจ้าตนหลวงจะช่วยเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต  นอกจากนี้ ในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดพะเยา จัดงาน “คอนเสิร์ตสงกรานต์ เมืองกว๊านพะเยา” (ATLANTIS PHAYAO SONGKARN FESTIVAL 2025)ระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย. 2568 ณ ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง อ.เมือง จ.พะเยา โดยมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า , ในอำเภอดอกคำใต้ เทศบาลเมืองดอกคำใต้ จัดงาน”ประเพณีสงกรานต์ฮ่องจ้างมหานทีป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองดอกคำใต้”ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 12-13 เม.ย.2568 ณ ลานวัฒนธรรมลำน้ำร่องช้าง อ.ดอกคำใต้  และ องค์การบริหารส่วนตำบลสระ อ.เชียงม่วน จัดงาน“ประเพณีสงกรานต์ตานตุงไทยลื้อท่าฟ้าใต้” ในวันที่ 13 เม.ย.2568 ณ โบราณสถานวัดท่าฟ้าใต้ อ.เชียงม่วนจังหวัดพะเยา , “ประเพณีงานปู่จาพญาลอ” วันที่ 9 เม.ย. 2568 ณ ลานอนุสาวรีย์องค์เจ้าพญาลอ วัดศรีปิงเมือง อ.จุน โดยเทศบาลตำบลเวียงลอ และในช่วงเดือนพฤษภาคม 2568 นี้ มีงาน”ประเพณีแปดเป็งไหว้สาพะเจ้าตนหลวง ฉลองครบรอง 534 ปี” วันที่ 5-11 พ.ค. 2568 ณ บริเวณด้านหน้าวัดศรีโคมคำ อ.เมือง จ.พะเยา, “งานประเพณีเวียนเทียนทางน้ำกลางกว๊านพะเยาเนื่องในวันวิสาขบูชา ครั้งที่ 54 “ วันที่ 11 พ.ค. 2568 ณ บริเวณท่าเรือ/วัดติโลกอาราม และ “งานลิ้นจี่แม่ใจ จังหวัดพะเยาและมหกรรมอาหารประจำปี 2568” ระหว่างวันที่ 16-25 พ.ค. 2568 ณ ตลาดสดบีบี ต.ศรีถ้อย อ.แม่ใจ อ.แม่ใจ จ.พะเยา                  

ททท.สำนักงานเชียงราย จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่าน เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงราย-พะเยา เพื่อสืบสานงานประเพณีสงกรานต์ ปี๋ใหม่เมืองเชียงราย-พะเยา ตลอดเดือนเมษายน 2568 และร่วมกิจกรรมงานประเพณีต่างๆ ในช่วงพฤษภาคม 2568 นี้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากหน่วยงานจัดงานประเพณีในตารางแนบท้ายนี้ และ ททท.สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 7433, 0 5374 4674-5 , ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา (ททท.) โทร. 054 430400, 054-430401หรือ TAT Call Center โทร. 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย ค้นหาแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดเขียงรายได้ที่เว็บไซต์ www.tourismchiangrai-phayao.com, เพจ Facebook : ททท.สำนักงานเชียงราย, เพจ Facebook : ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา(ททท.)

วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2568

มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนฯ จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568

ม.ร.ว.พร้อมฉัตร  สวัสดิวัตน์ รองประธานกรรมการอำนวยการมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนฯ จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 โดยมี คุณหญิงแสงเดือน ณ นคร  ดร.อำนวย สุวรรณคีรี  ผศ.ดร.พรทิพย์ พุกผาสุข  ดร.อารยา อรุณานนท์ชัย พล.ต.ท.สุทิน เขียวรัตน์ (ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการลูกเสือชาวบ้านฯ) นิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม (ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี)  วิลาวัลย์ ธรรมชาติ (ประธานอุปการะเยาวชนประจำกรุงเทพมหานคร) สุดา สุขอ่ำ (รองเลขาธิการคุรุสภา) พรทิพย์ ห่านตระกูล กรรณภรณ์ วงศ์ปิยะกุล และผู้แทนหน่วยราชการ องค์การ มูลนิธิ-สมาคมต่างๆ อาทิ กระทรวงมหาดไทย สมาคมแม่บ้านมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรุงเทพมหานคร กรมประชาสัมพันธ์ สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์ฯ พุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ สภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สมาคมแม่บ้านเหล่าทัพต่างๆ เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ห้องประชุมโรงแรมอวานี รัชดา กรุงเทพฯ 



ที่ประชุมได้รับทราบพระมหากรุณาใน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประธานที่ปรึกษามูลนิธิฯ ที่พระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ พร้อมพระราชนิพนธ์คำกลอน เพื่อเชิญไปจัดพิมพ์ลงบนหน้าปกสมุดฉีก ส.ค.ส. ปีพุทธศักราช 2568 สำหรับมอบเป็น ส.ค.ส. อำนวยพรแก่ผู้มีจิตศรัทธาที่สนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิฯ และกรรมการมูลนิธิฯ เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2568 และที่ประชุมพิจารณาเรื่องต่างๆ อาทิ 

1) พิจารณาผลการดำเนินงานในปี 2567 ของมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนฯ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชนผู้ยากไร้ด้อยโอกาสทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยได้ให้ทุนการศึกษาอบรมคุณธรรมอย่างต่อเนื่องแก่เยาวชนทุกระดับชั้นตั้งแต่อนุบาลจนถึงระดับอุดมศึกษา รวมทั้งสามเณร โดยปีที่ผ่านมามอบทุนการศึกษาต่อเนื่องทั้งสิ้น 2,838 ทุน เป็นเงินมากกว่า 13 ล้านบาท โดยได้รับความร่วมมือสนับสนุนการดำเนินงานจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ  กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร  กรมประชาสัมพันธ์  สถานศึกษาต่างๆ และสื่อมวลชนทุกแขนง

สำหรับการดำเนินงานในทุกจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัด และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด ได้ไปเยี่ยมเยียนดูแลทุกข์สุขของเยาวชนเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ของเยาวชนและครอบครัวผู้รับทุนมูลนิธิฯ อย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นผู้ด้อยโอกาสและขาดแคลน เป็นผลให้เยาวชนรู้สึกอบอุ่นไม่โดดเดี่ยวเป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้เข้มแข็ง และเป็นการสกัดกั้นต้นเหตุแห่งปัญหายาเสพติดในกลุ่มเยาวชนผู้ด้อยประสบการณ์ชีวิตได้อย่างดีที่สุด ทั้งนี้เพื่อผนึกกำลังร่วมใจกันพัฒนาเยาวชนที่มีความประพฤติดีและยากไร้ในแต่ละจังหวัด ให้มีคุณธรรมนำความรู้มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์  ซึ่งคุณธรรมล้ำค่าดังกล่าวคู่ควรแก่การปลูกฝังไว้ในสายเลือดของเยาวชนไทยทุกคนสืบไป เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์

เยาวชนจำนวนมากได้เขียนจดหมายแจ้งให้เจ้าของกองทุนผู้อุปการะให้ทุนการศึกษาทราบว่า เงินทุนการศึกษาที่ได้รับจากมูลนิธิฯ มีค่ามาก ทำให้ชีวิตนี้มีความหวังว่า จะมีทุนเรียนจนจบการศึกษา จะตั้งใจเรียน และประพฤติตนเป็นคนดีให้สมกับที่ได้รับทุนการศึกษา อีกทั้งมีความอบอุ่นใจยิ่งนักที่มีคณะกรรมการฯ จากจังหวัดไปเยี่ยมเยียนสอบถามทุกข์สุขตลอดเวลา และได้รับจดหมายให้กำลังใจจากเจ้าของทุนอีกด้วย

2) รับรองงบการเงินของมูลนิธิฯ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นผู้ตรวจสอบเป็นปีที่ 43                

3) จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บุคคลสำคัญของโลก ประธานก่อตั้งและประธานกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิฯ ณ พระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วันที่ 8 พฤษภาคม 2568  โดย พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี 

4) การมีส่วนร่วมในการจัดงาน “วันหม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก” ณ หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ วันที่ 18 ตุลาคม 2568 

5) จัดงานบำเพ็ญกุศลถวายแด่ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธสิริโสภา และ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิมลฉัตร อดีตประธานมูลนิธิฯ ณ พระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วันที่ 11 ธันวาคม 2568

ประวัติย่อมูลนิธิฯ  มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ก่อตั้งในวโรกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เมื่อปี 2525 โดย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บุคคลสำคัญของโลก ทรงเป็นประธานก่อตั้งมูลนิธิฯ ตามคำกราบทูลเชิญของ หม่อมงามจิตต์ บุรฉัตร บุคคลสำคัญของโลก ผู้ประสานการก่อตั้ง โดยคณะกรรมการสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มอบให้กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทย เป็นเจ้าของเรื่องสนับสนุนการทำงานของมูลนิธิฯ 

มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้า ฯ เพื่อเยาวชน ฯ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม รับมูลนิธิฯ         ไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เมื่อปี ๒๕๒๖  สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานที่ปรึกษามูลนิธิ ฯ  ปัจจุบัน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี        กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงเป็นประธานมูลนิธิ ฯ ตั้งแต่ปี ๒๕๕๓  ตามคำกราบทูลเชิญของที่ประชุมใหญ่      ของคณะกรรมการอำนวยการมูลนิธิ ฯ เพื่อทรงเป็นศูนย์รวมใจ ประทานพระเมตตาบารมีคุ้มเกล้า ฯ ให้มูลนิธิ ฯ สามารถดำเนินงานที่ยังคุณประโยชน์ต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ได้อย่างมั่นคง และเป็นที่ศรัทธาเชื่อมั่นของประชาชนทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องต่อไป


ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ มุ่งมั่นพัฒนาเยาวชนโดยให้ทุนการศึกษาอบรมคุณธรรมอย่างต่อเนื่องแก่เยาวชนผู้ด้อยโอกาสทุกอำเภอ ทุกสังกัด ทุกระดับการศึกษาทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 35,000 กว่าทุน  เป็นเงินทุนทั้งสิ้นกว่า 287 ล้านบาท การดำเนินงานของมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนฯ กว่า 43 ปีที่ผ่านมา สัมฤทธิ์ผลทุกประการตามวัตถุประสงค์แห่งการก่อตั้งมูลนิธิฯ   

ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมชุบชีวิต ให้โอกาสเยาวชนผู้ยากไร้ด้อยโอกาสทั่วประเทศ ได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่องติดต่อบริจาคเงินได้ที่ มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนฯ ไลน์ไอดี 080-404-2439 และ 085-114-8900 โทร.080-404-2439 ใบเสร็จรับเงินนำไปลดหย่อนภาษีได้  และติดตามการดำเนินงานของมูลนิธิฯ กว่า 43 ปี ในการพัฒนาเยาวชนฯ  ได้ที่  

เฟสบุ๊ค : มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้า ฯ เพื่อเยาวชน ฯ  เว็บไซต์ : www.ruamchit-normklao.org

วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568

บางกอกแอร์เวย์ส กางแผนปี 68 เติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าขนส่งผู้โดยสาร 4.7 ล้านคน

ยกระดับแบรนด์มัดใจนักเดินทางทั่วโลก ตอกย้ำการเป็นสายการบินชั้นนำในภูมิภาค

กรุงเทพฯ, 28 มีนาคม 2568 - บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส นำโดย นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ แถลงทิศทางและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจบริษัทฯ ประจำปี 2568 พร้อมด้วย นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายงานการเงินและบัญชี และ นางสาวอมรรัตน์ คงสวัสดิ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย และรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการตลาด โดยปี 2568 ตั้งเป้ายอดผู้โดยสาร 4.7 ล้านคน พร้อมแผนรองรับอุปสงค์การเดินทางที่เพิ่มขึ้นในมิติที่สำคัญ ตลอดจนแคมเปญการตลาด ความร่วมมือกับหลากพันธมิตรชั้นนำ เพื่อพัฒนาแบรนด์ สร้างรายได้ และการเดินหน้าสู่เป้าหมายความยั่งยืน 

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมอุตสาหกรรมการบินโลกว่ามีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association: IATA) เมื่อเดือนธันวาคม 2567 ระบุว่า หลังจากที่ผ่านพ้นวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 อุตสาหกรรมการบินมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีอุปสงค์การเดินทางทางอากาศเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นของโลก และแนวโน้มนี้ก็สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของบริษัทฯ

นายพุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า เป้าหมายการดำเนินงานในปี 2568 บริษัทฯ คาดการณ์จำนวนเที่ยวบิน 48,077 เที่ยวบิน อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) เฉลี่ยเท่ากับ 82% ขนส่งผู้โดยสาร 4.7 ล้านคน ราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยประมาณ 4,200 บาทต่อที่นั่ง ทั้งนี้ แนวโน้มการเดินทางในปีนี้ เส้นทางสมุย ยังคงเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยมีการสำรองที่นั่งล่วงหน้าในช่วงเดือนมีนาคม – กันยายน 2568 เพิ่มขึ้น 14% โดยบริษัทฯ วางแผนกลับมาให้บริการเส้นทาง สมุย-กัวลาลัมเปอร์ วันละ 1 เที่ยวบิน ในไตรมาส 4 เพื่อรองรับการเดินทางของผู้โดยสารจากยุโรปที่เดินทางผ่านทางสนามบินกัวลาลัมเปอร์

ปัจจุบันบริษัทฯ ให้บริการเที่ยวบินสู่ 19 จุดหมายปลายทาง ประกอบด้วยภายในประเทศ 11 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิและดอนเมือง) เกาะสมุย เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ตราด ลำปาง แม่ฮ่องสอน 

สุโขทัย หาดใหญ่ อู่ตะเภา และจุดหมายปลายทางต่างประเทศ 8 แห่ง ได้แก่ มัลดีฟส์ สิงคโปร์ เสียมเรียบ พนมเปญ หลวงพระบาง ฮ่องกง เฉิงตู ฉงชิ่ง 

บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์เครือข่ายความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรสายการบิน ปัจจุบันมีสายการบินพันธมิตร (Codeshare Partners) รวมทั้งสิ้นจำนวน 30 สายการบิน และมีสายการบินข้อตกลงร่วม (Interline Partners) กว่า 70 สายการบินทั่วโลก 

ด้านบริหารจัดการฝูงบินให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ปีนี้ คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนเครื่องบินรวมทั้งสิ้นรวม 25 ลำ และมีแผนจะปรับฝูงบิน (Re-fleet) เครื่องบินรุ่น ATR72-600 รวมทั้งสิ้น 12  ลำ โดยมีกำหนดทยอยส่งมอบระหว่างปี 2569 ถึงปี 2571 นายพุฒิพงศ์ กล่าว

ในส่วนการพัฒนาศักยภาพธุรกิจสนามบิน บริษัทฯ มีแผนปรับปรุงอาคารผู้โดยสารของสนามบินสมุย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ส่วนสนามบินตราดมีแผนขยายรันเวย์ เพื่อให้สามารถรองรับเครื่องบินแบบไอพ่นได้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการ 

สำหรับแผนการลงทุนโครงการพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ณ ท่าอากาศยานอู่ตะเภานั้น ล่าสุด บริษัทฯ และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้มีการร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ เพื่อยกระดับความร่วมมือในการศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมมือกันพัฒนาธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 

นอกจากนี้ เพื่อตอกย้ำศักยภาพสายการบินชั้นนำระดับภูมิภาค บริษัทฯ เตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมระดับนานาชาติ "AAPA Assembly of President 2025" ครั้งที่ 69 ระหว่างวันที่ 14 -15 พฤศจิกายน 2568 โดยมีผู้นำระดับสูงของสายการบินสมาชิกกว่า 250 ท่าน จาก 18 สายการบิน รวมทั้งตัวแทนจากองค์กรกำกับดูแลระดับโลกอย่าง ICAO และ IATA หน่วยงานกำกับดูแลด้านการบิน ผู้ผลิตอากาศยานชั้นนำ และพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลก เข้าร่วมงาน ซึ่งการประชุมนี้นับเป็นเวทียุทธศาสตร์ที่สำคัญของอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาค

นายพุฒิพงศ์ ยังกล่าวถึงนโยบายด้านความยั่งยืนของบริษัท ฯ ในปี 2568 ที่ยังคงยึดหลักแนวคิด ESG ในทุกกระบวนการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ผ่านการขับเคลื่อนด้วยความรับผิดชอบใน 3 ด้าน ด้านสิ่งแวดล้อม ได้สานต่อโครงการ Low Carbon Skies by Bangkok Airways มุ่งเน้นลดการปล่อยคาร์บอน สอดรับพันธกิจภาคการบินโลกสู่เป้าหมาย Net Zero Carbon Emission 2050 การบริหารจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ล่าสุด เข้าร่วมโครงการมุ่งสู่ Net Zero ด้วยวิธี Science Based Target เพื่อสร้าง Roadmap ที่ชัดเจน ด้านสังคม ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเรียนรู้ การดูแลสิทธิมนุษยชน และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน ขณะที่ ด้านธรรมาภิบาล ยังคงเน้นความโปร่งใส การปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณธุรกิจ (Code of Conduct) ความพึงพอใจของลูกค้า และการนำนวัตกรรมมาใช้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายในการยกระดับคะแนนประเมินความยั่งยืน FTSE Russell ESG Scores ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพิจารณานำมาใช้ โดยมีกำหนดเริ่มอย่างเป็นทางการในปี 2569

นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายงานการเงินและบัญชี บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง ภาพรวมผลการดำเนินการด้านการเงินของปี 2567 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 26,041 ล้านบาท และมีค่าใช้จ่ายรวม 20,638 ล้านบาท มีผลกำไรสุทธิ 3,798 ล้านบาท ผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2567 เป็นจำนวน 5,454 ล้านบาท อัตราการทำกำไร (EBITDA Margin) อยู่ที่ 28% และอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทในปี 2567 ที่ 2.53 เท่า


นางสาวอมรรัตน์ คงสวัสดิ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย และรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการตลาด เปิดเผยว่า ด้านแผนการขายในปีนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นตลาดต่างประเทศซึ่งเป็นลูกค้าหลัก เพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายและรายได้ คาดการณ์ส่วนแบ่งช่องทางการขายบัตรโดยสารผ่านเว็บไซต์เป็นสัดส่วน 28% และช่องทางอื่น 72% (BSP Agent, Online Travel Agent, Call Center, Etc.) โดยเป็นการขายผ่านช่องทางเชื่อมต่อตรงผ่านระบบ 32% ตลาดภายในประเทศ 18% และตลาดต่างประเทศ 50% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยยังมีความต้องการสูงและยังคงแข็งแกร่ง โดยวางแผนการขายเชิงรุกสำหรับตลาดต่างประเทศกลุ่มใหม่ อาทิ เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประเทศในแถบละตินอเมริกา และตุรกี โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีสำนักงาน GSA รวมทั้งสิ้น 26 แห่งทั่วโลก

สำหรับกลยุทธ์การขายมี 4 แนวทาง ได้แก่ การมุ่งเน้นตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะการต่อยอดการขาย จากกระแสซีรีส์ "White Lotus Season 3"  โดยจับกลุ่มลูกค้าที่ตามรอยซีรีส์ เน้นกลุ่มประเทศ อเมริกา อังกฤษ เยอรมัน ออสเตรเลีย นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นตลาดที่เติบโตสูง เช่น คาซัคสถาน ซาอุดีอาระเบีย ตลาดที่มีฟรีวีซ่า เช่น อินเดีย และจีน ขยายการเชื่อมต่อตรงผ่านระบบกลุ่ม API/NDC/Direct Connect ให้มากขึ้นเพราะเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับสายการบินในยุคดิจิทัล ที่สามารถตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก เนื่องจากแนวโน้มปัจจุบันลูกค้านิยมซื้อตั๋วผ่านเว็บไซต์เปรียบเทียบราคา (Metasearch) และตัวแทนจำหน่ายตั๋วออนไลน์ (OTA) ช่วยให้สายการบินกระจายการขายตั๋วไปยังตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขายผ่านแพลตฟอร์มของสายการบินพันธมิตร ซึ่งเป็นการขายร่วม (Codeshare) บนบัตรโดยสารของสายการบินพันธมิตรผ่านช่องทางบนระบบแบบเชื่อมต่อตรง ช่วยขยายช่องทางการขาย และเพิ่มฐานลูกค้าแพลตฟอร์มของสายการบินพันธมิตร เริ่มจากสายการบินแควนตัสบนระบบ QDP และพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อขยายความร่วมมือต่อไป เช่น สายการบิน Thai Airways, British Airways, Lufthansa Group, Emirates, Etihad, Eva Air เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายและสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ เตรียมปรับโฉมระบบสำรองที่นั่งออนไลน์ใหม่ เป็น RefX (Reference Experience) หรือ Digital Commerce พัฒนาโดยบริษัทอะมาดิอุส เพื่อให้ผู้โดยสารเข้าถึงข้อมูลเที่ยวบิน ราคา และบริการเสริมได้ง่ายและชัดเจนยิ่งขึ้น  

ไฮไลท์กลยุทธ์สื่อสารการตลาดปี 2568 เปิดตัวภายใต้ธีม "Awesome Experience" มุ่งสร้างการเดินทางสู่ประสบการณ์ครั้งใหม่ที่มีความหมายกับผู้โดยสารทุกกลุ่ม โดยเน้นการบริการที่พิเศษ สะดวกสบาย และให้ความสำคัญกับความยั่งยืน พร้อมส่งภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ภายใต้แนวคิด "ดีต่อใจ" โดยแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ “ญาญ่า - อุรัสยา เสปอร์บันด์” เริ่มเผยแพร่บนทุกช่องทางแล้ววันนี้

สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของปีนี้ ได้เตรียมจัด Pop-up Boutique Experience ณ สนามบินสุวรรณภูมิ สมุย ตราด สุโขทัย และเชียงใหม่ โดยนำเสนอประสบการณ์อาหารที่หลากหลาย ผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นหรือประเพณีอันแท้จริงของชุมชนเอาไว้ อาทิ ในเดือนเมษายน สนามบินสุวรรณภูมิ จะให้บริการไอศกรีมที่รังสรรค์รสชาติจากจินตนาการ (Jin – Ta Icecream)  

และพลาดไม่ได้ กับกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา Bangkok Airways Boutique Series 2025 รายการแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 พบกับ 3 เส้นทางวิ่งใน 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (สมุย) ตราด สุโขทัย เสื้อวิ่งออกแบบโดยศิลปินอิสระ 'Underhatdaddy' ที่ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของแต่ละจุดหมายปลายทาง และร่วมวิ่งไปกับ 3 ศิลปินชื่อดัง 'ตู่ ภพธร' 22 มิถุนายน ที่เกาะสมุย 'โตโน่ ภาคิน' 17 สิงหาคม ที่จ.ตราด และ 'เทศน์ ไมรอน' 28 กันยายน ที่จ.สุโขทัย 

อีกหนึ่งกลยุทธ์แบรนด์เพื่อเข้าถึงใจลูกค้า และตอกย้ำภาพลักษณ์ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ที่สามารถครองใจผู้โดยสารทั่วโลก กับแชมป์ 8 ปีซ้อน Skytrax Award สายการบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในโลก และสายการบินระดับภูมิภาคดีที่สุดในเอเชีย ล่าสุดจับมือกับ PUMA สปอร์ตแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ภายใต้แนวคิด “Be The First Move For Better Together” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับการให้บริการ

Chersery Home Physical Therapy Clinic พาราไดซ์ พาร์ค

พาราไดซ์ พาร์ค มุ่งยกระดับประสบการณ์ใหม่ที่ยิ่งใหญ่จากเดิม สู่การเป็น Health & Wellness Destination เติมเต็มทุกความต้องการด้านสุขภาพและทุกไลฟ์สไตล์เพื่อชีวิตที่ดีของทุกคน

พาราไดซ์ พาร์ค ยืนหนึ่งในเรื่องการให้บริการสุขภาพครบวงจร เดินหน้าขยายพันธมิตรด้านสุขภาพชื่อดังหลากหลายอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งสู่การเป็นจุดหมายปลายทางเป็น “สถานีสุขภาพดี” ที่ครบในด้านสุขภาพและการใช้ชีวิตดี ๆ Health & Wellness Destination เพื่อยกระดับประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิมให้กับลูกค้าทุกคน เชื่อตอบโจทย์และต่อยอดไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าเดิม และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่


กายภาพบำบัดมีความสำคัญมากถ้าร่างกายมีความบกพร่อง เช่น อาการปวด กล้ามเนื้ออ่อนแรงและข้อติดแข็ง หากไม่รับการทำกายภาพบำบัดในช่วงเวลาที่เหมาะสม ปวดอะไรไม่หาย … มาที่นี่ พบกับคลินิกลดปวด Pain Relief Clinic ปวดกล้ามเนื้อ Office Syndrome … โดย Chersery Home International รวมถึงกลุ่มอาการปวดหลังจากเล่นกีฬา / ฟื้นฟูหลังผ่าตัด / หลังออกจากรพ / Stroke อัมพาต อ่อนแรง

Health & Wellness Destination ประโยชน์ของการกายภาพบำบัด

1.  ลดปวดโดยไม่ต้องใช้ยา

2.  แก้ไขความบกพร่องของร่างกาย

3.  หลีกเลี่ยงการผ่าตัด

4.  รักษาได้ตรงจุดปวด

5.  ป้องกันกล้ามเนื้อฝ่อลีบ อ่อนแรง

6.  คืนความยืดหยุ่นและสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ

7.  ปรับสมดุลของร่างกายแบบยั่งยืน

วันนี้มีโอกาส แชร์ประสบการณ์ทำกายภาพบำบัด อาการเนื่องจากปวดแขนด้านซ้ายมือ หลังทำกายภาพด้วยเครื่อง อาการปวดเมื่อยลดลง  ใส่ใจในรายละเอียดการรักษา ช่วยหาสาเหตุ หาจุดที่ปวดลึกรู้สึกดีขึ้นมาก ส่วนอาการนอนไม่ค่อยหลับตอนนี้ก็ดีขึ้น

ขอขอบคุณ : กภ.เจนจิรา พานิชย์เลิศอำไพ คลินิกกายภาพบำบัด Chersery Home International
ชั้น 3 ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค

✨ จัดเต็มร้านค้าที่ดีที่สุด >> https://bit.ly/PDP_Directory

📣 เปิดบริการทุกวัน

จันทร์ - ศุกร์ 10.30 - 21.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00 - 21.00 น.
การเดินทางง่าย ๆ ด้วยรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง ลงสถานี สวนหลวง ร.9 ทางออก 2.


#PARADISEPARK #พาราไดซ์พาร์ค #LIVINGINHARMONY #ใส่ใจการใช้ชีวิต #กินดีอยู่ดีสุขภาพดี #ShoppingCenter #ศูนย์การค้า #PDPLIFESTYLE #PDPHEALTHANDWELLNESS #CherseryHome #คลินิกกายภาพบำบัด #คลินิกลดปวด #กายภาพบำบัด #ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู #PainReliefClinic 

#กายภาพบำบัดศรีนครินทร์

วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2568

สงกรานต์นี้ KFC สาดความแซ่บ! “ป๊อปบอมบ์แซ่บ” ที่ทุกคนรอคอยกลับมาแล้ว!

  

ปีใหม่ไทยนี้ นอกจากคนไทยจะได้พักผ่อน กลับบ้านเกิดไปหาครอบครัวให้หายคิดถึงกันแล้ว KFC Thailand ก็อาสาพาเมนูเด็ดที่ทุกคนรอคอย “ป๊อปบอมบ์แซ่บ” คืนสู่เหย้าวงการไก่ทอดเช่นเดียวกัน พร้อมระเบิดความแซ่บรับบสงกรานต์นี้ให้ลุกเป็นไฟ! งานนี้ KFC Thailand จัดหนักความอร่อยสุดจี๊ดให้หายคิดถึง เสิร์ฟเซ็ตไก่ทอดกรอบนอกนุ่มใน มาพร้อมชิกเก้น

ป๊อปคลุกผงแซ่บชิ้นพอดีคำและรสชาติคุ้นเคยที่ทุกคนถามหา อยู่เคียงข้างคนไทยช่วงหยุดเทศกาลนี้กันล่วงหน้าและยาวไปตลอดทั้งเดือน ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2568 – 23 เมษายน 2568 

 งานนี้ใครอยากแซ่บก็พุ่งตัวไปได้ที่ KFC ทุกสาขา ประเดิมความแซ่บแบบอิ่มพอดีด้วยชุด เดอะบอกซ์ ป๊อปบอมบ์แซ่บ ไก่ทอด 1 ชิ้น ไก่ป๊อปบอมบ์แซ่บ 7 ชิ้น ไก่วิงซ์แซ่บ 2 ชิ้น เฟรนช์ฟรายส์ (ปกติ) 1 ที่ และเป๊ปซี่ 1 ที่ ในราคาชุดละ 159 บาท สำหรับคนอยากแซ่บแบบจุใจ แนะนำให้เปิดตี้รับสงกรานต์ด้วยชุด ดับเบิลบักเก็ต ป๊อปบอมบ์แซ่บ อร่อยจัดเต็มกับ ไก่ทอด 7 ชิ้น ไก่ป๊อปบอมบ์แซ่บ 14 ชิ้น ไก่วิงซ์แซ่บ 3 ชิ้น นักเก็ตส์ 3 ชิ้น เฟรนซ์ฟรายส์ (ปกติ) 1 ที่ และมันบด (ปกติ) 1 ที่ ในราคาชุดละ 399 บาท ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2568 – 23 เมษายน 2568  (หรือจนกว่าสินค้าจะหมด!)

 นอกจากความอร่อยถึงใจที่หวนกลับมาให้หายคิดถึง KFC Thailand ยังรอเสิร์ฟเซอร์ไพรส์สุดพิเศษที่จะทำให้สงกรานต์นี้แซ่บกว่าเดิม! บอกเลยว่า...ห้ามพลาด! ติดตามข่าวสารกิจกรรมสุดพิเศษอื่นๆ ของ KFC Thailand ได้ที่ TikTok @kfcthailand, Instagram @kfcthailand, Facebook KFC Thailand และ X @KFCThailand 

รายละเอียดเพิ่มเติม

เซ็ตดับเบิลบักเก็ต ป๊อปบอมบ์แซ่บ และ เซ็ตเดอะบอกซ์ ป๊อปบอมบ์แซ่บ

• ระยะเวลาโปรโมชั่น: ช่วงวันที่ 27 มีนาคม 2568 – 23 เมษายน 2568 เท่านั้น (หรือจนกว่าสินค้าหมด)

1.) ดับเบิลบักเก็ตป๊อปบอมบ์แซ่บ ราคาชุดละ 399 บาท ประกอบด้วย ไก่ทอด 7 ชิ้น ไก่ป๊อปบอมบ์แซ่บ 14 ชิ้น ไก่วิงซ์แซ่บ 3 ชิ้น นักเก็ตส์ 3 ชิ้น เฟรนซ์ฟรายส์ขนาดปกติ 1 ที่ และ มันบดขนาดปกติ 1 ที่

2.) เดอะบอกซ์ป๊อปบอมบ์แซ่บ ราคาชุดละ 159 บาท ประกอบด้วย ไก่ทอด 1 ชิ้น ไก่ป๊อปบอมบ์แซ่บ 7 ชิ้น ไก่วิงซ์แซ่บ 2 ชิ้น เฟรนช์ฟรายส์ขนาดปกติ 1 ที่ และเป๊ปซี่ 1 ที่

• ราคาอาจแตกต่างกันในแต่ละสาขาและช่องทางการขาย

• อาหาร และภาชนะในภาพตกแต่งเพื่อโฆษณา

• ตรวจสอบเงื่อนไขล่าสุดได้ที่จุดขาย หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.kfc.co.th/termsofuse

ภูณิพัฒน์ โปรดักซ์ เปิดตัว สบู่ - เซรั่ม - แชมพู ดูแลผิวและเส้นผมทุกคน

นวัตกรรมความงามระดับพรีเมียม จากสมุนไพรธรรมชาติแท้ 100%

พบกับสุดยอด 3 ผลิตภัณฑ์ สบู่ – เซรั่ม – แชมพู ภายใต้แบรนด์ “ณพัฒน์” (Naphat) ที่จะพลิกโฉมการดูแลผิวและเส้นผมของคุณ ด้วยสารสกัดจากสมุนไพรไทยแท้ 100% ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อผลลัพธ์ที่เหนือกว่า เห็นผลจริง ปลอดภัย 100% ไม่มีสารเคมีอันตราย โดย คุณบุญชู วัฒนกิจ อดีตนักบริหารจาก CPAC เครือ SCG ผู้เชื่อมั่นในพลังธรรมชาติ และต้องการให้ทุกคนได้สัมผัส ความมหัศจรรย์ของสมุนไพรไทย ผ่านผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่า ปลอดภัย และเห็นผลจริง

นายบุญชู วัฒนกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูณิพัฒน์ โปรดักซ์ จำกัด เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ สมุนไพรคุณภาพ ภายใต้แบรนด์ “ณพัฒน์” (Naphat) บรรจงคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมียม มีคุณภาพทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับคุณประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมีสินค้าจำหน่ายอยู่ 3 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย 1. คอลลาเจน ไวท์เทนนิ่ง แอนด์ แอคแน่ โซฟ 2. ซุปเปอร์ คอลลาเจน โกลด์ ซีรัม และ 3. เนอเชอรัล เฮอเบิล แชมพู ทุกผลิตภัณฑ์ได้รับ อย. จากกระทรวงสาธารณสุขประเทศไทย มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยได้อย่างแน่นอน และเพื่อสุขอนามัยที่ดีต่อผิวและเส้นผมของทุกคน โดยมีลายละเอียดของแต่ละผลิตภัณฑ์ ดังนี้

1. “คอลลาเจน ไวท์เทนนิ่ง แอนด์ แอคแน่ โซฟ” (Collagen Whitening & Acne Soap) สบู่หน้าใส ลดสิว ผิวเนียนกระจ่างใส แก้ปัญหาเรื่องสิว ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำกวนใจ สบู่ตัวนี้อัดแน่นด้วยสารสกัดเข้มข้น คอลลาเจนญี่ปุ่น ช่วยฟื้นฟูผิวให้เนียนเด้ง อ่อนเยาว์, เบต้ากลูแคนและวิตามิน B3 ช่วยลดรอยดำ เผยผิวกระจ่างใส, ทีทรีออยล์ ช่วยลดสิว ลดมัน ผิวสะอาดหมดจด ฟองนุ่มละเอียด หอมละมุน ไม่แห้งตึง

2. “ซุปเปอร์ คอลลาเจน โกลด์ ซีรัม” (Super collagen gold serum) เซรั่มทองคำ บางเบา แต่พลังการบำรุงเต็มพิกัด ช่วยปัญหาผิวโทรม ริ้วรอยมา ต้องการผิวใสฉ่ำวาว มีทองคำบริสุทธิ์ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอย ผิวตึงกระชับ, แตงกวาและว่านหางจระเข้ ช่วยเติมความชุ่มชื้น ผิวอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว, วิตามิน B3 และคอลลาเจนญี่ปุ่น ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส เนื้อบางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับทุกสภาพผิว

3. “เนอเชอรัล เฮอเบิล แชมพู” (Shampoo Naphat natural herbal) แชมพูสมุนไพร 9 ชนิด ฟื้นฟูผมเสีย ผมร่วง ให้กลับมาสวยสุขภาพดี ช่วยปัญหาผมร่วง ผมบาง หนังศีรษะมัน แชมพูสูตรธรรมชาติ อุดมด้วยสารสกัดจากว่านหางจระเข้ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดอาการคันหนังศีรษะ, ใบบัวบกและขิง ช่วยกระตุ้นรากผม ให้แข็งแรง ลดผมร่วง, อัญชันช่วยบำรุงเส้นผมให้ดกดำ เงางาม, มะกรูดและใบหมี่ ช่วยลดความมัน ขจัดรังแค ลดคันหนังศีรษะ ฟองนุ่ม ล้างออกง่าย กลิ่นหอมสดชื่น




“ณพัฒน์” (Naphat) ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ที่คุณต้องลอง! วัตถุดิบพรีเมียมจากธรรมชาติแท้ 100%
ไม่มีสารเคมีอันตราย อ่อนโยน ใช้ได้ทุกสภาพผิว ผ่านการทดสอบจริง เห็นผลจริง รีวิวจากผู้ใช้จริง คุณภาพเทียบเท่าเคาน์เตอร์แบรนด์ แต่ราคาจับต้องได้ สมุนไพรไทย มีความมหัศจรรย์และทรงคุณค่าอย่างมาก หากมีการนำมาใช้อย่างถูกวิธีและปริมาณที่เหมาะสม เราจะพบกับผลลัพธ์ที่มหัศจรรย์ สัมผัสความมหัศจรรย์ของสมุนไพรไทยของผลิตภัณฑ์ “ณพัฒน์” (Naphat) แล้วคุณจะหลงรักและชื่นชอบ

สามารถดูรายละเอียดของผลิตภัณฑ์แบรนด์ “ณพัฒน์” (Naphat) ได้ที่ Facebook : Naphat Skincare Serum and Soap ติดต่อซื้อสินค้าและสอบถามได้ที่ Line id : 0654265199 และโทรศัพท์เบอร์ : 0654265199

Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025

ที่สุดของงานนวัตกรรมสุขภาพ & เวลเนสแห่งปี วันที่ 26-29 มิ.ย.68 ที่ไบเทค บางนา

เตรียมพบกับงานแสดงนวัตกรรมด้านสุขภาพและเวลเนสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี กับงาน Thailand Wellness and Healthcare Expo 2025 จัดโดย บริษัท พีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด งานเดียวที่คุณจะได้พบกับธุรกิจสุขภาพ เวลเนส การแพทย์ และสปา แบบครบทุกมิติ รวมกว่า 170 บูธ ไม่ว่าจะเป็น สินค้าและบริการด้านสุขภาพ นวัตกรรมด้านการแพทย์ ศูนย์ดูแลผู้สูงวัย คลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย การแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก คลินิกความงาม คลินิกกายภาพบำบัด อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมอาหารเสริมและความงาม เครื่องมือและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ธุรกิจสปา อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น เต็มอิ่มกับเสวนาให้ความรู้อัพเดทเทรนด์สุขภาพจากแพทย์เฉพาะทาง รวมทั้งกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแถวหน้าทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ ที่จะมาให้ความรู้ในเรื่องฮอร์โมน ยีน วัยทอง สเต็มเซลส์ นวัตกรรมในการรักษาโรค ต่าง ๆที่คุณไม่ควรพลาด !!
ที่สำคัญงานนี้ยังมีแนวร่วมจากหน่วยงานภาครัฐ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าคัดเลือกผู้ประกอบการด้านสุขภาพ เวลเนส และสปา รวมกว่า 30 บูธ ที่คัดสรรมาอย่างดี พร้อมด้วยกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ และ Networking เชื่อมโยงขยายคู่ค้านักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเหล่าสถาบันการเงิน และหน่วยงานค้ำประกันด้านสินเชื่อ พร้อมให้บริการสำหรับผู้สนใจลงทุนเรื่องสุขภาพ พิเศษงานนี้ยังจัดร่วมกับงาน Saha Group Fair 2025 ครั้งที่ 29 ที่รวบรวมสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดจนสินค้าอุปโภคและบริโภคแบรด์ดังมากมายในเครือสหพัฒน์ให้เลือกช้อปในราคาสุดพิเศษ นับเป็นสุดยอดงานอีเว้นท์แห่งปีที่รวมความครบเครื่องทั้งช้อปปิ้งสินค้าและบริการที่ถูกใจ และ ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมไปพร้อมกัน ผู้ที่สนใจเตรียมพร้อมปักหมุดรอ งาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 วันที่ 26-29 มิถุนายน 2568 ณ ฮอลล์ 101 ไบเทค บางนา และ สหกรุ๊ปแฟร์ 2568 ฮอลล์ 98-100 ไบเทค บางนา
ผู้สนใจจองบูธในงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 โทร. 094-915-4625 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 086-314-1482 

พาราไดซ์ พาร์ค ยกระดับประสบการณ์ใหม่ Health & Wellness Destination

พาราไดซ์ พาร์ค มุ่งยกระดับประสบการณ์ใหม่ที่ยิ่งใหญ่จากเดิม สู่การเป็น Health & Wellness Destination เติมเต็มทุกความต้องการด้านสุขภาพและทุกไลฟ์สไตล์เพื่อชีวิตที่ดีของทุกคน

พาราไดซ์ พาร์ค ยืนหนึ่งในเรื่องการให้บริการสุขภาพครบวงจร เดินหน้าขยายพันธมิตรด้านสุขภาพชื่อดังหลากหลายอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งสู่การเป็นจุดหมายปลายทางเป็น “สถานีสุขภาพดี”  ที่ครบในด้านสุขภาพและการใช้ชีวิตดี ๆ Health & Wellness Destination เพื่อยกระดับประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างไป
จากเดิมให้กับลูกค้าทุกคน เชื่อตอบโจทย์และต่อยอดไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าเดิม และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่


หลังจากที่ เอ็ม บี เค ประกาศปรับโฉมใหม่ ศูนย์การค้าพาราไดซ์  พาร์ค พร้อมทั้งปรับกลยุทธ์และแนวคิดใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Living in Harmony ใส่ใจการใช้ชีวิต กินดี อยู่ดี สุขภาพดี เพื่อยกระดับประสบการณ์ใหม่ ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ปัจจุบันที่ดูแลใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ด้วยการให้บริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม ที่ไม่เพียงแต่เน้นการรักษาแต่ยังรวมถึงการสร้างเสริม ป้องกัน ดูแล รักษา บำบัดและฟื้นฟู แบบครบวงจรในย่านศรีนครินทร์ 

นางสาวพุทธชาด ศรีนิศากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการตลาด บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ก่อนที่จะปรับโฉมใหม่และปรับแนวคิดคอนเซ็ปต์ใหม่ ได้มีการศึกษาพฤติกรรมไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าตลอดจนประชาชนพื้นที่โดยรอบ แม้ว่าแต่ละกลุ่มจะมีไลฟ์สไตล์หรือความต้องการที่แตกต่างกันไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนให้ความสนใจเหมือนกันและมีแนวโน้มว่าจะสนใจเพิ่มมากขึ้น คือ “การดูแลสุขภาพดีไม่ต้องรอ” เพราะเรารวมคลินิคมากมายครบถ้วน ให้คุณเข้าถึงการรักษาได้อย่างสะดวกสบาย มาดูแลสุขภาพไปพร้อมกับการใช้ชีวิตประจำวัน




ตอนนี้มีพันธมิตรด้านสุขภาพ ทั้งคลินิกแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์ทางเลือก ศูนย์ความงามแบบครบวงจร ตลอดจนร้านเพื่อสุขภาพต่าง ๆ กว่า 50 ร้านค้า โดยเฉพาะชั้น 3 มีพื้นที่ 17,014 ตารางเมตร และกว่า 60% ของพื้นที่ ทำเป็น โซน Health & Wellness  ลูกค้าจะพบกับคลินิกชั้นนำมาเปิดให้บริการ อย่าง คลินิกพรีเมียม รามาธิบดี เฮลธ์ สเปซ@พาราไดซ์ พาร์ค ที่ถือเป็นการร่วมมือครั้งสำคัญกับ โรงพยาบาลรามาธิบดี ในการเปิดศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจรนอกพื้นที่โรงพยาบาล ให้ประชาชนเข้าถึงการดูแลสุขภาพและการบริการที่ครบวงจร โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา อาทิ  อายุกรรม กุมารเวช กระดูกและข้อ

สูติ-นรีเวช เวชศาสตร์ฟื้นฟู แพทย์ทางเลือก คลินิกการนอนหลับ จากโรงพยาบาลรามาธิบดี และการให้บริการพื้นฐานทางหัตถการที่สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเดินทางเข้าเมืองหรือเข้าสู่ระบบการรักษาในโรงพยาบาล สามารถรองรับผู้ป่วยได้ไม่ต่ำกว่า 300 คนต่อวัน  ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการมากว่า 1ปี ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าและประชาชนในพื้นที่ทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ารับบริการต่อเนื่อง 

รวมทั้งมีคลินิกของคุณหมอที่เก่งและเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านต่าง ๆ มาเปิดให้บริการ อาทิ คลินิกกายภาพบำบัด Rehabz By Chersery Home ที่เหมือนยกแผนกกายภาพบำบัดระดับโรงพยาบาลมาไว้ที่นี่ เพื่อดูแลฟื้นฟูสุขภาพด้านกายภาพ โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ พร้อมอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการรักษา โสฬสคลินิก (SOROT CLINIC)  รักษาไมเกรนและโรคปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ด้วยวิธี
"กดจุดลึกปรับโครงสร้างกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น (Deep Acupressure and Muscle Restructuring)" ผสมผสานกับ "การบำบัดจุดกดเจ็บ” อีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ สหคลินิก เวลเนสแคร์ ใช้การรักษาด้วยวิถีธรรมชาติบำบัดร่วมกับแผนปัจจุบัน (Integrative Therapy/Integrative Medicine) พร้อมให้ความรู้ในการปรับเปลี่ยนอาหารให้เป็นยา



นอกจากนี้ยังมีศูนย์ดูแลสุขภาพและความงามชั้นนำที่นำนวัตกรรมทันสมัย พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญทั้งด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย เวชศาสตร์ป้องกัน เวชศาสตร์ฟื้นฟู คอยดูแลและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด อาทิ Aestheta Wellness & Aesthetic พบกับการให้บริการที่หลากหลาย อาทิ การปรับสมดุลร่างกายด้วยการคลีนลำไส้ให้สะอาดกับ Colon Hydrotherapy  หรือการดูแลหัวใจด้วย EECP เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มปริมาณเลือดไปเลี้ยงหัวใจให้เพิ่มขึ้น  ส่วน S’RENE by SLC คลินิกดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเพื่อคนเมือง ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย อย่าง Smart Focus Shockwave ที่ใช้คลื่นกระแทกที่มีความแม่นยำสูง มารักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ กระตุ้นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ และเพิ่มการไหลเวียนเลือด หรือการรักษาข้อเข่าเสื่อมด้วยการฉีดเกล็ดเลือดด้วยเครื่อง PRP เป็นต้น รวมทั้งยังมีคลินิกแพทย์แผนจีน คลินิกสุขภาพจิต คลิกนิกเฉพาะทางเรื่องการได้ยิน คลินิกทันตกรรม ตลอดจนร้านสินค้าเพื่อสุขภาพและอุปกรณ์ของใช้ผู้สูงอายุ และโซน ตลาดสมุนไพรพรีเมียม นำสินค้าและผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ได้รับการรับรองหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้รางวัลจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพ และในไตรมาส 2 นี้จะเปิด ศูนย์ไตเทียม ให้บริการฟอกไต ซึ่งพาราไดซ์ พาร์ค ถือเป็นศูนย์การค้าแห่งแรกในประเทศไทยที่มีบริการฟอกไต โดยสามารถรองรับผู้มาใช้บริการได้ถึง 16 เตียง ใช้สิทธิ์ประกันสังคม และสิทธิ์ 30 บาท ได้อีกด้วย 




นางสาวพุทธชาด กล่าวเพิ่มเติม ไม่เพียงแค่การเติมเต็มพันธมิตรสุขภาพชั้นนำ หรือผนึกร้านค้าชั้นนำ ร้านอาหารชื่อดังต่าง ๆ ภายในศูนย์การค้าให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าและสร้างทราฟฟฟิกให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น การจัด “อีเว้นท์” เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มทราฟฟิก และช่วยกระตุ้นกำลังซื้อร้านค้าต่าง ๆ เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติได้อีกเช่นกัน

ปัจจุบันทราฟฟิกลูกค้าพาราไดซ์ พาร์ค เฉลี่ยประมาณวันละ 40,000-50,000 คนต่อวัน ในช่วงวันหยุดหรือในวันที่มีการจัดกิจกรรมอีเว้นท์ จะเพิ่มขึ้น 15% โดยกลุ่มลูกค้าของพาราไดซ์ พาร์ค จะเป็นกลุ่มครอบครัว และผู้สูงวัย ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง พบว่ามีเฉลี่ยการใช้จ่ายปกติอยู่ที่ 3,000 บาทต่อบิล แต่เมื่อมีการจัดอีเว้นท์ จะมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 10%

เมื่ออีเว้นท์มีส่วนสำคัญในการดึงดูดคนเข้าศูนย์การค้าฯ และช่วยเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยให้กับร้านค้า จึงต้องออกแบบที่มีความโดดเด่น น่าสนใจ และน่าประทับใจ ตลอดจนนำเทรนด์คนดังที่กำลังเป็นกระแสมาเป็นส่วนหนึ่งของการจัดกิจกรรม เพื่อมอบความสุขและความผ่อนคลายสำหรับทุกคนในครอบครัว รวมทั้งการจัดกิจกรรมที่รองรับกลุ่มผู้สูงอายุ 

โดยอีเว้นท์ที่ครองใจที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อย่าง กิจกรรม “ยังก์ ไหว คลับ” เป็นเหมือนเป็นอีกหนึ่งคอมมูนิตี้ที่กลุ่มผู้สูงวัย ที่ได้ออกมาพบปะพูดคุย เพลิดเพลินกับการใช้เวลาว่างหลังเกษียณ ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ทั้งการเต้นลีลาศ และร้องเพลง กิจกรรม PARADISE PARK KHON THE THEATER การแสดงโขน ให้ชมฟรีในทุกเดือน ซึ่งนอกจากร่วมอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของไทยให้คงอยู่แล้ว ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นอย่างมากทุกคนชื่นชอบและรอคอยเพื่อที่จะมาชื่นชมการแสดง หรือแม้แต่การนำเรื่องเทรนด์การดูแลสุขภาพมาต่อยอดกับ กิจกรรม Paradise Park Health & Wellness ที่จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ จากพันธมิตรคลินิกในศูนย์การค้าฯ อาทิ             Rehabz By Chersery Home สหคลินิก เวลเนสแคร์ มาให้ความรู้ควบคู่การทำเวิร์คช็อปที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ขณะเดียวกันผนึกพันธมิตรกับสถาบันการศึกษาและมหาวิทยาลัยชั้นนำ ในการจัดการแข่งขันเชิงวิชาการที่สนุกอย่างสร้างสรรค์ทั้งการแข่งขันหุ่นยนต์ การแข่งขันหมากรุกสากล การแข่งขัน Crossword การแข่งขันการ์ดเกม เป็นต้น  



“การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งนี้ของพาราไดซ์ พาร์ค ไม่เพียงแต่ปรับกลยุทธ์และแนวคิดใหม่ แต่ยังยกระดับประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้า ในการมุ่งสู่การเป็น Health & Wellness Destination จุดหมายปลายทางที่ครบครันในเรื่องการดูแลสุขภาพและการมาใช้ชีวิตดี ๆ ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นการ กินดี อิ่มอร่อยร้านอาหารมากมาย อยู่ดี เพลิดเพลินกับสินค้าคุณภาพที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล รวมทั้งกิจกรรมดี ๆ มากมายสำหรับทุกคนในครอบครัว และ สุขภาพดี กับหลากหลายบริการด้านสุขภาพแบบองค์รวมที่พร้อมดูแลคุณทั้งร่างกายและจิตใจ เชื่อว่าจะตอบโจทย์และต่อยอดไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าเดิมและยังช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ได้อีกเช่นกัน” นางสาวพุทธชาด กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เอ็ม บี เค คอนแทคท์เซ็นเตอร์ 1285
พร้อมติดตามกิจกรรม และโปรโมชันดี ๆ ของศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ได้ที่ www.paradisepark.co.th หรือเฟซบุ๊กเพจ Paradise Park อินสตาแกรม paradisepark_th
และยูทูป paradiseparkchannel

#พาราไดซ์พาร์ค #Paradisepark  #HEALTHANDWELLNESSDESTINATION #รามาธิบดีเฮลธ์สเปซ #RehabzByCherseryHome #โสฬสคลินิก #สหคลินิก #Aestheta #S’RENE #ศูนย์ไตเทียม 

ข่าวประชาสัมพันธ์

แพพี่เอก แพบ้านกลางน้ำ

ออกไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ พักผ่อน ชมวิว สูดอากาศดีๆ ที่แพพี่เอก ที่พักชิลใจไม่ไกลกรุงเทพแพพักบ้านสไตล์ธรรมชาติ เงียบ สงบ งดงาม ใกล้ชิดธรรมชา...

โวยวายดอทคอม