วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2568

แพพี่เอก แพบ้านกลางน้ำ

ออกไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ พักผ่อน ชมวิว สูดอากาศดีๆ ที่แพพี่เอก ที่พักชิลใจไม่ไกลกรุงเทพแพพักบ้านสไตล์ธรรมชาติ เงียบ สงบ งดงาม ใกล้ชิดธรรมชาติ ไปมาแล้วฟินระดับพันลองไปสักครั้งนะ แล้วจะเข้าใจพักแบบโลกส่วนตัวบนอ่างเก็บน้ำเขื่อศรีนครินทร์ สุดฟิน!ไปชิล พักใจ นอนสบาย ขาจุ่มน้ำ ไปเช็คอิน พาคุณแฟน ครอบครัว และแก๊งเพื่อนไปดื่มด่ำกับธรรมชาติบ้าง ไปดูกันเลย




ที่พักสุดชิลที่ไม่ว่าใครก็ต้องหลงรักในทิวทัศน์อันงดงามท่ามกลางขุนเขา อากาศสุดเย็นสบายราวกับให้ธรรมชาติช่วยบำบัด และแน่นอนว่าแพพี่เอก มีอุปกรณ์เครื่องครัวมีเตรียมไว้ให้ครบ มาพักที่นี่สะดวกสบาย สามารถเตรียมอาหารสดเครื่องดื่มเครื่องปรุงมาทำ อาทิ ปิ้งย่างบนที่พักหรือจะสั่งเป็นเมนูสำเร็จรูปที่นี่พี่เอกจัดให้มีทั้งแพแอร์และแพพัดลมทุกหลังเป็นแบบส่วนตัวในที่พักทุกหลังพักผ่อนท่ามกลางทะเลสาบแสนกว้างใหญ่ ลักษณะเป็นแบบส่วนตัวเหมาหลังไม่พักรวมแบบกรุ๊ปส่วนตัวเหมาทั้งหลัง อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงมุมปิ้งย่างทำอาหารเองได้ด้วย ดีงามสุดๆ ที่พักน้องหมาน้องแมวสามารถพักได้ (มีค่าบริการ 200  บาท) ลูกค้าต้องนำกรงคอกหรือที่นอนสำหรับน้องมาด้วย งดนำน้องไปนอนที่ที่นอนที่เราจัดเตรียมไว้

เตรียมความพร้อมสิ่งที่ต้องเตรียมมาเองก่อนเข้าพักผ้าเช็ดตัว สบู่ ยาสีฟัน และของใช้ส่วนตัวยังมีอุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ ในบริเวณแพอีกด้วย เรื่องอาหารเครื่ิองดื่มและเครื่องปรุง ที่นี่ร้านค้าค่อนข้างปิดไวถ้าลูกค้าเตรียมของใช้ของกินมาให้ครบ แพ 1 2 3 แพใช้ไฟเป็นระบบโซล่าเซลล์สามารถชาร์จแบตมือถือชาร์จ iPhone iPad ลำโพง bluetooth ส่วนพัดลม  แพมีเตรียมไว้ ใช้ไฟส่องสว่างบนแพได้ตามปกติ แต่อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องเสียบปลั๊กสามตา เช่นกระทะไฟฟ้าไดร์เป่าผม อะไรพวกนี้จะใช้ไม่ได้ โดยรวม ค่อนข้างสะดวกทำให้การพักผ่อนครั้งนี้ไม่มีคำว่าเบื่อแน่นอน ทั้งยังมีแพหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะมาชิลเป็นคู่ หรือจะมาสนุกเป็นครอบครัว และกลุ่มเพื่อนโดนใจไปหมด ที่นี่มีกิจกรรมดีๆ กลางน้ำมากมาย



แพพี่เอก 4 พี่เอก 5 ใช้ไฟฟ้าจากไปบ้านโดยตรงโยงมาใช้ในที่พัก ลูกค้าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ตามปกติ ในส่วนของการจองจะมีค่ามัดจำ1,000 บาท ในส่วนที่เหลือชำระที่แพวันเช็คเอาท์ 

การจองแพ  จองเรียบร้อยสามารถเลื่อนวันได้โดยต้องแจ้งก่อนล่วงหน้า 7 วัน ก่อนวันเข้าพักแต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ว่าเลื่อน แต่ยังไม่สามารถระบุวันที่จะเข้าพักได้เงินมัดจำ มีอายุ 6 เดือน

กรณียกเลิกไม่เข้าพักแพพี่เอกขออนุญาตไม่คืนเงินมัดจำในทุกกรณีตัดสินใจให้ดีก่อนจองที่แพ 1 2 3  มีสัญญาญมือถือ AIS กับ TrueMove แต่ทรู สัญญาณจะไม่แรง ส่วน dtac ไม่มีสัญญาณ แพ 4 และแพ 5 มีทุกเครือข่ายเด็กอายุต่ำกว่า 8 ขวบไม่ต้องนับนะคะเข้าพักฟรี ได้ 3 คนคะ

สิ่งที่เตรียมไว้ให้อำนวยความสะดวกบนแพ ฟรีแอร์ (มีเฉพาะแพพี่เอก4 และ5 เท่านั้น)

ฟรีน้ำดื่มสะอาด 1 แพ็ค

ฟรีน้ำแข็ง 1 กระสอบ

ฟรีน้ำกรองสะอาด1 ถัง

ฟรีพัดลม

ฟรีลำโพง

ฟรีชูชีพ

ฟรีน้ำยาล้างจาน

ฟรีถังน้ำแข็งสำหรับแช่อาหารเครื่องดื่ม

ฟรีเรือพาย

ฟรีสไลด์เดอร์หน้าแพ(สำหรับแพพี่เอก1, 3 ,4 )

ฟรีชุดเตาปิ้งย่างหมูกระทะ

ฟรีอุปกรณ์เครื่องครัว

ฟรีเรือรับส่ง 1 รอบ

ฟรีเรือวิ่งซื้อของ 1 รอบ 

( กรณีมาไม่พร้อมกันมีค่า รับ - ส่ง เพิ่ม รอบละ200 บาท)





อุปกรณ์การทำอาหารเตรียมไว้ให้ครบลูกค้าเตรียมอาหารมาทำเมนูเด็ดๆ ปิ้งย่าง บนแพ พี่เอก1/2 /แพเสริมแอร์/เสริมพัดลม

check in   14.00 น.

check out 12.00 น.

พี่เอก3 พี่เอก 4 พี่เอก 5

check in   13.00 น.

Check out 11.00 น.

ที่ตั้งแพพี่เอก ใกล้แพขนานยนต์ข้ามฟากไปอำเภอศรีสวัสดิ์(ท่าเท่ง)
ตำบลด่านแม่แฉลบอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี

กฎกติกาที่พัก 

1.เรือ รับส่งบริการเข้าที่พักมีฟรีให้บริกาารเพียงหนึ่งรอบในกรณีมาไม่พร้อมกัน ชำระเพิ่มรอบต่อไป 200 บาท

2. เมื่อเข้าที่พัก ทางแพมีรอบซื้อของ ในหมู่บ้าน ฟรี 1 รอบ สั่งได้ไม่เกิน 5 โมงเย็น สั่งรอบต่อไปรอบละ 200 บาท (ร้านค้าปิด 1 ทุ่ม

3. ไม่มีเรือบริการเด็ก N หรือเพื่อนสมาชิกเข้ามาเที่ยวหาแบบไม่นอนพักยามวิกาล  เข้า-ออก นะคะ

4 ใส่ชูชีพทุกครั้งขณะเล่นน้ำ และไม่เล่นน้ำขณะมึนเมา

5.เปิดเพลงและเสียงดังได้ไม่เกินสี่ทุ่มครึ่ง จากนั้นให้ลดเสียงลงหน่อย เปิดชิลๆฟังกันเองเฉพาะในที่พัก เพื่อไม่ทำลายบรรยากาศการพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวของที่พักหลังอื่นใกล้เคียงจ้ะ 

เรื่องสภาพภูมิอากาศของที่พักเป็นส่วนตัวและความเงียบสงบ ต้องเข้าใจและยอมรับกับสภาพอากาศที่เปลื่ยนแปลง ธรรมชาติกำหนดให้ อาจเจอลมแรง ฝนตก แดดแรง อากาศร้อนจัด อากาศเย็น ตามฤดูกาล ช่วงเวลา โปรดลูกค้าเข้าใจ การเดินทางมาเยือนแพพี่เอก คือการมานอน เชยชมธรรมชาติ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์และเรียบง่าย ไม่สบายเหมือนรีสอร์ท 5ดาว สำรวจจริตตัวเองให้ดี และชี้แจงกับเพื่อนสมาชิก ให้ครบถ้วน

สามารถโทรมาสอบถาม : 061 5408188
เพิ่มเพื่อนด้วยเบอร์โทรใน LINE  หรือทักแชทมาได้เลยที่ แพพี่เอก
ตั้งอยู่ที่ 3199 ตำบล ด่านแม่แฉลบ อำเภอศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี 71250



#เที่ยวกาญจนบุรี #เขื่อนศรีนครินทร์ #แพบ้านกลางน้ำ

#ไม่ใช่แพที่ดีที่สุดแต่ดูแลได้ที่สุด

#ชัญญ่าว่าดี #แพพี่เอก #toptotravel

ตอกลาย สร้างศิลป์ อันซีนเมืองเพชรฯ

งานตอกหนังใหญ่อีกหนึ่งอัตลักษณ์แห่งชุมชนย่านเมืองเก่าเพชรบุรี  ริเริ่มมาจากหลวงพ่อฤทธิ์ เจ้าอาวาสวัดพลับพลาชัยผู้มองการณ์ไกลระดมช่างฝีมือทั่วทั้งเมืองเพชรบุรีมาร่วมกันตอกลายหนังใหญ่เพื่อสร้างมหรสพ การแสดงให้กับคนเมืองเพชรบุรี โดยตัวหนังใหญ่ถ่ายทอดมาจากตัวละครของเรื่องรามเกียรติ์กว่า 200 ตัว  เป็นเมืองเก่าที่มีเรื่องราวความเป็นมามาอย่างยาวนาน



หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย อันซีนเมืองเพชร
ที่ วัดพลับพลาชัย เป็นหนึ่งในคณะหนังใหญ่ที่โด่งดังมาก จนถูกคัดสรรให้ไปแสดงต่อหน้าพระพักตร์รัชกาลที่ ๕ ที่พระราชวังบ้านปืน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจไม่รู้ลืมของชาวเพชรบุรีมาจนทุกวันนี้หนังใหญ่นั้นเริ่มต้นมาจากหลวงพ่อฤทธิ์ เกจิชื่อดังของเมืองเพชรที่ได้เก็บรวบรวมตัวหนังใหญ่เอาไว้ที่วัดแห่งนี้ และได้เผยแพร่ไปสู่จังหวัดราชบุรีต่อมาในภายหลังนั่นเอง โดยกลุ่มหนังใหญ่ของเมืองเพชรได้มีโอกาสแสดงต่อหน้าพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วย แต่หลังจากที่ท่านสวรรคตลงก็ทำให้กลุ่มแสดงหนังใหญ่นั้นปิดตัวลงไปด้วย จนมาถึงรุ่นหลังได้ทำการรื้อฟื้นศิลปะหนังใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และศึกษา โดยมีกิจกรรมเป็นตัวเชื่อมโยงกับนักท่องเที่ยว จนเกิดมาเป็นกิจกรรมตอกลาย สร้างศิลป์




ปัจจุบัน ชุมชนย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี ยังได้อนุรักษ์ และสืบสานงานศิลปะ การตอกหนังใหญ่ ให้อยู่คู่ชุมชนแห่งนี้ พร้อมทั้งต่อยอดเป็นกิจกรรม ตอกลาย สร้างศิลป์ ตอกลาย สร้างศิลป์ เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เปิดให้นักท่องเที่ยว ได้ร่วมลงมือตอกลายตัวหนังใหญ่ ด้วยตัวเอง รวมถึงมีการสอนเชิดหนังใหญ่เบื้องต้นให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

วัดพลับพลาชัยและชุมชนคลองกระแชง ชุมชนย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี กิจกรรมตอกลาย สร้างศิลป์ ของชุมชนริมน้ำเพชรบุรี ซึ่งก่อนที่จะเริ่มทำกิจกรรมนั้นทางผู้นำชุมชน และชาวบ้านก็มาคอยต้อนรับพร้อมกับเสิร์ฟอาหารพื้นถิ่นให้ผู้มาเยือน ยังได้อนุรักษ์สืบสานงานศิลปะ การตอกหนังใหญ่ ให้อยู่คู่ชุมชนแห่งนี้ พร้อมทั้งต่อยอดเป็นกิจกรรม workshop ตอกลาย ไว้ต้อนรับ






หากใครได้มีโอกาสมาเที่ยววัดพลับพลาชัย พบกับพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ซึ่งเราจะได้เรียนรู้เครื่องมือในการตอกลาย เรียกว่า ตุ๊ดตู่ ค้อนเขียง และแบบตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์ เรียนรู้วิธีการตอกหนังสมัยเก่าวิธีการใช้อุปกรณ์ตอกกระดาษได้อย่างสวยงามและได้เรียนรู้เกี่ยวกับอัตลักษณ์ของความเป็นชุมชนย่านเมืองเก่าอีกด้วย


#วัฒนธรรมละมุนธรรมชาติละไม
#เที่ยวสุขใจเมืองพริบพรี
#สาขานวัตกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรม
#PBRUWellness
#toptotravel #ชัญญ่าว่าดี

โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย แอนด์ คอนเวนชั่นนำเสนอห้องประชุมสัมนามาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย

หน่วยงานราชการ เอกชนจะจัดงานให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งสถานที่จัดงานเป็นส่วนสำคัญที่ส่งเสริมให้งานสำเร็จ ผุ้ร่วมงานมีความสุข สะดวก โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย แอนด์ คอนเวนชั่นขอนำเสนอห้องประชุมสัมมนาที่ใหญ่ที่สุดในเชียงราย รองรับแขกได้ตั้งแต่ 10-1,500 คน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สุดทันสมัยด้วยระบบเทคโนโลยี่ สถานที่โอ่โถง ท่ามกลางธรรมชาติ อากาศดี และพนักงานมืออาชีพ โดยได้รับตราสัญลักษณ์ (TMVS) ”ในงาน MICE Standards Day 2025


อีกหนึ่งความภาคภูมิใจ ที่เรามุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนาคุณภาพการให้บริการห้องจัดงานประชุมสัมมนา ให้มีคุณภาพและมาตรฐานในระดับสากลอย่างต่อเนื่อง กับการได้รับรางวัล “มาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย หรือ TMVS (Thailand MICE Venue Standards)” จากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB ในงาน MICE Standards Day 2025 – ก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยสู่มาตรฐานระดับสากล ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25 เม.ย. 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่ผ่านมา


เชิญประทับใจกับแพคเกจประชุมในราคาสุดคุ้ม พร้อมบริการพิเศษได้แก่ ประชุมส่วนตัว, แพคเกจประชุมครึ่งวันรวมอาหารว่าง ชา/กาแฟ 1 มื้อ หรือแพคเกจ 2 เบรค1มื้อกลางวันและแพคเกจอื่นๆเช่น งานระบบภาพ &เสียงขั้นพื้นฐาน, ไมโครโฟน & โปรเจกเตอร์, ฟลิปชาร์ท&เครื่องเขียนมาตรฐาน, การตกแต่งด้วยดอกไม้ตามมาตรฐานของโรงแรมฯ,อินเตอร์เนทไร้สายฟรี  และบริการที่จอดรถกว้างขวาง

สอบถามเพิ่มเติมกรุณาโทร 063-4748673 Line ID: @335tkcsv
www.heritagechiangrai.com

วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2568

เบเยอร์ ยกขบวนนวัตกรรมตอบโจทย์การออกแบบสู่อนาคต พร้อมเปิดตัวเฉดสี Green Palette ครั้งแรกในไทย!


เบเยอร์ ยกขบวนนวัตกรรมตอบโจทย์การออกแบบสู่อนาคต พร้อมเปิดตัวเฉดสี Green Palette ครั้งแรกในไทย! รองรับ “Designing Future” ในงานสถาปนิก’68 ตอกย้ำแบรนด์นวัตกรรมอันดับ 1 ในรอบ 20 ปี เตรียมตัวให้พร้อม! เพราะปีนี้ Beger ผู้นำด้านนวัตกรรมสีบ้านเย็นอันดับ 1 และวัสดุก่อสร้าง จะพาทุกคนก้าวข้ามกรอบเดิมๆของงานออกแบบสถาปัตยกรรม กับแนวคิดสุดล้ำ “Designing Future” พบกันในงาน สถาปนิก’68 วันที่ 29 เม.ย. – 4 พ.ค. 2568 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี พบกันที่บูธเบเยอร์ หมายเลข S403/1

เบเยอร์ เปลี่ยนใหญ่ ไม่ธรรมดาแน่นอนปีนี้ มากับดีไซน์สุดล้ำ กับ Designing Future  แนวคิดที่รวมพลังของ นวัตกรรม เทคโนโลยี และความยั่งยืน เพื่อสร้างอนาคตแห่งการออกแบบที่ทั้งทรงพลังและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สอดรับกับธีมหลักของงาน “ทบทวน ทิศทาง: Past, Present, Perfect” ที่ชวนมองย้อนอดีต เข้าใจปัจจุบันและออกแบบอนาคตอย่างมีเป้าหมายพบกับ Interactive Booth สุดล้ำ ที่จะเปลี่ยนการเรียนรู้เรื่องนวัตกรรมให้กลายเป็นประสบการณ์ที่“สนุก-เข้าใจง่าย-ได้แรงบันดาลใจ”พร้อมกิจกรรมพิเศษมากมาย ที่ทั้ง สายออกแบบ สายก่อสร้าง และสายรักษ์โลก ต้องห้ามพลาด! พร้อมเปิดตัวเฉดสี Green Palette ครั้งแรกในไทย! กลุ่มโทนสีคาร์บอนต่ำที่ถูกบรรจุใน BIM มุ่งเน้นการลดค่าปลดปล่อยคาร์บอน ทั้ง Embodied และ Operational Carbon อย่างเป็นรูปธรรม เปิดให้สถาปนิกและนักออกแบบได้ใช้งานจริงแล้ววันนี้


เตรียมพบกับ 5 ไฮไลต์นวัตกรรมแห่งอนาคตจากเบเยอร์ ที่คุณห้ามพลาด!

(1) เปิดตัวครั้งแรกในไทย! เฉดสี Green Palette จากการวิจัยลึกระดับค่าสะท้อนความร้อนเฉดต่อเฉด ที่ได้รับความร่วมมือในการวิจัยร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

– พัฒนาเพื่อการออกแบบอาคารประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง

– Beger คือแบรนด์ไทยแรก ที่ใส่ Green Palette ลงใน BIM (Building Information Modeling) สำหรับสถาปนิกและนักออกแบบออกแบบโดยเฉพาะ

(2) BegerCool – สีอัจฉริยะเพื่อบ้านเย็น

– สะท้อนความร้อน ลดอุณหภูมิอากาศภายในบ้านและอาคาร

– ช่วยประหยัดพลังงานและค่าไฟ พร้อมคงความสวยงามยาวนาน

(3) 2in1 Series – สีนวัตกรรมเพื่อชีวิตเร่งสปีด

– รวมสีรองพื้นและสีทับหน้าในหนึ่งเดียว

– ลดขั้นตอน ประหยัดเวลาและทรัพยากร

– ตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่ ที่ต้องเร็วและมีคุณภาพ

(4) เปิดตัวครั้งแรก! BegerCool 2in1

– สีที่รวมคุณสมบัติ “เย็น-ประหยัด-เร็ว” ไว้ในหนึ่งเดียว

– คุ้มค่าและยั่งยืนในทุกมิติของการใช้งาน พร้อมคงความสวยงามของฟิล์มสีที่ทดสอบแล้วว่าได้ประสิทธิภาพสูงสุดในทุก ๆ ด้าน

(5)  วัสดุก่อสร้าง Low Embodied Carbon

– คิดมาเพื่อโลก ตั้งแต่การผลิต จนถึงการใช้งานตลอดอายุของอาคาร

– สร้างทางเลือกใหม่สู่เป้าหมาย Net Zero ที่จับต้องได้จริง

(6) Designing Future

– แนวทางการออกแบบที่ผสมผสาน ความงาม ความยืดหยุ่น และความยั่งยืน

– เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่เพียงแต่สวย แต่ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

แล้วพบกันที่ ที่บูธเบเยอร์ หมายเลข S403/1 มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจ ในการรังสรรค์งานออกแบบ เพราะเบเยอร์ เป็นได้มากกว่า สี ทาบ้าน ด้วย Designing Future  แนวคิดที่รวมพลังของ นวัตกรรม เทคโนโลยี และความยั่งยืน พร้อมเปิดตัวน้องใหม่ สีเบเยอร์คูล ทูอินวัน แบรนด์แรกของไทยที่คิดค้นโซลูชันอาคารใหม่เพื่อตอบโจทย์ “ช่าง” และ “ผู้อยู่อาศัย” นวัตกรรมทางเลือกใหม่ ตอบโจทย์ลดโลกร้อน และ  เบเยอร์คูล ที่มาพร้อมกับ เทคโนโลยี AeroTech เสมือนฉนวนกันความร้อนที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง โดยผลิตจากซิลิกา/ซิลิเกต (Sillica/Silicate) ทนทานต่อรังสี UV สามารถ "สะท้อนและสกัดกั้นความร้อนได้สูงสุดถึง 97.5%” ไม่ให้เข้าสู่ตัวบ้าน ทดสอบโดยสถาบันทดสอบด้านรังสีและความร้อน OTM Solutions ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจากการทดสอบสามารถ "ลดอุณหภูมิได้สูงสุด 6 องศาเซลเซียส" และช่วย "ประหยัดค่าไฟได้กว่า 32%" และที่สำคัญความโดดเด่นในการทนทานต่อความร้อนนั้นส่งผลให้บ้านหรืออาคารที่เลือกใช้สีเบเยอร์คูลมีอายุการใช้งานที่นานขึ้นกว่า 10 ปี ....แล้วพบกันนะคะ



ห้ามพลาด! เสวนาพิเศษหัวข้อ
“Designing Future: Innovation, Green Fund & Sustainability in the New ERA of Architecture”
วันที่ 30 เม.ย. 2568 เวลา 18.00 – 19.00 น.
ณ เวทีกลาง INNO-CORNER เพราะ “อนาคตของการออกแบบ” เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้
เบเยอร์ พร้อมเป็นแรงผลักดันให้วงการสถาปัตยกรรมไทย ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
แล้วเจอกันใน งานสถาปนิก’68 — งานที่นักออกแบบตัวจริงต้องไม่พลาด!

ม.ราชภัฏเพชรบุรีร่วมกับ บพข. จัดกิจกรรมทดสอบเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

“วัฒนธรรมละมุน ธรรมชาติละไม เที่ยวสุขใจที่พริบพรี”

เมื่อวันที่ 25-26 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี โดยอาจารย์ ดร.มธุรส ปราบไพรี อาจารย์ ดร.มลทิชาโอซาวะ และ อาจารย์ ดร.อัจฉราวรรณ เพ็ญวันศุกร์ จัดกิจกรรมทดสอบเส้นทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดเพชรบุรี “วัฒนธรรมละมุน ธรรมชาติละไม เที่ยวสุขใจที่พริบพรี” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยเรื่อง การพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อยกระดับเมืองสร้างสรรค์ของจังหวัดเพชรบุรี ภายใต้แผนงานวิจัยการพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อยกระดับเมืองสร้างสรรค์ของจังหวัดเพชรบุรี ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) โดยครั้งนี้ได้นำภาคีที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบุรีทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และคณะนักท่องเที่ยว เยือนชุมชนบางตะบูน ชุมชนย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี ชุมชนบ้านถ้ำเสือ จำนวนกว่า 50 ราย โดยมี ผอ.ดวงใจ  คุ้มสอาด ผอ.ททท.สำนักงานเพชรบุรี  ร่วมเดินทาง  





อาจารย์ ดร.มธุรส ปราบไพรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ผู้รับผิดชอบกิจกรรมในครั้งนี้ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการทดสอบกิจกรรมครั้งนี้  เพื่อประเมินเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ได้ออกแบบขึ้นมา ศึกษาความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวและภาคีที่เกี่ยวข้อง อันจะนำไปสู่การพัฒนาและส่งเสริมเส้นทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เหมาะสมของจังหวัดเพชรบุรี 





หลักการของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีทั้งหมด 7 อ. ได้แก่

อ.1 คือ อาหาร รับประทานอาหารของท้องถิ่นที่ผ่านการปรุงและใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น มีคุณค่าทางโภชนาการ ปลอดสารและปลอดภัย เช่น อาหารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเค็ม ความหวาน เป็นต้น

อ.2 อากาศ อยู่ในพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่อากาศที่สะอาด บริสุทธิ์ มีความเป็นธรรมชาติ สร้างความสดชื่นเพื่อช่วยให้ปอดได้พักและรับออกซิเจน พื้นที่แหล่งท่องเที่ยวไม่แออัดและไม่มีมลพิษสูง เช่น ฝุ่น PM 2.5, ควัน, และสารเคมีโลหะหนัก เป็นต้น 

อ.3 ออกกำลังกาย การออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมเพื่อบริหารร่างกายให้เกิดการเคลื่อนไหว ช่วยให้หัวใจทำงานได้ดี เพิ่มการกระตุ้นให้โลหิตไหลเวียนดี เสริมสร้างกล้ามเนื้อ บำบัดความเครียด ลดอาการเจ็บปวดบางอย่าง และช่วยให้ระบบประสาททำงานดีขึ้น 

อ.4 อารมณ์ มีอารมณ์รื่นเริง ยินดี มีความสุข ผ่อนคลาย สนุกสนาน มีจิตแจ่มใส และเพลิดเพลิน จากการทำกิจกรรมหรือการได้รับประสบการณ์ในการเรียนรู้ร่วมกับชุมชน

อ.5 อดิเรก ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ เพิ่มพูนคุณค่า มีคุณค่าทั้งร่างกายและจิตใจ สร้างความสุข และสนุกสนาน

อ.6 อนามัย แหล่งท่องเที่ยว สินค้า และบริการที่มีความสะอาดและมีมาตรฐานด้านความปลอดภัย 

อ.7 อนุรักษ์ ใส่ใจและตระหนักการสร้างพฤติกรรมที่ยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการใช้พลาสติก การจัดการขยะ การรักษาธรรมชาติ การสนับสนุนวัฒนธรรมพื้นบ้าน และการกระตุ้นจิตสำนึกในการดูแลโลกและตัวเอง”


อาจารย์ ดร.มธุรส ปราบไพรี กล่าวต่อว่า ทางคณะผู้จัดการทดสอบได้กำหนดลงพื้นที่ชุมชนเพื่อทำกิจกรรมไว้ 3 ชุมชน คือบางตะบูน อำเภอบางตะบูน จังหวัดเพชรบุรี ชุมชนย่านเมืองเก่าริมน้ำเพชรบุรี อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ชุมชนบ้านถ้ำเสือ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โดยถือเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งด้านศักยภาพในการจัดการท่องเที่ยวและมีวัฒนธรรมที่โดดเด่น ในทั้ง 7 อ. ดังที่กล่าวมาแล้ว 

อย่างชุมชนบางตะบูน  จัดให้มีการล่องเรือเพื่อชื่นชมและเพลิดเพลินไปกับวิถีชุมชนชาวประมง นอกจากทางนักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือสัมผัสกับบรรยากาศของผืนน้ำและชุมชนสองฝั่งแม่น้ำ ยังมีการจัดให้ชมการเลี้ยง หอยนางรม หอยแครง หอยแมลงภู่ บริเวณปากอ่าวบางตะบูน ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งเลี้ยงหอยอันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งบริเวณท่าน้ำวัดปากอ่าวบางตะบูนมีเรือสำหรับนำนักท่องเที่ยวโดยไต๋เรือชาวชุมชนคอยให้การต้อนรับ 

ผู้จัดกิจกรรมกล่าวต่อว่า “นอกจากนี้ก่อนที่จะล่องเรือ ทางคณะผู้จัดฯ ได้นำสู่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เทศบาลตำบลบางตะบูน เพื่อทำเวิร์คช็อป การทำผ้ามัดย้อม การนำวัสดุเหลือใช้เช่นแห อวนมาถักทอเป็นกระเป๋าใส่ของใช้ การทำขนมโบราณ การใช้ปลิงบำบัดนำเสนอการรักษาสุขภาพโดยปลิง 

ร้านยุ้งเกลือ ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ที่บ้านแหลม ที่ที่ไม่ใช่เพียงแค่ร้านอาหารที่มีวิวสวยแต่อาหารอร่อย แต่ถือเป็นร้านที่มีตำนานของชุมชนนาเกลือที่ทำนาเกลือมากว่าแปดสิบปี และบอกเล่าเรื่องราวผ่านพิพิธภัณฑ์ของทางร้านโดยคนรุ่นที่สี่ 

การเยือนชุมชนย่านเมืองเก่าริมน้ำเพชรบุรี อำเภอเมือง เริ่มต้นกิจกรรมจากที่พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดพลับพลาชัย ด้วยการเวิร์คช็อปเรียนรู้การตอกกระดาษ ก่อนจะพาคณะเดินชมชุมชนเก่าริมน้ำ เดินชมสตรีทอาร์ทและวิถีชุมชน นมัสการหลวงพ่อวัดมหาธาตุ ก่อนจะกลับมาทานอาหารในแบบขันโตกโดยนำเสนออาหารเชิงสุขภาพ พร้อมกับรับชมหนังใหญ่และการฝึกเชิดหนังใหญ่ การแสดงละครชาตรีละครพื้นบ้านที่ส่งต่อทางวัฒนธรรมจากเด็กๆ และชาวชุมชน โดยพี่น้อย - คุณรมยกรณ์ เอราวัณ 





ในวันถัดมา เป็นการทำกิจกรรมที่ชุมชนถ้ำเสือที่ขึ้นชื่อด้านชุมชนท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ จัดให้ร่วมกิจกรรมสาธิตทำทองม้วนเงินล้าน ทองม้วนน้ำตาลโตนด โดย คุณยายวรรณา อินมี ผู้คิดสูตร  เรียนรู้กิจกรรมเสือปั้นไข่ สอนการทำไข่เค็มหมักดอกอัญชัญ การร่วมอนุรักษ์ป่าด้วยการนำเมล็ดพันธ์พืชไม้ยืนต้นไปปั้นดินยิงหนังสติ๊กเพื่อปลูกป่าโดย พี่น้อย - คุณสุเทพ พิมพ์ศิริ เป็นกิจกรรมสุดท้าย”







ทั้งนี้ หลังจากการทดสอบเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทางคณะผู้จัดกิจกรรมในครั้งนี้จะนำข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นต่างๆ จากผู้ร่วมกิจกรรมเพื่อนำไปปรับปรุงและนำเสนอแก่หน่วยงานที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์

แพพี่เอก แพบ้านกลางน้ำ

ออกไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ พักผ่อน ชมวิว สูดอากาศดีๆ ที่แพพี่เอก ที่พักชิลใจไม่ไกลกรุงเทพแพพักบ้านสไตล์ธรรมชาติ เงียบ สงบ งดงาม ใกล้ชิดธรรมชา...

โวยวายดอทคอม